ถ้าพูดถึงจังหวัดน่าน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า 2-3 ปีมานี้ เรียกได้ว่าเป็น 1 ในจังหวัด Top 10 สำหรับจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว และช่วงฤดูหนาว เรียกได้ว่าฮอตมากๆ ที่พักดังๆส่วนใหญ่เต็มยาว สถานที่สุดฮิต คงหนีไม่พ้น บ่อเกลือ สะปัน ปัว ดอยสกาด บ้านห้วยโทน เราเองไปน่านมาแทบทุกปี ก็ยังรู้สึกชอบในความเขียว ชอบถนน ชอบวิวเวลาขับรถที่น่านมากๆ ส่วนในทริปนี้นั้นสถานที่ที่เราเอ่ยมา เราจะไม่ไป เราจะลองไปเที่ยวในโซนใต้กับโซนใกล้เมืองดูบ้าง ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้นตามเราไปดูกันเลยครับ

เช่นเคยครับ การเดินทางของเราในทริปนี้ เราเริ่มเดินทางด้วยรถไฟ เนื่องจากว่าบ้านเราอยู่พิจิตร วิธีที่สะดวกที่สุดคือรถไฟ ส่วนใครอยู่โซนกทม. อยากจะลองนั่งรถไฟมาก็ได้นะ 
รถไฟที่เรานั่งมาจะเป็นขบวน 107 กรุงเทพ-เด่นชัย ออกจากกรุงเทพประมาณ 20.10 น. ถึงปลายทางประมาณตี 5 แต่พักหลังมานี้ขวนนี้เลทบ่อย บางทีถึงเช้าเลย 
พอถึงสถานเด่นชัย อยู่ในจังหวัดแพร่นะ ให้เรานั่งรถสองแถวคันสีน้ำเงินที่จอดรออยู่หลังสถานีไปลงที่ บขส.แพร่ จากนั้นต่อรถตู้ไปยังจังหวัดน่าน ใช้เวลานั่งรถตู้ประมาณ  2 ชั่วโมงนะ
จากนั้นเราก็ไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์แถวบขส. มีให้เลือกหลายร้านเลย 

นั่งรถมา 2 ชั่วโมง รู้สึกร่างกายขาดน้ำตาล เลยมาแวะคาเฟ่ แถวๆตัวเมืองน่านกันสักหน่อย ที่นี่มีชื่อว่า 
Hatake Café คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ในเมืองน่าน 


มีวิวเป็นทุ่งนาเขียวๆ ตัวคาเฟ่ตกแต่งให้เหมือนบรรยากาศของญี่ปุ่นชนบท มีมุมถ่ายรูปสไตล์แคมป์ปิ้ง


บรรยากาศภายในร้านตกแต่งน่ารัก มีมุมถ่ายรูปคิ้วๆ 

มีสะพานไม้ท่ามกลางทุ่งนา 


ส่วนเครื่องดื่มนั้นมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบฟิวชั่น และเมนูเบเกอรี่ 

ในส่วนของวันแรก แวะไปคาเฟ่ที่เดียว จากนั้นเราก็มาที่พักในคืนแรกกันครับ
ที่นี่เดอะวิวatกิ่วม่วง ที่พักในคืนแรกขอพักผ่อนใกล้ๆตัวเมืองกันก่อน เป็นที่พักอยู่ไม่ไกลเมืองน่าน ที่พักตั้งอยู่ที่บ้านกิ่วม่วงอำเภอสันติสุข จากตัวเมืองน่านขับรถ 30 นาที อยู่ติดริมถนนสันติสุข-บ่อเกลือ ก่อนถึงถนนเลข 3 เมื่อก่อนขับผ่านที่นี่บ่อยมาก รู้แต่ว่ามีคาเฟ่ พึ่งรู้ว่ามีที่พักด้วย ก็เลยลองมาพักสักคืน ดูจากรีวิวหมอกที่นี่แน่นมากๆ 

สำหรับห้องที่เราพัก เป็นห้องtop room มี 2 ห้อง มีระเบียงหน้าห้อง มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ อ่างสวยมาก แช่อ่างชมวิวได้180องศา มีเบาะนั่งแบบรังนกไว้นั่งชิลๆ มีโซฟานอนไว้นอนเล่นดูทะเลหมอก ภายในห้องจากเตียงนอนสามารถมองเห็นวิวได้เลยมีเพียงกระจกใสกั้นเท่านั้น

ภายในห้องนอน ดีงาม ห้องกว้าง เตียงนุ่ม ดูวิวในจากในห้อง

ห้องน้ำ สะอาดสะอ้าน มีฝั่งที่เป็นโถส้วม แยกกับส่วนที่เป็นที่อาบน้ำ 


ด้านนอกห้องมีอ่างให้นอนแช่ชิลๆ ดูวิวทะเลหมอก จะบอกว่าอ่างโคตรใหญ่ 

มีโซฟารังนกไว้นั่งดูวิวชิลๆ

อีหฝั่งนึงก็จะเป็นโต๊ะนั่งทานอาหาร จิบเครื่องดื่ม พร้อม Set afternoon tea จัดมาแบบน่ารัก พร้อมถ่ายรูปกันเลย

ตกเย็นมีชาบูมาเสริฟถึงห้อง

ค่ำๆก็แช่อ่างกันสักหน่อย พร้อมพร๊อพไฟแบบจัดเต็ม และมีไวน์มาให้ 1 แก้ว 

เช้าเปิดประตูหน้าระเบียง หมอกมาแน่นมาก 

บรรยากาศสุดชิลไปเลย 

บินโดรนขึ้นไปโอโห้ หมอกสุดปัง อลังการ เป็นครั้งแรกที่มาน่านแล้วเจอทะเลหมอกเยอะขนาดนี้ 

ทั่วทุกพื้นที่ 360 องศา เต็มไปด้วยทะเลหมอก

อาหารเช้าที่นี่เรียกได้ว่าจัดเต็มเลยครับ

สายๆ เราเช็คเอาท์ วันนี้เราจะไปลุยในโซนน่านใต้กันครับ 

จากที่พักเดอะวิวกิ่วม่วง ระยะทางประมาณ 100 กม. เรามาแวะวัดสวยที่อยู่ใน อยู่ที่อ.นาหมื่น สวยตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า เป็นวัดสีขาว ที่สวยงามอลังการ

ตัวอุโบสถสีขาวทั้งหลัง 

บันไดทางขึ้นเป็นพญานาค สวยงามมากๆ

สวยงามมากครับ ใครมีโอกาสเดินทางไปน่าน ไปแถวโซนนาน้อย นาหมื่น ลองแวะไปนะครับ 

จากนั้นเรามาแวะกันที่ คอกเสือ
เรายกให้เป็น1ในสถานที่สุดอันซีนของน่าน หน้าผาสูงใหญ่ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลม ทำให้เกิดกำแพงดินสูงตระหง่าน และยังมีเสาเดินน้อยใหญ่อยู่เต็มพื้นที่ เป็นอีก1จุดที่ถ่ายรูปสวยมากๆ

ดูความอลังการของหน้าผาดิน สูงตะหง่านดูยิ่งใหญ่มากๆ

มีหลากหลายมุมให้เราเดินถ่ายรูปเลยครับ 

จากคอกเสือ ขับเลยมาอีกหน่อย จะถึง เสาดินนาน้อย เสาดินที่เกิดจากธรรมชาติ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีนาน เช่นกัน มีเสาดินเกิดขึ้นมากมาย รูปทรงแตกต่างกันไป ไปเดินเล่นถ่ายรูป รับรองว่าได้ภาพเก๋ๆกับไปแน่นอน

ลงรูปให้ดูกันรัวๆไปเลยครับ 

เป็นอีก1สถานที่ ที่รูปร่างแปลกตาเลยครับ เดินถ่ายรูปได้ทั่วเลย 

ในคืนที่ 2 ของเราในทริปนี้ เรามานอนกันที่ดอยเสมอดาว 

สำหรับ ดอยเสมอดาวตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ห่างจากตัวเมืองน่าน 76 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. 20 นาที ช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ทะเลหมอกสวย ฟูๆเหมือนปุยนุ่น
อากาศเริ่มหนาว เย็นสบาย บรรยากาศดี ทุ่งหญ้าเขียวขจี

โซนกางเต็นท์สำหรับคนที่นำเต็นท์มาเอง

จุดถ่ายรูปต้นไม้คู่บนเชิงเขา ถ่ายรูปสวยมาก ฟีลโคเรีย


กลางคืน ใคคืนเดือนหงายฟ้าสว่าง เห็นมีหมอกตั้งแต่กลางคืน ถ้าเดือนมืดเห็นดาวชัดเจนแน่นอน


ทะเลหมอกที่นี่ดูได้แบบ 360 องศา สวยสุดคำบรรยาย ทะเลหมอกอลังการมาก


ดูทะเลหมอกได้ทั้งจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก จุดนี้เป็นฝั่งพระอาทิตย์ตก สวยไม่แพ้กัน 

ทะเลหมอกสวยมาก แม้ยามสายๆ ก็ยังมีทะเลหมอก



รายละเอียดข้อควรรู้

-มีร้านค้าสวัสดิ์การ มีน้ำ เครื่องดื่ม ขนม มาม่า ของใช้จำเป็น
-มีสัญญาณโทรศัพท์ มีที่ชาร์จไฟที่ศูนย์บริการ
-ตอนเช้ามีขนมจีบ ซาลาเปาขาย
-มีหมูกระทะ อาหารตามสั่ง สามารถสั่งได้ที่ศูนย์บริการ
-ลานกางเต็นท์ไม่เยอะ หยุดยาวแนะนำจองล่วงหน้า
-ห้องน้ำสะอาด น้ำเย็นดี ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ 555
-หน้าเต็นท์ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหาร แต่จะมีโซนที่สามารถทำอาหารได้
-ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-ห้ามส่งเสียงดังหลัง 22.00 น.

ค่าเข้าอุทยาน
คนละ 20 เข้าได้ 3 ที่ ดอยเสมอดาว ผาชู้ เสาดินนาน้อย
จักรยานยนต์คันละ 20
รถยนต์ คันละ 30

เต็นท์พร้อมเครื่องนอนให้เช่า
[1 คน = 330.-] [2 คน = 390.-] [3 คน = 450.-]
เต็นท์เปล่า 270.- หมอน 10.- ถุงนอน 30.- เบาะรองนอน 20.-
เอาเต็นท์ไปเอง สามารถวอคอินไปได้ ค่ากางคนละ 30.-
มีจุดกางหลักๆ 2 จุด คือด้านข้างจุดกางเต็นท์ใกล้เชิงผาหัวสิงห์ จุดที่ 2 ด้านหลังที่ทำการ
เข้าพักแรมได้ตั้งแต่ 10.00 น.- 17.30 น. ไม่ควรเกิน 18.00 น.

โทรจองเต็นท์ได้ที่เบอร์ 093-2422914
มีบ้านพักอุทยาน จองได้ที่เว็บไซต์ https://nps.dnp.go.th/reservation.php

จากดอยเสมอดาว เราขับรถต่อไปอีกหน่อย มาแวะกันที่ผาชู้ 

ผาที่มีสายธงชาติยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นอีก1จุดตั้งแคมป์ ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีนาน จุดกางเต็นท์เป็นลานสนามหญ้ากว้างๆ มีร้านอาหารที่วิวสวยมากๆ มีที่พักเป็นเต็นท์โดมของอุทยาน 2 หลัง มีวิวภูเขาและวิวธรรมชาติที่สวยงาม ในช่วงฤดูหนาวเจอหมอกได้แทบทุกวัน ใครชอบความเงียบสงบแนะนำให้จองที่ผาชู้คนจะน้อยกว่าดอยเสมอดาว

ลานกางเต็นท์แบบเงียบสงบ วันที่ไฟหมอกฟุ้งตลอดเลย บรรยากาศคูลมาก

ที่นี่มีเต็นท์โดมด้วยนะ มีแค่ 2 หลัง เป็นของอุทยาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook : อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน - Sri Nan National Park

สายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย

จากผาชู้ เราขับรถเข้าเมืองกันครับ มาแวะที่ ตึกรังษีเกษม
ตึกเก่า เป็นอาคารเก่าแก่สไตล์ตะวันตกยุคโคโรเนียล อยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนน่านคริศเตียน มีอายุกว่า100ปี ตัวอาคารดูเก่าแก่คลาสสิค ฟีลย้อนยุคและเหมือนอยู่ต่างประเทศ แวะไปถ่ายรูปกันได้

อาคารดูเกาแกคลาสสิคมาก

เหมือนร่างกายจะเริ่มขาดน้ำตาล แวะเติมความหวานกันสักหน่อย 
กับร้าน ขนมหวานยายภรณ์
ขนมหวานในเมืองน่าน ที่สายหวานต้องห้ามพลาด เมนูส่วนใหญ่เป็นเมนูขนมหวาน+ไอศกรีม เมนูแนะนำที่ต้องลองนั่นก็คือ บัวลอยไอศกรีม

สั่งมา 2 อย่าง ไอศครีม ข้าวเหนียวดำ กับ บัวลอย ไอศครีม อร่อยมาก

หอศิลป์ริมน่าน เป็นอีกสถานที่ที่ขับผ่านหลายครั้ง แต่ไม่เคยแวะไปสักที ครั้งนี้เลยตั้งใจไปสักหน่อย


หอศิลป์ริมน่าน เป็นสถานที่รวบรวมงานศิลปะของศิลปิน นอกจากการไปดูงานศิลปะ สถานที่ยังมีความคลาศสิค ย้อนยุค มีสถานที่ให้เราเดินชมหลายจุด ของเก่าๆ ห้องเก่าๆ ที่นี่ยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ 

ภายในมีงานศิลป์มากมาย ให้ราได้เดินชมอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังมีอาคารเก่า บ้านเรือนเก่าๆ มีข้าวของเครื่องใช้ในยุคก่อน 

มุมถ่ายรูปเท่ๆ เยอะมาก นอกจากนี้ยังไปนั่งชิลๆริมน้ำจิบเครื่องดื่มเย็นๆได้อีกด้วย

จบแล้วครับ สำหรับการเที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน ในทริปชิลๆ อาจจะไม่ได้แวะสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ก็เป็นทริปที่ประทับใจมาก เจอทะเลหมอกแบบจัดเต็มทั้ง 2 วัน สำหรับใครที่อาจจะไปทางโซนบ่อเกลือ ปัว สะปัน บ่อยแล้ว ก็ลองแวะมาเที่ยวโซนน่านใต้กันดูบ้างครับ สถานที่สวยๆอันซีนมีเยอะมากๆ อากาศดีมีทะเลหมอกแบบปังๆ รับรองว่าได้โลเคชั่นถ่ายรูปเพียบแน่นอน 

อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 10.30 น.

ความคิดเห็น