บุรีรัมย์ และสระแก้ว สองจังหวัดนี้จำเป็นต้องมีรถส่วนตัว หรือเช่ารถเที่ยว จึงจะสามารถเที่ยวได้ค่ะ ไม่มีรถขนส่งที่ทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดสระแก้ว
แพลนดั้งเดิม เราอยากไปเที่ยวที่สระแก้ว แต่หารถมอเตอร์ไซต์เช่าไม่ได้ ถ้ามีให้เช่าก็คือที่ตลาดโรงเกลือ ส่วนใหญ่จะเป็นการเช่าเพื่อขับซื้อของในโรงเกลือเท่านั้น เราจึงเบนเข็มไปที่จังหวัดใกล้เคียง
หลังจากนั้นตั้งใจจะทำเป็นทริป 3 จังหวัด โคราช บุรีรัมย์ สระแก้ว แต่แล้วเวลาไม่พอ จึงตัดเหลือแค่ โคราช - บุรีรัมย์ แต่ก็เจอปัญหาอีกคือ ร้านมอเตอร์ไซต์เช่าที่โคราชไม่ค่อยรับแขกค่ะ 55 สอบถามออนไลน์ก็แล้ว โทรไปถามก็แล้ว สัมผัสได้เลยว่า เขาไม่แคร์เรา และเรื่องเยอะ
เราเลยปรับเป็น บุรีรัมย์ - สระแก้วแทน ที่บุรีรัมย์ร้านมอเตอร์ไซต์เช่าก็มีไม่เยอะ แต่พอดีเจอร้านเล็กๆ ออนไลน์ ถ้าเช่าหลายวันราคาไม่แพง และเจ้าของก็คุยดี ให้คำแนะนำอะไรหลายอย่างๆ จากที่ตอนแรกแพลนจะเช่ามอเตอร์ไซต์แค่วันเดียว เลยกลายเป็น 3 วันค่ะ
เราเช่ารถมอเตอร์ไซต์กับ Moto rental Buriram เป็นร้านเล็กๆ ราคาค่าเช่าวันละ 350 บาท (ราคาปลายปี 2566) เราเช่า 3 วัน ได้ลดเหลือวันละ 300 บาท ฟรีบริการรับส่งรถที่บขส ใครสนใจสามารถโทรไปสอบถาม หรือแอดไลน์ไปคุยก็ได้ค่ะ เบอร์โทร 0957055009
แพลนการเดินทาง
0. เดินทางด้วยบขสจากกรุงเทพฯ ไปยังบุรีรัมย์
1. เช่ามอเตอร์ไซต์ แล้วขับเที่ยวลงไปทางใต้ของบุรีรัมย์ แล้วเที่ยว 4 ที่คือ แท่งหินบะซอลต์ ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทบ้านบุ 
2. เที่ยวทางเหนือของสระแก้ว - ละลุ ปราสาทสด๊กก๊อกธม อุทยานแห่งชาติตาพระยา
3.ขับมอเตอร์ไซต์กลับบุรีรัมย์ แวะเที่ยวข้างทาง วนอุทยานเขากระโดง พิพิธภัณฑ์อีสานใต้ พนมรุ้งจำลอง
นั่งบขสกลับกทม.ในตอนบ่าย ถึงกทม.ช่วงค่ำๆ
ที่พัก
เราเลือกที่พักที่อยู่ทางใต้ของบุรีรัมย์ค่ะ ที่พักที่เราพักคือ โรงแรมอารมณ์ดี ที่อำเภอปะคำ ราคาคืนละ 450 บาท นอนได้สองคน เป็นจุดกึ่งกลางที่เที่ยวทั้งหมดของเรา
การเดินทางกรุงเทพ-บุรีรัมย์
เราหารีวิวบขสกรุงเทพฯ - บุรีรัมย์ แทบทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นครชัยแอร์ เราเลยเลือกใช้บริการเจ้านี้ค่ะ ถือเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งนครชัยแอร์เลย ก่อนเดินทางเราก็สงสัยว่า ทำไมบขสเจ้านี้ถึงใช้คำว่า “แอร์” ต่อท้าย พอได้ลองนั่งถึงเข้าใจว่า ต้องการให้มันเหมือนกับสายการบินที่มีคำว่าแอร์ต่อท้ายเหมือนกัน

มีคนขับ และแอร์(โฮสเตส?)ประจำรถ พูดบรีฟก่อนและถึงสั้นๆ
มีอาหาร ขนม น้ำแจก ไม่ได้มีจุดแวะกินข้าวแบบบขสเจ้าอื่น อันนี้ถือว่าชอบค่ะ 
ภายในรถ ที่นั่งค่อนข้างน้อย ที่นั่งปรับได้ดีกว่าบขส 999 แต่ชอบที่นั่งของลิกไนท์ทัวร์มากกว่า อันนี้ที่นั่งระหว่างคนแอบแคบ ขาติด ขนาดตัวสั้นแล้วนะ ถ้าผชไม่ต้องพูดถึง 555
โดยรวมคือว้าววว กว่าที่คิด
เราไปขึ้นที่สถานีนครชัยแอร์เลยค่ะ ดีทุกอย่าง ยกเว้นเข้าห้องน้ำเสียเงินค่ะ 55

ขนส่งนครชัยแอร์ที่บุรีรัมย์

ที่เที่ยวทั้งหมดที่เราไปตามนี้คะ
วันที่ 1
1.แท่งหินบะซอลต์
ตอนดูในรูป รู้สึกเลยว่ามันคล้ายกับแท่งหินที่ประเทศไอซ์แลนด์ เลยอยากมาดูที่นี่ด้วย แต่สิ่งที่เจอคือออออออออ มันยังจมอยู๋ในน้ำด้วยค่ะ 555 อุตส่าห์ขับนอกเส้นทางมาตั้งไกล โถ่วว

คาดว่า มันคือเสาที่จมอยู่ในน้ำนั่นเลยย

2.ปราสาทพนมรุ้ง
ถ้ารวมทางเดินด้วยคือค่อนข้างใหญ่ค่ะ เสียดายตรงจุดให้ความรู้ และพิพิธภัณฑ์ไม่ค่อยให้ความรู้อะไรเท่าไหร่นัก มีหลายอย่างที่เราสงสัย เดินดูแล้วรู้สึกเอ๊ะ แต่หาคำตอบไม่ได้





3.ปราสาทเมืองต่ำ
ใหญ่กว่าพนมรุ้งมาก แต่เพราะหลังคาแทบไม่เหลือ เลยรู้สึกไม่สวยเท่าพนมรุ้ง แต่เราแอบรู้สึกว่าศิลปะของที่นี่กับพนมรุ้งนั้นแตกต่างกัน แต่บอกไม่ได้ว่ายังไง เพราะไม่มีป้ายบอกอะไรเท่าไหร่ค่ะ เลยนึกว่าคิดไปเอง





4.ปราสาทบ้าบบุ
ปราสาทหลังเล็กๆ ที่เคยสร้างไว้เป็นที่พักนักเดินทางในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
ตอนแรกว่าจะไม่มาล่ะ แต่เห็นว่าหลังคาปราสาทเป็นทรงโค้ง แปลกดี เลยมาดูหน่อย
มันตั้งโด่เด่อยู่ในรั้วโรงเรียนบ้าบบุวิทยาสรรค์ค่ะ เราขับไปช่วงเสาร์ อาทิตย์ ก็เปิดให้เข้าไปได้ตามปกติค่ะ



วันที่ 2
1.ละลุ
ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดน้ำฝนกัดเซาะ+ การยุบตัวของดิน
ต้องนั่งรถอีแต็กชาวบ้านเข้าไป ราคาคันละ 250 บาท นั่งได้หลายคน สำหรับเราคือแปลกดี แต่ไม่ได้ว้าวมากเท่าที่คิด





2.ปราสาทสด๊กก๊อกธม
ปราสาทที่บูรณะให้ใกล้เคียงแบบเดิมด้านโครงสร้าง แต่สถาปัตยกรรมไหนที่หายไปแล้ว ก็หายไปเลย ปิ้ววว
ตัวปราสาทอาจไม่สวยหรือดีเท่าที่บุรีรัมย์ แต่ด้านพิพิธภัณฑ์คือ ดีงามค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้ และเข้าใจปราสาทเขมรมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งกูเกิ้ล แถมยังเข้าฟรีด้วยค่ะ พอเข้าพิพิธภัณฑ์แล้วเข้าไปเดินในปราสาท เลยได้เดินอย่างผู้มีความรู้เลยค่ะ 55
อย่างที่บอกไปแล้วว่า เรารู้สึกว่าสถาปัตยกรรมปราสาทเมืองต่ำ กับพนมรุ้งมันต่างกัน แต่นึกว่าคิดไปเอง + ความสมบูรณ์ทั้งสองที่ไม่เท่ากัน



พิพิธภัณฑ์


สด๊กก๊อกธม กับเมืองต่ำ เป็นศิลปะแบบบาปวน ในขณะที่พนมรุ้งเป็นศิลปปะแบบนครวัด



3.อุทยานแห่งชาติตาพระยา
เป็นอีกครั้งที่ปักหมุดกูเกิ้ลมายังที่ทำการอุทยานแห่งชาติ แทนที่จะเป็นจุดชมวิว 5555 ทางขึ้นคือรถอย่างติด แถมมีสิบล้อด้วย รถเก๋งจาก 1 เลน ก็ขับบนไหล่ทางอีก 1 (จุดมอไซค์ชอบขับกัน) อ้าว อิแมะ แล้วชั้นจะไปไงนิ แถมเป็นทางขึ้นเขาอีกต่างหาก
พอเจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่าที่นี่ไม่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ต้องขับบนถนนติดๆ ขึ้นเขาไปอีก 3 กม. อีนี่ก็แบบ กลับที่พักดีกว่าวะ รถติดแถมมีแค่ขาละเลน เสียว
ปรากฏทางไปจุดชมวิวนี่ล่ะ ทางกลับไปบุรีรัมย์ ป๊าดดดดด เจ้าหน้าที่บอกแล้วว่ามันอยู่ตรงไหน แต่พอไปใกล้ๆ มองๆ เมียงๆ แล้วหาไม่เจอ ก็เลย ตัดไป ขับกลับที่พักแทน สมควรแก่เวลา เดี๋ยวมืดแล้วขับลำบาก เพราะไม่ได้มีไฟถนนทุกเส้น
ใครที่อยากไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติตาพระยา ให้ปักหมุดไปที่ จุดชมวิวผาแดงนะคะ นะคะ นะคะ 55
วันที่ 3
1.อโรคยาศาล 
สถานพยาบาล ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 บูรณะขึ้นมาใหม่ ตั้งอยู่ในวัดโคกงิ้ว เข้ามาในวัด เลยศาลาแล้วเลี้ยวขวา
ที่นี่อยู่ใกล้กับที่พัก ขับไปอีกไม่กี่กิโลเมตร เราเลยขอแวะดูหน่อยค่ะ





2.วนอุทยานเขากระโดง
ปากกล่องภูเขาไฟโบราณ กับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติของเขา
แอ่งน้ำด้านซ้ายคืออดีตปากปล่องค่ะ

เส้นทางศึกษาธรรมชาติใกล้ๆ กับปากปล่อง ทางลงแอบหายากนิดนึง ระยะทางสั้นๆ มีเส้นทางชัดเจน ไม่หลงแน่นอนค่ะ เพราะมีถนนอยู่ไม่ไกลกันมาก

3.พิพิธภัณฑ์อีสานใต้ – ถ้ามีเวลาและไม่มีอะไรทำ แวะไปก็ไปค่ะ เป็นพิพิภัณฑ์เล็กๆ ในมหาวิทยาลัย เข้าชมฟรี
4.พนมรุ้งจำลองที่ช้างอารีน่า
ก็สวยดีค่ะ แต่ของจริงสวยกว่า ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ 555



ท้ายที่สุด ขอขอบคุณกูเกิ้ลแมป ที่ถึงจะชอบให้ขับบนร่องนา หรือทางชาวบ้านที่ไม่เรียบจนหัวสั่นหัวคลอน แต่ก็พาไปถึงจุดหมายทุกที 555

Duck's journey
วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 10.45 น.

 Readme before you journey
Readme before you journey


















