ใครที่กำลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและอยากให้ต้นไม้ที่มีสีเขียวชอุ่ม น้ำตกที่ไหลเย็นๆพร้อมบอกว่า “ซู่ๆ” ภูเขาที่ตัดกับเส้นขอบฟ้า โอบกอดความเหนื่อยล้าเหล่านี้ไว้ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากกรุงเทพ (ซึ่งก็เป็นการออกต่างจังหวัดฉบับผู้ที่มีเวลาจำกัด) นี่เลย! อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่าแล้วก็ออกเดินทางกันเถอะ!

       เช้าตรู่ของเช้าวันเสาร์ เราก็เริ่มออกเดินทางเวลาประมาณ 05.30 น. เผลอแปบเดียวก็เข้าเขต จ.ปราจีนบุรีแล้ว

.    ระหว่างเดินทางก็แอบรู้สึกตื่นเต้นนิดๆนะ เพราะว่าเป็นการมาเที่ยวเขาใหญ่ครั้งแรกของเราเหมือนกัน ขับรถไปอีกสักพักก็ใกล้ถึงแล้วทุกคน

.    สีสันของดอกไม้ระหว่างทางที่น่ารักมากๆ และแล้วเราก็เดินทางมาถึงจุดหมายกันเวลาประมาณ 08.00 น. จุดตรวจและชำระเงินค่าเข้าอุทยาน ราคาแสดงตามป้ายทางเข้าเลยค่ะ

    ระหว่างทางที่ขับเข้าไปในอุทยาน อากาศคือดีมากๆ เราก็เลยเปิดกระจกรับลมเย็นๆให้ชื่นฉ่ำใจ

    วิวเนินเขาระหว่างทางขึ้นไปผาตรอมใจ เราอยากบอกว่าการขับขี่รถภายในอุทยานก็จะไม่เร็วมากนัก (ไม่เกิน 60 km/hr) จุดชมวิวระหว่างทางจึงมีรถของนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆที่แวะจอดถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจกันค่ะ

    พอเราขึ้นมาถึงจุดชมวิวผาตรอมใจ บรรยากาศตรงหน้าทำให้ความเหนื่อยล้าจากการทำงานพลางหายไปจากใจทันที ณ เวลานั้นเรายืนสูดอากาศ ซึมซับความรู้สึกผ่อนคลายอยู่พักนึงเลยค่ะ

    ถัดลงมาก็เป็นผาเดียวดาย (จริงๆถ้าขับรถขึ้นมา ผาเดียวดายจะถึงก่อนผาตรอมใจนะคะ แล้วแต่ว่าจะแวะจุดไหนก่อน) เราต้องเดินเท้าเข้ามาอีกสักระยะตามทางที่อุทยานทำไว้ให้นะคะ ซึ่งทางเท้าก็สะดวกสบายมากๆเลย

    ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศสวยๆสักหน่อย :) แล้วก็เตรียมไปจุดถัดไปกันค่ะ

    หย่อนใจที่น้ำตกเหวสุวัต สูงและสวยมากๆทุกคน ความสวยงามของธรรมชาตินี่ฮีลใจได้ดีเหมือนกันนะ

    หลังจากเพลิดเพลินกับธรรมชาติจนลืมเวลา ตอนนี้ก็เกือบบ่ายโมงแล้วอ่ะ เราก็แวะเติมพลังกันสักหน่อยที่ร้านค้าตรงจุดชมวิวน้ำตกเหวสุวัต อิ่มอร่อย:)

    หลังจากอิ่มท้องแล้วเราก็ขับไปเรื่อยๆ จนถึงอ่างเก็บน้ำสายศร นักท่องเที่ยวต่างพากันถ่ายรูปที่น่ารักๆกับจุดยอดฮิต สักพักเราก็ขับผ่านหอส่องสัตว์หนองผักชี จุดชมวิว กม.30 ซึ่งก็แล้วแต่เราเลยว่าอยากจะแวะถ่ายภาพจุดไหนบ้าง เวลาผ่านไปเร็วมากเราก็มาถึงทางออกแล้ว (เราลงจากอุทยานและกลับทางปากช่องนะคะ) หากท่านใดอยากไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ก็สามารถจอดรถแถวบริเวณทางออกอุทยานได้เลยค่ะ

    แวะชิมกาแฟสักแก้วที่ฟาร์มโชคชัย ที่นี่มีของฝากหลายอย่างเลยนะคะ เช่น นมวัวอัดเม็ด (หลายๆคนอาจชอบกินกันตอนเด็กๆ^^) น้ำนมวัวดิบ น้ำองุ่นหอมหวาน เป็นต้น นอกเหนือจากนี้ก็มีกิจกรรมสำหรับครอบครัวอย่างป้อนอาหารสัตว์ ขี่รถ ATV/UTV ขี่ม้าแคะ และอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย

    และที่ห้ามพลาดเลยคือร้านข้าวโพดหวานไร่สุวรรณ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความที่เราไปครั้งแรก ก็สงสัยว่าทำไมคนเยอะจัง ต้องลองชิมนมข้าวโพดสักหน่อย หลังจากที่ได้ลิ้มลองเท่านั้นแหละ ตอนนั้นก็อุทานในใจว่าหอมข้าวโพดมาก อร่อยอ่ะ^^ ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงลูกค้าจะเยอะแค่ไหน ทางร้านก็จัดการระบบคิวเร็วอยู่นะคะ (ซึ่งอาจมีช่วงเบรกประมาณ 10-20 นาทีสำหรับทางร้านลงนมข้าวโพดล็อตถัดๆไป เพื่อให้เพียงพอกับลูกค้าค่ะ) โดยจะมี 2 ฝั่งคือ ฝั่งสำหรับซื้อฟักข้าวโพดกับฝั่งสำหรับซื้อนมข้าวโพด ก่อนกลับก็แชะภาพไร่สุวรรณสักหน่อย

    จบแล้วกับ One day trip @เขาใหญ่ ทริปเล็กๆแต่รู้สึกหายเหนื่อย เหมือนได้ชาร์จแบตให้กับตัวเองเพื่อพร้อมต่อสู้กับวันจันทร์ :))))

Journey with Me

 วันพฤหัสที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 00.58 น.

ความคิดเห็น