พาเที่ยวอินเดีย ที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย หลายคนมักจะมองข้ามเมืองๆ นี้กันด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เช่น ไม่น่าจะมีอะไร หรือไม่ก็ได้รับข่าวสารลบๆ จากคนอื่นมา อันที่จริงจากที่เราเห็นๆ มา ไกด์บางเมืองนี้พร้อมจะพูดให้เดลีดูน่ากลัวมากๆ เพื่อเบี่ยงความน่าสนใจจากเดลีไปเมืองอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา แต่จริงๆ แล้วถ้าทำการบ้านมาดี จะรู้ว่าเดลีเป็นเมืองที่เดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเองง่ายที่สุด ถ้าเราเดินในเดลี เราจะไม่พบไกด์เถื่อนมาเดินตอแย่เลย (ยกเว้นหน้าสถานที่เที่ยว) เพราะอะไรรู้ไหม เพราะมันยากต่อการได้ลูกค้า นักท่องเที่ยวสามารถไปไหนมาไหนด้วยเมโทรได้แบบง่ายๆ สถานที่ต่างๆ ก็มีคำอธิบายชัดเจน ตรงไหนที่ซื้อตั๋ว ตรงไหนคือทางออกทางเข้า มันชัดเจนไปหมดจนเที่ยวเองได้สบายๆ เราเป็นประเภทชอบเที่ยวเองและไม่ชอบให้ใครมาตอแย ดังนั้นเราจึงขอบเดลีมากๆ และที่นี่ก็ไม่ใช่ไม่มีอะไรน่าสนใจ มีสถานที่น่าสนใจอยู่เยอะแยะมากมาย ไปชมพร้อมๆ กันเลย

1. ป้อมแดง Red fort

ป้อมแดงหรือก็คือ Red fort สถานที่นี้สำหรับคนไทยสามารถโชว์พาสปอร์ตไทยได้ จากราคาหลักร้อย ก็จะเหลือราคาหลักสิบ ล่าสุดที่ไปคือราคาลดแล้วอยู่ 50 รูปี ซึ่งอาจปรับขึ้นลงไปตามกาลเวลา อินเดียนั้นโดดเด่นด้วยเรื่องของสถาปัตยกรรมป้อมปราการ และป้อมสีแดงแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในจุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนจะต้องมากัน ภายในป้อมจะมีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว่า มีอาคาร สถานที่ต่างๆ อยู่ภายในอีก

  • ค่าเข้าชม : แสดงพาสปอร์ตไทยจะได้ราคาที่ลดลงเหลือ 35 - 50 รูปี ปัจจุบันมีเรทสำหรับคนเน้นอัดวิดีโอด้วย 25 รูปี
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานี Lal Quila ( ลาคิวล่า )

2. อินเดียเกท India Gate

ประตูสู่อินเดีย เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะไปถ่ายรูปที่นี่ โดยที่ตรงนี้เป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงทหารของกองทัพบริติชอินเดีย ที่เสียชีวิตและสูญหายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกที่สงครามแต่จริงๆ แล้วต้นแบบของมันมาประตูชัยโดยเลียนแบบประตูชัยคอนสแตนตินในโรม ซึ่งก็จะมีความคล้ายกับของปารีส และมุมไบ

  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : สายสีน้ำเงิน สถานี Mandi House ( มานดิ เฮาส์ ) , หรือถ้าเดินทางต่อจากป้อมแดงสามารถไปจามัสยิสเพื่อนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานี Jama Masjid ไปลงที่สถานี Khan Market แล้วเดินต่ออีกนิดก็ได้เช่นกัน

3. อักชาร์ดราม หรือ วัดอักษราดารามห์ Akshardham

อันนี้ถือเป็นไฮไลท์ของนิวเดลีที่แท้จริง หลายคนอาจจะงงว่าถ้ามันเป็นไฮไลท์ทำไมไม่เห็นคนไทยไปแล้วรีวิวเลย สาเหตุก็น่าจะมาจากคนไทยจะชอบการถ่ายรูปถ้าไปแล้วถ่ายรูปไม่ได้หลายคนก็จะไม่ไป ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นโบสถ์พราหมณ์ ศาสนาฮินดู ถือเป็นศูนย์รวมด้านจิตวิญญาณและวัฒนธรรม เป็นที่ที่อเมซิ่งมาก ส่วนตัวยกให้ที่นี่คือที่ตระการตาของแท้ยิ่งกว่าทัชมาฮาล ( ความรู้สึกส่วนตัวนะ ) เพราะภายในมีพื้นที่กว้างมาก มีจิตกรรม สถาปัตยกรรมที่โอ่อ่าอลังการมาก ยิ่งไปตอนเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตกเป็นฉากหลังคือสวยมาก และเมื่อตกกลางคืนเมื่อเปิดไฟก็จะยิ่งอเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม แต่น่าเสียดายที่ความสวยนี้เก็บไว้ได้ด้วยดวงตาเท่านั้น ภายในจะไม่สามารถถ่ายรูปได้เลยการตรวจค้นกระเป๋าและตัวค่อนข้างเข้มงวดมาก ต้องฝากกล้อง กระเป๋า โทรศัพท์ไว้ที่จุดฝากเท่านั้น จุดที่สามารถถ่ายตัวโบสถ์ได้ดีที่สุดน่าจะเป็นที่สถานีรถไฟฟ้านั่นแหละค่ะ ดังนั้นคนไทยบางคนก็อาจจะไม่มาที่นี่เพราะมันถ่ายรูปไม่ได้ แต่ชาวต่างชาติล้วนแล้วแต่มาที่นี่ทั้งนั้นค่ะ ตัวเราเองก็ขอยกให้ที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยและอเมซิ่งที่สุดไปเลย

  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : สายสีน้ำเงิน สถานี Akshardham ( อักชาร์ดราม )

4. อักราเซน กี บาวลี Agrasen ki baoli

อักราเซน กี บาวลี หรืออัครเสน กี บาวลี คำว่าบาวลี ( baoli ) คือบ่อน้ำหรืออ่างเก็บน้ำ แต่ลักษณะของอ่างเก็บน้ำในอินเดียมักจะทำเป็นเหมือนบ่อน้ำที่มีขั้นบันไดลึกลงไป มีความเก่าแก่แต่ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่คาดเดาว่าน่าจะเป็นราชาอัครเสน ที่นี่จะตั้งอยู่ใกล้กับย่านคอนน็อตเพลส อยู่ไม่ไกลจากสถานที่อื่นๆ

  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : สายสีน้ำเงิน Barakhamba Road ( บารัคคัมบา โร๊ด )

5. คอนน็อตเพลส Connaught Place

เป็นที่ที่เราไปบ่อยมาก ตรงนี้จะเป็นเหมือนใจกลางเดลี อารมณ์คล้ายๆ สยามบ้านเราคือเป็นแหล่งช็อปปิ้งและอาหาร คาเฟ่ แต่ราคาจะแรงกว่าโซนอื่นๆ ถ้าใครอยากหาคาเฟ่นั่งก็ให้มาตรงนี้เลยค่ะมีทั้ง สตาร์บัค คาเฟ่ทั่วไป เคเอฟซี ร้านไอศกรีม หรือใครสายช็อปก็มาตรงนี้ได้ แต่ถ้าอยากช็อปในราคาที่ถูกลงให้เปลี่ยนไปจันปัสมาร์เก็ตแทน จันปัสมาร์เก็ตก็จะมีความคล้ายจัตุจักรบ้านเรา สินค้าก็จะไม่ใช่แบรนด์เนมและเป็นราคาตามท้องตลาด

  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : เป็นใจกลางเดลี เกือบทุกสายมาหยุดที่นี่ ที่สถานี Rijiv Chowk ( ราจีบ จ๊อบ )

6. วัดดอกบัว Lotus Temple

เป็นวัดที่ดีมากๆ แต่ความโชคร้ายของเราคือวันที่ไปดันมีทั้งหมอกและฝุ่นจนมันบังตัววัดซะหมดเลย ตรงนี้จัดเป็นสถานที่ของศาสนาบาไฮ ศาสนาบาไฮมีจุดเริ่มในแถบเปอร์เซียและบางส่วนของตะวันออกกลางและแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ วัดแห่งนี้โดดเด่นด้วยรูปทรงคล้ายดอกบัวจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของเดลี จัดเป็น 1 ใน 3 ที่นักท่องเที่ยวทุกเชื่อชาติบอกว่าต้องมา

วัดดอกบัวจะเปิดให้ทุกคนสามารถเข้าไปได้โดยไม่เสียค่าเข้าชม ตัวอาคารประกอบด้วยกลีบดอกบัว จำนวน 27 กลีบ มี 9 ด้าน มีประตู 9 บานที่เปิดออกสู่ห้องโถงกลาง ภายในนี้จะมีกิจกรรมคือให้เราสามารถนั่งฟังสาวกนำเสนอบทความคำสอนต่างๆ คล้ายๆ ท่องบทสวดในหลายๆ แบบ แต่เราชาวต่างชาติก็จะฟังไม่ออก เราฟังออกแค่บทสวดเดียวคือตอนที่ นะโม ตัสสะ ขึ้นนั่นแหละ แต่ข้างในมีเครื่องปรับอากาศนะคะ ไปนั่งพักรับแอร์ฟังบทสวดเพลินๆ ก็ได้เช่นกัน

  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : สายสีม่วง สถานี Kalkaji Mandir ( คาวคาจี มานดีร์ ) ถ้าเที่ยวต่อจากอักราเซน กี บา วลีให้ไปที่สถานี Janpath (จันปัส ) เพื่องนั่งไปยังสถานี Kalkaji Mandir

7. ปุรานา คิวล่า Purana Qila

ปุราณาคิลาเป็นหนึ่งในป้อมที่เก่าแก่ที่สุดในเดลีแม้แต่นักโบราณสถานของอินเดียเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันถูกสร้างช่วงไหนกันแน่ ดังนั้นจึงบอกอายุของป้อมแบบเป๊ะๆ ได้ยาก แต่มันมีร่องรอยการบูรณะในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิโมกุล จักรพรรดิหุมายูงที่ 2 และจักรพรรดิเชอร์ชาห์สุรี ภายในป้อมก็จะมีทั้งโบราณสถานและสวนสาธารณะ

  • ค่าเข้าชม : 200 รูปี
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : สายสีน้ำเงิน สถานี Supreme Court เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดแต่ก็ยังห่างจากตัวป้อมถึง 2 กิโลเมตร อาจจะต้องหารถตุ๊กๆ หรือสามล้อถีบ หรือใครเดินไหวก็เดินได้เลย หรือสายสีม่วงและน้ำเงินสถานี Mandi house แต่จะห่างจากตัวป้อมมากกว่า Supreme Court ประมาณ 2.7 - 3 กิโลเมตร

8. พิพิธภัณฑ์ชาติ National Museum

พิพิธภัณฑ์ชาติก็คือพิพิธภํณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวของประวัติศาสตร์อินเดีย ทั้งในเรื่องของสงคราม การพัฒนาต่างๆ และรวมไปถึงเรื่องของเทพและศาสนาฮินดู แน่นอนมันอาจจะไม่ใช่จุดเช็กอินสำหรับถ่ายรูปนะคะ เหมาะกับคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์และศาสนาฮินดู สมัยที่เราไปค่าเข้าจะอยู่ที่ 600 รูปีแต่ตอนนี้ขึ้นมานิดหน่อยอยู่ที่ 650 รูปี

  • ค่าเข้าชม : 650 รูปี
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : สายสีเหลือง สถานี Udyog Bhawan เดินต่ออีกประมาณ 800 เมตร

9. วัดลักษมีนารายัน Shri Laxmi Narayan Temple

วัดลักษมีนารายัน เป็นวัดฮินดูขนาดใหญ่ ซึ่งจัดเป็นวัดขนาดใหญ่แห่งแรกที่สร้างขึ้นในเดลี นอกจากชื่อ Shri Laxmi Narayan แล้วที่นี่ยังมีอีกชื่อคือ Birla Mandir เนื่องจากวัดถูกสร้างโดยตระกูล Birla ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเดลี และยังดึงดูดผู้นับถือศรัทธารวมไปถึงนักท่องเที่ยวมากมายให้มาที่นี่ สำหรับการไปที่นี่ เราไปช่วงแรกๆ ของการไปอินเดีย ในตอนนั้นเรายังถ่ายภาพไม่ค่อยเก่งเท่าไร และตอนลงรถก็ดันลืมเปลี่ยนเลนส์ เอาเลนส์ซูมลงไปภาพขนาดกว้างเลยไม่มี แต่ตัววัดสวยจริงๆ ยังถ้าไปช่วงกลางคืนที่วัดเปิดไฟจะสวยมากๆ

  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) : สายสีน้ำเงิน สถานี RK Ashram Marg หรือสายสีส้ม ( Airport Line ) สถานี Shivaji Stadium

และนี่ก็คือที่เที่ยวที่ส่วนตัวค่อนข้างชอบ จริงๆ ยังมีอีกสองที่ที่คนนิยมไปคือ กุตุปมินาร์ แต่ส่วนตัวเราไปแล้วเราเฉยๆ ค่าเข้าชม 500 รูปี ภายในสำหรับเราจะว่ามีมุมถ่ายรูปไหมก็มีแหละ แต่ส่วนตัวเฉยๆ ใครใคร่ไปก็ไปได้นะ ส่วนอีกที่คือหลุมฝั่งพระศพของจักพรรดิหุมายุง อันนี้ยังไม่ได้ไปด้วยเหตุผลบางประการเลยไม่มีภาพประกอบเลยไม่ใส่ลงมาด้วย

สำหรับเรานิวเดลี ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย และค่อนข้างจะเที่ยวง่ายกว่าเมืองอื่นๆ ด้วยซ้ำ ถามว่าข่าวที่ว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับนักท่องเที่ยวล่ะ ว่ากันตามตรงถ้ารู้ตัวว่าเที่ยวคนเดียวสิ่งแรกที่ควรคำนึกถึงคือ "เวลา" ไม่กลับดึก ไม่เดินไปมาในยามวิกาล ไม่ไปกับใครง่ายๆ และเรียกตุ๊กๆ ที่เชื่อถือได้หรือเรียกอูเบอร์ หรือเดินทางด้วยตัวเองด้วยเมโทรไปเลย จะมาบอกว่าเจ้าของบทความไม่สวยเลยไม่อันตรายหรือป่าว... อันนี้ขอบอกว่าอยู่นี่มีคนขอเบอร์ ขอพาไปดินเนอร์อยู่นะ เพราะที่นี่คืออินเดียหน้าตาหุ่นไม่เกี่ยวเลยแค่เป็นชาวต่างชาติก็โดดเด่นหมด ดังนั้นหน้าตาแบบไหนหุ่นแบบไหน ตรรกะหน้าตาไม่สวยหุ่นไม่ดีเลยปลอดภัยใช้ที่อินเดียไม่ได้นะ ที่นี่ "การวางตัว" และ "การสังเกต" เท่านั้นค่ะที่จะช่วยให้เราปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย

สุดท้ายใครชอบบทความแชร์ออกไปได้เลย บทความหน้าจะพาไปไหนมารอกันได้เลย หรือแวะหรือติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะ


อ่านบทความอื่นต่อ

หญิงเถื่อน Solo Traveler

 วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 08.25 น.

ความคิดเห็น