Fuji Q highland เป็นสวนสนุกขึ้นชื่อของญี่ปุ่น เพราะมีเครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ที่หวาดเสียวติดอันดับโลกถึง 3 เครื่อง
ครั้งนี้เป็นรอบที่ 2 ที่เรามาเยือนสวนสนุกแห่งนี้ และอยู่ที่สวนสนุกนี้ถึง 2 วันครึ่ง อยู่กันจนเบื่อเลยจ้า เลยมาเขียนรีวิวไว้ก่อนกันตัวเองลืม เผื่อในอนาคตจะได้กลับไปเยือนอีกเป็นรอบที่ 3
แผนที่ Fuji Q highland ถือว่าเป็นสวนสนุกขนาดเล็ก เดินแปปเดียวก็ครบ แต่ที่อยู่นาน เพราะแถวเครื่องเล่นดังๆ ต่อกันที 1-3 ชม.ค่ะ
แถมบางเครื่องเล่นยังเป็นเกมเควส ทำให้เด็กและผู้ใหญ่บางคนวนเล่นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเล่นจนจบเควส
เครื่องเล่นที่เปิด
บางเครื่องเล่นจะปิดบำรุง ปิดซ่อม หรือเปิดเพียงไม่กี่ชั่วโมงในแต่ละวัน เราสามารถดูสถานะในวันนั้นได้ที่เว็ปไซต์ Fuji Q highland ลิ้งก์นี้ค่ะ https://www.fujiq.jp/en/schedu...
Live Operation status - คือระบุว่า ในวันนั้น เครื่องเล่นไหนที่เปิดบ้าง
Business hours - จะเป็นแพลนล่วงหน้าว่า ในเดือนหน้าๆ เครื่องเล่นไหนมีแพลนจะปิดซ่อม หรือบำรุงบ้าง ใครที่มีเครื่องเล่นในใจ อย่าลืมเช็คแพลนนี้ก่อน จะได้ไม่พลาดเครื่องเล่นที่อยากเล่นค่ะ
เครื่องที่เปิดจะมีสัญลักษณ์ วงกลม เครื่องที่ปิดจะเป็น กากบาท
เครื่องเล่นที่มีรายชื่อในรูปภาพด้านล่าง คือปิดในวันนั้นๆ ค่ะ
เช็คระยะเวลาต่อแถวรอของแต่ละเครื่องเล่น
Fuji Q มีแอปสำหรับเช็คระยะเวลารอต่อแถวของแต่ละเครื่องเล่นโดยเฉพาะ แต่เราโหลดไม่ได้ อาจเพราะไม่ใช่มือถือของญี่ปุ่น แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราสามารถเช็คผ่านเว็ปได้ https://fujiq.info/sp/realtime...
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ
รถบัส - มีรถบัสจากหลายเมือง มาจอดที่สถานี Fuji Q highland ค่ะ หน้าสวนสนุกจะมีสถานีรถบัสอยู่เลย
หากมาจากโตเกียว สามารถนั่งรถบัสจากชินจูกุมาได้ ซึ่งจะมีโปรแพกเกจ รถบัสจากชินจูกุไปกลับ + ตั๋วเหมาะ1 วัน ในราคาพิเศษ ถูกกว่าซื้อแยก แต่ต้องระบุวันเวลาที่จะเดินทางขณะซื้อตั๋วเลย
สถานีรถบัส จะอยู่ใกล้ๆ กับ Highland resort
รถไฟ - ใครที่มี JR pass จะใช้ได้ไกลสุดถึงแค่สถานะ Otsuki เท่านั้น เพราะจากสถานี Otsuki ไปยัง Kawaguchigo เป็นของรถไฟเอกชน Fujikyu line
เรานั่งรถไฟไปลงที่สถานี Kawaguchigo เสียค่ารถไฟเพิ่ม 1170 เยน
แต่ถ้านั่งไปลง Fuji q highland ต้องจ่ายเพิ่ม 1100 เยนค่ะ
จากชินจูกุ ขึ้นที่ชานชาลา 10
รถไฟบางเที่ยว ต้องจองที่นั่งเท่านั้น ไม่มีที่นั่งตามใจฉัน ใครที่ไม่ได้จองก็ขึ้นได้ แต่ต้องไปอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ หรือตรงประตูทางลงค่ะ
JR pass จองที่นั่งได้ฟรีค่ะ ส่วนใหญ่เราจะกดจองที่นั่งไว้เลย ขี้เกียจไปลุ้นที่นั่งเอา
หากคุณนั่งรถไฟด่วนที่ตรงจากสถานี Shinjuku ไปยังสถานี Kawaguchigo เลยด้วย JR pass เมื่อถึงปลายทางคุณสามารถจ่ายเงินเพิ่มที่เคาเตอร์ได้ค่ะ
ตู้ตรวจบัตรระหว่าง JR กับ Fujikyu line ต้องเสียบบัตรทั้งสองแบบพร้อมกันตามรูป ประตูถึงจะเปิดให้ค่ะ
ไม่เห็นมีป้ายบอก เลยมีหลายคนงง รวมทั้งเราด้วยค่ะ อิหยังเดสก๊ะมาก
ชานชาลาค่ะ รอไปยาวๆ
การเดินทางจากตัวเมืองคาวากุจิโกะไปยังสวนสนุก
สวนสนุกมีรถชัตเติ้ลบัสฟรีบริการ ตามจุดต่างๆ มีกำหนดเวลาเดินรถที่แน่นอน เราใช้บริการรถชัตเติ้ลไปกลับระหว่างสวนสนุกกับสถานีรถคาวากุจิโกะ สะดวกดีค่ะ
จุดขึ้นรถบัสฟรีที่สถานีคาวากุจิโกะ จะอยู่ที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 4
รถบัสที่เรานั่งมี 2 แบบ แบบของ Fuji Q เองกับแบบของรีสอร์ท
มันต้องเป็นรถที่มีป้าว่าฟรี ถึงจะขึ้นได้นะคะ ถ้าไม่มีป้ายนี้คือเสียเงิน และอาจไปไม่ถึงนะคะ
ภายในรถ เป็นรถบัสคันย่อมๆ
ป้ายรถเมล์ตามสถานีอื่นๆ ที่ไม่ใช่สถานีรถไฟจะมีหน้าตาแบบนี้
รอบรถ
จุดขึ้นรถบัสตอนขากลับ จะขึ้นได้2จุดคือ ตรงหน้า Highland resort ที่เป็นต้นทางรถบัส
กับสถานีรถไฟ Fuji Q highland ค่ะ
สถานีรถไฟ Fuji Q highland
เสริมค่ะ ถ้าจะข้ามถนนที่คาวากุจิโกะ ต้องกดปุ่มข้ามถนน เพื่อให้ไฟแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียวค่ะ
พอกดแล้วจะมีคำว่า กรุณารอ สีแดงขึ้นค่ะ
ค่าเข้าสวนสนุก และค่าเครื่องเล่น
1.ตั๋วเข้าฟรี – เข้าฟรี แต่ถ้าจะเล่นเครื่องเล่นต้องจ่ายเงินแยกเป็นรายครั้ง ตั๋วนี้ต้องไปแลกที่เคาเตอร์
ราคาเครื่องเล่นต่อครั้งต่อคน
โรลเลอร์โคสเตอร์ ค่าเล่นครั้งละ 2000 เยน แต่เราแนะนำให้ซื้อแบบ Fast pass ไปเลยค่ะ ราคาครั้งละ 2300 เยน แต่ข้อดีคือไม่ต้องต่อแถวรอนาน
2.ตั๋วเหมา เล่นเครื่องเล่น(เกือบทั้งหมด)ได้ไม่อั้น มีแบบเต็มวันกับครั้งวัน – แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าออนไลน์ ทาง Klook หรือทางเว็ปไซต์ของสวนสนุกเลยดีกว่าค่ะ ถ้าไปต่อแถวหน้าสวนสนุก ต่อให้เป็นวันธรรมดา คิวก็จะยาวมากกกกกก
เราซื้อตั๋วออนไลน์กับ Klook เพราะตอนนั้นมีลดราคานิดหน่อย ถูกว่ามาซื้อหน้างาน เราต้องเอา QR code ที่ได้มาแลกเป็นตั๋วจริงกับเครื่องอัตโนมัติ ถ้าเราแคปสกรีนเครื่องอาจจะอ่าน QR code ไม่ผ่าน หากไม่ผ่าน ให้เปิด QR code ผ่านอีเมล หรือแอปค่ะ
เครื่องเล่นอื่นๆ นอกเหนือจากโรลเลอร์โคสเตอร์
หมู่บ้านนินจา
พิพิธภัณฑ์นินจานารูโตะ ข้างในมีภาพร่างตัวละคร คลิปวีดีโอ และมุมถ่ายรูปค่ะ เปิดแค่เฉพาะช่วงบ่าย 2-3 ชม.ต่อวันเท่านั้น
วิวตอนเย็น
GeGeGe no Kitarō story
ไปฟังผีเล่าเรื่อง ไปให้ผีหลอกในห้องเล็กๆ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
มีแต่พากษ์ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น และเปิดแค่วันละ 2 ชม.จ้า
Impossible games
มันคือเกมตกผู้ใหญ่ ข้างในจะมีด่านทั้งหมด 5 ด้านใหญ่ และแบ่งเป็นหลายด่านย่อย
มีทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่นให้เลือกเล่น จะเล่นคนเดียวหรือหลายคนก็ได้ค่ะ
ระหว่างรอ จะมีบอร์ดโชว์ว่า มีผู้เล่นทั้งหมดกี่คน ชนะทุกด่านแล้วกี่คน ซึ่งยังไม่เคยมีใครชนะทุกด่านเลยจ้า
ด่านแรก มี 2 เกม
ด่านที่ 2 มี 3 เกม
ด่านที่ 4 และ 5 จะเป็นการเล่นโชว์คนที่ต่อแถวรออยู่ด้านนอกเลย ตอนที่เราไปเจอแค่คนที่เล่นถึงด่าน 4 เท่านั้นค่ะ
Duck's journey
วันพฤหัสที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 16.31 น.