ความฝันหนึ่งของคนเที่ยวไม่หยุดอย่างผม คือการได้มีโอกาสพาพ่อกับแม่ร่วมเดินทางออกไปเที่ยวไกลๆ ด้วยกันสักครั้ง เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมมักเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกับกลุ่มเพื่อนโดยตลอด และคิดอยู่เสมอว่าคงดีไม่น้อยหากสามารถพาคนในครอบครัวมาเที่ยวด้วยกันแบบนี้บ้าง

หลังจากเก็บออมเงินได้เพียงพอ ทริปขับรถท่องเที่ยวออสเตรีย-สโลเวเนีย-อิตาลีจึงเกิดขึ้น โดยหนึ่งในไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้คือการขึ้นชมยอด Alpe di Siusi ในเขตเทือกเขา Dolomite ทางตอนบนของประเทศอิตาลี

เทือกเขาแถบ Dolomite มีภูมิประเทศที่สวยงามมาก ลักษณะเด่นคือยอดเขาหินปูนปลายแหลมเด่นเป็นสง่า ตั้งอยู่เหนือป่าสนและทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ในฤดูร้อนจะมีดอกไม้ป่านานาชนิดอวดสีสันเต็มทุ่ง งดงามไม่แพ้วิวของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่คนไทยคุ้นตา ... เชื่อว่าพ่อกับแม่ต้องชอบแน่ๆ เพราะทั้งสองคนโปรดปรานดอกไม้มาก

แต่เนื่องจากคุณพ่อเดินไม่ค่อยถนัดเนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุสมัยยังทำงาน แถมผ่านการผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจมาแล้วด้วย ผมจึงให้พ่อใช้รถเข็นระหว่างการเดินทางครั้งนี้ ... อันที่จริงตอนอยู่บ้านก็ไม่ได้ใช้ครับ เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้เดินเหินไกลๆ แต่มาเที่ยวแบบนี้บางทีก็เลี่ยงไม่ได้ จึงนำรถเข็นติดมาด้วยเลยจากเมืองไทย

นี่แหละครับรถเข็นที่ใช้สำหรับทริปนี้ คนแอ๊คท่ากำลังเข็นคือหลานสาวตัวน้อยของผมครับ ภาพนี้ถ่ายที่ Hallstatt ในวันที่เราเดินทางมาถึงออสเตรียซึ่งเป็นวันแรกของทริป

นี่เป็นภาพที่ผมใฝ่ฝันจะเห็นครับ มันตื้นตันแบบบอกไม่ถูกที่ได้เห็นพ่อกับแม่มีรอยยิ้ม และมีความสุขกับทิวทัศน์รอบตัว

อย่างไรก็ตามการขึ้นไปเที่ยวบนยอด Alpe di Siusi จะใช้วิธีการนั่งกระเช้าแล้วเดินชมทุ่งดอกไม้เหมือนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คงไม่ไหว เพราะเส้นทางด้านบนเป็นดินอัดแน่น และต้องขึ้นๆ ลงๆ เนินอยู่ไม่น้อย คงไม่ไหวแน่หากใช้รถเข็น ผมพยายามหาข้อมูลอยู่นาน ทีแรกกะว่าจะขับรถขึ้นไป แต่มาทราบว่าหากไม่พักด้านบนก็ไม่สามารถนำรถขึ้นไปได้จึงต้องหาข้อมูลใหม่ และมาเจอว่ามีบริการรถม้าลากนำนักท่องเที่ยวขึ้นชมยอดเขาในลักษณะ one day trip เริ่มจากหมู่บ้านเชิงเขาที่ชื่อ Monte pana ไปสิ้นสุด ณ ทุ่งหญ้าบนยอดเขา Alpe di Siusi ซึ่งขนาดของรถลากนั้นสามารถบรรทุกพวกเราทั้ง 8 คนได้พอดี และที่จุดพักด้านบนมีร้านอาหารบริการ ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินของพ่อกับหลานตัวน้อยที่เป็นสมาชิกของทริปนี้ด้วย

เมื่อพบรูปแบบการเดินทางที่ตอบโจทย์ การผจญภัยเล็กๆ ของครอบครัวเราก็เริ่มต้นขึ้นครับ ... one day trip นี้เริ่มต้นตอนสายของวัน ที่ฟาร์มเลี้ยงม้าแห่งหนึ่ง ณ หมู่บ้าน Monte Pana

รถที่ลากจูงด้วยม้าตัวใหญ่ขนสีดำน่าเกรงขามสองตัว ค่อยๆ นำเราไต่ระดับความสูง ผ่านป่าสนธรรมชาติไปตามเส้นทางลูกรังอัดแน่น ... ทุกคนดูตื่นเต้นกับทิวทัศน์ริมทางที่แปลกหูแปลกตาภายใต้บรรยากาศเย็นสบายของต้นฤดูร้อน และท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งขึ้นเรื่อยๆ

หลักจากนั่งมาได้ราว 45 นาที รถหยุดให้ม้าได้พักระหว่างทาง และเป็นโอกาสให้เราได้เก็บภาพสวยของยอดเขาสูงตระหง่านเบื้องหน้าไปด้วยในตัว ... วิวตรงนี้เหมือนเอาฉากมาวางไว้ให้ถ่ายภาพเลย สวยจนบรรยายไม่ถูก

เมื่อระดับความสูงเพิ่มขึ้น จากป่าสนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นผืนหญ้าสีเขียวขจีสลับแนวสน มีฝูงวัวเล็มหญ้าอยู่ตามทุ่ง .... ธรรมชาติช่างยิ่งใหญ่และสวยงามจริงๆ

ราวเที่ยงเราก็เดินทางมาถึงจุดพักผ่อนด้านบนที่เปิดเป็นร้านอาหาร สามารถชมวิวได้ 360 องศา ... เราได้มีโอกาสลิ้มรสเมนูท้องถิ่นที่รวมอยู่ในค่าบริการแล้ว แน่นอนว่าทิวทัศน์รายรอบทำให้อาหารมื้อนี้อร่อยขึ้นอีกเป็นกอง

ผมให้พ่อกับแม่ได้นั่งพักสบายๆ ชมวิว ดื่มด่ำกับบรรยากาศ หลานตัวน้อยได้เพลินตากับสัตว์เลี้ยงสลับกับโหนชิงช้า ส่วนผมปลีกตัวเดินขึ้นเนินหลังร้านอาหารไปเก็บภาพทุ่งดอกไม้ กับฝูงม้าที่เลี้ยงไว้แบบอิสระเหมือนที่เคยเห็นในสารคดี

หลังจากพักผ่อนและอิ่มเอมกับบรรยากาศด้านบน Alpe di Siusi ได้พักใหญ่ เราก็ออกเดินทางกลับลงมายังเมือง Monte Pana ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษกับเส้นทางลงเขา

เมื่อกลับลงมาถึง ทางฟาร์มยังให้หลานตัวน้อยได้ลองขี่ม้าแคระเป็นของแถมอีกด้วย

หวังว่ามินิรีวิวนี้คงเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ได้ลองสร้างฝันของตัวเองดูบ้าง ฝันของแต่ละคนขนาดไม่เท่ากัน ไม่จำเป็นต้องไปไกลแบบนี้ แค่ที่ไหนสักแห่งซึ่งห่างจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ กับคนที่เรารัก ผมเชื่อเลยว่าจะเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นอย่างไม่มีวันลืมเลยทีเดียว

ปิดท้ายด้วย VDO สั้นๆ ของ day trip นี้ครับ

ข้อมูลทัวร์นั่งรถม้า

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของทริปนี้รวม 500 Euro สำหรับผู้ใหญ่ 7 คนและเด็ก 1 คน รวมอาหารมื้อเที่ยง ... ราคาอาจจะฟังเมือนไม่ถูกนักแต่พอคำนวณต่อคนแล้วก็พอๆ กับ one day trip เวลาไปเที่ยวตามเกาะบ้านเราเลยครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เวปไซต์ของผู้ให้บริการ http://www.maneggio-montepana.com/eng/

สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบผลงาน สามารถติดตามกันได้ที่ fb เพจ @9MotPhotography หรือ follow IG @9Mot ... สำหรับรีวิวทริปต่างๆ สามารถชมได้ที่ www.9Mot.com