IWAKUNI
Yamaguchi Prefecture
รีวิวนี้ต่อเนื่องเป็น EP.ที่ 2 ของการเช่ารถจากเกาะคิวชู ข้ามมาเที่ยวที่จังหวัด Yamaguchi จังหวัดตอนล่างสุดของเกาะฮอนชูที่เป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น จากความเดิมตอนที่แล้วที่เราขับรถเที่ยวเมือง Shimonoseki เมืองแห่งปลาปักเป้า แล้วก็ขับรถเลียบถนนชายฝั่งไป สะพานสึโนะชิมะ กับศาลเจ้าโมโตโนะซุมิ ที่มีเสาโทริอิ 123 ต้น ริมหน้าผา
อ่านรีวิวนี้ได้ที่ลิ้งนี้ >>>> ขับรถข้ามจากเกาะคิวชู ไปเที่ยว Yamaguchi จังหวัดล่างสุดของเกาะหลักญี่ปุ่น [EP.1] : เที่ยวเมือง 'Shimonoseki'
ภาคต่อจังหวัดเดิม Yamaguchi แต่มาแวะเที่ยวกันอีกเมือง ชื่อว่า IWAKUNI เมืองที่มีชื่อเสียง เรื่องสะพานไม้โค้ง ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3 สะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หู้ยยยย . . . สวยขนาดนั้นเลย?!?!? สวยจริงมั้ย ไม่รู้ จังหวะนี้ต้องแวะไปพิสูนจ์ด้วยตัวเอง ได้เวลาขับรถไปที่เมือง Iwakuniกัน ^^
จริงๆเราขับมาจากฝั่งจังหวัดฮิโรชิมา เพื่อที่จะแวะก่อนย้อนกลับไปฝั่งคิวชู เส้นระหว่างทางที่เราขับมาที่เมืองนี้แบบไม่ขึ้นทางด่วน เป็นเส้นทางสายชนบนขับเลาะไหล่เขามา มีแม่น้ำไหลผ่านตลอดสวยมาก ธรรมชาติ นั่งดูวิวเพลินสุดๆ
แล้วเราก็ขับมาถึงจุดที่เราจะแวะกันแล้วที่เมืองนี้ นั่นคือ สะพานไม้ Kintaikyo
จอดรถด้านล่างนี้เลย ที่จอดรถกว้างมาก เรามาวันธรรมดาคนไม่เยอะ
สะพานไม้ Kintaikyo
“สะพานไม้ที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น”
มาเริ่มกันที่ไฮไลต์ของเมืองนี้เลย สะพานไม้ Kintaikyo สะพานไม้โค้ง เป็นสะพานไม้ที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ในจังหวัด Yamaguchi อยู่ในโซนเมืองปราสาท Castle Town ของเมือง Iwakuni สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1673 ในช่วงสมัยเอโดะ เป็นสะพานโค้งที่มี 5 โค้ง ที่ไว้ป้องกันน้ำท่วม และได้รับการขนานนามว่าเป็นสะพานที่มีโครงสร้างที่ซับซ้อน และเป็นต้นแบบทางวิศวกรรมในการสร้างสะพานสมัยใหม่อีกด้วย
แต่สะพานที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่อันออริจินัล เพราะมีการสร้างใหม่ โดยใช้เทคนิคการสร้างแบบดั้งเดิมมีลักษณะเป็นสะพานไม้ 5 โค้ง กว้าง 5 เมตร ความยาว 193.3 เมตร มีฐานสะพานรับส่วนโค้งเป็นหินขนาดใหญ่ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
แม่น้ำที่ไหลผ่านคือ แม่น้ำนิชิกิ ตอนที่เราไปเป็นช่วงหน้าร้อน น้ำอาจจะไม่เยอะมาก แต่ปกติที่เห็นในรูปน้ำก็จะอยู่ระดับนี้ไม่ได้สูงมาก
ตอนวางแผนจะเที่ยวจังหวัด Yamaguchi เห็นภาพสะพานนี้ในเน็ตก็รู้สึกเฉยๆนะ มันดูแห้งๆแข็งๆ สีแบบเก่าๆดูไม่มีอะไร เอาจริงๆสามารถตัดออกจากแพลนก็ได้ ถ้าเวลาไม่อำนวย แต่เผอิญเรามีเวลาเหลือเยอะมาก เพราะก่อนนหน้านี้ไปสถานที่นึง ที่จ.Hiroshima แล้วมันปิดเส้นทางเพราะภัยธรรมชาติ เราก็เลยได้มาถึงที่นี่ตั้งแต่บ่ายๆถึงก่อนเวลาที่วางแผนไว้เยอะเลย ซึ่งจริงๆ เราแพลนมาที่นี่ช่วงเย็นๆด้วยซ้ำ เพราะตอนแรกกะว่าจะดู โชว์จับปลาด้วยนกกาน้ำ หรือ UKAI ที่นี่
แต่พอมาถึงบ่าย แล้วไม่อยากรอจนมืด เพราะมันจะดึกเกินไปเพราะที่พักของเราคืนนี้เป็นโฮสเทล แล้วเราเช็คอินดึกไม่ได้ ก็เลยต้องตัดช่วงเย็นที่ดู UKAI ออกไป
UKAI
Kintaikyo Cormorant Fishing
*อันนี้ไม่ได้ถ่ายเอง รวบรวมรูปและบทความมาจากหลายๆเว็บเพื่อประกอบการรีวิว เครดิตอยู่ด้านล่าง
การจับปลาแบบโบราณของชาวญี่ปุ่น คือการจับปลาด้วยนกกาน้ำ เรียกว่า อุไก (UKAI) จะจัดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น คือ ราวเดือนมิ.ย.- เดือนก.ย. ของทุกปี การจับปลาวิธีนี้จะจับในช่วงค่ำๆ โดยจะมีเรือที่จุดกระบองไฟ และจะมีนกกาน้ำ จะทำหน้าที่เป็นคนจับปลา โดยมีคนเรือเป็นคนควบคุมเจ้านกกาน้ำอีกทีปลาที่ว่าคือปลาอาหยุ (AYU) จริงๆไม่ได้มีเฉพาะทีนี่ แต่ที่มีชื่อเสียงก็จะเป็นที่นี่กับที่จ.กิฟุ
แต่ ณ ปัจจุบัน ไม่ได้จับปลากันแบบนี้แล้ว อันนั้นเป็นเพียงการแสดงโชว์ที่จะรักษาประเพณีเอาไว้ให้คนได้ดูกัน แต่ก็จำลองมาแบบเหมือนสมัยก่อนที่สุด ใครที่อยากจะดูโชว์นี้ต้องจองล่วงหน้าทางโทรศัพท์อย่างน้อย 5 วัน ราคา ค่าชมคือ ผู้ใหญ่ 3,000 เยน / เด็ก 1,500 เยน ผู้ชมเรือชมการจับปลาแบบใกล้ๆระยะประชิด ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. หรือจะเลือกแบบมีดินเนอร์ด้วยก็ได้ หรือไม่อยากเสียจังก็ยืยชะโงกดูจากริมตลิ่งก็ได้ แต่อาจจะไกลหน่อย
Source: https://otanisanso.co.jp/en/ca...
Kikko Cormorant Training Facility
ใกล้ๆสะพานคินไตเคียวจะมีศูนย์ฝึกนกกาน้ำที่ใช้ในการจับปลาด้วย สามารถไปแวะเยี่ยมชมได้ที่นี่มีประวัติความเป็นมาของการจับปลาแบบUKAIด้วย
IWAKUNIOfficial Tourism Website for Iwakuni City yamaguchi Pref, Japan
สะพานคินไตเคียว ถึงจะเป็นสะพานไม้ แต่แข็งแรงมากบอกเลย ถ้ายืนดูตรงใต้สะพานเราจะได้เห็นโครงสร้างของสะพานที่ดัดโค้งด้วยสายเหล็ก และจะใช้เทคนิคการประกอบไม้ที่ตรงปลายใช้ตะปู 2 ตัว ในการยึดติดกัน ซึ่งเป็นตะปูรูปตัวยู ที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน เอาไว้สำหรับตอกเชื่อมไม้สองชั้น โดยเทคนิคการสร้างสะพานแบบนี้เป็นเทคนิคการประกอบขั้นสูง ซึ่งเมื่อสะพานได้รับแรงกดทับจากด้านบนมากก็จะยิ่งทำให้สะพานแข็งแรงขึ้น
เอาดีๆ สูงอยู่นะ ตรงโค้งสะพานมีความชัน แต่แข็งแรงมาก ไม่น่าเชื่อว่าทำจากไม้ทั้งหมด สวยกว่าดูในรูปเยอะเลย
ใครมาหน้าร้อนแนะนำเลย ไม่เรียกว่าแนะนำบังคับเลยแล้วกัน ว่าเธอต้องโบกกันแดดมาหนักๆ!!!! ใส่เสื้อผ้าที่ปกคลุมเนื้อหนังมังสาร่างกายไว้ให้หมด เพราะร้อนแสบมากกกกกกกกกกก....... ไหม้แน่ ยิ่งแดดบ่ายๆแก่แบบนี้ แต่ถ้าถามว่า ชอบมาญี่ปุ่นฤดูไหนที่สุด ก็ตอบแบบไม่คิดว่าก็ฤดูร้อนนี่แหล่ะ
มีคุณลุงมายืนตกปลาด้วย ตรงใต้สะพานมันยืนได้ไม่ลึก
ทั้งสองฝั่งของสะพานจะมีร้านอาหาร ร้านขายของอยู่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรกิน มีแน่นอน แต่หลายๆร้านจะเปิดเป็น 2 ช่วงเวลา คือ 11.00-14.00 น. และ 17.00-20.00 น. เพราะฉะนั้นใครมาตอนบ่ายแก่ๆแบบเราก็อดกินนะจ๊ะ กินขนม ของว่างไปก่อน
- ค่าใช้จ่ายในการเดินข้ามสะพาน : ผู้ใหญ่ 310 เยน / เด็ก 150 เยน (ซื้อตั๋วก่อนขึ้นสะพาน)
- ถ้าจะไปครบทั้ง 3 จุด (สะพานคินไตเคียว + ขึ้นกระเช้า Ropeway + ปราสาทIwakuni) มีราคาส่วนลดให้ :
- ราคาผู้ใหญ่ จากปกติ
1,140เหลือ คนละ 970 เยน - ราคาเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จากราคา
530เยน เหลือ คนละ 460 เยน
- ราคาผู้ใหญ่ จากปกติ
ปราสาทอิวะคูนิ
(IWAKUNI CASTLE)
ปราสาทอิวะคูนิสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1608 โดยขุนนางแห่งเมืองอิวะคูนิ ตั้งอยู่บนยอดเขาShiroyama ต่อมา 7 ปีให้หลัง มีการรื้อทำลายปราสาททิ้งหมดเพราะเกรงว่าขุนนางจะมาต่อต้านรัฐบาลและปรามปรามผู้มีอำนาจให้น้อยลง โดยปราสาทที่เห็นปัจจุบันนี้คือปราสาทที่สร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1962 ณ ที่ตั้งเดิม เราสามารถขึ้นไปบนปราสาทชมวิวได้ ภายในก็จะมีพวกอาวุธ ดาบ เสื้อเกราะโชว์อยู่ข้างในปราสาทด้วย
เราสามารถขึ้นไปด้านบนปราสาทได้ด้วย Ropeway หรือ การนั่งกระเช้า เราก็จะได้ชมวิวสะพานคินไตเคียวกับcastle town ของเมืองอิวะคุนิมุมสูงได้ด้วย
ราคาไป-กลับ คือ ผู้ใหญ่ 560 เยน / เด็ก 260 เยน
แต่ด้วยเวลาเราน้อยเราก็ไม่ได้ขึ้นไป เน้นเดินเล่นหาขนมกินแถวนั้น
พอข้ามสะพานคินไตมาก็จะมีร้านค้าขายของฝาก ร้านขายอาหาร ขายขนมอยู่
แต่ร้านที่เป็นที่รู้จักแบบมาที่นี่ต้องมาก็คือ ร้านขายไอติมซอฟต์เสิร์ฟแบบร้อยรสชาติ ถึงร้อยรสชาติจริงมั้ยไม่รู้ แต่ว่าเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
โอ๊ยยยยย หัวจะปวดดด!!!! ไม่รู้เอารสอะไรดี ไม่ใช่แค่เยอะ แต่อ่านไม่ออกด้วยว่ามีรสอะไรบ้าง
แต่โคนมี 3 แบบ โคนเวเฟอร์ / โคนวาฟเฟิล / โคน Cremia อันสุดท้ายนี่แพงสุด ก็อร่อยดีมันจะคล้าบคุ้กกี้แต่กินแล้วตอนไปแวะที่นางาซากิ สุดท้ายได้ สตรอเบอรี่ชีสเค้กโคนเวเฟอร์
ดูหัวจ่ายไอติมซอฟต์เสิร์ฟนี่สิ คุณผู้ชม ตอนล้างล้างยังไงเนี่ย
สุดท้ายได้อันนี้มา Strawberry Cheese cake
มีอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้ เรียกว่า อิวะคุนิซูชิ (Iwakuni Sushi) มันคือ ข้าวซูชิผสมกับรากบัว (รากบัวเป็นสินค้าท้องถิ่นที่สำคัญของเมืองนี้ , เห็ดหอม, ไข่ฝอย,ปลาอาจิ และอื่นๆ คั่นด้วยผักใบเขียว วางซ้อนๆกัน เวลาทำจะทำซ้อนๆกันหลายๆชั้นแล้วก็หั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยม
Source: https://kankou.iwakuni-city.net/itn/speciality/iwakuni-sushi/
จริงๆมันมีที่มา ว่าทำไมถึงต้องทำเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมเป็นชัั้นๆหลายๆชั้น ก็เพราะสมัยก่อนจะใช้วิธีนี้เป็นวิธีการบรรจุอาหารเพื่อขนเข้าไปให้แก่คนในปราสาทในยามที่กำลังมีสงคราม เพราะปราสาทอิวะคุนินั้นอยู่บนเขา จะส่งของอะไรก็ยากลำบาก จึงได้กักตุนเสบียงอาหารเอาไว้ในกล่องแล้วก็ค่อยๆ แบ่งทานกัน
หน้าตาเป็นอย่างนี้ ราคาจำไม่ได้แล้วแต่ชิ้นก็ใหญ่อยู่
การกินให้รู้สึกว่า นี่แหล่ะ ชั้นมาเมืองอิวาคุนิแล้ว ได้กิน อิวะคุนิซูชิข้างสะพานคินไตเดียว คือกินตรงตลิ่งชมสะพาน
รสชาติก็คือ เหมือนกินข้าวซูชิเปล่าๆประมาณนั้น อันนี้ส่วนตัวมองว่าเป็น แบบที่เค้าขายนักท่องเที่ยวรึเปล่า ไม่รู้ว่าถ้าสั่งทานตามร้านอาหารมันจะมีรสชาติอะไรที่ว้าวกว่านี้มั้ย
Kintaikyo Bridge 錦帯橋
- เวลา เปิด- ปิด : เปิด 24 ชม. ทุกวัน
- พิกัด : Kintaikyo Bridge 錦帯橋
SHIROHEBI SHRINE
ศาลเจ้างูขาว
ศาลเจ้างูขาวนี้จะอยู่ห่างจากสะพานคินไตเคียวออกมาอีก ต้องขับรถไป ไม่สามารถเดินจากสะพาน คินไตได้เพราะค่อนข้างอยู่ห่างกันพอสมควร
ตำนานงูขาวแห่งเมืองอิวะคูนินี่มีมากว่า 300 ปีแล้ว ตามความเชื่อโบราณ สัตว์ที่มีสีขาว (ที่เราเรียกว่า สีเผือก Albino) เชื่อกันว่าเป็นการกลับชาติมาเกิดของเทพจะต้องเลี้ยงดูบูชาตลอดอายุของสัตว์ตัวนั้น สมัยก่อนเชื่อว่างูขาวจะช่วยปกป้องดูแลยุ้งข้าวของตระกูล Yoshikawa เพื่อไม่ให้หนูเข้ามาทำลายข้าว
ศาลเจ้าไม่ต้องเสียค่าเข้านะ แต่สามารถยอดตู้ทำบุญได้ หรือ ซื้อเครื่องลางได้ อย่างศาลเจ้านี้ชื่องูขาว เครื่องลางก็เป็นงูขาว เป็นงูขาวที่ตะมุตะมิมาก ปกติเป็นคนกลัวงูมาก แต่งูขาวไอคอน โลโก้ของศาลเจ้านี้น่ารักมาก
ดูจิ น้อนงูขาวน่ารักมุ้ย งูขาวปุ๊กลุกเป็นน้องหนอนชาเขียว
ที่นี่จะมีห้องคล้ายๆมิวเซียมของศาลเจ้า จะมีงูขาวประจำศาลเจ้าแสตนบายอยู่ วันนี้มีอยู่ 4 ตัว
นี่คือโพรไฟล์ของสมาชิกงูขาวที่ประจำอยู่ที่ศาลเจ้านี้
จริงๆ ที่เมืองอิวะคุนิจะมีพิพิธภัณฑ์งูขาวด้วย อยู่แถวๆสะพานคินไตเคียว เป็นที่ที่รวบรวมงูเผือก หรืองูที่มีมีกลายพันธุ์ จากสีผกติเป็นสีขาว โดยงูเผือกที่อิวะคุนิ มันจะมีสีเป็นสีขาวเงา ตาจะเป็นสีแดงแบบเม็ดทับทิม ที่เค้ามีความเชื่อกันว่าเป็นเทพที่จะนำโชคลาคมาให้ โโยที่มิวเซียมก็จะรบรวมความรู้เกี่ยวกับงูเผือกทั้งทางกายภาพ
โลโก้น่ารักจริง น้อนงูขาวบนสะพาน5 โค้ง Kintaikyo
ได้เวลาออกเดินทางไปอีกเมืองแล้ว (ขับรถของศาลเจ้าไปแทนได้มั้ย มันน่ารักง่ะ ^^)
SHIROHEBI SHRINE
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 9.00-17.00 น.
- พิกัด : Iwakuni Shirohebi Shrine 岩国白蛇神社
เวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ ที่เมือง Iwakuni ซึ่งถ้าคุณมีเวลาน้อยๆแบบเรา สองที่นี้ก็คือ นับว่าเป็นจุดที่ควรค่าแก่การแวะสำหรับเมืองนี้
ใครที่เช่ารถขับจากคิวชู มายังจังหวัด Yamaguchi ก็อย่าลืมแวะ Iwakuni สักนิดนะคร้าบบ จริงๆเมืองนี้อยู่ไม่ไกลจาก เกาะมิยาจิมา จ.ฮิโรชิมา เพราะฉะนั้นอย่าผ่านไปเฉยๆ แวะสักหน่อยก็จะได้ประสบการณ์ใหม่ๆให้กับทริปคุณ^^
SPOILED : จริงๆ ทริปนี้ยังมีอีกรีวิวอีก 1 ที่ ที่ตั้งใจจะเขียน นั่นก็คือ Miyajima island หรือ เกาะมิยาจิมะ จุดท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ. Hiroshima เสาโทริอิขนาดใหญ่กลางทะเล ที่มักถูกใช้เป็นภาพโปรโมทการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น เดี๋ยวเราจะขับรถไปเที่ยวกัน ใช้เวลาไม่มากประมาณ 1 วันกว่าๆ กับอีก 1 คืน
มีรีวิวที่พักราคาน่ารัก เดินทางสะดวก มีอาหารเช้าให้ด้วยไม่ต้องซื้อเพิ่ม เหมาะสำหรับคนที่อยากข้ามไปเที่ยวเกาะมิยาจิมะทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ไม่อยากนอนบนเกาะเพราะบนเกาะราคาสูงเกินไป
พร้อมทั้งไปแวะกินอาหารประจำจังหวัด โอโคโนมิยากิ ที่ตึก Okonomimura ตึกสี่ชั้นที่มีแต่ร้านขายโอโคโนมิยากิอย่างเดียว
ไว้รีวิวหน้าเราไปเที่ยวฮิโรชิม่ากันต่อนะคร้บบบบบ . . . .
ย้อนอ่านรีวิว ทริป Kyushu ได้ตามลิ้งนี้เลยค้าบบบบ
- 15 สถานที่ ซ่อน(ไม่)แอบ ที่น่าค้นหา ฉบับเช่ารถขับเที่ยวคิวชู [ KYUSHU ]
- Omuta Daijayama Festival เทศกาลแห่งูยักษ์พ่นไฟ ที่ OMUTA | FUKUOKA [ KYUSHU ]
- 1 วัน 1 คืน ที่เมือง TAKACHIHO อีก 1 ไฮไลต์ห้ามพลาดของคิวชู [ KYUSHU ]
- สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการ 'เช่ารถขับเที่ยวคิวชู' และประสบการณ์โดนตำรวจเรียกและได้ใบสั่ง [KYUSHU]
- ขับรถข้ามจากเกาะคิวชู ไปเที่ยว Yamaguchi จังหวัดล่างสุดของเกาะหลักญี่ปุ่น [EP.1] : เที่ยวเมือง 'Shimonoseki'
ติดตามการเดินทางของแมวน้ำ Seally.Go.Round เที่ยวแบบเจาะลึก ข้อมูลแน่นๆ
- Facebook: https://www.facebook.com/seallygoround/
- IG: @Seally.go.round (lifestyle) / @air.la.cuisine (Cooking diary)
- IG น้องหมูด่อน @Moodon_Jackrussell
- อ่านรีวิวทริปอื่นๆ ได้ที่ https://th.readme.me/id/seallygoround
Seally-Go-Round
วันพฤหัสที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 16.49 น.