อยากลองนั่งรถไฟไปที่ไหนซักแห่ง ไปเรื่อยๆชิวๆ ฟังเพลง มองบรรยากาศข้างทาง...
แล้ว " โพธาราม" ก็แว๊บขึ้นมาในหัวทันที มันไม่ไกลมาก สามารถไปกลับได้ในวันเดียว
ที่นี่ถือว่าเหมาะมาก สำหรับเราในการทดลองขึ้นรถไฟคนเดียวครั้งแรก
...... อยากรู้เหมือนกันว่าเมืองเล็กๆ อย่าง "โพธาราม" จะมีอะไรให้สัมผัสบ้าง
ว่าแล้วก็อาบน้ำแต่งตัว มุ่งหน้า หัวลำโพง GO GO GO!!!
มาถึงหัวลำโพงแบบไม่ได้หาข้อมูล มาถึงก็จัดแจงซื้อตั๊ว ......
บ่ะเจ้า!!! นี่เวลา 7.30 น. รถไฟจะมาถึง 9.20 น. 2 ชั่วโมงทำไรดี ? ก็เลยนั่งดูผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา ก็เพลินดีนะ
และแล้วรถไฟก็มา..... ขบวนที่ 261 กรุงเทพฯ - หัวหิน แต่ปลายทางของเราคือ โพธาราม
หลังจากรีบจับจองที่นั่งเรียบร้อยแล้ว รถไฟก็เคลื่อนตัวออกจากหัวลำโพง มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
แต่ด้วยความที่ไม่มีความรู้เรื่องแสง เรื่องทิศ เลือกที่นั่งได้เหมาะมาก...โดนแดดตลอดทางเลย
คุณลุงวัยกลางคนที่นั่งตรงข้ามกัน ดูท่าทางจะชินกับการนั่งรถไฟ ก็พูดให้กำลังด้วยว่า
" นั่งตรงนี้มันจะร้อนไปจนถึงแหละหนู" แหม่!! ตอกย้ำจัง
-----------------------------------------------
แต่ไม่เป็นไร อย่าไปสน หยิบหูฟังขึ้นมา เปิดเพลงที่ชอบ และแล้วก็เข้าสู่โลกส่วนตัว
สองข้างทางมันมีอะไรให้สนใจกว่าแดดร้อนๆ
" บ้านคน และต้นไม้" ลมเย็นๆตีหน้า แบบนี้แหละที่ต้องการ
ตลอดทางก็ตื่นเต้นนะ กลัวว่าจะลงไม่ถูกสถานีฯ เพราะมัวแต่ฟังเพลงไม่ได้ฟังที่เค้าประกาศเลย
บรรากาศสองข้างทางกับการเดินทาง 2 ชั่วโมง มันชิวจนลืมเวลาไปเลย
และแล้วก็ไม่หลง!! ทันทีที่ก้าวขาลงจากรถไฟ รู้สึกภูมิใจยังกับเพิ่งออกรบมาเลยล่ะ ยิ้มแก้มแทบแตก
ถึงสถานีฯ โพธาราม ตอน 12.00 ช้าไปครึ่ง ชม.แน่ะ
สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือ ถามเวลากลับ เพื่อจะได้มีเวลาจัดแจงตัวเอง สรุปได้รอบกลับ 16.21 น. มีเวลาเหลือๆ
แอบถามนายสถานีฯว่า โพธารามมีอะไรน่าสนใจบ้างค่ะ คำตอบที่ได้น้ำตาจะไหล
" พี่มาทำงานได้ 2 วันเอง เดินไปไหนก็ไม่ไกลกว่ารอบๆสถานีฯเลยคับ "
ป๊าดดดโถ่!! คนเดียวก็ได้ เสี่ยงดู!
สิ่งแรกที่ทำคือ หาอะไรกินก่อนเลยเพราะหิวมาก จากนั้นก็เดินลุยเดี่ยว มุ่งหน้าตลาดเก่า เดินถ่ายรูปเล่นไปซักพัก
ก็หมดแรง ด้วยอุณภูมิความร้อนที่พุ่งสูงพอๆกับอุณภูมิความสุข ตอน 13.00 น.
เดินไปเดินมาก็เจอเข้ากับร้านน่านั่ง เหมือนรู้ใจเลยกำลังอยากกินอะไรเย็นๆ
ร้านนี้ชื่อร้าน " DO นม " นี่เรามาดูนมกันไกลถึงโพธารามเลยเหรอเนี๊ย!!!
ร้านนี้ตกแต่งได้น่ารัก เป็นบรรยากาศเก่าๆ กลิ่นไอของความเป็นชุมชนในยุคก่อนๆ ยังมีให้เห็นผ่านข้าวของในร้าน
เหมือนเป็นจุดรวมตัวของวัยรุ่นแถวนี้ (รู้สึกกลมกลืนอย่างบอกไม่ถูก)
ความพิเศษของร้าน DO นม คือมีทั้งให้นั่งนอนเอกเขนกด้านใน และมีแบบสวนเล็กๆเย็นๆอยู่ด้านหลังร้าน
ใครชอบแบบไหนก็เลือกตามสะดวกได้เลย
เสน่ห์ของ "โพธาราม" คงเป็นบ้านไม้เก่าๆในตลาด ที่มีผู้คนอาศัยอยู่แทบทุกหลัง วิถีชีวิตของคนที่นี่ดูง่ายๆ มีกลิ่นไอความเก่าของวัฒนธรรม ซึ่งถ่ายทอดผ่านสิ่งก่อสร้างและที่อยู่อาศัยได้อย่างดี
หลังจากเดินถ่ายรูปเล่นไปทั่ว จนคนที่นั่นเริ่มคุ้นชินหน้าตาแล้ว (จริงๆกลัวหมาไล่กัดมากเลยแหละค่ะ )
ไหนๆก็มาไกล ถือโอกาสเข้ามาไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลซักหน่อย (ขอแฟนนิสัยน่ารักๆซักคนนะเจ้าค๊า เพี๊ยง!!)
วัดที่นี่ดูเงียบสงบ (บางทีก็เงียบเกินไปนะ)
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดิน เดิน แล้วก็เดิน ยังไม่ถึงร้านที่ตั้งใจมาเลยนะ กลับไปตั้งหลักอีกครั้งที่ สถานีรถไฟ มุ่งหน้าทางซ้ายมือเรียบทางรถไฟไปเรื่อยๆ
"de Pain" " เดอ ปัง " นั่งรถไฟ ไปกลับ 4 ชั่วโมงเพื่อเอ็งเลยนะเนี๊ย!!!!
และทันทีที่มาถึง ก็ตั้งใจจะใช้เวลา 1.30 ชั่วโมงที่เหลือ กับร้านนี้แหละ
สั่งโกโก้เย็น ช๊อกโกแล็ตลาวา และเครปเค้กคลายเหนื่อย
ร้านนี้ตกแต่งร้านได้น่ารักไปอีกแบบ ปูนเปลือย ผนังตกแต่งด้วยประตูไม้ไสตล์ห้องแถวเก่าๆ ดูลงตัวดีจัง
หรือนี่จะเป็นจุดนัดพบของคู่รักชาวโพธาราม มีทั้ง หญิง+ชาย / ชาย + ชาย นั่งดูก็เพลินดีแท้ๆ
ได้เวลากลับแล้วสิ!!
หมดหนึ่งวันกับที่นี่ " โพธาราม" รอยยิ้มของคนที่นี่ยังอยู่ในความทรงจำ ระหว่างนั่งรถไฟกลับ บรรยากาศมันดีจริงๆค่ะ
แดดล่ม ลมตก ฟ้าสลั่วๆ เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆและสร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
ขอบคุณสองเท้าและหนึ่งหัวใจที่เอาชนะความกลัวของตัวเอง และออกเดินทางในวันนี้
........................
I am Nature addict
วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.55 น.