" ปีนี้จะกิน หรือจะเที่ยว ให้เลือก " (เสียงสวรรค์มาแล้ว เย้ ๆ) ลูกพี่นัท ถามแบบนี้อีกแล้ว หึ หึ
และปีนี้ก็มีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 คนคือเจ้าออย รวมลูกน้องของเจ๊นัททั้งเก่าและใหม่ 6 คน แบบนี้ต้องโหวต 555
แน่หล่ะ เรา ออย และปราปริก้า เลือกไปเที่ยวชัวร์ 3 เสียงแล้วโว้ย ส่วน บัว กะ ปลาแมน เลือกกิน ถามเจ้าแหม่ม เสียงสุดท้าย
" หนูอะไรก็ได้พี่ " อ้าว ไม่ได้สิ ต้องเลือกสักอย่าง เหยียบเรือ 2 แคมแบบนี้ มันไม่ดีนะ (เดี๋ยวไม่เอามาเป็นน้องสะใภ้เลย 55)
สรุปมันเลือกกิน แป่ววว คะแนนออกมาเป็น 3:3 ตัดสินยังไงหล่ะ จะให้ลูกพี่ตัดสินก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าลำเอียง
คงต้องจับสลากตัดสิน แต่เรา กะ ออย ก็บิ้ว ๆๆๆๆๆ เรื่องเที่ยว และ เรื่องกินไปด้วยในทีเดียว แถมขู่เจ้าปลาอีกว่า "ถ้าเอ็งเลือกกิน และถ้าพี่เค้าพาไปกินหรู ๆ เอ็งต้องแต่งชุดราตรีสโมสร ไปกินนะเว้ย" ไปเที่ยวเถอะ สวยด้วย และสามารถไปทำอะไรกินไปด้วย สนุกจะตาย
โน้มน้าวไป โน้มน้าวมา จนทั้ง 2 คนใจอ่อน (จริง ๆ มันคงรำคาญเพราะถูกบังคับขืนใจจากพวกเรา จึงไปก็ไปว๊ะ 555) เย้ ทริปดี ๆ จึงบังเกิด ณ บัดนาว
เรื่องเที่ยวชนะ แต่จะไปไหนดีหล่ะ คุยเดือนมิถุนายน จะไปเดือนหน้า หาที่พักคงลำบากแน่ ๆ ตัวเลือกแรก ๆ คือ จ.กาญจนบุรี แต่ที่พักเต็มหมดเลย จึงมาลงเอย ที่แก่งกระจาน เพราะใกล้ดี และมีน้ำให้เจ้าปราปริก้าเล่นด้วย 555 เจ้าออยหาที่พักและโทร.ไปจองที่พักว่างพอดีเลย สรุปเราได้ไปแก่งกระจานกัน ฮิ้ววววว
บ้านธารทิพย์ คือสถานที่ ที่เราจะไป และเราก็เลือกโปรแกรม 1250 บาท มีอาหาร 4 มื้อ กิจกรรมล่องเรือยาง และพาขึ้นเขาพะเนินทุ่ง (ก่อนเลือกได้ถามคนจ่ายเงินก่อนไหม ว่าไหวป่าว )
ก่อนถึงวันไปก็คิดกิจกรรมเสริมกันแล้ว ว่าจะเอากุ้งไปย่าง (รีสอร์ทมีที่ปิ้ง-ย่างให้) และเอาส้มตำไปทำกินที่นั่นด้วย อิ ๆ
ก่อนถึงวันเดินทาง ก็นัดหมายกันเรียบร้อย ไอ้บัว เอาครกไป เจ้าปลาแมน เตรียมเครื่องส้มตำ และขาดไม่ได้คือน้ำอมฤต สูตรใหม่ไปลองด้วย เจ้าออยก็เตรียมเครื่องดื่ม เราก็เตรียมหมูยอ (งานง่าย 5555)
วันนี้วันศุกร์ พรุ่งนี้วันเสาร์ เราจะไปกันแล้วเย้ ๆๆ แต่มันต้องมีเรื่องทุกทริปสิน่า ครั้งนี้มีคนเกือบไม่ได้ไปอีกแล้ว คือเจ้าปลาแมน เพราะลุงมาเสียพอดิบ พอดี ครั้นจะให้ เจ้าเบลไปแทน (เพราะเสียค่าใช้จ่ายแล้ว) แต่เบลติดธุระไปไม่ได้ จึงให้ออยโทร.ไปถามที่พักว่าไม่ไป 1 คน ค่าใช้จ่ายลดไหม
ทางรีสอร์ทบอกลดให้ไม่ได้ เพราะทุกอย่างก็ต้องไปจ้างเค้าอีกที ซวยแระ (ส้มตำกรู ไม่นะ)
ฟ้ามีตาฉันใด ในไหปลาร้าย่อมมีหนอนฉันนั้น ..... เจ้าปลาแมน ยอมไปกับพวกเรา และไปร่วมงานศพ หลังจากกลับจากเที่ยว เย้ ๆๆๆๆๆ ส้มตำ ของฉัน ไม่ได้ล้ม
ถึงวันเดินทาง คุณเต้ยก็มารับที่บริษัทฯ ตามปกติ และไปถ่ายรถกันที่ Porto Chino เข้าแถวซื้อสตาร์บัค 1 แถม 1 โอ้ แม่เจ้า นี่มันแจกฟรี หรือเสียเงินฟ๊ะ ทำไมแถวมันยาว และรอนานมั๊ก ๆ
เนื่องจากวันไปเที่ยว เป็นเดือนเกิดเรา กะ เจ้าแหม่ม แก้วฟรี ของลูกพี่ให้ แหม่ม และแก้วฟรี ของเจ้าปราปริก้า ให้เรา ขอบคุณนะน้องสาว
ถึงที่่พัก ก็เอากระเป๋าไปเก็บ ถ่ายรูปเล่นหน้าห้องพัก เพราะมาเร็วไป ยังไม่ถึงเวลาอาหารเที่ยง
งั้นก็ถ่ายรูปเล่น ฆ่าเวลาไปพราง ๆ ก่อน อิ ๆ
หิวแล้ว ๆ
ทานอาหารเที่ยงมื้อแรก ก็อร่อยดีค่ะ แม่ครัวฝีมือใช้ได้เลยค่ะ
กินอิ่มก็ขึ้นไปนอนรออาหารย่อย ส่วนเราก็หาเวลาแว๊ป ไปถ่ายรูปแถว ๆ ที่พักมาสักนิดหน่อย บรรยากาศดี เงียบสงบ ดีจริง ๆ ค่ะ
บรรยากาศรอบ ๆ บ้าง
มีร้านนั่งชิว ๆ ด้วย
และสักพักก็ไปเที่ยวตามโปรแกรม คือล่องแก่งเรือยาง รถจะขับพาเราไปต้นน้ำ และปล่อยเรานั่งเรือยาง ล่องลงมาตามแม่น้ำเพชร ลงมาถึงที่พัก ระหว่างที่นั่งไป ๆ แทบจะหลับ 555 ไม่ตื่นเต้นสักเท่าไหร่ไร ง่วงอ่ะ
เจ้าของเรือนินมต์พระมานั่งข้างหน้า การล่องเรือนี้เลยปลอดภัย ไม่เกิดอันตรายใด ๆ สาธุ
อ้าวเจ้าบูม นี่หว่า มองแว๊ป ๆ นึกว่าพระ
ส่วนเด็ก ๆ เห็นท่าว่าจะหลับ ต้องเรียกความกระฉับกระเฉง ด้วยการโดดลงน้ำ และว่ายตามสายน้ำเล่นกันค่ะ
ถึงที่พัก เด็ก ๆ ยังคงเล่นน้ำกันหน้าบ้านพักกันต่อ ส่วนพวกที่เหลือ ก็จัดแจง เรื่องเตาปิ้งย่าง และเตรียมตำส้มตำกัน
เตาพร้อมแล้วคร๊าบ กุ้งมาเลยยยยย
เตรียมพาสปอร์ตแล้วไปพม่ากันนนน
ส่วนเจ้าปลาแมน ก็เตรียมอุปกรณ์ ทุกอย่างออกมาวาง เตรียมเป็นแม่ค้าส้มตำเต็มที่ น้ำลายไหลแล้วเว้ย อยากกิน ๆ
(หน้าแม่ค้ากระหยิ่มยิ้มย่อง เดี๋ยวเถอะเมิง เจอสูตรเด็ดแม่ปลาเข้าไป จะหลงหัวปักหัวปำ หึ หึ)
สักพักหนึ่ง พอนางจัดของออกมาเตรียม ทำหน้าจ๋อย ๆ พี่นุช ปลาลืมเอาผงชูรสมา สงสัยปลาเอาออกมาตรวจเมื่อเช้า คงลืมหยิบมา วางบนโต๊ะ (เรากะปลามาก่อน ขึ้นไปบนห้อง เห็นปลา หยิบโน้น หยิบนี่ ออกมาวางบนโต๊ะ .... มันก็อยู่ในถุงดี ๆ แล้วเมิงหยิบออกมันมาดูทำไม ห๊ะ )
ไม่ใส่ได้ไหม ? .... ไม่ได้พี่ ส้มตำขาดผงชูรสไม่ได้เลยนะ ไม่นัว ทุกคนก็เข้ามามุงแระ และก็แก้ปัญหาให้คุณเต้ย เดินไปขอแม่ครัวก็ได้ นิดเดียวพอ เค้าคงไม่ว่าอะไรเนอะ
เย้ ๆ คุณเต้ย เดินถือถ้วยมาพร้อมผงชูรส อิ ๆ รอดตายแล้วเว้ย ส้มตำ นัวแน่ ๆ
พอทุกคนหันไปจะไปย่างกุ้ง.... มีเสียงของผู้ต้องโทษ พูดว่า " ปลาลืมอีกแล้วอ่ะ " ทุกคนรีบหันมาถามลืมอะไร ?
" ปลาลืม พริก กับ กระเทียม " ปลาจำได้ว่า พริก ปลาล้างและตากให้แห้งเป็นเม็ด ๆ เลยนะ สงสัยจะลืมที่ออฟฟิศ อื้อหือ..... เหี้ยหนักกว่าเก่าอีก แค่ชูรส ไม่ใส่ยังพอทน ครั้งนี้แม่งเล่นขาดทั้งพริก และกระเทียม ตรูว่าอยากแดรกก มันเลย 555
ไอ้เราก็ ใจหดหู่ ท้อแท้ เปรียบเหมือนวันหวยแดรก ยังไง ยังงั้น
ส่วนเจ้าบัว ดูมัน ๆ นี่พี่นะเว้ย เค้าอาจลืม อาจผิดพลาดไปบ้าง ต้องอภัย อย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลย
ผู้ต้องโทษคดี ลืมของสำคัญของการตำส้มตำ เลยขอแก้ตัว เอาเงินไป ขอซื้อพริก กับกระเทียม กับแม่ครัวด้วยตัวเอง เพื่อลบล้างความผิด 5555
เฮ้อ สรุป ได้มาเรียบร้อย ส้มตำในตำนานจึงบังเกิด ณ บัดนาว
สนุกดี ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ขอบอกว่า กุ้งสดมาก น้ำจิ้มก็อร่อย ส่วนส้มตำ กับปลาร้าสูตรใหม่ ไม่ต้องบอกว่าอร่อยแค่ไหน เรียกกว่า ซี๊ดซ้าด ๆ แม่ค้าตำกันไม่ทันเลยทีเดียว 555
คุณนาย หลังจากด่าบ่าว เสร็จ ก็มาลงมือตำเอง (เชื่อแน่ว่าอยู่บ้านไม่นั่งท่านี้แน่ 555)
ทริปนี้เน้นกินจริง ๆ หลังจากที่อิ่มหนำสำราญ กับส้มตำ และกุ้งย่างกันแล้ว ก็ขึ้นไป นอนเล่นกัน
กุ้งยังไม่ย่อยเลย ยังคาอยู่ที่กระเดือก ก็ได้เวลาอาหารเย็นอีกแล้ว คุณพระ จะกินลงไหมเนี่ย
แต่ก็หมดนะ 555
หลังจากอาหารค่ำ ก็มาคำนวนตัวเลขกันนิดหน่อย และแยกย้ายกันนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปชมทะเลหมอกที่เขาพะเนินทุ่งกัน ราตรีสวัสดิ์
5.00 น. ล้อหมุนไปขึ้นเขาพะเนินทุ่งกันเลย วันนี้เป็นว้นสุดท้ายก่อนเขาปิดพอดี โชคดีของเราจริง ๆ ถ้าใครจะมา โปรดทราบไว้ว่า เขาจะปิด ช่วงวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี ก่อนจะมาศึกษากันก่อนนะจ๊ะ จะได้ไม่ผิดหวังค่ะ
จากที่พัก ขึ้นบนเขา ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนะจ๊ะ (ยิ่งมาช่วงเทศกาล จะใช้เวลานาน และรถติดมากกว่านี้ด้วยค่ะ)
ก่อนมาเจ้าของรีสอร์ท บอกว่าให้แต่งตัวเอาชุดไม่สวยมาก หรือชุดนอนก็ได้ เพราะฝนอาจตก เก็บชุดไว้ใส่กลับบ้านด้วย พวกเราก็นี่เลย ลุกจากที่นอนยังไง ก็มายังงั้นเลยจร้า
บนรถ พวกเรานั่งหลัง โอ้แม่เจ้า หนาวฉิป ไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย แถมชุดแต่ละคนก็นะ หุ หุ
ถึงแว้วว
หมอกเยอะมากกกก สวยดีค่ะ แต่ทะเลหมอก ไม่มาในวันนี้ มีแต่หมอกกระจาย ๆ เต็มพื้นที่ไปหมด สวยดี อากาศสดชื่นมาก ๆ และก็หนาวสุด ๆ เช่นกัน บรื๋ออออ
บ้าไปแล้ว นักท่องเที่ยวคนอื่นใส่เสื้อกันหนาวกัน พวกเราล่อชุดนอน บาง ๆ เล่นเอาหนาวไปตาม ๆ กัน (เว้นเจ้าปราปริก้าคนเดียว หล่อนพร้อมอยู่คนเดียว 555)
ส่วนอาหารเช้า รถที่พาเราไป เตรียมข้าวกล่อง+น้ำไว้ให้ทานข้างบน (ตรูอยากกินมาม่า+กาแฟมากกว่านะ เพราะว่ามันหนาวฟุด ๆ)
ลงจากเขาพะเนินทุ่ง ก็พอมีเวลาเหลือ และส้มตำก็เหลืออีก 1-2 ครก จึงจัดกันอีกสักรอบอย่าให้เสีย
อาบน้ำ อาบท่า ไปทานอาหารเที่ยงส่งท้าย เป็นผัดไท และขนมหวาน เช็คเอ้าท์ และรีบกลับเลยเพราะหลายคนมีธุระต้องไปทำต่อ
ตอนที่เก็บของจะขึ้นรถ ปรากฏว่า อะไรรู้ไหม เจอถุงผงชูรส พริก กระเทียม อยู่ในตู้เย็น 5555555 สรุปว่าคนเก็บไม่ได้หา คนหาของไม่ได้เก็บเลยไม่รู้กัน ฮ้า ๆๆๆๆ
ทริปเล็ก ๆ มินิ ๆ ฉบับกระเป๋าก็จบไปอีก 1 ทริป แต่ความสุข และความสนุก ยังคงเต็มเปี่ยม แถมได้กินส้มตำ และกุ้งย่างที่อร่อยที่สุดใน 3 โลก
ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ลูกพี่นัท ออกค่าเที่ยว เจ๊กิ่ง สำหรับกุ้งสด ๆ หัวมัน ๆ และคุณเต้ย พขร.ประจำทริป บ๊าย จุ๊ป ๆ ปีหน้าจะไปไหนอีกนะ ต้องติดตามตอนต่อไปค่ะ
แตงโมเนื้อทราย
วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.37 น.