... “ภูเก็ต" เกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจะทั้งคนไทยทั้งชาวต่างประเทศต่างก็ใฝ่ฝันอยากที่จะเดินทางมาที่เกาะภูเก็ตสักครั้ง และคงไม่แปลกที่เหตุผลต้น ๆ ของนักเดินทางคงเป็นการมาชื่นชมสัมผัสกับท้องทะเลและชายหาดอันสวยงาม และมนต์เสน่ห์แห่งภูเก็ตแดนใต้... สถานที่พักที่ติดชายหาดจำนวนมากจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่อยากจะอยู่ติดอยู่ชิดใกล้กับชายหาดให้ได้มากที่สุด... แต่หากที่พักที่นั้นไม่อยู่ติดหาดทะเลแล้ว.. อะไรกันที่จะเป็นจุดขาย อะไรที่จะเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นเลือกเดินทางมาพักผ่อน... คำตอบอยู่ในรีวิวนี้แล้วครับ

...Kalima Resort & Spa Phuketหาดกะหลิม ... คืออีกหนึ่งที่พักที่จะตอบโจทย์เหล่านี้ให้กับแขกผู้มาพักว่าในเมื่อพื้นที่ของรีสอร์ทไม่ติดชายหาดแล้วอะไรที่จะทำให้ผู้ที่มาพักแทบจะลืมชายทะเลไปได้เลย

...เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอฝากผลงานเก่า ๆ ไว้สักเล็กน้อย แล้วเริ่มเดินทางเข้าสู่ “คาลิมา รีสอร์ท แอนด์ สปา" กันได้เลยครับ

ที่พักโรงแรมรีสอร์ท

ภูเก็ต – Blu Monkey Hostel Phuket - http://pantip.com/topic/30467290

ภูเก็ต – The Mangrove Panwa - http://pantip.com/topic/30290714

ภูเก็ต – Foto HOTEL - http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13061304/E13061304.html

ภูเก็ต – Quip Bed & Breakfast - http://pantip.com/topic/30352927

ภูเก็ต – Twinpalms Phuket - http://pantip.com/topic/30604009

หัวหิน – Marrakesh Huahin - http://pantip.com/topic/30145099

ระนอง - Lazy Hut - http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11568048/E11568048.html

สถานที่ท่องเที่ยว

เกาะพยาม จ.ระนอง - http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11570468/E11570468.html

เกาะตาชัย จ.พังงา - http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13050664/E13050664.html

เวียงจันทน์ ลาว - http://pantip.com/topic/13113588

วังเวียง ลาว - http://pantip.com/topic/13113590

งานประเพณีไหลเรือไฟ จ.นครพนม - http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12871313/E12871313.html

... Kalima Resort & Spa Phuket อยู่บน ถ.พระบารมี ป่าตอง .. หาดกะหลิม.. ตัวที่พักจะเป็นลักษณะอยู่บนเนินเขา ผู้ที่ขับรถมาจะเลี้ยวเข้ารีสอร์ทก็สอดส่องสายตาระวังรถกันสักนิดก็จะดีมากครับ เพราะเป็นทางชันเล็กน้อยขับเข้าสู่ตัวรีสอร์ท

...เช็คอินได้ตามเวลาปกติทั่วไปคือ บ่ายสอง 14.00 น.... เริ่มกันที่บริเวณล๊อบบี้จากภาพจะเห็นได้ว่ามีพื้นที่กว้าง และปล่อยเพดานให้โปร่งโล่งสูงลมพัดผ่านได้สบาย การใช้สีนั้นตบแต่งด้วยโทนสีไม้น้ำตาลธรรมชาติมองแล้วก็เรียบง่ายสบายตาดี

...welcome drink มาในรูปทรงแปลกตา เท่ดีครับ แต่กินลำบากไปหน่อย ต้องทำปากจู๋ตาม (ฮา.....)

...บริเวณล๊อบบี้นอกจากจะเป็นที่ติดต่อกับทางเค้าน์เตอร์แล้ว ก็ยังมีมุมอื่น ๆ ทั้งร้านเล็ก ๆ นั่งจิบกาแฟเบา ๆ หรือจะเป็นร้านสะดวกซื้อที่อยู่บริเวณด้านหน้าก็อยู่ในบริเวณเดียวกันหมด

...อีกด้านหนึ่งของล๊อบบี้ก็จะเป็นมุมนั่งพัก นั่งรอเช็คอิน-เช็คเอาท์ นั่งเล่น พักผ่อน ..

...เป็นมุมสบาย ๆ ผมเองก็มานั่งเล่นเกมส์ นั่งทำงานอยู่ตรงนี้สักพักใหญ่ ๆ รู้สึกเพลินดี .. ฟังเสียงน้ำตกข้างกำแพงที่ตกแต่งไว้ นั่งมองผู้คนเดินไปเดินมาแล้วก็เพลินอุราดีไม่น้อย...

...ระหว่างที่รอเวลาจะเข้าห้องพักก็เริ่มด้วยการเดินสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ...

...ด้วยพื้นที่ตั้งของรีสอร์ทเป็นลักษณะเนินเขาอย่างที่บอก ทั้งตัวห้องพัก ห้องอาหาร สปา สระว่ายน้ำ และต่าง ๆ จะอยู่ด้านบนทั้งหมด.. หากใครนึกภาพไม่ออกลองนึกว่าเหมือนเราขับมาพื้นราบถนนแล้วก็เลี้ยวขึ้นก็จะเจอที่จอดรถ แล้วก็เดินขึ้นอีกจะเป็นตัวล๊อบบี้ ก่อนที่จะเดินสู่จุดอื่น ๆ ต่อไปภายในรีสอร์ท.. โดยมีล๊อบบี้เป็นชั้นล่างสุดนั่นเอง...

...เมื่อเดินขึ้นมาจากล๊อบบี้แล้วสิ่งแรกที่เจอก็คือสระว่ายน้ำขนาดย่อม ๆ ... ตกแต่งล้อมรอบด้วยสีเขียวของต้นไม้ และสลับพื้นที่ด้วยบริเวณเก้าอี้อาบแดด และเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มในสระว่ายน้ำ

...บริเวณสระน้ำด้านในอาจจะแคบไปสักนิด ซึ่งคงเหมาะกับให้เด็ก ๆ เล่นน้ำในบริเวณนี้ .. ส่วนด้านหน้าสระว่ายน้ำจะพื้นที่กว้างและยาวกว่าซึ่งจากจุดด้านหน้ามองออกไปก็จะเห็นเป็นวิวผืนทะเลอยู่เบื้องหน้าสวยงาม

...พื้นที่กลางสระน้ำอย่างที่เห็นก็ออกแบบไว้ดูเก๋ไม่น้อย สร้างเป็นสะพานเล็ก ๆ เดินข้ามไปข้ามมา.. ส่วนแผ่นไม้ที่ใช้เป็นทางเดินคงไม่ต้องบอกว่าร้อนแค่ไหนหากไม่ใส่รองเท้าเดินในวันแดดแรง ๆ แบบนี้

...นักท่องเที่ยวที่มาพักก็พักผ่อนกันไปบ้างก็นอน บ้างก็มานั่งแช่น้ำสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ จิบ.. เห็นแล้วก็น่าอิจฉาไม่น้อย.. อยากจิบบ้าง

...บรรยากาศเป็นแบบเงียบสงบ และไม่วุ่นวาย.. สาเหตุเพราะไม่ติดริมถนน และไม่มีชายหาด.. ความครึกครื้นจากเสียงผู้คนและเสียงรถแล่นไปมาก็ไกลเกินที่จะได้ยิน เพราะจากจุดนี้เทียบได้กับว่าเราอยู่สูงจากถนนด้านหน้าประมาณคร่าว ๆ ตึก 2 ชั้น .. และยังอยู่ลึกเข้ามาด้านในอีกจึงไม่แปลกใจเลยที่จะเงียบสงบ

...วันที่ฟ้าสวย อากาศดีดี ถ่ายอะไรก็สวย.. บางมุมก็น่าชวนให้พานางแบบมาถ่ายรูปเล่นด้วยยิ่งนัก .. จากเท่าที่เดินไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ผมว่ามุมใน Kalima มีหลายมุมที่เป็นมุมถ่ายรูปเท่ ๆ ได้ไม่แพ้ที่อื่นเลย

...ด้านหน้าขอบสระมองไกลออกไปก็เห็นเส้นขอบฟ้าขนานตั้งรับกับเหล่าก้อนเมฆที่อยู่สูงขึ้นไป

...วันพักผ่อนสบาย ๆ ถูกเติมเต็มด้วยความงามของท้องฟ้าและทะเล.. แบบนี้ให้ร้อนแค่ไหนก็ทนได้เพื่อภาพสวย ๆ สีสันสดใส

...หลังจากเดินไปเดินมาบริเวณสระว่ายน้ำได้สักพักใหญ่ มายังอีกจุดที่อยู่ด้านขวาติดกันกับสระน้ำแต่จะเป็นทางเดินลงไปด้านล่างซึ่งเป็นบริเวณของ “Thai Taste Restaurant"…

...ที่เห็นเป็นหลังคาทรงกรวยตามในภาพนี่เลย พื้นที่ไม่ใหญ่มากนักหากเทียบกับห้องอาหารที่อยู่ด้านบนอีกจุดหนึ่ง .. แต่ต่างกันตรงที่ประเภทอาหารซึ่งตรง Thai Taste จะเน้นไปที่ทางอาหารไทย... รสชาติก็เป็นไปในแบบไทย ๆ อร่อยคุ้นลิ้นเราดียิ่งนัก..

...บรรยากาศโดยรวม ๆ ของ Thai Taste Restaurant ตอนกลางวันบ่าย ๆ อากาศอาจจะอบอ้าวไปสักหน่อยสำหรับเรา ๆ แต่ก็ยังพอมีลมพัดผ่านไปมาอยู่บ้าง... นั่งเพลิน ๆ มองวิวทะเลด้านหน้าไปสักพักก็คลายร้อนไปได้บ้าง

...จาก Thai Taste Restaurant ก็เดินย้อนกลับขึ้นมายังสระว่ายน้ำอีกครั้ง แต่ข้ามไปยังอีกฟากของสระว่ายน้ำก็จะเป็นพื้นที่ของ “Busaba Spa" สปาขนาดย่อม ๆ บรรยากาศร่มรื่นภายในมุมเล็ก ๆ

...ทันทีที่พนักงานยกน้ำมาให้ว่าชื่นใจแล้ว แต่พอเห็นผ้าเย็นแล้วยิ่งชื่นใจกว่าเพราะนอกจากหอมด้วยสมุนไพรแล้วยังเย็นชุ่มฉ่ำคลายร้อนจากอากาศด้านนอกได้เป็นอย่างดี .. กางออกแล้วโปะหน้านั่งพัก 1 นาทีชื่นใจสุด ๆ ...

...ตัวเคาน์เตอร์ต้อนรับภายในสปาตกแต่งไว้สวยงามรู้สึกเหมือนมีนกมาทำรังอยู่บนเพดานมากมาย ลักษณะพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นทรงโค้ง ๆ เดินเข้าไปแล้วรู้สึกสบายไม่เป็นเหลี่ยมเป็นมุมดูที่ให้ความรู้สึกแข็งกว่า สำหรับผมมองว่าเหมาะสมกับสปาดีครับ

...จากภาพคือห้องบริการนวดฝ่าเท้าเปิดแอร์เย็นฉ่ำสบายอบอวลด้วยกลิ่นหอมตามสไตล์สปาที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

...พื้นที่ห้องก็กระชับ ๆ จำนวนตามที่เห็น ซึ่งความจริงลูกค้าก็จะไม่ค่อยตรงเวลากันอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาเรื่องที่นั่งไม่พอ

...ห้องนวดแผนไทยก็มีไว้ให้บริการลูกค้า แช่อ่างน้ำสบาย ๆ นอนนวดบนเตียงจากพนักงานที่เรียนด้านการนวดมาโดยเฉพาะ ถ้าไม่ติดว่าอยากเดินเล่นด้านนอกมากกว่าคงได้ใช้บริการแน่ ๆ

...อยู่ในสปานานก็กลัวจะเพลินกับอากาศเย็น ๆ ไปมากกว่านี้ จึงตัดสินใจออกมาเดินรับแดดอีกครั้ง คราวนี้ได้แดงแรงสมใจกันต่อที่ด้านบนเป็นจุดของห้องอาหาร “Malika Terrace"

...ดูจากชื่อแล้วก็เข้าใจได้ว่าที่รีสอร์ทนี้พยายามเล่นคำง่าย ๆ อย่างเช่น รีสอร์ทอยู่ที่หาดกะหลิม Kalim .. ก็เติมตัว a เข้าไป.. จึงกลายเป็นที่มาของชื่อรีสอร์ท... และเช่นกันอย่างห้องอาหารด้านบนดาดฟ้านี้ก็คือ Kalima ที่สะกดกลับหลังเอา... อันนี้ไม่ได้สอบถามจากทางรีสอร์ทนะครับ แต่คิดเอาเอง.. ซึ่งเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้นแน่นอน

...ด้านบนดาดฟ้าบริเวณห้องอาหารนี้ใช้คำว่าพื้นที่กว้างคงไม่พอ เพราะมีพื้นที่ที่กว้างมากจริง ๆ ... จากภาพนี้จะยังเห็นไม่ชัด ภาพต่อ ๆ ไปจะมีมุมที่เห็นชัดกว่านี้

...ตัวที่นั่งรับประทานอาหารก็มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง... ตอนกลางวันส่วนใหญ่ที่ผมขึ้นมาเจอก็นั่งในร่มกันทั้งนั้น เนื่องจากช่วงที่มานั้นแดดแรงทั้ง 2 วันเลย

...และก็มาถึงอาหารมื้อแรกของ Malika Terrace .. เลือกสั่งอาหารเบา ๆ กินง่าย ๆ อย่างข้าวผัดเนื้อ .. ตอนแรกที่สั่งมาคิดว่าจะปกติทั่วไป แต่พอได้รับประทานเข้าไปแล้วต้องบอกว่าเป็นข้าวผัดเนื้อที่เนื้อนุ่มมาก ... พร้อมด้วยออเดิร์ฟเบา ๆ อีกหนึ่งจาน(จำชื่อไม่ได้)...

...หลังจากภาพนี้ก็ได้เวลาเข้าห้องพักเสียที โดยห้องพักที่ผมเข้าพักจะเป็นห้อง Deluxe Seaview

...ห้องพักประเภท Deluxe Seaview ที่ได้เลือกพักนั้นจะอยู่ตึกด้านหน้าเห็นวิวทะเลมองเยื้องไปด้านซ้ายจะเห็นบรรยากาศของป่าตองทั้งอ่าวในมุมสูง... สวยงามสบายตามาก

...ภายในห้อง Deluxe ตัวอ่างน้ำจะอยู่ด้านนอกคนละโซนกับห้องอาบน้ำแต่ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด .. ย้ายอ่างน้ำมาไว้ด้านนอกผมว่าก็ดีคลี่มูลี่ออกก็มองเห็นทะเลได้เลย.. ยังไงก็ยังได้ฟิวส์อยู่

...ยามบ่าย ๆ ดวงอาทิตย์จะเริ่มเคลื่อนตัวย้ายมาทางด้านหน้ารีสอร์ทฝั่งทะเลเยื้องไปทางขวาเล็กน้อย(นับจากช่วงเดือนที่เดินทางมา)... อาจจะมีเปลี่ยนองศาไปบ้างตามเวลาแต่ละเดือน แต่แน่นอนว่ามาที่นี่ถ้าวันไหนอากาศดี ๆ โปร่ง ๆ ได้เห็นพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าแน่นอน...

...ภายในห้องต้องบอกว่าสภาพใหม่มาก เนื่องจากรีสอร์ทเพิ่งจะทำการเปิดได้ไม่นานมานี้.. บวกกับโทนสีสว่างของห้อง ซึ่งสีน้ำตาลไม้ที่ใช้ก็ไม่ใช่น้ำตาลเข้มห้องเลยยิ่งดูสะอาดสะอ้านมากขึ้นไปอีกเท่าตัว

...ผลิตภัณฑ์เครื่องอาบน้ำครบชุดครับ... ดีไซน์สามเหลี่ยมปิระมิดทรงสูงเท่ดีครับ

...เรียบร้อยจากการเก็บภาพห้องก็ถึงเวลาชำระล้างร่างกายสักหน่อย ฝักบัวอาบน้ำแรงใช้ได้เลยสำหรับที่นี่เรียกความสดชื่นให้กลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง ก่อนเตรียมไปยังดาดฟ้าห้องอาหารด้านบนเพื่อเก็บภาพบรรยากาศยามเย็นต่ออีกสักเล็กน้อย

...เมื่อหันหลังให้ทะเลแล้วมองย้อนกลับมายัง Malika Terrace ในเวลานี้ ท้องฟ้าด้านหลังฝั่งห้องพักแนวเขาต้นไม้สีฟ้าสวยใสสีสันตัดกับหลังคาทรงหัวใจและสีเขียวของต้นไม้ลงตัวพอดี

...ตอนนี้อาจจะยังโล่งอยู่สำหรับแขกผู้มาพักเพราะส่วนใหญ่ยังคงมีความสุขกับสระว่ายน้ำด้านล่าง และกิจกรรมอย่างอื่น... ก็ค่อย ๆ เดินเก็บภาพบรรยากาศไปทีละน้อย

...ต่อด้วยให้ทางครัวทำอาหารออกมาถ่ายรูปเซ็ทเมนูสักเล็กน้อยย้อมด้วยแสงเย็น ๆ ที่ตอนนี้เริ่มส่องแสงสีส้มทองมาทีละน้อย ในภาพแรกนี้จะเป็น Cosmo Tuna & Pama Ham

...ตามต่อด้วย Cosmo Rock Lobster และเครื่องดื่ม

...ปล่อยเลยเวลาจนถึงช่วงแสงยามเย็นเปิดประเดิมด้วยภาพ Malika Terrace ที่มีหลังคารูปหัวใจเปิดไฟสีส้มทองตัดกันดีเหลือเกินกับท้องฟ้าแนวเขาด้านหลัง

...สลับกันกับช่วงกลางวันและบ่ายอย่างเห็นได้ชัด.. พอช่วงค่ำก็เป็นที่แน่นอนว่าผู้มารับประทานอาหารส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะนั่งกันด้านนอกรับลมเย็น ๆ มองทะเลมองท้องฟ้าเปลี่ยนสีเพิ่มบรรยากาศในวันพักผ่อนให้งดงามยิ่งขึ้น

...เดินกลับมาในร่มกันบ้างผู้คนก็พอมีประปราย .. ซึ่งบริเวณนี้ก็จะเป็นที่รับประทานอาหารในตอนเช้าด้วยเช่นกัน

...ปิดท้ายค่ำคืนแรกก่อนกลับเข้าห้องพักด้วยภาพบริเวณสระว่ายน้ำยามร้างผู้คน แต่สวยไปด้วยแสงไฟ...

...อย่างที่เห็นในภาพว่าตอนนี้ไม่มีแขกมาเล่นน้ำแล้วเนื่องจากค่อย ๆ ดึกลงไปทุกที เหลือเพียงแต่พนักงานมาเคลียร์งานเก็บงานเพียงเท่านั้น...

...มองแล้วก็ดูสวยงามไปอีกแบบแตกต่างไปจากตอนกลางวันที่เป็นท้องฟ้าใส ๆ .. บอกลาค่ำคืนแรกด้วยภาพนี้ก่อนตื่นมาพบกับไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าในภาพต่อกันไปเลยครับ

...เช้าวันใหม่ตื่นนอนด้วยความสดใสอาบน้ำล้างหน้าทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็ถึงเวลาเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ซึ่งยังคงเป็นที่เดิม Malika Terrace

...อาหารมีให้แขกผู้มาพักเลือกอยู่หลากหลายประเภททั้งไทย และนานาชาติ...

...บรรยากาศยามเช้าจะดูคึกคักมากเป็นพิเศษ จะค่อนข้างแตกต่างจากเมื่อวานอาหารค่ำอยู่สักหน่อยที่เป็นไปแบบโรแมนซ์ ๆ หวาน ๆ ...

...แขกที่มาพักส่วนใหญ่ถ้าไม่นับชาวยุโรป โดยมากที่เห็นก็จะเป็นพวกชาวเกาหลี ญี่ปุ่น ประมาณนั้น... ที่สังเกตดูแล้วหลายคู่ก็จะเป็นคู่รักฮันนีมูนด้วย.. อิจฉาตาร้อนตั้งแต่เช้ากันเลยทีเดียว

...หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารเช้า ก็ถึงเวลาเก็บภาพห้องพักในประเภทต่อไปเชิญชมกันต่อได้เลย

...ห้องพักประเภทต่อไปที่จะได้ไปสำรวจกันคือห้องที่อยู่เหนือสระว่ายน้ำที่มีเก้าอี้วางอยู่ด้านหน้าซึ่งคือประเภท Double Pool Honeymoon Suite (จะแค่ชั้นเดียว) เพราะชั้นบนที่เห็นเป็นแถบสีฟ้าและส้มก็จะเป็นห้องอีกประเภทหนึ่ง

...เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็จะเจอกับห้องกว้างขนาดใหญ่ดีทีเดียว... โทนสีจากเท่าที่สังเกตกับห้อง Deluxe Seaview ที่ได้นอนพัก ก็พอเดาได้ว่าห้องพักที่นี่จะเป็นสไตล์โทนนี้ทั้งหมด...

...เป็นห้องพักที่มีขนาดกว้างมาก เตียงใหญ่นอนสบายสำหรับชาวต่างชาติ ส่วนถ้าเป็นคนไทยเรานอนคงยิ่งสบายใหญ่... ภายในห้องไม่ได้ตกแต่งอะไรมากวัสดุที่ใช้ก็เป็นไม้โทนสีอ่อนแทบทั้งสิ้น

...ห้องกว้างเดินสบาย มุมนั่งพักผ่อนบอกได้คำเดียวว่าเหลือ ๆ สำหรับ 2 คน.. หากดูจากชื่อห้อง Double Pool Honeymoon Suite อาจไม่ได้ใช้การตกแต่งที่หวานแหววสวีทหวานอะไรมาก แต่ความรู้สึกที่ได้รับจากแค่ที่เดินถ่ายภาพภายในห้องกลับรู้สึกว่าบรรยากาศจะออกไปในทางโรแมนซ์แบบคลาสสิค ๆ เรียบง่าย ๆ มากกว่า

...มุมเจาะ ๆ กับหงส์ขาว ๆ คู่รักอีกสักภาพก่อนจะเดินไปยังระเบียงหน้าห้อง...

...พระอาทิตย์ขึ้นด้านหลังรีสอร์ทด้านแนวเขาส่งผลให้ช่วงเช้าสาย ๆ ท้องฟ้าฝั่งทะเลด้านหน้ามีสีสันสวยงาม.. มองไกลออกไปก็จะเห็นหาดป่าตองอยู่ไกล ๆ

...ช่วงเช้าอย่างนี้อาจไม่เหมาะสักเท่าไหร่หากจะมานั่งเล่น แต่ถ้าช่วงเย็นผมว่าตรงจุดนี้คงโรแมนติคมาก ๆ

...เดินย้อนกลับมายังสระว่ายน้ำอีกครั้งกับบรรยากาศยามสาย ๆ จวนเที่ยง ... ภาพนี้จะเห็นถึงตำแหน่งได้ชัดเจนของสระน้ำตรงกลาง ถัดไปด้านขวาร้านอาหาร Thai-Taste ที่อยู่ตรงหลังคามุงจากทรงกรวย และด้านซ้ายทางที่ติดสะพานระแนงไม้ก็จะเป็น Busaba Spa

…ตรงบริเวณสระน้ำก็มีบริการอาหาร Trio Pool Bar ไว้สำหรับลูกค้าที่ต้องการอยากสั่งอาหารปิ้งย่างรับประทาน จะได้ไม่ต้องเดินขึ้นไปไกลสั่งอาหาร .. เรียกว่าบริการกันในระยะประชั้นชิดเลย

...ในส่วนอื่น ๆ ก็จะมีห้องฟิตเนสที่อยู่ด้านบนของสระว่ายน้ำโดยอยู่ติดกันกับห้องสำหรับเด็กเล็กด้วย

...จากมุมสูงมองลงไปในภาพนี้จะเห็นตัว Malika Terrace ชัดเจนไกลไปจนถึงหาดป่าตองฝั่งตรงข้าม

...จะเห็นได้ว่าบริเวณดาดฟ้าจะเป็นห้องอาหารที่กว้างมากทั้งในร่ม และกลางแจ้ง

...ภาพของบรรยากาศต่าง ๆ ที่เดินไปเดินมาก็เก็บภาพไปเรื่อย ๆ

...มาถึงอีกโซนหนึ่งด้านหลังติดฝั่งเขาแนวต้นไม้.. โซนนี้เดินมาแล้วบอกได้เลยว่าคนละความรู้สึกกับด้านหน้ามาก.. เพราะความเขียวชอุ่มและความใหญ่โตของต้นไม้สูงที่ปกคลุมอยู่ด้านหลังเต็มไปหมดทำให้รู้สึกแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดหากเทียบกับด้านหน้า

...จากภาพทรายที่เห็นทางรีสอร์ทก็ทำสร้างเลียนแบบชายหาดเทียม ในเมื่อที่นี่ไม่ติดทะเลไม่มีชายหาดก็เลยสร้างขึ้นมาเองเลย... ก็ได้บรรยากาศที่แปลกและแตกต่างไปจากเดิม ๆ

...ตกบ่ายคล้อยเริ่มเข้าสู่ช่วงยามเย็นดวงอาทิตย์ย้ายฝั่งมาด้านหน้ารีสอร์ทเป็นที่เรียบร้อย.. ฟ้าขาวโพลนสนิท...

...ห้องที่จะได้สำรวจห้องต่อไปคือ Duplex Pool Villa เป็นลักษณะเหมือนกับบ้านอย่างไรอย่างนั้น.. ทั้งทางเดินเข้าและด้านในที่จะได้เห็นกันต่อไป

...ห้องประเภทนี้มีด้วยกัน 2 ชั้น.. ชั้นล่างที่เห็นนี่จะมีสระน้ำส่วนตัวขนาดย่อมอยู่หน้าห้องพักบรรยากาศดีสุด ๆ

...ภายในห้องกว้างขวางเดินสบายการตกแต่งเรียบง่ายเหมือนเดิมตามสไตล์ Kalima

...แม้สระเล็ก ๆ นี้จะไม่ใหญ่แต่ก็พอสร้างความรื่นรมย์ได้บ้างหากเทียบกับทัศนียภาพด้านหน้าที่ได้เห็นเมื่อมองไกลออกไป

...จริง ๆ หากไม่มีกระจกคงจะเห็นอะไรได้ชัดเจนกว่านี้ แต่ถ้ามองในแง่ดีก็ถือว่าเพื่อป้องกันอันตราย และสร้างความรู้สึกเป็นส่วนตัวให้ผู้เข้าพักขึ้นมาอีกระดับหนึ่งมากกว่าที่จะปล่อยเปลือยโล่งไป...

...ขยับก้าวขึ้นบันไดมายังชั้นบนซึ่งจะเป็นในส่วนของห้องนอนขนาดกระชับตามพื้นที่..

...เท่าที่เห็นมาหลายห้อง ผมว่าห้องนอนของ Duplex Pool Villa ดูจะมีสีสันมากที่สุดแล้ว.. สาเหตุคงเพราะสีฟ้าเขียวเข้มที่ใช้เป็นผ้าม่าน และตัวแผ่นไม้ประดับข้างผนัง.. จากห้องนี้มุมนี้มองออกไปก็สามารถเห็นไปถึงห้องอาหารดาดฟ้าได้เลย

...ตัว Pool เล็กอยู่ชั้นล่าง .. ส่วนชั้นบนก็จะเป็นอ่างและห้องอาบน้ำ เป็นลักษณะห้องกว้างมีประตูเลื่อนปิดเปิดระหว่างห้องนอนและตัวห้องน้ำ

...จากเท่าที่ได้ใช้เวลาพักผ่อนเดินไปเดินมาอยู่ใน Kalima เป็นเวลา 2 วัน 2 คืน .. ต้องบอกว่าลืมไปเลยว่าชายหาดที่เราต้องการอยากเจอนั้นถูกทดแทนด้วยวิวสวย ๆ ไปเป็นที่เรียบร้อย... ยิ่งด้วยจากทัศนียภาพมุมสูงที่มองไกลออกไปทั้งจากในห้องพัก หรือจากห้องอาหาร ... จากจุดต่าง ๆ ต้องบอกว่ามุมถ่ายรูปที่นี่สวยและเยอะดีไม่น้อย...

...จากภาพคือหาดป่าตองซูมแบบสุด ๆ จากดาดฟ้าห้องอาหารด้านบน... จะเห็นได้ว่าคึกคักจากผู้คนและกิจกรรมมาก...

...Kalima Resort & Spa Phuket ทำให้ผมรู้สึกเปลี่ยนความคิดได้ว่าแม้ในตอนแรกที่จะรู้สึกตะหงิดที่ไม่มีชายหาด แต่พออยู่ไปกลับชอบ และรู้สึกประทับใจส่วนตัวแล้วโดยเฉพาะการจัดวางผังตำแหน่งของพื้นที่ต่าง ๆ ที่สร้างได้อย่างลงตัว.. (แม้จะเดินขึ้นเดินลงเมื่อยขาไปสักหน่อย แต่เดินบ่อย ๆ ก็ชิน .. ถือว่าออกกำลังกายไปในตัว)...

...จากภาพมุมนี้พยายามไปอยู่ที่สูงที่สุดของรีสอร์ทไม่รู้มีตำแหน่งไหนจะขึ้นได้มากกว่านี้อีกไหม มุมอาจดูรกไปสักนิด แต่ให้เห็นถึงความสวยงามของวิวด้านหน้าที่มองออกไปไกลสบายตาจนรับกับแนวเขาด้านตรงข้าม...

...แสงของวันค่อย ๆ คลายตัวลงทีละช้า ๆ .. เรือเล็กหลายลำเริ่มแล่นกลับเข้าหาฝั่งอีกครั้ง.. ความประทับใจที่มีต่อ Kalima นั้นทำให้รู้สึกว่าการทำงานเป็นเหมือนการพักผ่อนไปในตัว...

...วันรุ่งขึ้นก็จะได้เวลาออกเดินทางจาก Kalima ไปยังที่อื่นต่อไป...

...ดวงตะวันยังคงไม่ลับแนวเส้นขอบฟ้าเช่นเดียวกับเมื่อวานทั้งที่ระหว่างวันอากาศฟ้าใสแดดแรง สงสัยดวงยังดีไม่พอ...

...ปิดท้ายด้วยภาพจากมุมนี้ที่คิดว่าเห็นได้ถึงความอลังการและดีไซน์ที่สวยงามของการวางรูปแบบตัวอาคาร

...Kalima Resort & Spa Phuket อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่พักติดชายหาด แต่สำหรับผู้ที่คิดว่าชายหาดไม่สำคัญเท่ากับบรรยากาศและรูปแบบดีไซน์ตกแต่งต่าง ๆ ภายในรีสอร์ท ... ผมมองว่าเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่น่าเปลี่ยนบรรยากาศมานอนเล่นสักคืนสองคืนก็จะได้ฟิวส์การมาพักผ่อนริมทะเลในอีกรสชาติหนึ่งได้ดีไม่น้อย.. กับทัศนียภาพสวย ๆ ในมุมสูงๆ ควบคู่ไปกับวันพักผ่อนพิเศษ ๆ ที่ Kalima Resort & Spa Phuket พร้อมจะให้ความสุข และความประทับใจติดใส่กระเป๋ากลับไป...

...พบกันใหม่รีวิวหน้า .. ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามชมกันนะครับ ^^