ในดินแดนปลายด้ามขวานของประเทศไทย หลายคนอาจจะมองข้ามไป
ว่าที่นี่.. ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีที่ให้เที่ยวอีกเยอะมากๆ มากจนเรานับไม่ถ้วนเลยหละ
แต่ถ้าจะให้เราเที่ยวทั้งหมดมันก็คงไม่ไหว!!! หรอก
เราก็เลยขอลงไป เที่ยวสักจังหวัด หนึ่งละกัน
ขอเป็นจังหวัดที่ยังไม่เคยไป อย่าง
จังหวัดปัตตานี ตั้งใจจะไปหลายทีหละ
แต่ยังไม่มีโอกาสสักทีหละครั้งนี้ละ ได้ฤกษ์งามยาม
เดินทาง ไปกับเราครับ ที่นี่ สายบุรี จังหวัดปัตตานี
** คำถามต่อมา ไปทำไม?
ตรงนั้น มัน Red Zone นะ อันตรายนะ มี ผู้ก่อความไม่สงบนะ ต่างๆ นาๆ
คำตอบทั้งหมด มันอยู่ใน VDO นี้ครับ
ขนาดพ่อหลวงของเรายังเดินทางไป
แล้วมันมีเหตุผลอะไร ที่ทำให้ ลุงวาเด็ง ต้องทำอย่างนั้น
เราว่า เราเดินทางไปหาคำตอบให้รู้ด้วยตัวเองดีกว่า มัวแต่คิดนั้น คิดนี้ มันก็ไม่ได้ไปสักที
เอาอย่างนี้ เราเริ่มเดินทางกันดีกว่าครับ
เราเลือกการเดินทาง โดยการบินไปลง นราธิวาส เที่ยวเช้าสุด คือ 6โมงเช้าเลย
โดยสายบิน
Thai Smile กรุงเทพ(สุวรรณภูมิ) - นราธิวาส
ก็ไอ้ด้วยที่ความ ไฟล์ เช้าเกิ๊น กลัวจะมาไม่ทัน
ก็เลยขอ นอน สนามบิน เลยแล้วกันครับ
แอร์มันจะเย็นไป ไหน !!! ก็เลยเอาถุงนอน ในกระเป๋ามานอน ซะเลย สบายหละคืนนี้ ราตรี สวัสดิ์ ครับ.....
ชิบหายยยยยยยยยย 5.45 เครื่องออก 6.15
จะขึ้นเครื่องทันไหม นิ เรานี้ รีบวิ่งเลยครับ
เกือบ Ch
eck in ไม่ทันแล้ว
แต่ก็สบายปรื๋อครับ ขึ้นทัน อย่างปลอดภัย 5555
อาหารพร้อมก็กินสิครับ
ว่ามันคืออะไร ครับนิ อร่อยดี!!! แท่งๆนิ
การเลือกบินไฟล์เช้านี้ บรรยากาศมันดีจริงๆนะครับ ใช้เวลาบินประมาณ 1ชั่งโมง 45 นาที
เราก็มาถึงสนามบินปลายทาง สนามบินนราธิวาสครับ ไปครับเดินทางกันต่อ
จากสนามบิน เข้าเมือง นรา ครับ จะมีรถตู้บริการ ตรงที่รับกระเป๋าเลยครับ
เอาจริงๆ เราก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะเดินทางไป สายบุรียังไง
แต่สูตรของเรา คือ เข้า บขส. หรือ ขนส่งไว้ก่อน
แล้วค่อยว่ากันก็บอกเค้าว่าไปขนส่ง นราครับ
ราคาก็อยู่ 80บาท ใช้เวลา ประมาณ 40 นาที
รถที่นี่ จะวิ่งตามตาราง ของเที่ยวบินนะครับ ใครจะ ไป หรือ กลับ เช็คเวลาดีๆ
หรือโทรไป สอบถามเวลา กับ พี่ๆ เค้าก่อน
090-774-3370
(ว่าแต่พี่ พูดมาลายูใช่ผมทำไม 555 หน้าเหมือนตรงไหนนิ)
เราก็มาถึง สถานีขนส่ง จังหวัด นราธิวาส ครับ
ก็เดินไป ถามเลย สบายบุรี ขึ้นคันไหน ?
พี่ๆแถวนั้นก็ ชี้มาตรงคันนี้ ช่อง 5 ปัตตานี สุไหงโก-ลก
รถออก 9 โมงครับ ดูจาก ตารางรถแล้ว ปัตตานี - สายบุรี
รถจะวิ่ง เกือบทุก ชม.ครับ คันสุด ท้าย 5 โมงเย็นครับ
แหม่ แค่เริ่มก็สนุกครับ เราจะนั่งรถหวานเย็น ไป สายบุรี ใช่ไหม ...
เอาหละ เดินทางกันต่อครับ
ดูจากแผนที่ ก็ ประมาณ 50 โล มันก็ไม่น่าจะนาน สัก ชั่วโมงกว่าๆ ก็นาจะถึงแล้วมั้ง
วิวข้างก็ สลับซับซ้อน ไป ด้วยภูเขา กับด่าน ของพี่ๆ ทหาร นั่งไปนั่งมา
อ้าวเห้ย!!! 2 ชั่วโมงกว่าเลยครับ
หวานเย็นไหมหละ ?
รถก็จะมาจอดที่เทศบาลหรือตรงหน้าหอนาฬิกานี้ละครับ แต่รู้สึกรถจะไปสุดสายที่ เมืองปัตตานี
ถ้าเห็น หอนาฬืกา แบบนี้ ก้ของแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณมาถึง เมืองสายบุรีแล้ว 555
แล้วไงต่อละ จะไป ที่พักยังไง กระเป๋าก็หนักเกิ๊น ไม่รู้จะแบกบ้านมาทำไม มาแค่ 3 วันเอง
พอดีตรงนั้น เห็นมี พี่ทหารนั่งอยู่ ก็เลยไปถามว่า พี่ครับ
สายบุรี รีสอร์ท ไปอีกไกลไหม ผมจะเดินไป
โอ้ววววน้อง ไกล นี่ๆ นั่งรถรับจ้างไปดิ แค่นี้เอง แล้วพี่ก็บอกว่าทางคนขับให้ ว่าจะไป
รีสอร์ท
เค้าบอกว่า น้องก็นั่งรถ โชเล่ ไป อะไร คือโชเล่พี่ นี้ละ ... ..
โชเล่
ก็ไป สืบเรื่องราวมา ที่เค้าเรียกว่า โชเล่ เพราะ สนัยนู้ดดดดดดดด มีหนังอยู่เรื่องนึง
พระเอก มันชื่อ โชเล่ ขับรถแบบนี้หละ แบบมอไซค์แล้วพ่วงข้าง เค้าก็เลยเรียก โชเล่ หง่อ เทห์ ไปเลยลุง
ก็เสียค่าบริการมา
10 บาท
ใครจะไป คิดละ ครับ ว่า สายบุรี จะมี รีสอร์ท น่ารักๆ แบบนี้อยู่ด้วย
เราก็ได้คุยติดต่อกับพี่ ที่นี้ไว้ ยังไง ถ้าใครมาสายบุรี ยังไม่มีที่พัก ลองแวะมาพักดูนะครับ
ราคา ไม่แพง ห้องแอร์ 450 บาท 087-288-2005
หรือใครจะไม่พัก มาแวะกินกาแฟ ชา อะไรที่นี่ดูนะครับ
ห้องพักน่ารักมากกกก ครับ
ยังไม่ทันจะได้ สบายเลย พี่เค้าก็ชวนไปกินข้าว ห่ะ !! เจ้าของ รีสอร์ท จะพาไปกินข้าว
โห้ววววว ไม่เอาพี่เกรงใจ แล้วพี่รออะไรหละ ขึ้นรถสิครับ จะไปกินข้าวววววว 5555
ขอบคุณอาหารมื้อนั้น มากๆๆ ครับคนที่นี่ กันเองเกิ๊นน นน น น น น น
พี่เค้าก็ถามว่า ทำไม มาเที่ยวสายบุรีหละ ไม่กลัวหรอ
กลัวอะไรอะครับ ??????
พี่เค้าก็บอก นั้น สิกลัวอะไร มาเลยๆๆ มาเที่ยวเถอะที่นี่ น่าเที่ยว
แล้วจะไป เที่ยวไหนหละ .... นั้นสิครับ จะไปไหนดี
เอาอย่างนี้ เดี่ยวให้คนพื้นที่ พาเที่ยว มันน่าจะเข้าถึง
แล้วเราก็ได้รู้จัก กับ พี่อานัท ประธาน
SAIBURI LOOKER
กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รวมตัวกันในชื่อว่า สายบุรีลุคเกอร์ คนที่หลงเสน่ห์ ของสายบุรี บ้านเกิดตัวเอง
โอ้ว อย่างนี้ ทริปนี้เจ๋ง แน่นนอนครับ ผมว่าเราเริ่มเดินทาง กันเลยดีกว่า ครับ
แต่ก่อนจะไป เรากินข้าวกินปลา ให้เรียบร้อยก่อนแล้วกัน ว่าแต่ไอ้ร้านที่เรานั่งอยู่นิ
มันสวยน่ะ มัน
ART Design แนวมาก ถามไป ถามมา ที่นี่ ก้เป็น ที่รวมตัวของ
SAIBURI LOOKER
นี้หละ ถึงว่า ร้านแนวเหลือเกิ๊น ร้านนี้มีชื่อ ว่า
Check in at iff& arm Saiburi ง่ายๆก็ อีฟ & อาร์ม
ร้านอยู่ในซอย ข้างๆ หอนาฬิกาเลยครับ ต้องพูดแนวๆว่า ร้าน เก่มาแกร๋ 555
ส่วนอาหาร ของที่นี่ ก็เป็น อาหาร ท้องถิ่น ผสมผสานกับอาหารสมัยใหม่ แบบเข้ากันได้อย่างดีเลยครับ
ไม่ว่าจะเป็น ข้าวไก่ทอดยำบูดู และอีกหลายเมนู หรือจะเป็นเครื่องดืมก็มีครับ
เอาหละท้องอิ่ม
เราก็เดินทางกันต่อดีกว่าครับ แต่มันก็แอบ สงสัยไม่ได้ ว่าบ้านข้างๆร้าน
ทรง Classic ๆ ตรงนั้นมันคืออะไร
พอเข้าดูใกล้ๆ โอ้วววววววววว มันอลังการมากๆเลยครับ
มันต้องเป็นบ้านคนมีเงินหรือคนรวยในสมัยก่อนแน่ๆเลยครับ แล้วก็จริงครับ
ที่นี่ คือ
คฤหาสน์ พิพิธภักดี
อาคารเก่าแก่หลังนี้มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น สถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลทั้งจากชวา จีน มลายู
สวยงามมากๆ เลยครับ แต่ที่แปลกใจ คือ มันกี่ร้อยปีแล้วนิ แล้วทำไม สภาพมันยังคง สมบูรณ์มากๆ
เหมือน ท่านยังอยู่จริงๆ
คฤหาสน์ พิพิธภักดี เป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอสายบุรี
สมัยอดีตเป็นสถานที่อยู่ของพระพิพิภักดี บุตรชายคนโตของเจ้าเมืองยะหริ่ง (1 ในวัง 7 หัวเมือง)
โห้วววววววววกี่ร้อยปีแล้วนิ ... เค้าว่ากันว่า ที่นี่ สมบูรณ์ ที่สุดในบรรดา วังหัวเมือง ทั้ง 7 นะครับ
บร๊ะ ไม่ธรรมดา ...
ปัจจุบันมีการเปลี่ยนเจ้าของมาแล้วหลายรุ่น คนสายบุรีมองเห็นความสำคัญของบ้านหลังนี้
ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ต่อพวกเขา จึงพยายามรักษาและตกลงที่จะซื้ออาคารหลังนี้
อีกฝั่ง เป็นวังเก่าครับ ยังคงสวยงาม
ไปครับเดินทางกันต่อครับ ที่เห็นๆ ที่ มัสยิด เยอะครับ เยอะไม่ว่า แต่ทำไม สวยทุกมัสยิดเลยครับ
อดใจ แวะถ่ายรูปไม่ได้ เลยครับ
ที่นี่ คือ มัสยิดรายอ ครับ
มัสยิดโบราณประจำเ
มีขนาดใหญ่มากอ
ายุหลายร้อยปี แล้วเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เค้าบอกว่าจะมีเงายาวไปตามแนวภูเขา พอตอนเที่ยงๆ
เงาจะยาวไปหลายร้อยเมตร จึงเป็นที่ความมหัศจ
เราเดินทางกันต่อดีกว่าครับ
ขับมาได้ สักแปปนึง จอดอีกแล้ว แสดงว่า ที่นี่
มีสิ่งที่น่าสนใจอีกแล้วครับ แล้วที่นี้มันคืออะไร อะครับ
ที่นี้คือ ชุมชนย่านจีนเก่า ครับ แต่ก็ยังมีคนจีนอาศัยอยู่จริงๆนะ ครับ
เค้าว่ากันว่า มี อายุ หลายร้อยปี แล้วนะครับ เดี่ยวจะพาไปดู
มีความเก่าแก่ครับ
แบบนี้เค้าเรียก ว่า ประตูมังกร ครับ คือ 1 ประตู 2 หน้าต่าง แบบนี้ การสร้านบ้านแบบคนจีนสมัยก่อนเลยครับ
แล้วยิ่งกว่านั้น ที่นี้ ไม่ใช่บ้านคนจีนธรรมดานะครับ มีประวัติอีกเยอะครับ
บ้านนี้ เป็นบ้านของตระกูล "เลาหกุล" เป็นบ้านทรงจีน
ลักษณะของบ้านหลังนี้สร้างออกมาเป็นแบบจีนแท้ๆเลย อย่างที่บอกคือ แบบมังกร 1 ประตู 2 หน้าต่างนั้นหละครับ
ไม่ผสมแบบตึกชิโนโปรตุกีส (ตึกเก่าที่เราเห็นที่ภูเก็ต หรือ ปีนังนั้นหละครับ)
การสร้างบ้านหลังจะใช้วิธีเข้าเดือยของไม้ จึงไม่มีการใช้ตะปูในการก่อสร้าง ถามว่าทำไม ถึงคล้ายกับ ทางปีนัง
ชาวจีนส่วนใหญ่ในอำเภอสายบุรี เป็นชาวจีนมาจากมณฑลฝู่เจี้ยน(ฮกเกี้ยน)ทางมาจากจีนโดยตรง และมาจากทางมาเล
ถ้าเราเคยเห็น ที่อื่นแบบ ที่ตกแต่งแล้ว แต่ถ้าอยากจะเห็นแบบ ดังเดิมๆ แบบ ออ
ริจินอล มาที่นี่ เลยครับ สายบุรี
ที่นี่ เค้าก็จัดงานด้วยนะ ช่วงเทศกาลประจำปี คือ งานสมโภชศาลเจ้าเล่าเอี๊ยะกง โห้วว ที่นี่ เรื่องราวเยอะเกินครับ
เอาหละครับ เราเดินทางกันต่อดีกว่า หาดที่เค้าบอกว่า น่าจะเป็น หาด landmark ของสายบุรี
ขอไปดูหน่อยเถอะมันจะสวยแค่ไหน ...
จากตัวเมือง สัก 2-3 กิโล
ก็มาถึง ที่นี่
หาดวาสุกรี ครับ
เค้าบอกว่าที่นี้ จะมี การแข่งตกปากด้วยนะ มีประจำทุกปี จะมีคนมาเยอะมากๆๆ
ทั่วทุกมุมโลกเลย พูดเป็นเล่นไป ครับ
ชิววววววววววววว มากกกกกกกครับ
อยากจะลงเล่นน้ำเลยครับ ตรงนั้น คือ สนามบอล ใช่ไหม นั้น โอ้ววววว
แต่ที่นี่ ยังไม่ใช่ที่เด็ดหรอก
เห็นพี่ อานัส เค้าว่า อย่างนั้นยังมีอีกหาดเด็ด มาเดี่ยวจะพาไป
เอารออะไรครับ ไปสิพี่!!!
ทริปวันนี้ เรายังมีอีกเยอะครับ เดินทางกันร้อนๆ แวะกินน้ำกันหน่อย
ที่นี่ ร้านน้ำชา จะเยอะมากๆๆครับ เราจะพบเห็นได้ตลอดทางเลยครับ
ก็นั่งกินน้ำชา เพลินๆ พี่เค้าก็บอกว่า จะพาไป
ดูมัสยิด อีกที ที่นี่แปลก ว่าแต่มันแปลกยังไง อะครับ
ดูดีๆ ที่นี่ คือ มัสยิด แปลกยังไง ดูไปดูมา สีมันคุ้นๆ ยังไง ก็ไม่รู้
พี่เค้าก็บอกว่า
สีมันเหมือน เรือกอและ ไงใช่แล้วคัรบ นั้นคือ ศิลปเดียวกับเรือกอและครับ
เพราะที่นี่ คนแถวนี้ เค้าจะต่อ เรือ กอและกัน แล้วเห็นข้างบนไหม นั้นคือ ที่เค้าเอาไว้หมักน้ำบูดู เลยนะ
มันเป็นการ มิกค์แอนแมด ได้ดีมากเลยครับ ฮ่าๆๆ
ฝั่งนู้ด ที่เราเห็นคือ หาดวาสุกรี ที่เราไป เมือกี้ครับ
ที่นี่ คือ
หาดบ้านบน ครับ (ถ้าชื่อ ผิดผมต้องขออภัยด้วย)
ประมาณนั้นครับ โอ้วววววววววววววว
ต้องแบบนี้สิ ทะเล ปาตานี
ที่นี่ มี โฮมสเตย์ด้วยนะ ราคาแบบ กันเองมาก
แล้วประเด็นคือ ติดทะเลเลยไง บร๊ะ
เดี่ยวนะครับ !!!! ที่นี่ กางเต้นท์ ได้ด้วยหรอ เห้ยมันไม่ธรรมดาแล้วหละ
พี่ครับพรุ้งนี้ พาผมไปนอน กางเต้นท์ ที ผมอยากได้ ฟิวนี้ อ้อนเลย
แต่เกือบลืมไปว่า การมาครั้งนี้ เราจะต้องไปตามรอย พระสหาย วาเด็ง
เออพี่ ผมจะไป ตามรอยพระสหาย อะครับ ไปที่ไหนดีครับ .....
อ่องั้นไปนี้ ถ้ามาสายบุรี ถ้าไม่ได้ล่องเรือ
ที่แม่น้ำสายบุรี มันก็เหมือน จะมาไม่ถึง เพราะที่นี้ คือเมืองแห่งสายน้ำ
นั่งเรือ แล้วค่อยนึกไปว่า ต้องไปตามรอยที่ไหน
เอาหละ เราจะลงเรือ พี่คนขับถามว่า น้องว่ายน้ำ เป็นไหม ?
พี่ก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนะ พี่ขับเรือไม่ใช่หรอครับ 555 แต่ก็เอาเถอะ ไปครับเดินทางกันต่อ
ค่าบริการไม่แพงครับ น้ำมัน 2 ขวด 50 บาท แล้วก็เติม แล้วก็เดินทางกันเลย
พอขับได้สักพัก โอ้วววววววววววววววววววว วิวมันดีขนาดนี้เลยหรอครับ
คือดีมากๆๆ เลยอะครับ มีแม่น้ำ วิวไกลๆ เป็นภูเขา
แม่น้ำสายบุรี : สวยจริงครับ
มีเด็กน้อยเล่นน้ำตลอดทางครับ เราหละอิจฉา คนที่นี้จริงๆๆ
ขับไป สักพัก ก็เจอเกาะครับ มีเกาะด้วย อย่างสวยเลยครับ 555
เห้ยยยยยย มีเกาะด้วยอ่ะ อย่างเฟี้ยวเลยครับ
ก็มีคน เล่นน้ำกันอยู่ครับ อย่างนี้ ไม่แวะไม่ได้แล้ว
พี่เค้าก็บอกว่า ถ่ายให้พี่รูปนึงสิ
ไปครับ เดินทางกันต่อครับ
แล้วพี่เค้าก็บอกว่า อ่อออออออ พี่นึกออกแล้ว ว่า ลุง วาเด็ง เจอในหลวงตรงไหน
พี่เค้าก็บอกว่า ตรงนี้หละ
ถ้าเรายังจำภาพ ชายแก่ ยืน ถอดเสื้อ ยืนคุยกับในหลวง
ต้องย้อนกลับไป ประมาณ 2535 ในครั้งนั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปโครงการพัฒนาพรุแฆแฆ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
ในตอนนั้น ลุงวาเด็ง เป็นแค่คนธรรมดา ชาวๆบ้านๆคนหนึง ตอนนั้นไม่ได้ ใส่เสื้อ อะไรเลย ด้วยความที่ลุงวาเด็ง
ไม่เชื่อว่า ในหลวงท่านจะมาจริงๆ จนกระทั่งได้พบพระองค์ แต่ลุงแก ก็ยังไม่ไม่แน่ใจ จึงหยิบมาดู จึงเชื่อว่าคนที่เราเห็นตรงหน้าคือ ในหลวง พระเจ้าแผ่นดิน หลังจากนั้น ในหลวง ก็ตรัสกับ ลุงวาเด็ง
ว่าจะสร้างคลองชลประทานให้เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร
และคลองที่เราเห็น ตรงนี้ ก็คือ คลองทุ่งเค็จที่ลุงวาเด็ง เป็นคนพายเรือให้พระองค์ สำรวจ
คลองสายดั่งกล่าว และ เล่าให้ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านในหลวง
ยังทรงลองใจ ลุงวาเด็ง ด้วยการตรัสขอที่ดินทำโครงการพระราชดำริ
ลุงแกรีบตอบว่า ให้ ในทันที ด้วยความซื่อตรง
ในหลวง จึงมีพระราชดำรัสให้เป็น "พระสหายแห่งสายบุรี" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แล้วทำไม ในหลวงจึง ตรงมาให้ลุงวาเด็ง พาไป ก็เพราะลุงวาเด็ง เป็นคนรู้จจักพื้นที่ จริงๆ
เพราะในการจะไปช่วยใครที่ไหน จำเป็นต้องถามเจ้าของพื้นที่ก่อน เพราะชาวบ้านจะรู้จริงกว่าคนอื่น และเหตุการณ์
ที่เป็นเรื่องราวประทับใจ ของพระสหาย แห่งสายบุรี ทั้งหมด เกิดขึ้นที่นี่หละครับ
จุดประสงค์ของการสร้าง คลองชลประทาน
เพื่อปรับปรุงพื้นที่พรุ ให้กลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้
เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ประกอบอาชีพหลัก และมีรายได้ประจำในพื้นที่ของตน
เพื่อศึกษาการแก้ปัญหาพื้นที่พรุ
อย่างที่บอกครับ ไม่มีที่ ใด ที่พ่อไม่เคยไปครับ
ปล.หากข้อมูลผิดพลาดต้องขอ อภัยยด้วยนะครับ
เป็นการจบวันที่ดีมากๆๆ อีกวันหนึ่ง ของผมเลยหละครับ ได้ทั้งมิตรภาพ และ ได้รู้เรื่อง ราวดีๆ
ทริปนี้ ผมต้องขอบคุณ พี่ๆ จาก
Saiburi Looker อีกครั้ง หนึ่งนะครับ
เออ !!! พี่เค้าบอกว่า ตรงนี้ ตรงสะพาน เค้าบอกว่า ถ้าเป้นช่วงหน้าร้อน ตรงนี้ ท้องฟ้าจะเป็นสีส้ม
แล้วสะท้อน กับ แม่น้ำสายบุรี มันเป็นภาพ ที่สวยมากๆๆๆ พี่ก็พูดสะ เดี่ยวหน้าร้อนมากอีก 5555
ความเป็นกันเอง + กับวิถีชีวิต มันทำให้ ที่นี่ ดูน่ารักขึ้นมากๆๆเลยครับ
ตกดึก Night Life
ของที่นี้ ที่สายบุรี คงจะไม่มี ผับบาร์ เหมือนที่อื่น
แต่ที่นี้ก็
ครึกครื้น เหมือนที่อื่น แล้ว หอมไปด้วยกลิ่น โรตี และ ชาครับ
ที่นี่ ร้านพี่ แบดี (ผมเรียกถูกไหม )ชาร้อน กาแฟ ร้อน ราคากันเอง จนผมงงกับราคาของที่นี้เลย
คือกาแฟ หลายแก้วมาก โรตี 2-3จาน พอเก็บเงิน มัน 60 บาท เลยไม่ได้ถามราคาเลยว่าเท่าไร
ดึกๆ ที่นี่ จะคึกไปด้วย ร้านโรตี หลายร้านมากๆๆ ครับ อย่างนี้ เราก็อดใจไม่ ไหวหรอก จัดโรตีแกง สักหน่อย ......
แล้วเสียงหัวเราะพูดคุย ตามภาษา ชาวบ้าน แต่ผมสงสัยอยู่อย่างนึงจริงๆ นะ คนที่นี่ เค้ารู้จักกันทั้งเมืองเลยหรอ
เห้นพี่เค้าทักทุกคนที่ ขับรถผ่านร้านเลย 555
เช้าวันที่ 2 ที่สายบุรี
เรายืม จักรยาน ของพี่ที่รีสอร์ท มาครับ เอามาปั่น ชิวๆ รอบเมือง สายบรี สักหน่อย หละกัน
ก็ไปทางหาด วาสุกรีนั้นหละครับ
ปั่นไปปันมา เจอกับ Art Street ขอจัดรูป ฮิปๆ สักหน่อย
Art Street นี้ เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน จากกิจ กรรม คืนความสุขให้สายบุรี เมือปีก่อนครับ
โห้ววผมว่า ที่นี่ต้องสนุกแน่ๆๆเลยครับ เห้นเค้าบอกว่า รวมเด็กบอร์ด จากทั่วประเทศ มารวมตัวกันที่นี่เลยนะ
แล้วก็จัด art gallery ทั่วเมืองสายบรี ด้วย เห้นพี่อานัส บอกว่าจะจัดทุกปี ยังไง ก็ ติดตาม ที่
Saiburi Looker เพื่อมี ข่าวสาร และกิจกรรมมันส์ๆ
ถึงแล้ว หาด วาสุกรี ชิวเกิ๊น เมืองนี้
เสือภูเขา ไม่ควรจะเอามาปั่นที่ทราย นะ ฮ่าๆๆ
เข็นเถอะเหนื่อย ฮ่าๆๆ
หิวแล้ว ก็ปั่นเข้าเมือง ไปทาง หอนาฬิกา นั้นหละครับ
เจอกับตลาดสด ก็เลย แวะกันหน่อย เพื่อ เจอ อาหาร ท้องถิ่นๆ หน่อย
เจอกับอาหาร ท้องถิ่น จริงครับ แต่เป็น ปลาสดนะ 5555
จะกินยังไง หละ หิวววววววววววววววว
น้ำสักแก้วละกัน แต่ทำไม ลุงคุยภาษา มาลายู กับผม หละ 5555 หน้าผมไม่เหมือนสักหน่อย
ว่าจะไปกินโรตี ละกันเช้านี้ ก็ปั่นต่อกันหน่อย
แต่มาสะดุด กับร้านขนมหวาน แต่ไม่ใช่ขนมหวาน หรอกแต่เป็น ปลาหมึก
แล้วทำไม มาอยู่ในร้านขนมหวานหละ งง
นี้หละขนมหวาน เอางง เข้าไปใหญ
ห่ะ!!! บ้านี้มันปลาหมึกนะป้า ..
ตูปะซูตง หรือ หมึกต้มหวาน โอ้วมาลองเลยครับไม่ธรรมดา
ยังไง มา 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ลองมาหากินดูนะครับ
สักพัก พี่อานัส Saiburi Looker ก็ทักมา จะไปกางเต๊นท์ นอนที่หาดไหม
ไปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป ครับ อยาก ตอบให้ไว
แล้วพี่เค้าก็พาไป นอน ที่หาด สักหาด นึงครับ หลังบ้านคุณลุงท่านหนึ่ง
ซึง วิวประมาณ นี้ครับ
กางเต็นท์นอน กันแบบนี้เลยหละครับ สบายหละ คืนนี้ วิว เด็ด แน่ๆ
ว่าแต่ มาทะเล ทั้งนี้ ผมยังไม่ได้ เล่นน้ำเลยนะครับ ขอจัดหน่อยนะครับ
ทะเลมันต้องอย่างนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ทะเล ปัตตานี
ถึงมันจะไม่ Unseen ใส ปิ้ง เหมือนที่อื่น แต่ เชื่อ เหอะ ที่อื่น ไม่มีแบบนี้แน่นอน
น่าเอาเชิฟร์มา เล่นฮ๋าๆๆ
พี่ อยาก ปิ้งย่างครับ
จัดไป ครับ !!!!! พี่เค้าว่าอย่างนั้น
ก็พาไป ชื่อปลามาย่างครับ
โดยไม่ต้อง หมัก หรือเพิ่มเติ่ม ด้วยน้ำจิ้ม
ล้างน้ำทะเล แล้ว ปิ้งกันเลย กินกันแบบ
Original นี้หละ
บอกเลยว่า รถชาติ เยี่ยมมากๆๆๆ ครับ อร่อยจนเหลือ เชื่อ
อาหาร ทะเลสดๆ กับ บรรยากาศ ริมทะเล นี้มันดีจริงๆครับ
ถ่ายไปถ่ายมา เจอแสงเหนือ เฉยเลยครับ
ไอ้บ้า นั้น มันเรือ หา ปลาหมึก 5555 บรรยากาศแบบนี้ ชิวดีนะครับ
เสียดาย ฟ้าไม่ค่อยเปิด เห้นดาวน้อยไปหน่อย
เอาจริงๆ นะไม่ต้องเปิด เพลง หรือ สร้างบรรยากาศอะไรให้มันมากมายเลยแค่ต้มน้ำร้อนกินกาแฟ พูดคุย ด้วยใจ
เราว่านะ แค่นี้ บรรยากาศมันดีเกินคำบรรยายแล้ว ขอบคุณ ความรู้สึกๆครับ ที่ทำให้ได้สัมผัสของสายบุรี
คำคืนที่จบลง แบบสวยงาม พี่เค้าก็ถามเราว่า เป็นไงสายบุรี ดีไหม มีอะไร เยอะไหม
เราตอบเลยคัรบ มันเกินคาด ได้อะไร เยอะเกิ๊น จนคิดว่า สายบุรี มันสวยขนาดนี้แล้วทำไม ไม่มีคนมาเที่ยวเลย
พี่เค้าก็บอกว่า พี่ไม่ได้ อยากให้มันเป็นเมืองท่องเที่ยว หรอก อยาก มัน เป็น ที่เดินตาม วิถีของมัน
แบบ เรื่อยๆ ไม่ต้องไป ตูมมมมมมมมมมมม ทีเดียว แล้วมันจะเละ อย่างอย่างนี้ แค่พอ มันก็ พอแล้ว
แค่มีคนรู้จัก และ รู้สึก รักสายบุรี อย่างที่เรารัก พี่ว่าแค่นี้ พี่พอแล้ว ... จาก พี่อานัส Saiburi looker
เช้านี้ ที่ไม่อยากกลับ
บอกเลยครับ ว่าสถานที่ แห่งนี้ จะทำให้เราคิดถึงตลอดไป ที่นี่ สายบุรี
โอ้ยยยยยยยยย หิววววววววว ขอจัด อาหาร ทะเล ของเด็ด มากินหน่อย
เก็บเต็นท์ แล้ว เดินทางกลับบ้านเรากันเถอะ
เราก็เข้าเมืองเพื่อ เตรียมตัวกลับบ้านครับ แต่รถ สายบุรี ไป นราธิวาส มาบ่ายโมงนู้ดหละ ยังพอ มีเวลา เหลืออีกหน่อย
งั้นเราขอไปกิน อาหาร ท้องถิ่น กันหน่อนหละกัน กับ ข้าวยำบูดู
10 บาท รสชาติ ไม่ธรรมดา เลยครับ เด็ดจริง ครับ
ก็เดินไปเดินมา สักพัก สงสัยว่า ทำไม วันนี้คนมันเยอะจัง เดินไปเดิน มา อ่ออออออออ มีตลาดนัดด้วย
ที่นี่คือ ตลาดนัดกายี ครับ มีทุกวัน พุธครับ ไม่จะเป็น ของใช้ ของเก่า มือ1มือ2 ที่นี่ มีให้เลือก เยอะมากๆๆครับ
ผมเดินนานไม่ได้ เดี่ยวเสียเงินแน่ๆๆ พี่กระเป๋าใบนี้เท่าไรครับ --*
ได้เวลากลับบ้านกันหละ ยังไง ทริปนี้ ผมต้อง ขอบคุณ
บางครั้งเรารู้สึกกันไปเองว่าที่นั้นที่นู้ดจะเป็นอย่างนี้อย่างนั้น
มันยังไม่ทันได้ไป สัมผัสไปรู้สึกเลยครับ บางครั้งเราหวังแค่จะไปให้ถึงปลายทาง
จนลืมไปว่า ระหว่างทางมันก็สำคัญ
หากขอมูลผิดพลาด ไป ต้องขออภัยด้วยนะครับ เพราะเราไม่ชอบจด เน้นใช้จำเอา
ปล.ปากกาหาย ทริปนี้ไม่ใช่อะไร 555
พี่ๆ จาก
Saiburi Looker มากๆๆๆๆๆ เลยนะครับที่ทำให้เราเข้าถึงและเข้าใจ เมืองสายบุรีเป็นอย่างมาก
ขอบคุณจากใจเลยครับ
และที่ขาดไม่ได้เลย คือ
Jetradar.co.th ที่สนับสนุนการเดินทาง
และ
Readme.me ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ที่ทำให้เราเดินทางมาตามรอยพ่อของเรา
"ร่วมสนับสนุนการทำความดี ตามรอยพระยุคลบาท เพื่อพ่อหลวงของเรา"
โดย
"Jetradar.co.th" และ "Readme.me"
สรุป ค่าใช้จ่าย ค่าเครื่องบิน ไปกลับ กรุงเทพ - นราธิวาส 3,535 บาท
ค่าใช้จ่าย ตลอดทริป ประมาณ 1200 บาท
ติดตามการเดินทางของเรา " ไม่กี่บาท " ได้ที่
https://www.facebook.com/maikeebaht/
IG : https://www.instagram.com/mr.konr/
ไม่กี่บาทBackPacker
วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.47 น.