ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.อุตรดิตถ์ หลายๆคนคงนึกถึง ภูสอยดาว และ ลับแล

ซึ่งเป็น 2 สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงของ จ.อุตรดิตถ์

แล้วถ้าถามว่า มีที่ไหนน่าสนใจอีกล่ะ เพื่อนๆก็คงสตั้นไปซัก 10 วิ แล้วก็คงตอบว่า...ไม่รู้ดิ!!!

"อ.น้ำปาด" ถ้าพูดชื่ออำเภอนี้ขึ้นมา น้อยคนนักที่จะรู้จัก และรู้ว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจ

อย่าว่าแต่เพื่อนๆเลย ผมเองได้ยินชื่อนี้ครั้งแรก ก็อึ้งไปเหมือนกัน ที่นี่มันที่ไหนวะ!!

แต่หลังจากได้ลองไปสัมผัสและได้ใช้เที่ยวชมวิถีชีวิตของชุมชนแล้ว บอกเลยว่าไม่ธรรมดา..น่าสนใจมาก

วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับที่นี่ให้มากยิ่งขึ้น

ป่ะ!! ตามเรามาเลย... GO...GO...GO

การเดินทาง

เราเดินทางออกจากกรงเทพฯกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จนถึงอำเภอวังน้อย จ.อยุธยา

แยกเข้า ทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านอ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท จนถึงนครสวรรค์ แยกเข้าเส้นทางหมายเลข 117

ถึงพิษณุโลก แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 11 จนถึง จ.อุตรดิตถ์ เรามาถึงที่อุตรดิตถ์ประมาณ บ่ายโมง

ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ระหว่างทางก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราแวะเที่ยวชมกัน

โดยสถานที่แรกที่เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวกันนั้นก็คือ "เขื่อนดินช่องเขาขาด" อ.ท่าปลา


เขื่อนดินช่องเขาขาด ตั้งอยู่ห่างจาก อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขื่อนสิริกิติ์

เราเดินทางมาถึงที่นี่ช่วงบ่ายแล้ว แดดดีมาก บริเวณจุดชมวิวจะมีร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยว

บริเวณนี้จะมีศาลานั่งพักผ่อน และซุ้มสำหรับนั่งทานอาหาร บรรยากาศร่มรื่น สบายๆ มีลมพัดเย็นๆ

ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปอีก 1 จุด ที่มีมุมสวยๆ ให้เลือกเพียบ ใครผ่านมาแถวนี้ลองแวะมาเที่ยวชมกันดูครับ

ขับรถเลยต่อมามุ่งหน้าไปยัง เขื่อนสิริกิติ์ ระหว่างทางเราก็จะผ่าน "อุทยานแห่งชาติวังน้ำน่าน" อ.ท่าปลา

อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัด แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์ เป็นทิวเขาสลับซับซ้อน

ประกอบด้วยป่านานาชนิดที่ยังคงความสมบูรณ์ และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์

ที่นี่จะมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวมากางเต็นท์ นอนค้างคืนได้ครับ บรรยากาศสดชื่น และน่ามานอนมากกก...

หลังจากนั้น เราก็มุ่งหน้าไปยัง เขื่อนสิริกิติ์ เพื่อชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็นกันครับ

"เขื่อนสิริกิติ์" ถือเป็นเขื่อนดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ อ.ท่าปลา

กั้นแม่น้ำน่าน ที่ไหลลงมาจาก อ.นาหมื่น จ.น่าน ได้มีการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงาน

พื้นที่เหนือเขื่อนเป็นแอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ อีกด้วย

ระหว่างทางที่ขับรถขึ้นไปชมวิวเหนือสันเขื่อน เราก็ได้เจอ สะพานแขวน ตั้งอยู่โดดเด่นและสวยงาม

เป็นอีกมุมถ่ายรูปสวยๆ เห็นแล้วอดใจไม่ได้ แวะจอดถ่ายรูปซัก 2-3 รูปหน่อย 555

และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงบริเวณเหนือสันเขื่อน ทันพระอาทิตย์ตกพอดี

เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากๆ มองไปเห็นวิวเขาสลับซับซ้อน สายน้ำ และวิถีชีวิตของคนในพื้นที่

หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปยัง อ.น้ำปาด กันต่อ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

เรามาถึงน้ำปาดก็มืดแล้ว เก็บของเข้าที่พัก และออกไปหาข้าวกินกันดีกว่า

โดยทริปนี้เราพักที่ วังน้ำเย็นฮิลล์ คืนล่ะ 450 บาท นอนได้ 2 คน

ห้องพักดูสะอาดตา เตียงใหญ่ นอนสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น

แถมยังมี Free wi-fi ให้เล่นถึงห้อง ไม่ต้องขาดการติดต่อจากโลกโซเชียลอีกด้วย เสร็จฉันล่ะ 555

เช็คอิน เก็บของเข้าที่พักกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาที่เรารอคอยแล้ว หาของกินซิครับ รออะไร...

มื้อนี้เรามาจัดหนักจัดเต็มกันกับเมนูอาหารพื้นบ้าน ที่สไตล์จะออกไปแนวๆ ประเทศเพื่อนบ้านหมู่เฮานั่นเอง

แซ่บอีหลีเด้อ พ่อ แม่ พี่ น้อง รสชาติอาหารถือว่าเด็ด หิวมากและมัวแต่กินเพลิน จนจำชื่อเมนูไม่ได้ซักอย่าง :p

ทานข้าวเสร็จเรียบร้อย ก่อนกลับที่พัก เราก็แวะดูเค้าตีดาบกันซักหน่อย บริเวณสะพานบ้านลุ่ม กันซักหน่อย

ใครสนใจอยากได้ดาบสวยๆ แนะนำให้มาที่นี่ได้เลยครับ ส่วนคนที่ชอบชักดาบไม่ต้องมานะ พี่เค้าฝากบอกมา 555+

อื้มหือ!! ดาบที่นี่แน่นมาก กล้ามเป็นมัดๆ... เดี๋ยวๆๆๆๆ ใช่เหรอออออ... 555+

เช้าวันต่อมา เราตื่นแต่เช้า เพื่อไปปั่นจักรยานชมบรรยากาศธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชุมชนน้ำปาดกันครับ

อ.น้ำปาด หมู่บ้านที่เราไปนั้นจะรายล้อมไปด้วยหุบเขาสลับซับซ้อน เป็นวิวที่สวยงามและไม่ค่อยได้เห็นกันซักเท่าไหร่

อากาศเย็นสบาย ปั่นจักรยานกันชิลมาก และที่นี่ยังมีชุมชนบ้านเรือนเก่าให้เราได้ปั่นชมกันด้วยครับ ชิลกันไปอีก...

ปั่นจักรยานชมวิวบ้านเรือนเก่า มองเห็นวิวเขาอยู่ไกลๆ ชิลมาก แต่เราไม่ได้ปั่นตลอดหรอกนะ บางทีก็เดินเอา เหนื่อย!!

เลยแวะหาของกินที่ตลาดยามเช้าเพื่อเติมพลังกันก่อนซักหน่อย ก่อนจะได้ไปเที่ยวกันต่อ

ชมบรรยากาศยามเช้าและวิถีชีวิตในชุมชนกันเรียบร้อยแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวต่อไปที่เราจะพาเพื่อนๆไปกันคือ

"อุทยานแห่งชาติคลองตรอน"

อุทยานฯ มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงต่ำสลับกัน มีแนวเทือกเขาที่สำคัญคือ เขาภูเมี่ยง

ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นและค้างคืนด้านบน ภูเมี่ยง ได้อีกด้วย

โดยใช้เวลาเดินเท้าขึ้นเขาประมาณ 2 วัน ถ้าใครเป็นสายโหด สายเดินป่า แนะนำให้ลองมาครับ

ซึ่งจะต้องติดต่อและให้เจ้าหน้าที่เป็นคนนำทางขึ้นไปเท่านั้น

ถนนไปอุทยานฯ ทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องขับรถอย่างระมัดระวัง และขับเลาะเขา

ถ้าเป็นหน้าหนาวจะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมตลอด 2 ข้างทาง ขับรถไปชมวิวไปเพลินๆ แต่ระวังด้วยนะ

ในอุทยานฯก็มีบ้านพักให้สำหรับนักท่องเที่ยวด้วยนะ เผื่อมาพักก่อนเดินขึ้นเขา

หรือถ้าไม่ขึ้นเขาก็สามารถพักได้เช่นกัน มาสูดอากาศสดชื่น ชมวิวธรรมชาติ ท่ามกลางหุบเขา

บ้านพักหลังนึงประมาณ 900 บาท มีห้องพัก 3 ห้อง ตกคนล่ะ 100 - 200 บาท เท่านั้นเอง

ส่วนอาหารก็จัดตรียมกันมาให้เป็นที่เรียบร้อย หรือ ถ้าใครขี้เกียจเตรียมมา ก็ลองติดต่อทางอุทยานฯดูครับ

หลายๆคนคงอยากเห็นวิวบน ภูเมี่ยง ไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติคลองตรอน กันเนอะ

เพื่อเพื่อนๆผมก็เลยเดินขึ้นเขาไปเก็บภาพมาฝากกัน...

ถรุ้ยยยยย...ใช่ที่ไหน เจ้าหน้าที่เค้าส่งภาพมาให้ดูเถอะ

แค่เดินถ่ายรูปยังเหนื่อยเลย จะเอาแรงที่ไหนไปขึ้นเขากับเค้า 555+

(ขอบคุณภาพจาก จนท.อุทยานฯ : คุณ @ชีวิตบนผืนเปล ลมหายใจเพื่อผืนป่า)

แค่เห็นภาพยังฟินขนาดนี้...ถ้าเป็นของจริงจะดีต่อใจแค่ไหนลองคิดดูกันเองเถอะ

มีทั้งทะเลหมอก มีทั้งแม่คะนิ้ง ฟินไปอีกกก...


เสร็จสิ้นภารกิจเดินเขา... ยังๆๆๆๆๆ ยังจะเดินเขาอีก :p

เราก็เดินทางกลับมาที่ น้ำปาด แวะเติมพลังกันซักหน่อย มื้อนี้เราจัดกันที่ร้าน "น้ำปาดซิตี้"

ร้านเค้าตกแต่งได้เก๋ๆ น่านั่งทีเดียวครับ มีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม


รสชาติอาหารร้านนี้ผมให้ผ่านครับ เมนูแต่ล่ะอย่างนี่เด็ดๆทั้งนั้น

แนะนำว่าถ้าแวะร้านนี้ควรสั่ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ต้ม และ ซีซ่าสลัด น้ำสลัดที่นี่เค้าทำเอง อร่อยเลิศ

บ้านวังน้ำต้น ต.ท่าแฝก อ.ท่าปลา

บ้านวังน้ำต้น ตั้งอยู่เหนือเขื่อนสิริกิติ์ ที่นี่มีบริการแพตกปลา สามารถกางเต็นท์ค้างแรม

และเรายังสามารถนั่งเรือไปชมพระอาทิตย์ตกกลางน้ำได้อีกด้วย บรรยากาศดีมาก น่ามานอนแคมปิ้ง

หากใครสนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้จากทางผู้ใหญ่บ้านนะครับ

เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ เราได้สอบถามกับพี่ๆที่ "น้ำปาด"

ว่าที่นี่มีจุดชมทะเลหมอกไหม ที่ไม่ต้องเดินนะ... ฮาๆ

สรุปว่ามีครับ... ที่ จุดชมวิวภูกระดิ่ง อยู่ระหว่างทางไปบ้านวังน้ำต้นที่เราผ่านไปมาเมื่อวานนี้เอง

วันที่ผมไปไม่เจอ แต่ก็ได้บรรยากาศวิวเขาธรรมชาติ รับลมหนาวเย็นสบาย

ขากลับ กทม. ขับรถผ่าน อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ เลยขอแวะชมและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย

เค้าว่าที่นี่เป็นต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะ อายุก็ราวๆไม่ต่ำกว่า 1,500 ปี เห็นจะได้...

และแล้วทริปนี้ก็จบลงด้วยความประทับใจ กับสถานที่ท่องเที่ยวอีก 1 แห่ง ของ จ.อุตรดิตถ์

ผมลองหาข้อมูลใน Internet เกี่ยวกับ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ มีข้อมูลน้อยมาก สำหรับทริปท่องเที่ยวในชุมชน

ลองถามพี่ๆในหมู่บ้าน ก็เห็นแจ้งว่า คนทั่วไปเค้าจะแวะมาค้างคืนแล้วก็ผ่านไปที่อื่นต่อ ไม่ได้มาท่องเที่ยวอะไร


อ้อ!! ลืมบอกไป 24-25 ธ.ค. 59 นี้ ที่ชุมชน อ.น้ำปาด จะมีงาน ตลาดถนนคนเดิน

ซึ่งเป็นงานใหญ่และน่าสนใจของที่นี่เลยครับ เห็นว่าปีที่แล้วคนไปเที่ยวกันเยอะมาก

ใครผ่านไปผ่านมา หรือ สนใจ ลองแวะไปเที่ยวกันได้นะครับ


ผมว่า น้ำปาด มีเสน่ห์และน่าสนใจ เพราะที่นี่เป็นหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา

มีบ้านเรือนเก่า ให้เที่ยวชมและถ่ายรูปสวยๆ มองไปเห็นเขาล้อมรอบ วิถีชีวิตที่เรียบร้อย ไม่วุ่นวาย

เหมาะมากกับการได้มาพักผ่อนและชาร์ทแบตให้กับตัวเอง ที่นี่มีดีกว่าจะเป็นเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้น

ถ้ามีการส่งเสริมให้จัดทำเป็นโฮมสเตย์เก๋ๆ ชิคๆ น่าพัก คงจะเป็นอีก 1 สถานที่ของ จ.อุตรดิตถ์

ที่รับรองได้ว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิีมอีกเยอะแน่นอน

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นข้อมูลและเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆที่สนใจท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติและชุมชนนะครับ

หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่ www.facebook.com/9aooddy.travel


ข้อมูลติดต่อสถานที่ท่องเที่ยว

- อุทยานแห่งชาติคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ : จนท. อู๋ 0862149495

- บ้านวังน้ำต้น ต.ท่าแฝก อ.ท่าฟาก จ.อุตรดิตถ์ : บริการแพตกปลา เรือชมพระอาทิตย์ตก : ผู้ใหญ่เริ่ม 0963207976


ขอบคุณและสวัสดีครับ

อู๊ดดี้
กินเพลิน เดินเที่ยว

ความคิดเห็น