รีวิวทั้งหมดในทริปนี้อยู่ล่างสุดค่ะ
ต่อจากตอนที่ 2 นะคะ บนเกาะมาฟูชิ จะมีทัวร์หลากหลายเจ้าให้เลือก ราคาแต่ละที่แทบจะเหมือนกันเลย แตกต่างกันน้อยมาก เว้นแต่เราจะต่อราคาได้ถูกเป็นพิเศษ เดย์ทริปส่วนใหญ่จะลดให้เราที่ 5-10 ดอลล่าร์ต่อคน
ทัวร์แต่ละเจ้าบางเจ้าเป็นแบบ Co-tour คือโรงแรมและทัวร์ต่างๆ หาคนจนครบ แล้วจึงออกเรือพร้อมกัน เพราะฉะนั้นบางทัวร์เราอาจถูกปฏิเสธในตอนเช้าเนื่องจากคนไม่ครบจำนนวนขั้นต่ำที่จะออกเรือได้ จำนวนขั้นต่ำของแต่ละที่จะแตกต่างกันไป
ทัวร์ที่นี่จะมีเสื้อชูชีพ ผ้าเช็คตัว หน้ากากดำน้ำ และตีนกบขนาดนั้นให้ใช้ฟรี ใครที่ต้องการตีนกบฟรีไดฟ์แบบยาวสามารถเช่าไปใช้ได้ค่ะ
เราจองทัวร์ดำน้ำตื้นกับ ICOM tours ก่อนจองเราเช็คกับเจ้าหน้าที่แล้วว่า วันที่เราจะเดินทางคอนเฟิร์มว่าออกเรือได้จริงๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องร้องเพลงลุ้นว่า จะได้ออกเรือไหมนะ จะได้ออกเรือหรือเปล่า...
เจ้านี้หาง่ายมากค่ะ เพราะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับท่าเรือเลย ดูทรงจะเป็นเจ้าใหญ่ของที่นี่ นอกจากบริษัททัวร์ และเฟอร์รี่แล้ว เขายังมีโรงแรมอยู่่บนเกาะด้วยค่ะ
ด้านในเป็นห้องแอร์ ฝั่งซ้ายจะขายตั๋วเรือเฟอร์รี่ ฝั่งขวาจะขายทัวร์ดำน้ำ
ทัวร์ที่เราจองคือ Fishtank day trip (ราคาป้าย 65 ดอลล่าร์ต่อคน) กับ Shipwreck day trip (ราคาป้าย 70 ดอลล่าร์ต่อคน)
สองทริปรวมกัน ลดเหลือ 125 ดอลล่าร์ต่อคน
หมายเหตุ:
Fishtank day trip ราคาถูกสุดที่เราเจอคือ ของ Kaanihotelราคา 55 ดอลล่าร์ต่อคน แต่ออกเรือที่ขั้นต่ำ 15 คน
Shipwreck day trip เจ้านี้คือถูกสุดที่เราเจอแล้ว แถมไปที่เกาะ Fulidhoo ที่เห็นกระเบนและฉลามได้ตั้งแต่หน้าหาดเลย ทริปนี้ของเจ้าอื่นจะตั้งราคาอยู่ที่ 75 ดอลล่าร์
ตั๋วที่ได้ ด้านบนระบุเวลานัดพบที่ร้าน
เมื่อถึงเวลาเขาจะเรียกให้ไปลองหน้ากากและฟิน หน้ากากแนะนำให้เช็คตัว mouthpiece ดีๆ นะคะ อันแรกของเราน้ำมันเข้าทาง mouthpiece แทบจะตลอดเวลา จนต้องขอเปลี่ยน ดีที่เขามีอันสำรอง (จริงๆ คืออันที่mouthpiece เสียแล้ว แต่น้ำไม่เข้าก็ถือว่าโอเคล่ะ)
ที่นี่เขาดูไม่ได้ทำความสะอาดหน้ากากและตรวจความเรียบร้อยของอุปกรณ์เท่าไหร่ เราจึงต้องตรวจสอบเองก่อนออกเรือ ถ้าเราไม่มั่นใจในอุปกรณ์ขอเขาเปลี่ยนได้ค่ะ
Fishtank day trip tour - ทริปลงตู้ปลา
สรุปรีวิวสั้นๆ – เหมาะกับคนที่ต้องการดูกระเบนค่ะ ดำน้ำแค่สองรอบ แต่อิ่มกระเบนตั้งแต่ลงน้ำครั้งแรกแล้วค่ะ
ทริปนี้มีทั้งหมด 11 คนค่ะ เป็นคนไทยไป 3 กลุ่ม รวมกัน 7 คน ที่เหลือเป็นคนสเปน กับชาติอื่นๆ
เห็นในคลิปคือปลาเยอะมาก เลยอยากไป อยากไปดูน้องกระเบน และสตันท์ไปหลายวินาทีเมื่อเรือมาจอดใกล้ฝั่ง ซึ่งเป็นโรงงานปลาทูน่า
เอ๊ะ แบบ เอ๊ะ เอ๊ะ
โรงงานปล่อยเศษปลาทูน่าลงทะเล พวกสัตว์ทะเลเลยมาออกินกัน กลายเป็นจุดดำน้ำ fishtank = = และเมื่อเรือมาถึง คนเรือก็ให้อาหารปลาเพื่อให้ปลามารุมด้วย อ่า วิถีการเที่ยวของมัลดีฟส์เขาล่ะ ถ้าเป็นที่ไทยนี่โดนด่าเปิดด่าเปิงไปแล้ว แต่เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม
แต่เจอปลาเยอะมากก ปลาไม่มีอาย น้ำใส ไม่ต้องดำก็มองเห็นปลาหลากหลาย แต่จะดำลงไปที ต้องเล็งระวังหน่อย เพราะมีออพชันให้เลือกบาดเจ็บหรือตายเยอะมาก ไม่ว่าจะงูทะเลกัดตาย ปลาไหลมอร์เล่กัดนิ้ว ปลาวัวแอคแทค กระเบนฟาดหาง และ ปลาปักเป้าเป่าปู้ดด 55
เสียดายที่ไกด์ถ่ายในจุดที่ปลาชุม ภาพปลาเลยไม่หลากหลาย แต่ถ้าเราลอยห่างจากจุดปลาชุมไปหน่อย
มันจะว้าวมากเลย ปลาว่ายกันไปมาให้ขวักไขว่ ว่ายกันไม่หยุด กระเบนนี่น้องชนแบบไม่สนใจเราเลย นอกจากนี้ก็เจอฉลามครีบดำ และครีบขาว ปลายูนิคอร์น
ทริปนี้ได้ไปดำน้ำ 2 จุด อีกจุดดำใกล้กับเกาะรีสอร์ทอื่น สภาพปะการังคือไม่มีอะไรน่าสนใจ มีปลาว่ายเป็นระยะๆ
Shipwreck day trip ทริปไปดูเรืออัปปาง เยี่ยมเยียนกระเบนบนเกาะ Fulidhoo และว่ายน้ำกับฉลามพยาบาล
รีวิวสั้นๆ - คุ้มค่ามากค่ะ ทริปนี้ว่ายน้ำกับน้องฉลามพยาบาลสนุกมากก แต่ถ้าคนเยอะอาจจะน่าเบื่อหน่อย เพราะทัวร์นี้เขาขายภาพถ่ายโดรนด้วย คนละ 15 ดอลล่าร์ต่อจุด ทัวร์นี้มีให้ถ่ายทั้งหมด 3 จุด ก็รอกันไปยาวๆ เลยค่ะ จนกว่าจะถ่ายกันเสร็จ
เราไปวันที่ 24 ธันวาคม วันที่เราไปทริปนี้มีคนทั้งหมด 20 คน ถือว่าค่อนข้างเยอะ สตาฟมี 3 คน (รวมคนขับ) เรือเฟอร์รี่ของที่นี่เขาจะเป็นลำเล็กๆ ไม่ใหญ่ ถ้าเทียบกับที่ไทย นั่งกันได้พอดี ไม่ถึงกับอึดอัด แต่ก็ไม่ได้โล่ง
ส่วนวันต่อมาซึ่งเป็นวันคริสมาสต์ มีคน 26 คน สตาฟมี 4 คน(รวมคนขับ) ซึ่งเยอะมากกก
เรืออัปปาง
เข้าใจว่าเขาตั้งใจเอามาตั้งไว้ตรงนี้ให้ปะการังมาเกาะ
มีปะการังเกาะตามจุดต่างๆ สัตว์แปลกไม่เยอะ เน้นมาดูของแปลก
และมีจักรยานให้ดำลงไปปั่นด้วยค่ะ
ใต้ท้องเรือจะกัลปังหาด้วย แต่ลึกเกินไปสำหรับเรา เลยได้แต่มองจากไกลๆ แทน
แวะขึ้นเกาะ Fulidhoo เพื่อถ่ายรูปกับปลากระเบน และเช่นเดิมค่ะ เขาให้อาหารล่อปลา - -
เกาะนี้เป็นเกาะที่เราอยากมาพักค่ะ แต่วางแผนเปลี่ยนกระชั้นชิดเกินไป ที่พักมีแต่ราคาสูงๆ คือ 2 คืนประมาณ 4-6 พันบาท/2 คน
เรือสาธารณะที่มาเกาะนี้ จะมีแค่วันละครั้งและออกวันเว้นวันเท่านั้น - รายละเอียดเรื่องเรือ https://th.readme.me/p/74117
ใครที่มาพักบนเกาะนี้ หากพ้นช่วงทัวร์มาจอดแล้ว ปลากระเบน และฉลามก็จะวนเวียนอยู่แถวนี้ค่ะ
วิวบนหาด
จุดต่อไป กลายเป็นจุดไฮไลต์ของทริปนี้เลยคืออออ ปลาฉลามพยาบาลลล
และเช่นเดิมค่ะ ให้อาหารล่อปลา...
เจ้าหน้าที่จะบรีฟก่อนลงว่า ให้เราว่ายรอบนอกปลาฉลาม อย่าว่ายเข้าไปกลางวงฉลาม และอย่าเอามือไปแตะปากฉลาม เพราะแม้ฉลามพยาบาลจะเป็นฉลามขี้เซา และขี้เกียจ แต่ถ้าเราเอามือไปแหย่มัน มันก็งับเอาได้ค่ะ
ตอนแรกมีแค่เรือดำน้ำตื้น
สักพักมีเรือดำน้ำลึก สองลำจอดใกล้ๆ และตู้มมมม แบ่งกันไปดู ชาวสคูบ้าดำลงไปด้านล่าง ชาวดำน้ำตื้นดำผุด ดำว่ายอยู่ด้านบน
มีการถ่ายโดรนกับปลาฉลามด้วย เสียเงินเพิ่มค่ะ ถ้าถ่ายแบบลอยตัวในน้ำกลางดงฉลามเฉยๆ จะอยู่ที่คนละ 15 ดอลล่าร์ ถ้ามีเรือยางด้วย จะคนละ 25 ดอลล่าร์
การถ่ายแบบลอยตัวเอง เขาจะให้เก็บมือและใส่ฟิน เพื่อกันน้องเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาหารค่ะ
เรายังจำโมเม้นต์ที่กำลังว่ายน้ำกลับเรือ แล้วจู่ๆ หัวปลาชิ้นโตก็หล่นตุ้บ...ข้างหน้าเรา
เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง กลายเป็นว่าเราว่ายทะลุกลางดงฉลามในฉับพลัน 5555 เก็บไม้เก็บมือแทบไม่ทัน 555
ตัวอย่างภาพที่ได้ ส่วนเราจะได้ถ่ายกับฉลามมากหรือน้อย อันนี้ขึ้นกับเมตตาจากทีมสตาฟค่ะ
สองรูปนี้เป็นทัวร์ Icom เหมือนกัน ห่างกันแค่วันเดียว
แต่ทริปของเราพอไปถึงจุดฉลาม สตาฟเห็นว่ามีเรืออยู่ค่อนข้างเยอะ คือประมาณ 10 ลำ เลยผ่านไปก่อน แล้วค่อยกลับมาตอนบ่ายอีกที
มันเป็นการให้อาหารเรียกปลา ยิ่งเรือเยอะ ปลาที่มาก็จะน้อยลงค่ะ
รูปล่างคือทริปวันที่เราไปค่ะ ฉลามเยอะแบบตะโกน เพราะตอนนั้นเหลือเรือเราแค่ลำเดียว
ตอนเที่ยงก็จะพักกันที่แซนแบงค์ หรือคนไทยจะเรียกว่าสันหลังมังกรค่ะ สตาฟจะลงไปปักร่มให้หลบร้อนแล้วแจกจ่ายอาหารเที่ยง
เอาตรงๆ ก็คือมันไม่มีอะไรเท่าไหร่ค่ะ แล้วแต่คนชอบ ถ้าใครชอบจะถ่ายโดรนบนเกาะนี้ด้วยก็ได้ เสียเพิ่มคนละ 15 ดอลล่าร์ แต่ถ้าถ่ายคู่จะได้ถูกลงมาอีกค่ะ
พูดถึงข้อดีแล้ว มาพูดถึงข้อเสียบ้าง
ข้อเสียสองอย่างของทัวร์เจ้านี้คือ
1. อาหารเที่ยง
อาหารเที่ยงคือ อห ที่ไม่ใช่โอ้โห้ค่ะ ไม่เคยเจออาหารเที่ยงทัวร์ที่ไหนแย่เท่านี้แล้ว
เราสั่งแบบ มังสวิรัติ สิ่งที่ได้คือ ตามภาพสอง ข้าว น้ำซอสสักอย่าง กับผัก 4 ชิ้น และมีน้ำผลไม้กับแอปเปิ้ลหนึ่งลูก
นี่คือภาพที่เปิดกล่องมาแบบยังไม่ได้ตักอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
ตอนซ์้อทัวร์เราก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า เราเป็นมังสวิรัติ เจ้าหน้าที่เขาเขียนรีมาร์กไปว่า Non-meat เราคิดว่าเป็นเพราะเหตุนี้แหละค่ะ ตอนนั้นก็แย้งไปแล้วว่าให้ใช้คำว่า Vegetarian ดีกว่าไหม เขาบอกได้ ไม่มีปัญหา เป็นไงล่ะ
ในขณะที่แบบปกติ จะได้ผัก 2 ชิ้นและเนื้อสัตว์ 1 ชิ้นถ้วน เป็นข้าวกล่องที่ดูอนาถาไม่ต่างกันเท่าไหร่เลย
ถ้าเทียบกับทัวร์ดำน้ำไทย คือห่างกันราวหน้ามือกับหลัง...ค่ะ
คนรู้จักเคยไปกับเจ้านี้เมื่อหลายปีก่อนเช่นกัน ข้าวกล่องทำนองเดียวกันเลย แค่ได้ไก่ชิ้นใหญ่กว่ากันเท่านั้นเองค่ะ ดูจะเป็นสไตล์อาหารเที่ยวอนาถาของเขาล่ะ
หลังจบวันแรกเราก็ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ เจ้าหน้าที่ก็ตอบมาแบบไม่ค่อยมี Service mind เท่าไหร่ แล้วเขาให้ทักไปทาง Whatapp เพื่อแจ้งสิ่งที่เราต้องการ เราเลยแจ้งไปว่าขอผักเยอะขึ้น เพราะเราเป็นมังสวิรัสติ
วันต่อมาก็ลุ้นอยู่ว่าจะได้อาหารแบบไหน แต่ไม่คาดหวังว่าจะได้ดีกว่าเดิมเลยค่ะ แต่ลงท้ายก็ได้ดีกว่าเดิม ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนั้นไปที่ช่วยประสานให้
เราได้ผักเยอะขึ้น ส่วนเมนูปกติ ได้เส้นสปาเก็ตตี้และไก่หนึ่งชิ้นเล็กเหมือนเดิม
2.เรื่องการบริการหลังการขาย – ถ้าเทียบกับไทยคือสอบไม่ผ่านค่ะ 555 มีจุดให้ฮึ่มฮั่มหลังการขายเยอะอยู่ แต่ก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้ แต่ถ้าเลือกได้ แนะนำให้ลองกับทัวร์เจ้าอื่นดูเป็นทางเลือกค่ะ ได้ยินว่าทัวร์เจ้าอื่น เช่น Salt tour อาหารดีกว่านี้ค่ะ
รีวิวทั้งหมดในทริปนี้
1.สรุปแพลน ค่าใช้จ่าย https://th.readme.me/p/74117
2.รีวิวเกาะท้องถิ่นมาฟูชิ Maafushi https://th.readme.me/p/74118
3.รีวิวเกาะท้องถิ่นกูลี่ Gulhi ประเทศมัลดีฟส์ https://th.readme.me/p/74119
4.รีวิวเดย์ทริปดำน้ำตื้นทะเลมัลดีฟส์ กับ ICOM tours https://th.readme.me/p/74120
5.รีวิวเดย์ทริปเกาะรีสอร์ททะเลมัลดีฟส์ กับ Sun Siyam Olhuveli resort islands https://th.readme.me/p/74121
Duck's journey
วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 21.34 น.