วันที่ 11 มกราคม 2568
สวัสดีครับ หลังจากที่ผมนั้น หาโอกาศเหมาะๆมานาน ที่จะได้เดินทางมาพิสูจน์ความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคที่ถ้ำนาคา สุดโด่งดังแห่งนี้
วันนี้ ผมก็ได้มีโอกาศเดินทางมาพิสูจน์ด้วยตาตนเองแล้วครับ
หมายเหตุ: และหลังจากที่ผมได้เดินทางไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆของทั้ง "ถ้ำนาคา" และ "ถ้ำนาคี" นั้น ผมขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวสายถ่ายรูปทุกคนนั้น เดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่ทั้ง 2 แห่งนี้ ในช่วงฤดูฝนครับ เพราะว่าท่านก็จ่าที่จะได้รูปที่สวยงามกว่าในช่วงหน้าหนาว และหน้าร้อนครับ
และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ "โลคอลไกด์" นั้น เค้าก็บอกว่า ในช่วงฤดูฝนนั้น ก็จะเปิดให้เข้าชมตามปกติ โดยถ้าวันไหนนั้นฝนตก นักท่องเที่ยวก็จะยังสามารถเดินขึ้นได้ครับ (ขึ้นอยู่กับว่า ใจสู้หรือเปล่าครับ ไกด์เค้าบอกมาอย่างนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า)
ส่วนถ้าวันไหนฝนตกหนักจริงๆ เค้าก็จะรอให้ฝนนั้นเบาลงก่อน และรอให้น้ำป่าที่ค้างอยู่นั้น ให้ระบายออกไปก่อน ก็จะเปิดให้ขึ้นได้ครับ เพราะว่าสถานที่แห่งนี้นั้น ค่อนข้างไกล เค้าก็เลยไม่อยากให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยความตั้งใจนั้น ต้องผิดหวังครับ
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยครับ
โดยจริงๆแล้ว ที่บริเวณทางเดินขึ้นนั้น เค้าก็มีที่พักให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้พักกันอย่างสะดวกสบายน๊ะครับ คืออยู่ติดกับลานจอดรถเลย ราคา 700 บาทครับ (คือตื่นเช้ามา ก็ไปเดินขึ้นได้เลย)
แต่เนื่องจากว่า ในวันที่ผมเดินทางมาถึงนั้น ผมเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวชมที่ "วัดภูทอก" ก่อน ผมก็เลยเลือกพักที่ตัวอำเภอเซกา ที่ห่างออกไปประมาณ 20 นาที (ผมพักที่รีสอร์ทชานเมือง ราคา 300 บาทเองครับ)
โดยรีสอร์ทที่ผมพักนั้น มันเป็นแบบเอารถจอดที่ด้านหน้าห้องพักได้เลย พอตื่นเช้าปุ๊บก็สามารถขับรถออกมาได้เลย
และในระหว่างที่ขับรถมา ผมก็ทำการจอดรถถ่ายรูปซักหน่อย
โดยวัดที่อยู่บนหน้าผาแห่งนี้นั้น ก็คือ 1 ในสถานที่ ที่อยู่ในจุด Check Point ในทริปการเดินในวันนี้ครับ
ต้องถ่ายให้ติดบึงด้วย อิอิ
แสงกำลังสวยเลยครับ
และหลังจากจอดรถแล้ว ผมก็ทำการซื้อเสบียงครับ เพราะว่าโดยเฉลี่ยแล้ว สำหรับทริปการเดินที่นี่นั้น จะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงครับ
และผมก็เลือกที่จะซื้อ ข้าวเหนียวหมูทอด และเนื้อแดดเดียวครับ เพราะว่ามันพกง่ายครับ
และสำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมรองเท้าผ้าใบมา ผมแนะนำให้ซื้อรองเท้าผ้าใบ และถุงเท้าที่ใส่สบายๆ ในการเดินขึ้นเขาครับ
และสำหรับคนที่ผมยาวๆนั้น ผมก็แนะนำว่าให้ซื้อหมวกด้วยครับ เพราะว่าข้างบนนั้น ลมแรงมากๆ ย้ำว่า แรงมากแบบยืนแทบไม่อยู่จริงๆครับ
เด๋วจะถ่ายรูปไม่สวย ฮ่าฮ่าฮ่า
และก็จริงๆแล้ว มันมีของอีก 1 อย่าง ที่ผมในตอนแรกนั้น ก็ไม่เข้าใจว่า เค้าจะเอามาขายทำไม ซึ่งนั่นก็คือ "พัด" ครับ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา)
แต่พอผมเดินขึ้นเขาไปได้ซักพัก ผมก็เลยรู้ครับว่า เค้าเอามาวางขายทำไม
เพราะว่าจริงๆแล้ว สถานที่ท่องเที่ยว สไตล์เดินขึ้นเขาแบบค่อนข้างโหดเอาเรื่องนี้ มีผู้สูงอายุค่อนข้างแย่ะครับ แล้วพอเดินไปได้ซักพัก เหล่าคนสูงอายุเหล่านี้ ก็จะเป็นลมกันครับ
ดังนั้น ถ้าสมาชิกร่วมทริปของคุณนั้น มีผู้สูงอายุอยู่ ก็ขอให้แว่ะซื้อพัดติดไปด้วยครับ (แต่จริงๆแล้ว โลคอลไกด์ ที่เดินพาทุกท่านขึ้นไปนั้น พวกเขาก็พกพัดไปกันอยู่แล้วครับ) แต่ก็ตามสุภาษิตโบราณที่ว่าไว้ "หลายพัดนั้น ย่อมดีกว่าพัดเดียว"
เรียกได้ว่า ภาพของการช่วยกันพัดให้กับนักท่องเที่ยวสูงอายุ ที่กำลังหน้ามืดอยู่นั้น จะมีให้เห็นอยู่ตลอดในช่วงแรกของการเดินขึ้นเลยครับ
จริงๆแล้ว ตรงทางเดินขึ้นนั้น อยู่ในอาณาเขตของวัดน๊ะครับ
และหลังจากที่ผมติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอ "โลคอลไกด์" นำทางนั้น ผมก็เริ่มเดินขึ้นในเวลาประมาณ 07:30 น. ครับ
โดยไกด์ 1 คนนั้น จะดูแลนักท่องเที่ยวได้ 6 ครับ และจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500 บาทครับ
และผมนั้นเลือกที่จะเดินไปแบบคนเดียว 1 ต่อ 1 ครับ
ก่อนเริ่มเดินนั้น ก็จะมีศาลแห่งนี้ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะขอพร ก่อนเดินขึ้นครับ
"บึงกาฬ ดินแดนแห่งบันได"
ในระหว่างทางเดินขึ้น เราก็จะพบกับเศียรแรกครับ
ในระหว่างทางเดิน ก็จะมีห้องน้ำอยู่ครับ
ส่วนตรงนี้ ต้องมาเดินหน้าฝนครับ
ลวดลายสวยพอสมควรเลยครับ
บันได
บันไดแดง จุดถ่ายรูปสุดฮิตครับ
บันไดสูงมากๆครับ
จุดชมวิว
แล้วก็บันไดสุดท้าย ก่อนขึ้นไปถึงหน้าผาด้านบนครับ
เกร็ดความรู้: สำหรับ "โลคอลไกด์" ที่ "ถ้ำนาคา" และ "ถ้ำนาคี" นั้น พวกเค้าหลายๆคนจะมีความสามารถพิเศษอยู่ 1 อย่างที่สำคัญครับ นั่นก็คือ การรู้มุมถ่ายรูปสวยๆครับ ดังนั้น ถ้านักท่องเที่ยวคนไหนนั้น เคยใช้บริการของไกด์คนไหน แล้วพบว่าเค้าถ่ายรูปสวยนั้น ก็ขอให้จำเค้าเอาไว้ครับ เพราะว่า ไกด์ ที่นี่นั้น สามารถระบุแบบจองตัวได้ครับ
อัยย่ะ มีป้ายผู้พิชิตด้วยๆๆๆ
และจริงๆแล้ว ตรงป้ายผู้พิชิตนี้นั้น ก็อยู่ตรงจุดทางลงในจุดถ่ายรูปที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของการเดินในครั้งนี้ครับ
ซึ่งนั่นก็คือ ช่วงลำตัวที่อยู่ในรูปภาพหน้าปกของรีวิวนี้ นั่นเหลอะครับ
อัยย่ะ หนีรถติดจากกรุงเทพ มาเจอคนติด อยู่ที่นี่
นั่นงัยเห็นแล้ว อยู่ข้างหน้าเอง
นี่ครับ จุดที่สวยที่สุดของที่นี่
สวยมากครับ แต่ก็อย่างที่บอก ผมคิดว่าช่สงหน้าฝนก็น่าที่จะสวยกว่านี้ครับ
คลิปบริเวณลำตัว ที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของที่ถ้ำนาคาครับ
https://fb.watch/xiUDVtn9_7/
หมายเหตุ: สำหรับจุดถ่ายรูปสุดฮิตบริเวณนี้นั้น ผมคิดว่า ทางเจ้าหน้าที่บริเวณนี้เค้าจัดการได้อย่างดีมากๆเลยครับ เพราะว่าทางโลคอลไกด์ ที่เค้ารู้จักมุมถ่ายรูปต่างๆอยู่แล้ว เค้าก็จะมีการปิดกั้น ไม่ให้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ไปยืนอยู่แกะกะในบรเวณถ่ายรูป และเค้าก็จะเรียกนักท่องเที่ยวในกลุ่มของตัวเองให้ไปยืนอยู่ในจุดถ่ายรูปสวยๆ แล้วก็จะรีบถ่ายรูป เพื่อเร่งระบายนักท่องเที่ยว ที่มายืนออกันอยู่เป็นจำนวนมากครับ
ดังนั้น ขอให้มั่นใจได้ว่า ทุกท่านจะมีรูปสวยๆอย่างแน่นอนครับ
คลิปในบริเวณเดียวกับช่วงลำตัว ที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของที่ถ้ำนาคาครับ
https://fb.watch/xiUH-IGr0G/
https://fb.watch/xiUIE6R25J/
ตรงนี้จะเป็นจุดขอพรอะไรซักอย่างของ "สายมู" ครับ
ต้องยืนเรียงแถวกันครับ แล้วก็รู้สึกว่า ตรงนี้จะมีบทสวด ที่ทางโลคอลไกด์ เค้าจะคอยบอกด้วยครับ
และหลังจากที่ผมเดินถ่ายรูปในบริเวณจุดไฮไลท์อยู่ซักพักใหญ่ๆ ผมก็เดินไปยังจุดอื่นต่อครับ
ขนาดลวดลายบนพื้นด้านบนหน้าผา ก็ยังสวยครับ
และสำหรับ วัดที่เห็นอยู่ไกลๆตรงนี้นั้น ก็คือวัดที่ผมถ่ายรูปได้จากด้านล่าง เมื่อตอนเช้าตรู่ครับ
หมายเหตุ: และสำหรับจุดท่องเที่ยว ที่เป็นจุดชมวิวตรงนี้นั้น ถ้านักท่องเที่ยวคนไหนนั้น ที่มีเวลาน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องเดินไปก็ได้น๊ะครับ (มันเป็นจุดเดิน ที่ต้องเดินไป และเดินกลับมาทางเดิมครับ) เพราะว่าตรงบริเวณนั้น ไม่มีเศียรงู หรือพญานาค ให้ถ่ายรูปแต่อย่างใด (สามารถบอกไกด์ ให้พาเดินตรงไปยัง "ถ้ำหลวงปู่วัง" ที่เป็นจุดถ่ายรูป เศียรพญานาค ได้เลยครับ)
แว่ะถ่ายรูปพื้นหินสวยๆครับ
เป็นอีก 1 ทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีทุนทรัพย์สูงครับ ฮ่าฮ่าฮ่า
ถึงแล้วครับ วัดที่อยู่บริเวณ "ผาใจขาด"
วิวด้านล่างตรงบริเวณ "ผาใจขาด" ครับ
อัยย่ะ แสงกำลังสวยเลยครับ
แล้วผมก็เดินมายังอีกจุด ที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก
อัยย่ะ ลานหินตรงนี้มันเอียง เหมือนกับที่ "วัดภูทอก" เลย
"ถ้ำหลวงปู่วัง"
ผมขอแนะนำว่า ตรงบริเวณนี้ เป็นบริเวณที่เหมาะสำหรับนั่งรับประทานอาหารที่พกมาครับ เพราะว่าถ้านั่งกินบริเวณอื่น
สำหรับบรรยากาศตรงนี้ จะค่อนข้างคึกคักหน่อยน๊ะครับ เพราะว่าตรงบริเวณจุดนี้ จะเป็นที่นิยมของ "สายมู" ครับ
หมายเหตุ: สำหรับที่นั้น จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนนั้น นิยมมาทำพิธีที่เรียกว่า "เปิดทรัพย์" โดยเจ้าหน้าที่โลคอลไกด์นั้น ก็จะอธิบายว่า นักท่องเที่ยวนั้น สามารถเอากระเป๋าเงิน หรือธนบัตร มาทำพิธีตรงบริเวณปากของพญานาคนี้ และก็ทำพิธีสวดขอพรกันครับ
และที่บริเวณที่ติดกันเลยนั้น ก็เป็นที่ตั้งของ เศียรพญานาค เศียรที่ 1 ครับ
คลิปของเศียรพญานาค เศียรที่ 1 ครับ
https://fb.watch/xi-BBN6YRL/
และหลังจากนี้นั้น ก็เป็นการเดินในขากลับแล้วครับ
โดยในขาเดินกลับนั้น ก็จะยังมีเศียรพญานาค ให้รับชมอยู่น๊ะครับ
ปล. จริงๆแล้ว เศียรนี้ ก็เป็น 1 ในเศียรที่สวยมากๆครับ
แต่เนื่องจากว่าในช่วงฤดูนี้นั้น เป็นฤดูที่แห้งแล้งครับ ภาพที่ได้ ก็เลยจะดูไม่สวยเหมือนกับในฤดูฝนครับ
คำอธิบายเกี่ยวกับ ปรากฏหารณ์ Sun Crack ครับ
และสำหรับทริปการเดินนี้ของผมนั้น ผมใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งครับ
และหลังจากนั้น ผมก็ไม่รีรอที่จะเดินทางไปยัง "ถ้ำนาคี" ต่อในวันเดียวกันครับ
แบกกล้อง
วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 14.49 น.