รีวิวนี้จะพาไปผจญภัยโลกใต้ดินที่สโลวีเนียกันค่ะ ส่วนลิงค์ตอนอื่นๆ ในทริปนี้อยู่ด้านล่างสุดค่ะ
ถ้ำดังๆ ที่สโลวีเนีย ปัจจุบันมีอยู่ 2 ถ้ำคือ Postojna Cave ถ้ำ 3 ล้านปี และ Skocjan cave ถ้ำแคนยอนใต้ดิน
Postojna Cave - ถ้ำหินงอกหินย้อยอายุ 3 ล้านปี และเป็นถ้ำที่เปิดให้คนเข้าชมที่ใหญ่สุดในยุโรป
ถ้ำนี้เคยเป็นทางผ่านของน้ำใต้ดิน แล้วน้ำเคลื่อนที่ลึกลงไป ทำให้กลายเป็นช่องว่าง เกิดเป็นหินงอกหินย้อยจากน้ำฝนที่ซึมลงมา แล้วรวมเป็นแม่น้ำด้านล่าง

มันใหญ่มากกกกกกกก หินงอกหินย้อยชิ้นยักษ์มากเช่นกัน เราเคยเข้าถ้ำในไทยหลายถ้ำ ถ้ำแบบธรรมชาติ๊ ธรรมชาติที่สุดในไทยที่เราเคยไปคือถ้ำแม่ละนา เพราะเป็นถ้ำที่เปิดเพียงบางฤดู ต้องใส่ไฟฉายคาดหัวเดินข้างใน แต่เราไม่เคยเจอหินงอกหินย้อยที่ไหนใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย

ของจริงสวยกว่านี้ กล้องมือถือเราถ่ายที่มืดแบบไม่ตีแฟลชไม่ชัด แล้วเขาห้ามใช้แฟลช เลยออกมาแบบนี้แหละ 55


แม้จะสวยและยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่เรารู้สึกว่านักท่องเที่ยวเยอะเกินไป กรุ๊ปรอบเรามีประมาณ 50-100 คน เดินกันเป็นพรวนในถ้ำ ทำให้เราแอบรู้สึกเบื่อตั้งแต่ 30 นาทีแรกแล้ว (ทัวร์นี้ใช้เวลาประมาณ 90 นาทีต่อรอบ)



ค่าเข้าถ้ำนี้ค่อนข้างแพง จะมีรอบเข้าพร้อมไกด์ชั่วโมงละหนึ่งรอบ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีหลายแพกเกจ หลายราคา ตามแต่ความสนใจ ว่าเราอยากเข้าอะไรบ้าง เราไปช่วงปลายซีซั่นแล้ว เลยไปซื้อตั๋วหน้างานค่ะ แค่ดูประเภทตั๋วที่จะซื้อล่วงหน้าเฉยๆ
ตัวอย่างแพ็กเกจ

ที่มาของรูป https://www.postojnska-jama.eu...
หนึ่งในนั้นมีพิพิธภัณฑ์สัตว์ถ้ำด้วย (Vivarium) ตอนแรกเราว่าจะซื้อตั๋วแพกเกจรวมพิพิธภัณฑ์สัตว์ถ้ำ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ซื้อค่า ตั๋วรวมค่าเข้าถ้ำกับปราสาทPredjama แทน
ในถ้ำนี้ สิ่งมีชีวิตที่โด่งดังคือ baby dragon สิ่งมีชีวิตในถ้ำ ไม่มีตา ไม่ชอบแสง และสามารถอยู่โดยไม่มีอาหารได้ถึง 10 ปี
ไกด์ในอีกถ้ำหนึ่ง (ไม่ใช่ถ้ำนี้) เล่าว่า เคยมีคนลืมสัตว์ตัวนี้ไว้ในห้องวิจัยที่ปิดตัวลง เมื่อกลับมาเจอมันอีกทีในหลายปีต่อมา กลับพบว่ามันยังมีชีวิตอยู่ทั้งที่อดอาหารมานานหลายปีแล้ว

Source https://edition.cnn.com/travel...
ต่อให้เราไม่ซ์้อตั๋วเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์สัตว์ถ้ำด้วย (Vivarium) เราก็จะได้พบกับน้อง baby dragon ตัวเป็นๆ อยู่ดีค่ะ ตู้ดำๆ ตรงกลางทางเดิน คือตู้ที่มี baby dragon อยู่

จุดที่ทำให้เรารู้สึกว้าวไม่สุด คือมันเป็นถ้ำเพื่อการพาณิชย์ที่ชัดเจนมาก มีการทำรางรถไฟ (นั่งรถไฟเข้า ออกถ้ำ) ปูคอนกรีต ทำทางเดิน ติดตั้งไฟส่องสว่าง มีแม้กระทั่งทำร้านค้า และทำห้องน้ำเก็บเงินในโถงถ้ำ! วอทททท
เอาจริงๆ มันคือการทำลายธรรมชาติค่ะ คาดว่าระบบนิเวศที่แท้จริงภายในถ้ำถูกทำลายไปหมดแล้ว สัตว์ถ้ำที่แท้จริง แม้แต่ baby dragon ก็หนีลึกลงไปใต้ดิน เพราะสู้แสงไฟ และเสียงผู้คนไม่ไหว

แถมโดนความร้อนทั้งจากแสงไฟ และไอความร้อนจากตัวนักท่องเที่ยวเอง ต่อให้ในถ้ำจะอุณหภูมิ 10 องศาก็เถอะ คิดว่าหินงอกหินย้อยตรงส่วนนี้อาจตายไปเยอะแล้ว บางจุดนี่เดินเฉียดหินงอกแทบจะเส้นยาแดงผ่าแปดเลยค่ะ
หากเราเอามือไปสัมผัสหินงอกหินย้อยพวกนี้ น้ำมัน หรือไอความร้อนจากมือคนจะไปติด ทำให้บริเวณนั้นหยุดการงอกต่อ
ไกด์บอกว่าหินงอกย้อยในนี้ยาวขึ้น 1 ซม ในทุกๆ 100 ปี นั่นแหละ ตายหรือไม่ตายก็ไม่รู้แล้ว ใครจะไปนั่งวัด ผับผ่าสิ
ที่่นี่ใช้วิธีเข้าออกจากถ้ำด้วยรถไฟ ระหว่างที่นั่งรถไฟ ก็จะเห็นหินงอก หินย้อยในถ้ำระหว่างทางด้วย


เมื่อเราเดินออกมา ก็จะเจอกับทางน้ำใต้ดิน มันคือแม่น้ำสายเดียวกับที่เคยทำให้เกิดถ้ำนี้ขึ้น ปัจจุบันมันอยู่ลึกลงกว่าเดิมแล้ว

การเดินทาง
ถ้ำนี้สามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับจากลูบลียานา เมืองหลวงสโลวีเนียได้ สามารถนั่งได้ทั้งบัส และรถไฟ แต่บัสจะสะดวกกว่า เพราะสายเดียวถึงถ้ำเลย
หากซื้อออนไลน์สามารถซื้อผ่านเว็ปไซต์ www.ap-ljubljana.si ได้เลย (จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้) จะราคา 7.1 ยูโร
หรือซื้อที่สถานีรถบัส (จ่ายสดเท่านั้น) จะราคา 7.1 ยูโรเช่นกัน
แต่ถ้าจ่ายเงินบนรถบัสเลยจะราคา 6.5 ยูโร จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้เช่นกัน
ขาไปเราซ์้อตั๋วที่สถานีรถบัส ส่วนขากลับเราจ่ายบนรถบัสเลย
ข้อเสียของรถบัสคือ มีรอบน้อย ขาไปมีแค่รอบ 8 โมงเช้ากับเที่ยง ส่วนขากลับมีรอบให้เลือกเยอะกว่ากัน

อีกทางเลือกหนึ่งคือนั่งรถไฟแต่รถไฟไปสุดที่เมือง Postojna เท่านั้น ต้องเดินไปยังถ้ำอีกประมาณครึ่งชม. แถมรถไฟยังไม่แน่นอน บางขบวนต้องเปลี่ยนไปต่อรถบัสแทนด้วย เราดูตารางรถแล้วก็แอบงงอยู่เหมือนกัน
เราเขียนเดินทางการเดินทางในสโลวีเนียเล็กน้อยในลิงค์นี้ค่ะ https://th.readme.me/p/75869
ที่ลูบลียานาสถานีรถบัส และสถานีรถไฟจะอยู่ติดกันเลย แต่คนละตึกกัน

ตอนซื้อตั๋วให้กดไป Postojna cave เท่านั้น ถ้าเลือก Postojna จะเป็นตัวเมือง Postojna

เมื่อซื้อตั๋วรถบัสที่สถานีแล้ว ให้มารอที่ป้าย 32 (แนะนำให้เช็คที่สถานีอีกรอบนึง เผื่อมีการเปลี่ยนแปลง)

รถมาแล้ววว

Predjama Castle - เมื่อถ้ำฟิวชั่นกับปราสาท
ตรงปากทางเข้าจะมี QR code ให้เชื่อมต่อไวไฟ ไว้ดาวน์โหลดออดิโอ้ไกด์ - ฟรี
ใครที่ต้องการใช้เครื่องออดิโอ้ไกด์ต้องเสียเงินต่างหาก



ข้อดีคือ ป้องกันข้าศึกง่าย หากเกิดอะไรขึ้นสามารถหนีเข้าไปในถ้ำได้
ภายในปราสาท ส่วนที่ไม่ใช่ถ้ำ ก็จะธรรมดา ไม่ได้หวือหวา หรือว้าวอะไร

อ่างล้างจาน ล้างเสร็จปุ๊บ น้ำก็ไหลออกไปนอกกำแพงปราสาทเลย รดน้ำต้นไม้สุดๆ


กำแพงปราสาทบางจุดคือกำแพงถ้ำ


ลูกบอลกลมๆ คืออาวุธไว้โจมตีผู้บุกรุก เป็นหินที่หนักมาก

เมื่อเดินขึ้นไปเกือบสุด ก็จะเจอทางเดินเข้าไปในถ้ำ มันคือไฮไลต์ของที่นี่เลยค่ะ 55




บันไดส่วนนี้ เป็นเส้นทางลับที่เดินลึกเข้าไปในถ้ำสำหรับหลบหนีหากปราสาทถูกตีแตก แต่ปัจจุบันปิดไว้ ห้ามคนภายนอกเข้า
เล่ากันว่าผู้ปกครองคนหนึ่งช่วงที่ถูกศัตรูปิดล้อมได้ เดินเข้าไปในบันไดนี้เพื่อไปขนเสบียงจากภายนอกเข้ามาให้คนในปราสาท

ภายในถ้ำนี้ยาวประมาณ 15 กิโล ยาวเป็นอันดับ 2 ในสโลวีเนีย

มีการรองน้ำจากถ้ำไว้ใช้ ทำให้ต่อให้ถูกปิดล้อม ก็จะไม่ขาดแคลนน้ำสะอาด (เขาว่ามันสะอาดค่ะ แต่เราไม่แน่ใจเท่าไหร่)


ปราสาทนี้คนรีวิวกันว่าเดินสนุก เลยมาด้วย แต่เอาเข้าจริงก็กลางๆ อ่ะ ไม่ได้ว้าวมาก อาจเพราะเราเห็นปราสาทมาเป็นสิบที่แล้วก็ได้
การเดินทาง
ระยะทางระหว่างถ้ำและปราสาทนี้ ห่างกันประมาณ 10 กม และเป็นทางชัน ขึ้นลงเขา
ถ้าเป็นช่วงไฮซีซั่นจะมี Shuttle bus ของ Nomago รับส่ง เสียค่ารถขาละ 2 ยูโร (แม้ในเว็ปไซต์และป้ายที่แปะไว้ตรงป้ายรถเมล์จะระบุว่า ราคา 2 ยูโรไปกลับก็ตาม)


Skocjan cave ถ้ำแคนยอนใต้ดิน.
เป็นอีกถ้ำที่คนที่มีชื่อ แต่คนไปไม่เท่าถ้ำแรก อาจเพราะถ้ำแรกมันแปลกใหม่และยิ่งใหญ่กว่า (แต่ฝีมือมนุษย์ปรุงแต่งไปหน่อย เราไม่ชอบตรงนี้ 55) แต่สำหรับเรา เราชอบถ้ำนี้มากกว่าค่ะ
ปล เขาห้ามถ่ายรูปในถ้ำ รูปที่สวยๆ คือรูปจากในกูเกิ้ล (Google) ค่ะ

ถ้ำนี้จุดเด่นของมันคือ การเดินริมแคนยอนในถ้ำนี่แหละ อารมณ์คล้ายหนังเรื่อง The Lord of the rings

พอเริ่มเดินได้ไม่นาน เราก็เผลออ้าปากหาวออกมาเพราะง่วง แล้วคุณตาชาวตะวันตกที่ยืนอยู่ข้างหน้าเราเหลือบมาเห็นพอดี แก้ยิ้มขำเลย 55555 หลังจากนั้นก็หันยิ้มให้กันไปมาตลอดทาง

ช่วงครึ่งแรกของถ้ำจะเป็นโซนที่เดินแล้วเฉยๆ เพราะถ้ำนี้เคยถล่มไปเมื่อหลายพันปีก่อน ทำให้หินงอก หินย้อยใต้ดินในช่วงครึ่งแรกหายหมด แต่ยังมีร่องรอยทางน้ำเก่าให้เห็นอยู่ตามทาง
แม่น้ำในถ้ำนี้ชื่อว่า แม่น้ำReka (และ Reka แปลว่าแม่น้ำในภาษาสโลวีเนีย ทำให้แม่น้ำนี้ถูกเรียกว่า Reka Reka) มันหายลงมาในถ้ำ แล้วไปโผล่บนบกตรงทริสเต้ ประเทศอิตาลี

ถ้ำนี้ถูกสำรวจมาเป็นร้อยปีแล้ว แต่ในอดีตสำรวจไปไม่สุด ก็ต้องหยุดไปเพราะมันอันตรายมาก
สมัยก่อนมีการวัดระดับความลึกของแคนนอนด้วยการหย่อนคนพร้อมเรือลงไป ทั้งที่ไฟในสมัยนั้นยังใช้เทียนไข ตะเกียง คบเพลิงส่องอะไรอยู่เลย แค่อ่านข้อมูลยังรู้สึกว่าคนทำโคตรบ้าเลย แต่นักสำรวจตอนนั้นทำเส้นทางจริงจังมาก แถมยังทำเส้นทาง Via ferrata ไว้ด้วย
สะพานแรก คือสะพานที่นักท่องเที่ยวใช้เดิน
สะพานด้านหลังไกล เป็นสะพานที่นักสำรวจเคยใช้ ปัจจุบันใช้สำหรับเส้นทาง Via ferrata

ใครอยากว้าวกว่าเดิมจะมาเดิน Via ferrata ก็ได้นะ แต่เราขอบาย ชีวิตมีสีสันพอล่ะ 555
จุดที่แสงไฟส่องไปคือเส้นทาง Via ferrata ใกล้ทางออก

ถึงทางออกแล้ว ไกด์ให้ถ่ายตรงนี้ได้ค่ะ

ถ้าเป็นช่วงไฮซีซั่น ทางด้านซ้ายจะเปิดให้เราเดินไปดูน้ำตกอีกที่หนึ่ง แต่วันที่เราไปเป็นช่วงโลว์ซีซั่น จึงถูกปิดไว้อยู่
เมื่อเราเดินไปตามทางออก ปลายทางจะเป็นลิฟท์ขึ้นไปยังจุดซื้อตั๋ว

ค่าเข้าแบ่งตามเดือนอีกเช่นกัน

ถ้ำนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชม เดินพร้อมไกด์ และเป็นสองชม.ที่ไส้กิ่วมาก เพราะเราไปถึงทันรอบเที่ยงตรง แล้วไม่ได้กินข้าวก่อนเพราะยังไม่หิว สรุปเริ่มหิวเกือบๆ บ่ายโมง แต่ต้องก้มหน้าก้มตาเดินต่อไปปป -- ห้ามกินอาหารในถ้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศภายใน
แบบจำลองด้านนอกถ้ำนี้ หลุมตรงกลางภูเขา เกิดจากเพดานถ้ำถล่มลงไปกลายเป็นช่องว่าง


การเดินทาง
นั่งรถบัส หรือรถไฟจากลูบลิยาน่าไปลงที่เมือง Divaca
ขาไปเรานั่งบัส ( 9.6 ยูโร) ขากลับเรานั่งรถไฟ (10.3ยูโร) เพราะรอบรถมาไวกว่าบัสชมนึง เราขี้เกียจรอนั่นเอง 55
การจองรถบัสและรถไฟ เหมือนกับที่พูดถึงในถ้ำแรกเลยค่ะ

บัสจะปล่อยเราลงตรงนี้ และนี่เป็นจุดรอรถบัสขากลับเช่นกัน


เมื่อมาถึง Divaca แล้ว หากไม่มีรถส่วนตัวก็ต้องเดินเท้าต่อไปอีก 4 กม...ใช่เดินไปอีก 4 กม 2 กมแรกเดินตามถนน 2 กมหลังเดินเลียบป่า เลียบสวนชาวบ้าน -- ไม่มีห้องน้ำเด้อ



และแล้วเราก็เดินมาถึงงงง


ขาไปเดินเอื่อยมาก 4 กม ใช้เวลาชมกว่าๆ ขากลับจะรีบกลับมาให้ทันรถไฟ เลยตั้งใจเดิน 4 กม เดิน 40 นาทีก็ถึง 555
น้องม้าระหว่างทางกลับ ฮี้ๆ

ทริปยุโรปใต้
ตอนที่ 1 รีวิวการเดินทาง แพลนเที่ยวกรีซ โครเอเชีย สโลวีเนีย และรีวิวเรือนอน Anek lines ข้ามเกาะกรีซ
https://th.readme.me/p/75869
ตอนที่ 2 รีวิวที่เที่ยวเอเธนส์ พิพิธภัณฑ์กรีซ มิโนอัน อะโครโปลิสและวิหารพาร์เธนอน
https://th.readme.me/p/75870
ตอนที่ 3 รีวิวเที่ยวอารยธรรมมิโนอันแบบเช้าไปเย็นกลับ พระราชวังฟายส์โตส และ วิลล่าเชื้อพระวงศ์
https://th.readme.me/p/75871
ตอนที่ 4 พระราชวังคนอสซอส ศูนย์กลางอารยธรรมมิโนอัน และพิพิธภัณฑืโบราณคดีฮีราคลีออน
https://th.readme.me/p/75872
ตอนที่ 5 อุทยานแห่งชาติน้ำตก Krka ณ ประเทศโครเอเชีย น้องๆ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ
https://th.readme.me/p/75873
ตอนที่ 6 อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ อุทยานที่สวยสุดในประเทศโครเอเชีย Plitvicka Jereza national park
https://th.readme.me/p/75874
ตอนที่ 7 ผจญภัยโลกใต้ดินที่สโลวีเนีย ถ้ำ 3 ล้านปี Postojna Cave ถ้ำแคนยอนใต้ดิน Skocjan cave และPredjama Castle เมื่อถ้ำฟิวชั่นกับปราสาท
https://th.readme.me/p/75875
Duck's journey
วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เวลา 20.37 น.





