จังหวัดแรกในภาคเหนือที่คุณจะนึกถึงเมื่ออยากไปสัมผัสกับธรรมชาติและอากาศหนาวคือจังหวัดไหน? จังหวัดแรกของพวกเราคือ เชียงใหม่ จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ เที่ยวเท่าไหร่ก็เที่ยวไม่ครบและเที่ยวได้ไม่มีเบื่อ จนกลายเป็นทริปประจำที่ต้องมาเยือนเชียงใหม่ให้ได้ทุกปี โดยครั้งนี้พวกเรามีเวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน กับจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจสองแห่ง นั่นก็คือ ดอยอ่างขางและม่อนแจ่ม จะพาแฟนไปแอ่วที่ไหนได้บ้าง ตามมาๆ

etnm8e73iauh

DAY 1

วันแรกที่เราไปถึงมีสายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ ประกอบกับอากาศที่หนาวเย็น ทำให้รู้สึกหนาวแบบชื้นๆ แต่ก็รู้สึกดีต่อใจ

3mud9e03b9ex

การเดินทางในครั้งนี้พวกเราเช่ารถยนต์เอาไว้ล่วงหน้า แต่เช่ากระชั้นชิดไปหน่อยเลยเหลือแค่รถกระบะคันนี้ ที่ช่วยกันแดด กันฝน และกันหนาวให้กับพวกเราตลอดทั้งทริป

kj949ga2jkh1

เมื่อพร้อมแล้วจึงเริ่มออกเดินทาง โดยมีจุดหมายแรกคือการแวะทานข้าวกลางวันที่ร้านเสน่ห์ดอยหลวง ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมถนนเส้นเลี่ยงเมือง อ.เชียงดาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม 30 นาที

hhhfikqfhygs

บรรยากาศของร้านตกแต่งแบบล้านนา หากมาร้านนี้ในช่วงที่ท้องฟ้าเปิดจะสามารถเห็นวิวของดอยหลวงเชียงดาวได้ด้วยนะ

5meqtzkoj4l8

ทานเสร็จก็ออกเดินทางต่อท่ามกลางสายฝนที่โปร่ยปราย จากอ.เชียงดาวสามารถเดินทางต่อไปยังดอยอ่างขางได้ 2 เส้นทาง โดยเส้นทางแรก (เส้นสีเทา) คือ อ.เชียงดาว - อ.ฝาง ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร มีเส้นทางขึ้นเขาช่วงสุดท้ายประมาณ 5 กิโลเมตรที่ค่อนข้างชันถึงชันมาก ไม่เหมาะกับคนที่ขับรถไม่แข็งและไม่ชำนาญเส้นทาง โดยเฉพาะใช้ช่วงที่ฝนตกหรือมีหมอกหนา

si61dffwxnl8

เส้นทางที่ 2 (เส้นสีฟ้า) คือ อ.เชียงดาว - บ้านอรุโณทัย ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร เส้นทางนี้ไม่ชันแต่โค้งค่อนข้างเยอะ สำหรับเราเลือกเส้นทางที่สองเพราะเส้นทางนี้ขับง่ายและวิวสองข้างทางก็สวยมาก

p55cyo5r3yy2

ประมาณช่วง 20 กิโลเมตรสุดท้ายจะเป็นทางขึ้นเขา ซึ่งวันนั้นหมอกลงหนามาก ยิ่งขึ้นสูงหมอกก็ยิ่งหนา บางช่วงสามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้แค่ระยะประมาณ 3 เมตร ค่อนข้างอันตรายมาก ใช้ความเร็วได้แค่ประมาณ 20-40 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น

cb23a4xb9vb9

ปกติจากเชียงดาวมาอ่างขางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่วันนั้นเราใช้ไป 2 ชั่วโมงครึ่ง สุดท้ายก็มาถึงที่พักได้อย่างปลอดภัย โดยคืนแรกเราพักกันที่ "รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง"

p9yysqgmnjjd

หลังจากเช็คอินเข้าที่พักและเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราขับรถออกไปหาข้าวเย็นกินแถวหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขางซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก โดยเลือกร้านถิง ถิง โภชนา ที่มีเมนูแนะนำอย่างขาหมู หมั่นโถวยูนนาน

mgwc0toie6my

และเห็ดหอมอบซีอิ้ว

5kmbofxfjun2

กินเสร็จก็ออกมาเดินย่อยดูของอีกนิดหน่อย ร้านค้าส่วนใหญ่ก็เริ่มจะปิด เพราะคนไม่ค่อยเยอะและอากาศหนาว

zjjful789qyc

นี่คือห้องพักของพวกเราในคืนนี้ ห้องกว้างมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พื้นปูด้วยพรม (ยกเว้นบริเวณหน้าห้องน้ำ)

s5lg8jojx71r

และไฮไลด์ที่สำคัญที่ทำให้พวกเราเลือกพักที่นี่ ก็คือ เจ้าเตียงอุ่นๆ ปรับระดับอุณหภูมิได้ นอนอุ่นหลับสบายตลอดทั้งคืน จนไม่อยากจะลุกออกจากเตียงไปไหน เหมาะกับคนขี้หนาวอย่างพวกเราสองคนมาก

vb9bbx471kq7

ส่วนห้องน้ำเป็นที่ที่ไม่ค่อยอยากจะมาสักเท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะมันเย็นมากกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) อุ่นอยู่แค่สองอย่างคือ เครื่องทำน้ำอุ่นกับไดร์เป่าผม นอกนั้นเย็นหมด แม้แต่ฝาชักโครกที่เย็นจนนั่งไม่ได้ต้องยองๆฉี่ แต่ดีที่โรงแรมมีรองเท้าแตะแบบผ้าให้ใส่เดินไปมาในห้องได้ค่อยอุ่นเท้าหน่อย

ijonxavhonwe
DAY 2

เช้าวันต่อมาตั้งใจว่าจะไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลหมอกที่จุดชมวิวม่อนสน แต่พอไปถึงบรรยากาศด้านบนกลับเต็มไปด้วยหมอก มองไม่เห็นพระอาทิตย์แม้แต่น้อย ได้แต่แหวกว่ายไปมาอยู่ในสายหมอก แต่ก็สวยไปอีกแบบ

s59uvtpnfppm

นั่งรอพระอาทิตย์อยู่เกือบชั่วโมง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าหมอกจะสงบ เลยกลับมากินอาหารเช้าที่โรงแรม

0cmbcp046kdx

ห้องอาหารจะอยู่ด้านข้างของ Lobby มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor

2bvu9g8zl89f

ตอนแรกพวกเรานั่งด้านนอก เพราะบรรยากาศดีและวิวสวย แต่สู้กับละอองหมอกไม่ไหวเลยย้ายไปนั่งข้างในแทน

i8brishb9dte

อาหารมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบมาตรฐานโรงแรมทั่วไป แต่ที่แตกต่างน่าจะเป็นพวกผักและผลไม้สดๆที่นำมาจากโครงการหลวง กินแล้วรู้สึกได้ถึงความสด โดยเฉพาะเมนูกระหล่ำปลีผัดน้ำปลาที่สดและกรอบมาก

etxzr6swcdzz

อีกอย่างที่ชอบคือขนมปังปิ้งที่มีแยมรสชาติต่างๆให้เลือกเยอะมาก อย่างสตรอเบอรี่ ลำใย ลิ้นจี่ กีวี่ หรือลูกพีช ชอบที่สุดคือลำใย

4newmzyx011t

หลังจากกินเสร็จพวกเราออกไปเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆโรงแรม มีต้นดอกซากุระกำลังออกดอกเบ่งบานอวดความงามอยู่หลายต้นแถวหน้าห้องพัก

6sybnqtdf7hs

ละอองหมอกยามเช้าค่อนข้างหนา ดอกซากุระเลยเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ มีนกตัวเล็กๆบินมากินน้ำหวานกันอย่างคึกคัก

wyxmmdhmua6x

เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เช็คเอาท์ แล้วออกเดินทางต่อไปยังไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล

xy8v3ppskqfc

ขับรถฝ่าสายหมอกมาเรื่อยๆ ไม่นานก็มาถึงไร่สตรอเบอรี่ รูปนี้ถ่ายจากวิวด้านหลังลานจอดรถ

zxpvlr4ctrj7

สายหมอกเริ่มจางลงจนสามารถมองเห็นแปลงสตรอเบอรี่ ไปถ่ายรูปเล่นกันเถอะ

2p0ie1tzcys9

ที่นี่ชาวบ้านอนุญาตให้สามารถลงมาถ่ายรูปเล่นในแปลงสตรอเบอรี่ได้ประมาณ 5 ชั้นจนถึงเขตรั้วที่ชาวบ้านกันเอาไว้

veu8aaej8tq2

และห้ามแอบเก็บสตรอเบอรี่ก่อนได้รับอนุญาต แต่ก็ไม่มีให้เก็บหรอก เพราะชาวบ้านเก็บไปส่งให้โครงการหลวงหมดแล้วตั้งแต่เช้ามืด จะเหลือก็แต่ลูกเล็กๆที่ยังไม่โตเต็มที่หรือดอกของมัน

thjvy0djqv57

และที่สำคัญต้องเดินอย่างระมัดระวัง เพราะช่องทางเดินแคบและลื่นมาก เดี๋ยวจะล้มไปทับแปลงปลูกของชาวบ้านเสียหายเอาได้

lfck5xfm4qhg

ถ่ายรูปเล่นอยู่สักพัก ลมก็พัดสายหมอกกลุ่มใหญ่มาปกคลุมแปลงสตรอเบอรี่อีกครั้งจนมองอะไรไม่เห็น พวกเราจึงขอเข้ามาหลบในบ้านของชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ และอุดหนุนสินค้าหัตธกรรมฝีมือของชาวบ้านกลับไปเป็นของที่ระลึก

cy8yhtqm48ck

ตามทางเดินเต็มไปด้วยเจ้าไส้เดือนตัวใหญ่ยักษ์ กระดึบไปมา ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะไปไหนกันแน่ เดี๋ยวก็เดินหน้า เดี๋ยวก็ถอยหลัง บางตัวโคตรโชคร้ายโดนรถทับตายคาที่ น่าสงสารสุดๆ

1x7xaj8k9fkz

รูปน้องล่อสองตัวนี้ตากลมเป็นคนถ่ายระหว่างทางกลับจากไร่สตรอเบอรี่ เปิดกระจกออกมากดถ่ายแค่หนึ่งทีล่อก็วิ่งหนีเข้าป่าไป เธอเลยรู้สึกภูมิใจกับภาพนี้มากเป็นพิเศษที่สามารถถ่ายได้ทันก่อนที่มันจะวิ่งหนีไป

3f3apbb5loax

จากไร่สตรอเบอรี่ขับย้อนกลับมาทางเดิมเล็กน้อย แล้วเลี้ยวเข้าไปยังหมู่บ้านขอบด้ง ขับไปจอดที่โรงเรียนหน้าร้านเส้นศิลป์ ร้านขายของฝากและของที่ระลึก งานหัตธกรรมชนเผ่าฝีมือนักเรียน เพื่อนำรายได้ไปเป็นทุนการศึกษา

digcnodwk6d8

สินค้าส่วนใหญ่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติอย่างหญ้าอิบูแค หญ้าศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชนเผ่าลาหู่นะที่ช่วยคุ้มครองจากภัยอันตราย โดยนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เช่น กำไลข้อมือ สร้อยคอ ปิ่นปักผม หรือพวงกุญแจ

mtlyyl8wtf0n

หมู่บ้านขอบด้งเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก แต่วันนี้หมอกมาเยอะไปหน่อยเลยมองไม่ค่อยเห็นอะไรสักเท่าไหร่

n1a9cx11kcst

อากาศก็หนาว กลับบ้านไปนอนดีกว่า น้องหมาได้กล่าวไว้

xyjj4v0hbnja

จากหมู่บ้านขอบด้งก็มาต่อกันที่ไร่ชา 2000

821qepk6tjvq

ไร่ชา 2000 เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปทะเลหมอกบางๆลอยตัวเหนือแปลงปลูกชา แต่วันนี้หมอกลอยไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว

l4ibd9a77efq

ที่นี่บรรยากาศดี อากาศบริสุทธิ์ วิวก็สวย แต่ที่จอดรถน้อยไปหน่อย แถมเป็นทางตัน ต้องขับย้อนกลับทางเดิม และถนนค่อนข้างแคบ ถ้าเป็นช่วงเทศกาลน่าจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ แนะนำให้จอดที่โรงคัดแยกชา แล้วเดินลงมาจะดีที่สุด

7i74zw0vilb0

จากไร่ชาพวกเราขับกลับมาหาข้าวกินแถวหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง และไปจบที่ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ

3smhejla13yo

ทานเสร็จก็ขับรถเข้าไปข้างในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

givh5bsk9uzh

แวะจุดแรกแถวๆลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ชาวบ้านพาน้องล่อมาให้นักท่องเที่ยวขี่ชมบรรยากาศ แถมด้านข้างมีสวนบ๊วยด้วยนะ

7r9qsbzvzq6e

จุดต่อมาคือ สวน 80 หรือ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สวนที่รวบรวมและจัดแสดงพันธุ์ไม้และดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ให้ได้เยี่ยมชมและถ่ายรูปกันอย่างจุใจ

wrkn72o8oylc
41yvzwkk5f6v

โดยเฉพาะต้นซากุระจากประเทศญี่ปุ่นและไต้หวันที่กำลังออกดอกเบ่งบานมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมและจะบานไปจนถึงเดือนมกราคม

9cuxifj57hau
oici04dcuae5
cye0k9bwtr9l

ตรงข้ามกับสวน 80 มีร้านค้าโครงการหลวง ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายของฝาก ของที่ระลึก และผลผลิตที่รับมาจากชาวบ้าน

3915u0td93tr
om8opcstpvxa

สตรอเบอรี่สดๆจากไร่ของชาวบ้านบางส่วนก็ถูกส่งมาขายที่นี่

61bbsaw0c0ws

"กาแฟสักแก้ว โปสการ์ดสักใบ ถึงใครสักคน" คือสโลแกนของร้านนี้

d9550br6jcfy

qm2bmapici58

จุดต่อมาคือแปลงรวบรวมพันธุ์บ๊วย

z4im5r28ybc1

ช่วงระหว่างเดือน ธ.ค - ม.ค เป็นช่วงที่บ๊วยกำลังออกดอกเหมาะแก่การมาถ่ายรูป

c77kr7oxyq2v
0suhjs3j8kvu

vx3wzcm9eqgm
jphk9aldpjyk

และจุดสุดท้ายสำหรับสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง คือ แปลงปลูกกระหล่ำประดับ

3w8gv1jqts5n

แปลงกุหลาบ

xt5vnmoa5n9m

และร้านขายของฝากที่อยู่ติดกัน

24l199rcdda7

จากนั้นพวกเราก็รีบออกเดินทางต่อ เพื่อย้อนกลับไปนอนค้างที่ม่อนแจ่ม ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 162 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง

wltztcbnbcij

โดยคืนนี้พวกเรามาพักกันที่ ม้ง ฮิลไทร์ป ลอจ์ด รีสอร์ท (Hmong Hilltribe Lodge) ซึ่งอยู่ใกล้กับม่อนแจ่ม จุดท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่

fypepfu3t108

ช่วงประมาณ 2 ทุ่มของทุกวัน หลังอิ่มหน่ำจากอาหารเย็น ทางโรงแรมได้มีการจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม การละเล่น และการจำลองวิถีชีวิตของชนเผ่าม้ง ชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆที่พัก เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้

2hi11yn5nwb4

ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลด์ที่สำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ ขอขอบคุณรูปภาพจาก : www.hmonghilltribeLodge.com

l3oktij5gplk

สำหรับห้องพักทั้งหมดของที่นี่จะออกแบบสไตล์หมู่บ้านม้งผสมลอฟท์ ตกแต่งภายนอกด้วยวัสดุธรรมชาติ อย่างไม้ไผ่สานบุทับฝาผนังปูน หรือหลังคาที่ทำจากหญ้าแฝก และใช้แสงไฟโทนส้มให้ความรู้สึกอบอุ่น

2gb7fhfyh557

ด้านในจะมีโถงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง และแบ่งออกเป็นอีก 4 ห้องย่อยๆ หลังที่พวกเราพักจะมีห้องแบบ Superior 3 ห้อง และแบบ Deluxe 1 ห้อง

w6kyolpag6by

ห้องที่พวกเราพักเป็นแบบ Superior มีเตียงนอน 2 เตียง ตกแต่งด้วยผ้าคลุมเตียงและผ้าม่านทอจากฝ้ายลวดลายม้ง

449x0jh6swn5

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ได้แก่ พัดลม, เครื่องทำความร้อน, อุปกรณ์ชงชา-กาแฟ, หม้อต้มน้ำร้อน และตู้เย็น

mo0yiy75rora

แต่จะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เพราะที่นี่อากาศจะหนาวเย็นตลอดทั้งปี และไม่มีทีวีกับไวไฟ เพราะอยากให้ผู้เข้าพักได้อยู่กับธรรมชาติในบรรยากาศที่เงียบสงบอย่างเต็มที สำหรับไวไฟจะมีที่บริเวณห้องอาหาร

0datv6wpfril

มีผ้าห่มเพิ่มให้พิเศษอีกสองผืน ซึ่งได้ใช้งานจริงๆเพราะอากาศหนาวมาก ห่มสองผืนอุ่นสบายกำลังดี

v9po98g9hvl8

ส่วนโซนห้องน้ำ มีการแยกห้องอาบน้ำ อ่างล้างหน้า และห้องส้วมออกจากกันอย่างชัดเจน

lsj27cne4j4m

ห้องอาบน้ำเป็นฝักบัวแบบน้ำฝน พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น และมีเจลอาบน้ำและแชมพูจัดเตรียมไว้ให้

mgcdaqaj2mk1

ตรงข้ามกับห้องอาบน้ำเป็นห้องส้วม

r8s5b87453s2
DAY 3

เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาพร้อมกับอากาศที่สดชื่น เย็นสบายกำลังดี ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจี

ct4cwr16sheg

เมื่อมีแสงสว่างจึงทำให้รู้ว่าพวกเรากำลังพักอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่มีสายหมอกบางๆพัดผ่าน และรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่

9z0cyj23gv6n

สำหรับโซนที่พวกเราพักจะมีบ้านหลังใหญ่ทั้งหมด 3 หลัง ตรงกลางมีลานกว้าง พร้อมที่นั่งและกองไฟ ให้ออกมานั่งผิงไฟ นั่งเล่นพูดคุยกันได้อย่างอบอุ่น

4co3x3yo98wv

อากาศและบรรยากาศดีดีแบบนี้ เหมาะแก่การตื่นเช้าออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธ์เป็นอย่างมาก ออกไปสำรวจที่พักกัน ตามมาๆ

4hf8el8mhf7p

ห้องอาหารของที่นี่จะมีทั้งหมด 2 โซน โดยโซนแรกจะเป็นแบบ Indoor สำหรับอาหารเช้า หรืออาหารเย็นในวันที่ฝกตกหรือหมอกลงจัด

pgoo1z15zhsf

yl7x8c44viyj

โซนที่สองจะเป็นแบบ Outdoor ใกล้กับสระว่ายน้ำและบาร์ มีวิวด้านข้างเป็นแปลงนาขั้นบันไดและทิวเขา สำหรับอาหารเย็น

1w30620enwy6

มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมแปลงนาขั้นบันไดและภูเขา

f8fu8ij2jxz7

มีเตียงไม้ให้สามารถมานั่งชิวชมวิวได้อย่างเพลิดเพลินจนไม่อยากจะลุกออกไปไหน

l0cr2w6h0pnu

ba0v48mya94t

ถ้าไม่ติดว่าอากาศหนาวก็ว่าจะลงไปว่ายน้ำเล่นสักหน่อย

mm3rtpouh0q8
t7zfw7akwtu7
jzacyya6gs0l

vkhvnkbi8zu2

ถัดจากสระว่ายน้ำจะเป็นโซนห้องพักแบบ Standard ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6-7 หลัง แต่ละหลังมีห้องพักด้านใน 4 ห้อง

m9hy6hcbesec
bhdirp453him
39kz2v60zt8e

พอดีบ้านหลังที่อยู่ริมสุดติดกับแปลงนาขั้นบันไดว่าง เราเลยขออนุญาตพนักงานเข้าไปสำรวจด้านใน เพื่อเอามาฝากท่านผู้ชมสักหน่อย

fkbud8hyfduy
g7h5finw9cqb
hf1o6owivpys

ทุกห้องจะมีระเบียงส่วนตัวยื่นออกมา และมีเก้าอี้ไม้ไผ่ให้นั่งเล่น

lopb7gs44jhg

ตรงนี้เป็นประตูทางเข้าหลักของบ้าน

tue7ub8mqu26

เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะพบกับโถงขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่น ตรงกลางมีกองไฟและช่องระบายอากาศอยู่ด้านบน

rv5ex4au5dtt
ys5dtmib8h2w

เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการพื้นที่สังสรรค์ส่วนตัว

2vxxlp2qdun9

การตกแต่งภายในห้องจะเหมือนกับห้องแบบ Superior และ Deluxe แต่ขนาดของห้องจะเล็กกว่า

v4a63ki6lhpv
0yf4nvkfba1y

โคมไฟใส่หมวกม้งด้วยนะ น่ารักดี

17opt9e1u5b1

เราชอบห้องนี้ เพราะตรงหัวเตียงมีหน้าต่างที่สามารถมองออกไปเห็นวิวภูเขาและแปลงนาขั้นบันได

6i5rcgzdr7aq
71qadn1ymqsf
015wigcnk2zt

สิ่งอำนวยความสะดวกมีเหมือนกับห้องแบบอื่นๆ

kcvzv57bk576
kg6pw4qm50wf

ห้องน้ำแยกพื้นที่อ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำ และห้องส้วมอย่างชัดเจน แต่พื้นที่จะเล็กกว่าห้องแบบอื่นๆ

z9yjwnpvnt1o
llpdy1p09862
hrh3vpv9io2p

เดินเล่นสักพักเริ่มหิว เลยมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง

jkjdz4sviv4e
fmfkqmjr10di

เมนูที่เราชอบที่สุดก็คือ ข้าวต้มไก่ในหม้อดินเผา อุ่นร้อนๆ น้ำซุปรสชาติเข้มข้น

m44jrawlirxj
hqtgionr0bcg

ทานอาหารเสร็จก็กลับมาเก็บของเตรียมเช็คเอาท์ และขอแวะเข้าไปสำรวจห้องแบบ Deluxe ที่อยู่ติดกันกับห้องของพวกเรา

ophk3lmllqaw

ห้องกว้างและอลังการมาก ภายในห้องพักเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ 1 เตียง

ib5jdpgg4ot3

ตกแต่งสไตล์ม้งเหมือนกับห้องแบบอื่นๆ

r4h8hqhjy36j

มีเตียงเล็กๆ และระเบียงด้านนอกให้นั่งเล่น

gbrv4kfq346f
w8dd7eldrxsx

มีสิ่งอำนวยความครบครัน (ยกเว้นทีวี ไวไฟ และเครื่องปรับอากาศ)

2v64qkhfn74u
1a2uwyxzixdu

ห้องน้ำกว้างและแยกส่วนใช้สอยอย่างชัดเจน

2fk4i2rtzbv0
1xaw35tygvz0

พวกเราเห็นตรงกันว่าชอบที่นี่มาก เพราะด้วยบรรยากาศของรีสอร์ทที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ การตกแต่งที่อบอุ่น พนักงานเป็นกันเอง และที่สำคัญคือเงียบสงบเป็นส่วนตัวมากๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนและตัดขาดจากโลกภายนอกที่แสนวุ่นวายได้เป็นอย่างดี

4xdc7vn0kwnz

หลังจากเก็บของและเช็คเอาท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราจึงออกเดินทางต่อไปยังม่อนตะวันและม่อนแจ่ม ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร

ci11bullf85a

ขับรถขึ้นมาชมวิวบนม่อนตะวันเป็นจุดแรก ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายโมง แต่หมอกยังเยอะอยู่เลย บรรยากาศดีมากๆ

5jzzpfnhyrt8
1qiewvjbydob

zb3uflmqct4f
8on8bcdb87yv

ถ่ายรูปเพลินจนตากลมเริ่มหิว เลยพาไปกินข้าวกลางวันที่ม่อนแจ่ม โดยจอดรถไว้ด้านล่างแล้วเดินขึ้นมาอีกประมาณ 500 เมตร

ximmm19mgkvj

บริเวณด้านบนม่อนแจ่มจะมีร้านอาหารของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยคอยให้บริการนักท่องเที่ยว โดยมีที่นั่งทานอาหารให้เลือกสองแบบ แบบแรกจะเป็นโต๊ะยาวเรียงติดกันอยู่ด้านบน บริเวณตัวอาคารของร้านอาหาร

23b1anjj4gso

ส่วนแบบที่สองจะเป็นกระต๊อบไม้เป็นหลัง ตั้งเรียงกันอยู่ริมหน้าผา ด้านหน้าเป็นวิวทิวเขาและทะเลหมอก แต่วันนี้หมอกลอยตัวสูงเลยขาวโพนไปหมดจนมองไม่เห็นอะไรเลย

3azwifi6vnau

การสั่งอาหารจะต้องขึ้นไปสั่งด้านบน และจะมีพนักงานตามลงมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ ระหว่างที่รอมีเจ้าถิ่นมาคอยต้อนรับ

cra3f8alil4y

และขยับมานอนหลับบนตักพวกเราเฉยเลย สงสัยจะหนาวเลยมาหาที่อุ่นๆนอน

r1y891hsmq6k

อาหารมีตั้งแต่ราคาหลักสิบจนถึงหลักร้อย พวกเราสั่งกับข้าวมา 3 อย่าง ข้าวเปล่า 2 จาน และน้ำดื่ม หมดไปประมาณ 300 กว่าบาท

xuzi7g2j8ogh

พอเติมพลังเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปเดินถ่ายรูปเล่นกันต่อ

8sy9vrwh9aj9

sukmwnd84u7r
q35x4j6t9ziw
sg4y5mhyfk9r
uw0qtgybhto5
g89h2p4jc6j2
yjz721bve3ha
xgg507zzuxm3

พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง และเดินทางกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่

4ub4oyc9y1r1
f52pshxwpiho

และแวะเข้าไปนั่งเล่นชมวิวย้อนความหลังสมัยตอนจีบกันใหม่ๆที่อ่างแก้ว ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

2ydqzp12mnvx

ก่อนจะพาตากลมไปทานอาหารเย็นที่ร้านโปรดของเธอ ร้านสุกี้ช้างเผือก สาขาหลัง มช. ร้านที่เธออ้อนให้พามากินทุกครั้งที่มาเที่ยวเชียงใหม่

w9jhu33dm8xl

กับเมนูสุกี้แห้ง เพิ่มวุ้นเส้นเยอะๆ เมนูโปรดของเธอ เห็นตัวเล็กๆแบบนี้แต่จุมาก เคยสั่งมากินคนเดียว 2 ชาม

4e2msdje6rcl

หลังจากกินอิ่มพวกเราก็รีบบึ่งไปที่สนามบิน เพื่อคืนรถและเช็คอินท์ ช่วงวันหยุดผู้โดยสารเยอะมาก รถก็ติดเกือบตกเครื่องเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็เดินทางถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับความประทับใจ ถึงแม้ว่าเชียงใหม่จะไม่ใหม่สำหรับพวกเรา แต่ก็เที่ยวได้ไม่มีเบื่อ เพราะพวกเราตกหลุมรักเชียงใหม่เข้าให้แล้ว

8vb4qbzhzy44

เส้นทางดอยอ่างขาง - ม่อนแจ่ม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสุดโรแมนติกที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ เหมาะที่จะพาแฟนไปพักผ่อน ถ่ายรูปกับเหล่าดอกไม้ และสัมผัสอากาศหนาว โดยสามารถเที่ยวได้ในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน สรุปรายละเอียดการเดินทางตามนี้เลย

DAY 1
1. เดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่
2. เช่ารถยนต์และเดินทางไปยังดอยอ่างขาง ระยะทางประมาณ 160 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (ไม่รวมแวะพัก) โดยสามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ เชียงใหม่ - อ.เชียงดาว - อ.ฝาง และ เชียงใหม่ - อ.เชียงดาว - บ้านอรุโณทัย ทั้งสองเส้นทางมีระยะทางพอๆกัน แต่แนะนำให้ไปเส้นบ้านอรุโณทัย เพราะทางไม่ชันและขับง่ายกว่า
3. คืนแรกพักที่ "รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง" (Highlight : เตียงอุ่น ปรับอุณหภูมิได้)
4. อาหารเย็นร้านถิงถิงโภชนา (Highlight : ขาหมูหมั่นโถว เห็ดหอมอบซีอิ้ว)
5. ถนนคนเดินอ่างขาง (Highlight : นมสดร้อน)

DAY 2
1. ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่จุดชมวิวม่อนสน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
2. ไร่สตรอเบอรี่บ้านนอแล
3. ไร่ชา 2000
4. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง (Highlight ชมดอกซากุระที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และชมแปลงรวบรวมพันธุ์บ๊วย)
5. เดินทางกลับมายังม่อนแจ่ม
6. คืนที่สองพักที่ "ม้ง ฮิลไทร์ป ลอจ์ด รีสอร์ท" (Highlight : บรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ และการแสดงพื้นเมืองของชาวม้ง) ช่องทางการติดต่อที่พัก : Website : https://www.hmonghilltribelodge.com หรือ Facebook : https://www.facebook.com/HmongHilltribeLodge

DAY 3
1. ชมวิวทะเลหมอกที่ม่อนตะวัน
2. ทานข้าวกลางวันบนม่อนแจ่ม (Highlight : นั่งทานในกระต๊อบริมหน้าผา)
3.ชมวิวและถ่ายรูปเล่นบนม่อนแจ่ม (Highlight : แปลงดอกป๊อบปี้)
4. เดินทางกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
5. แวะนั่งเล่นอ่างแก้ว มช.
6. อาหารเย็นที่ร้านสุกี้ช้างเผือก สาขาหลัง มช.(Highlight : สุกี้แห้ง)
7. สนามบินเชียงใหม่ และเดินทางกลับ

สำหรับปีนี้ยังเหลือเวลาให้ออกไปสัมผัสอากาศหนาวกันอีกประมาณ 1 เดือน แถมช่วงนี้ดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย น่าจะกำลังออกดอกเบ่งบานเต็มที่ อ้อนแฟนให้พาไปจนกว่าจะใจอ่อน อยากไปต้องได้ไป

คิ้วหนา & ตากลม
Love is a journey | เพราะความรัก คือ การเดินทาง...

ติดตามการเดินทางของพวกเราได้ที่ : LOVE IS A JOURNEY

ความคิดเห็น