สวัสดีค่ะ กิ๊บจาก www.fallenforadventure.com ค่ะ


เราอยากจะเริ่มเขียนบล็อกแรกเกี่ยวกับพาทาโกเนีย (Patagonia) เพราะว่าที่แห่งนี้คือที่ที่พิเศษสุดและชอบมากที่สุดที่นึงบนโลกนี้ รวมถึงตอนเราหาข้อมูลเพื่อไปเที่ยวที่นี่ ข้อมูลหายากมาก เนื่องจากข้อมูลต่างๆหลายอย่างยังไม่มีอยู่บนอินเตอร์เน็ต และข้อมูลที่มีหลายๆอย่างที่มีก็ไม่ตรง (ทำเอาพวกเราตกรถบัสข้ามชายแดนจากอาร์เจนติน่าไปชิลีเลย) เลยอยากจะมาแบ่งปันข้อมูลการท่องเที่ยวที่สวยๆแบบนี้ให้ทุกคน


พาทาโกเนียคือพื้นที่ตรงสุดปลายติ่งของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุม 2 ประเทศคืออาร์เจนติน่าและชิลี มีเทือกเขา Andes เป็นเทือกเขาหลัก

ที่มา: standfords



เรามีโอกาสได้ไปเยือนทั้งสองฝั่ง แต่บล็อกนี้เราจะเล่าถึงฝั่งอาร์เจนติน่าก่อนนะคะ


การจะไปถึงพาทาโกเนีย อย่างแรกเราต้องไปเมืองหลวงของอาร์เจนติน่าก่อน ซึ่งก็คือเมืองบัวโนว ไอเรส (Buenos Aires) จากนั้นก็นั่งสายการบินภายในประเทศไปที่เมืองเอล คาลาฟาเต้ (El Calafate) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ วิวบนเครื่องสวยมากยิ่งโดยเฉพาะตอนเครื่องจะลง


(Tip: ถ้าเป็นไปได้เลือกนั่งฝั่งขวาของเครื่องบินเพื่อวิวแม่น้ำและภูเขาตัดกันสวยงามมากค่ะ)


รูปเครื่องบินตอนลงที่เราถ่ายจากมือถือ



เมื่อไปถึงเมืองเอล คาลาฟาเต้แล้ว เราก็ต้องนั่งรถบัสต่อไปอีกประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อไปที่เมืองเอล ชาลเท่น (El Chalten) สำหรับรถบัสที่ให้บริการนั้นมีอยู่ประมาณ 2-3 บริษัท แต่เราเลือกรถบัสของบริษัท Tasqa ราคาต่อเที่ยว $25 ซึ่งถือว่าใช้ได้ ตรงเวลา รถใหม่มี 2 ชั้น และสามารถซื้อล่วงหน้าในเวปได้เลยค่ะ



สำหรับเมืองเอล ชาลเท่นนั้นเป็นเมืองเล็กๆน่ารักอยู่บนภูเขา เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนภูเขาฟิตซ์ รอย (Mount Fitz Roy) เลย ส่วนภูเขาฟิตซ์ รอยนั้นถือว่าเป็นสัญลักษณ์นึงของพาทาโกเนียก็ว่าได้ค่ะ เป็นภูเขาหินแกรนิตมีหลายยอด เมื่อเวลาตัดกับน้ำใน lake ที่เป็นสีฟ้าจะสวยมากกก (ภูเขาฟิตซ์ รอยนี่แหละคือภูเขาที่ยี่ห้อ patagonia เอาไปใช้เป็นสัญลักษณ์โลโก้ของแบรนด์ค่ะ) ถ้ามาแล้วถ้าต้องไปเห็นให้ได้เลย




ร้านอาหารสไตล์ BBQ น่ารักๆในเมืองเอล ชาลเท่น

เป็นบุฟเฟ่ใครอยากตักอะไรก็ตัก


การที่เราจะไปดูภูเขาฟิตซ์ รอยใกล้ๆนั้น เราจะต้อง hike ไปค่ะ อันนี้ขอแนะนำว่าถ้าเตรียมฟิตร่างกายสักนิดก่อนมาก็ดี จะได้เดินแบบไม่ทรมาน เพราะเราต้อง hike ทั้งหมดเป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร! ฟังดูเหมือนจะเดินไม่ไหว แต่บรรยากาศตลอดการเดินนั้นสวยงานจนลืมเหนื่อยไปหลายทีอยู่เหมือนกันค่ะ สำหรับคนที่ยังไม่เชี่ยวชาญในการ hike และอยากมีไกด์นำทางนั้น ก็สามารถทำได้ เราไปผู้หญิง 4 คน เลยได้ใช้บริการจ้างไกด์เหมือนกันค่ะ ดีเหมือนกันเพราะเค้าเดินเส้นทางนี้จนชำนาญแล้ว สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แถมตอนหลังๆมีช่วยถือกระเป๋าด้วย ราคาอยู่ที่คนละ $85 ต่อคน สำหรับ private group 4-5 คน รวมอาหารกลางวันซึ่งคือแซนวิชกับแอปเปิ้ลด้วย ถ้าสนใจสามารถอีเมล์ไปติดต่อเค้าได้เลยค่ะ (ถ้าไปคน สองคนสามารถไป join group กับคนอื่นได้ ราคาก็จะไม่แพงมากค่ะ)

พวกเราเริ่มออกเดินทางตั้งแต่ 7.30 โมงเช้าโดยมีรถจากบริษัททัวร์พร้อมไกด์มารับที่โรงแรมเพื่อไปส่งที่ Trail head จุดเริ่มต้นของการเดินทาง เค้ามีเส้นทางเดินหลายเส้นทางแต่ Trail ที่เราเลือกเดินคือ Laguna De Los Tres ค่ะ

ภูเขาฟิตซ์ รอยอยู่ด้านหลัง

น้ำสะอาดมากจนสามารถดื่มได้เลย

วิวเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกๆชั่วโมงเลย


หลังจากเดินไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง ก็มาถึงจุดชมวิวที่มองภูเขาฟิตซ์ รอยเห็นชัดและสวยที่สุด เราเลยถือโอกาสนั่งพักกินข้าวเที่ยงซะเลย ขอบอกว่า 400-500 เมตรก่อนถึงยอดเขานี้โหดสุดๆ เพราะทางทั้งชั้นและลื่น แถมยังเหนื่อยอีก แต่วิวตอนขึ้นมาถึงนี่คุ้มจริงๆๆๆ

400-500 เมตรก่อนถึงยอด

วิวบนยอดเขา


หายเหนื่อยเลยค่ะ

พักทานข้าวเที่ยว วิวดีสุดๆค่ะ

ถึงเวลาเดินลง


หลังจากเยี่ยมชมภูเขาฟิตซ์ รอยเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ hike ต่อจนเดินกลับไปถึงโรงแรมเลย ไปถึงโรมแรมประมาณทุ่มกว่าๆ ระยะทางทั้งหมดประมาณ 26 กิโลค่ะ


ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับ adventure นี้

กิจกรรม: Hiking

เส้นทางที่เลือก: Laguna De Los Tres

ระยะทาง: 26 km. (16 ไมล์)

ระยะเวลา: 11 ชั่วโมง

ระดับความยาก: 9/10

ระดับความสวย: 10/10

ราคา: USD$85 ถ้าเอาไกด์นำทาง


Checklist สิ่งของที่ต้องเตรียมสำหรับ hike

- รองเท้าเดินป่าแบบใส่สบายที่สุด

- ไม้เดินป่า (hiking pole) อันนี้ขอแนะนำเลยเพราะช่วยทุ่นแรงได้เลย โดยเฉพาะทางลงค่ะ ยิ่งคนที่มีปัญหาเรื่องเข่ายิ่งต้องเตรียมไป

- เสื้อผ้าใส่สบาย หลายๆชั้น เพราะอากาศที่พาทาโกเนีย เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก ทางที่ดีคือเอาเสื้อผ้าบางๆไปหลายๆชั้นค่ะ แต่งตัวแบบมี Theme เป็น Onion มีหลายชั้น

- เสื้อกันฝน อันนี้ก็สำคัญมาก เพราะกันได้ทั้งฝนและลม

- หมวก หรือ beanie

- แว่นกันแดด

- ครีมกันแดด ส่วนใหญ่ทางเดินจะไม่มีร่มเงา เพราะฉะนั้นต้องคอยทาครีมกันแดดไว้นะคะ

- กระเป๋าเป้ แบบมีหลายช่องหยิบสะดวก

- ขวดน้ำ อย่างที่บอกว่าน้ำที่พาทาโกเนียสะอาดมากโดยเฉพาะในอุทยานแห่งชาติ เพราะฉะนั้นสามารถตักจากลำธารใส่ขวดได้เลยค่ะ

- ขนมแบบ energy bar และผลไม้ เช่น แอปเปิ้ลหรือกล้วย


สำหรับ Checklist สิ่งของที่ต้องเตรียมไปเดินป่าและวิธีเลือกซื้ออุปกรณ์แต่ละชนิด เพื่อนๆสามารถเข้าไป อ่านเต็มๆได้ที่นี่เลยค่ะ


(Tip: ในประเทศอาร์เจนติน่านั้นมีปัญหาเรื่องเงินปลอมค่อนข้างจะมาก เพราะฉะนั้นเพื่อนๆควรจะแลกเงินไปจากเมืองไทยหรือแหล่งที่เชื่อใจได้ก่อนเดินทางไป เมื่อไปถึงแล้วอาจจะมี exchange rate บางที่ที่ดูล่อใจ ยิ่งไม่ควรแลกเพื่อความปลอดภัยนะคะ อีกอย่างเวลานั่งรถแท็กซี่ควรเตรียมเงินให้พอดีกับค่าโดยสาร เพื่อหลีกเลี่ยงการรับเงินทอนจากแท๊กซี่ซึ่งเป็นที่เสี่ยงที่นึงที่จะได้รับเงินปลอมเลยค่ะ)


บล็อกต่อๆไปเราจะมาเล่าที่อื่นๆในพาทาโกเนียที่รับรองความสวยว่าไม่แพ้ที่นี่แน่นอนมาให้ฟังกันต่อ เชื่อว่าถึงแม้จะอยู่ไกลแสนไกลจากเมืองไทย หลายๆคนคงเริ่มอยากไปเยือนพาทาโกเนีย ดินแดนสวรรค์แห่งนี้สักครั้งในชีวิตแล้ววว


ถ้าเพื่อนๆชอบฝากกด Like ใน Facebook Page ด้วยนะคะ ส่วนรีวิวสถานที่เที่ยวสวยๆที่อื่นๆ เข้าไปอ่านไปดูไปที่ www.fallenforadventure.com ค่ะ



Facebook Page: www.facebook.com/fallenforadventure

Instagram: FallenForAdventure

Instagram: Prangvadee

ความคิดเห็น