ก่อนเริ่มต้นเรื่องราว ที่อุบล นี้คือ วีดีโอ รายการของเราครับ
ฝากติชมกันด้วยนะครับ
หากมีเวลาแค่เสาร์ - อาทิตย์ อยากจะเดินทางไปให้สุดประเทศ เอาจริงๆมันก็ไปได้
คือแบบเลิกงาน สแกนนิ้ว 4 โมงครึ่ง แล้วรีบไปสถานีรถไฟกันเลยครับ ทริปนี้เรานัดเพื่อนไปกัน 4 คน
ว่าแต่ เสาร์ - อาทิตย์ กับระยะทาง กว่า 700 กิโล มันพอหรอหว่ะ บอกตรงนี้เลย ว่าพอแล้ว โค - ตะ - ระ มันส์พะยาค่ะ << สะกดอย่างนี้ปะแต่ช่างเถอะมันไม่ใช่ เรื่องราว อันเป็นเรื่องของเรา เรามาหา เรื่อง กันที่จังหวัด อุบลราชธานีกันครับ
เกริ่นนำมา พอสมควรแล้ว เดินทางกันดีกว่าครับ
เราเริ่มต้นจากสถานี บางชื่อ แล้วก็มีเพื่อนอีกกลุ่ม ที่ซื้อตั๋ว ตีมาจาก หัวลำโพง
จะเรียกว่าเพื่อนได้ไหม เพราะยังไม่เคยเห็นกันตัวเป็นๆ รู้จักกันในเฟส แต่ก็ชวนกันมาเที่ยว ฮ่าๆๆ
แต่เพื่อนที่มากับผมที่บางซื่อรู้จัก กันมานานหละ แต่ก็ไม่เจอกันมานานเมหือนกัน แล้วชวนมานั่งรถไฟ
รื้อฟื้นบรรยากาศเก่าๆ เหมือนตอนเรียนจบ ปวช นั่งรถไฟ ชะอำ - หัวหิน ยังๆอีก ยังไม่เข้าเรืองมาๆๆ
ก็ทุกครั้งที่เดินทางด้วยรถไฟ
เรายังคงตื่นเต้นกับการเดินทางอยู่เสมอ
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันรู้สึกคิดถึงเรื่องเก่าๆทุกครัง
เหมือนมันย้อนวันวานกลับไปวันนั้น
ก็รับลม ให้ขี้ตาขี้ฟันมันปลิว ดูนาฬิกา ก็ใกล้จะ 6 โมงหละ แสดงว่าจะถึงปลาย ของเราแล้วครับ
เดินทางไปพร้อมๆ กับเราเลยครับ ทริปนี้เราใช้เวลา แค่ เสาร์ - อาทิตย์ กับปลายกว่า 700 กิโมเมตร สุดประเทศไทย
มันไม่มีอะไรมาหยุดเราได้ ถ้าคนมันจะไป อะนะ เดินทางไปด้วยกัน ที่นี่ จังหวัด อุบลราชธานี กับทริปโขงเจียม ครับ
เราก็นั่งรถสองแถวสีขาวๆ นี้มาคนละ 10 บาท มา ขนส่งอุบลก่อนเลย เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าจะเดินทางกันยังไง
ก็สืบเรื่องราวกันมาได้ว่า ที่นี่มี รถมอเตอร์ไซค์ให้เช่า วันละ 300 บาท เราก้ได้มาจากร้านสเต็กร้านหนึ่ง ละกัน
ก่อนเดินทาง เช็คสภาพรถอย่างดี ถ่ายรูปพร้อม กลัวจะโดนกัน ฮ่าๆๆ
เออ แถวนี้มีตลาดสด 7-11 โลตัส ด้วยนะครับ จะซื้อวัตถุดิบอะไรกัน ก็จากตรงนี้เลย ขับรถออกนอกเมืองไม่มีแล้ว
ถ้าของพร้อมสเบียงพร้อม เราจะเดินทางกันได้หรือหละ ไปกันครับออกเดินทาง สถานที่ ขอไป ผาแต้ม ก่อนแล้วกัน
ก็กะว่าจะไปหาที่กางเต้นท์ แล้ว เอาของไว้แล้วค่อยมาแวะเที่ยวจะดีกว่า เราก็เลยตั้งใจไป หาที่กางเต้นท์กันครับ
ขับมาถึงจุดกางเต๊นท์ของ ผาแต้ม ก็แวะเข้าไปดูซะหน่อย เหมือนจะใหล้ เสาเฉลียง ตั้งใจว่าจะมาแวะถ่ายรูปกันซะหน่อย
หลังกางเต้นท์เสร็จ แต่ปัญหา เกิดขึ้นกับพวกเราครับ รถดันสตาร์ทไม่ติดเฉยเลย เวรกำหละทีนี่ แล้วตรงนี้ ไม่มีคนซะด้วย
ทำไงหว่ะนี้ .....
แต่ก็จนปัญญาครับ แล้ว เลยโทรกลับไป ที่ร้านที่เช่ามา เค้า บอกให้เข็นลงมา บ้า!!! ใครจะเข็นลงไป
เราก็เลยตัดสินใจ ฝากรถไว้กับพี่เจ้าหน้าที่ ก่อนแล้วกัน ก็เดินลงกันเลยครับ ประเด็นคือ เราเช่ารถมาทำไมหว่ะ
บักหรรม เอ้ยย ห้วย!!!
อ่อๆ พวกเราจะไป ถนนใหญ่ครับ ว่าจะเดินไป บ้าาา ขึ้นมาแหม่ะะ เดี่ยวสิไปส่ง --*
พี่แกก็ขับมาส่งพวกเรา 2 รอบเลยครับ ทั้งๆ ที่แกเมามากๆ ยังไง ก็ต้องขอบคุณน้ำใจอย่าง งามๆๆ เลยครับ
เราก็เลยให้ สินน้ำใจ ให้พี่ไป ถอนอีก สัก 3-4 ขวด น่าจะพอได้อยู่ โชคดีเด้ออ้ายย น้ำใจของคนอุบลทำให้ เซิ้งเลยครับ ไม่ใช่ ซึ่ง เว้ย!!
มาถึงถนนใหญ่ ก็ไม่ยากหละ รถผ่านไป ผ่านมา เพียบ โบกคันแรก จอดเลยครับ
ดั่งภาพ เลยครับ รถขนปุ๋ยคอก อย่า ให้พูดเรื่องกลิ่น ดาเวนเดอร์ ครับ หรึ่ม เชี่ยว!! แต่ต้องขอบคุณน้ำใจจริงๆครับ
เห็นป้าย ว่า มีน้ำตกตรงไป ทั้งน้ำตก ลงรู น้ำตกสร้อยสวรรค์ เอาหว่ะไปกันที่นี้หละ เดี่ยวค่อยว่ากัน
เดินได้แปป อ่าวเห้ยรถตู้มาจากไหนหว่ะนี้ มีรถตู้ผ่านเฉย เราก็โดด ขึ้นรถตุ้กันเลยครับ
แต่เราก็ลืมไป ว่าเรา ขึ้นรถขนปุ๋ย มา แล้วมีคนบนรถ พวกเรานี้ นั่งกันนิ่ง เลยครับ ผมต้องกราบขอ อภัยจริงๆ ครับ T T
แต่พี่คนขับบอกว่า ไปน้ำตกสร้อยสวรรค์ สิ มีคนปเยอะเดียวรถก็ผ่าน ว่าแต่ เองเดินมานี้ อะนะ 555
เปล่าพี่ รถผมมันเสีย จอดไว้ผาแต้ม ฮ่าๆๆๆ ก็นั่งมาไม่ไกล 15 กิโล ได้มั้งคัรบ จ่ายพี่เค้าไป คนหละ 20 บาท
เราว่า ลงมา เค้าต้องนิทา เราแน่ เลย 55555 ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปมา เรานั่งเกรงจริงๆครับ
มันก็มีแต่คนถามว่า พวกเองมากันยังไง ก็บอกว่า โบกรถมา 5555 แต่ของที่เราซื้อมาจากตลาดไม่สามารถเอาเข้าได้
ก็เลยฝากไว้ที่ป้อม ตรงจุดบริการ ด้านหน้า เลยครับ มาเหนื่อยๆ ขอเล่นน้ำหน่อยเถอะ เดี่ยวอย่างอื่นค่อยว่ากัน
ใสแค่ไหน มาลองดูครับ มาขนาดนี้ ไม่ลงเล่นน้ำก็บ้าแล้ว ถอด เสื้อ โดนกันเลยครับ
เดี่ยวขอพักแปป แล้วไปสำรวจกันว่า ที่นี่ น้ำตก สร้อยสวรรค์มันจะสวยแค่ไหน กันเชียว
ว่าแต่เรามาน้ำตก กันไม่ใช่หรอ แล้วน้ำตกอยู่ไหนหละ !!!
เพราะดูจากร่องรอยแล้วนับล้านปี เราโม้ไปหรือเปล่านิ ฮ่าๆ ไปครับ เดินกันต่อ
แถมโชว์นิ้วโป่ง ให้กล้อง อีก ฮ่าๆ
อะเอากล้องไป พี่ฝากถ่ายที่ ส่วนพี่ยืนยิ้มอยู่บนนี้ แล้วกันนะ
มันก้ทำให้เรารู้ว่า คนเรามันตัวนิดเดียวเมือ เทียบกับธรรมชาติ
พอนอนได้ นะ เอาเต้นท์กันมาไหมหละ เอามาครับ สบายยยยยยย แต่ที่นี่ ไม่มีไฟฟ้านะครับ
ห้องน้ำนี้ มืดตรืบ แต่ก็ไม่ใช่ ปัญหา แต่ถ้าเราไปถนนใหญ่ถึงมืดนี้หละ ปัญหา นอนกันที่นี่หละดีแล้ว
สุดท้าย ทริปผาชนะได เราก็ ไม่ถึง แต่เราก็เข้าถึงด้วยวิธี การโบกรถมาที่นี้หละครับ
ใครจะเชื่อ เราแบก มาทั้งหมด เพื่อ มาแค่ ปิ้งย่างกับ 1 ค่ำคืน พิเศษ นี้หละครับ
แต่ที่นี่ ด้านนอก พอมีร้านค้า คัรบ เราก็ได้ เครื่องดืมนิดหน่อยมา และ ส้มตำปลาร้า มาอีกจานสบายหละ
เป็นเรื่องราวที่ดี โค-ตะ-ระ เลยครับ มันเป็นคำคืนที่ เราจะจำไปอีกนานเลยครับ
ว่าแต่.... พรุ้งนี้ เราจะกลับกันยังไงหละ --* นี้หละ ปัญหาเริ่มเกิด ฮ่าๆๆๆ แต่ช่างเถอะเดี่ยวค่อยว่ากัน
ขึ้นอยุ่กับสภาพอากาศ ของที่นี่ครับ เราก็มาลุ้นกันว่าเราจะได้เห็นแสงแรกไหม ฮ่าๆๆ
กับการเดินทาง มาตั้ง 700 กิโลเมตร จากกรุงเทพ ยิ่งห่างไกล ยิ่งไกลธรรมชาติ ดั่งที่เค้าบอกไว้จริงๆ แล้วใครบอกหว่ะ
จากนั้น เหมือนมันจะมีทางเดินต่อไปได้ครับ อีกหน่อย คือทางที่เราไป เล่นผ้ายเมื่อวานนั้นหละครับ
นอนที่นี่ ก็ดีเหมือนกันนะ มันไม่มีคนเลยครับ มีแค่ พวกเรา 4 คนนี้หละ ที่เดินในอุทยาน
แต่หน้า เงี้ยงโจร พวกเราคงไม่ถ่ายรุปคุ่ดอกไม้หรอกครับ ฮ่าๆๆ กับไป เก้บข้าวเก็บของกันดีว่า
นี้ยังไม่รู้เลยนิ ว่า จะเดินทาง กลับยังไง --*
อย่าเพิ่งตกใจ หม้อนี้เราไม่ได้ แบกมาครับ คือ เรายืมจากแม่ค้า ด้านหน้ามาจากร้านขายของนั้นหละ ป้าแกใจดีมากๆครับ
กินได้ก็กินกินไม่ได้ ก็เขี่ย ทิ้งไป ฮ่าๆๆ แต่ทำไม ดันอร่อย หวะ
คนรุ่นต่อไป ที่มาก้างเต็นท์ต่อ จะได้ สวยๆ และรู้สึกดีๆอย่างที่เรารู้สึกครับ หง่อออออออ
สนิทกันมาก หรือเพราะเรื่องราวที่เราเจอมาด้วยกัน ผ่านร้อน ผ่านแดด โบกมาด้วยกัน หรือเปล่านะ ที่ทำให้รุ้สึกแบบนี้
และสนิทกันมากขึ้น ถ้ามาคนเดียวก็คงจะแย่ เหมือนกัน ต้องลองมารุ้สึกเองแล้วหละ ว่ารู้สึกยังไง ...
เอาหละได้เวลากลับบ้านกันหละครับ เราก็คุยกับพี่เจ้าหน้าที่ ของทีนี่ เค้าจะอาสาไปส่งพวกเราครับ
ห่ะ!!! พี่ใจดีเกินไปหละ เกรงใจนะ แต่ก้ไปเถอะ สะดวกดีครับ ขืนโบกไป ไม่รู้ว่าจะถึงผาแต้มตรงจุดที่รถเราเสียกี่โมง
แล้วจะลงมาได้ หรือเปล่าก็ไม่รู้ พวกเรา กราบขอบคุณพี่ ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสร้อสวรรค์จริงๆครับ
ก็เป็นคนจริงๆไม่ใช่ตัวแสดง รถที่เห็นก็เป็นรถจริงๆ
ฮ่าๆๆ เทห์ มากครับ แบกรถขึ้นรถ 5555 นี้ยังสงสัยเลยว่า เช่ารถมาทำไม ตั้ง 300 บาท ไม่ได้ใช้เลย ฮ่าๆ
ไปคืน ร้านสเต็ก ที่ โขงเจียม พอไปถึงร้าน ยังให้เราไปเติมน้ำมันคืนด้วยนะ
แล้วเราก็ถามว่า จะไม่ลด ค่ารถให้ผมเลย หรอครับ ผมไม่ได้ไปไหนเลยนะ
เค้ายังมีน่ามาบอกอีก น้องขับไปครึ่งถังแล้วนิ ..... โอเค!! เราจะจำไว้ครับ
เราก็ให้ ค่าสินน้ำใจ ที่พี่เค้ามา ส่ง พวกเราไม่รู้จะขอบคุณอีกที ขอบคุณยังไงแล้วครับ
เราก็มาถึงโขงเจียมตรงตลาดสดนี้หละ ก้ถามว่ารถออกกี่โมง ที่นี่ รถออกทุกช่งโมงครับ คันสุดท้าย 4 โมงเย็น
ป้าคนขายก็บอกว่าอีก ครึ่งชม รถมา ก้ไม่รุ้จะทำอะไร เห็นฝั่งตรงข้าม มีบันได ก็เลย เดินขึ้นกันเลยครับ
ข้างบนน่าจะเป็นจุดชมวิว ไม่ก็วัดแน่ๆ ลองขึ้นไปดูแล้วกันหน่อย
ถึงแม้แสงแรกไม่ได้เห็น แต่เรื่องราวครั้งนี้มันดีเกินคาดจริงๆ
มาถึงรถก็พัง แต่เราก็ไม่คิดจะหยุดเดินทางกันต่อครับ
ก็โบกรถกันมาเรื่อย จนมาถึง ... สุดท้ายน้ำใจของพี่ๆ
แถวนี้ช่วยยกรถเรากลับเมือง เสียความรู้สึกกับร้านที่เช่า
แต่พวกเราก็มีความสุขหว่ะ
ยังไงทริปนี้ ก็ดีใจนะเว้ยที่มาด้วยกัน พวกเอง
ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดี แล้วเราก็ได้เรื่องราว + กับ มิตรภาพดีๆ ด้วยครับ
สรุปทริปนี้ เราพกเงินมากัน คนละ พันกว่าบาท
กลับรถทัวร์ อุบลราชธานี - กรุงเทพ อีกคนหละ 400 กว่าบาท
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ต้องกราบขออภัย
ทริปนี้ เราต้องลากันไปก่อนครับ เจอกันกับเรื่องราวครั้งหน้า
ออกมาเถอะ ไม่กี่บาท แค่ออกมาเดี่ยวก็ได้ประสบการณ์กลับไป
แล้วเจอกันครับ ...
เดินทางไปกับเรานะครับ
เพจ : https://www.facebook.com/maikeebaht/
IG : https://www.instagram.com/mr.konr/
ไม่กี่บาทBackPacker
วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 12.21 น.