สวัสดีครับ . . . เพื่อน ๆ readme ทุกคนครับ

วันนี้จะพาไปลุยอีก ๑ ใน ๑๒ เมืองต้องห้ามพลาดนั้น คือนครสองธรรม

นครสองธรรม คือธรรมะ กับ ธรรมชาติ ทั้งสองผสมกลมกลืน กันไม่สามารถแยกออกจากกันได้

. . .หลัก ๆ ที่จะพาไป คือกราบพระธาตุเมืองนครพิชสปา นั่งชิลล์ ให้ปลาตอดเท้า

มนต์เสน่ห์ทะเลนคร ตื่นเต๊นไปกับ ปลาโลมาสีชมพูบ้านหนังตะลุง สุชาติ ทรัพย์สินธรรมปรัชญาบนผืนหนัง

อิ่มอร่อย กับขนมจีนเส้นสดชมวิวกินอาหารทะเลสด ๆ ที่ปากนคร บรรยากาศแสนโรแมนติก

พร้อมแล้วมั๊ยครับบตามลุยไปกับผมเลย

ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกโหวต ทุกกิ๊ฟและชอบก็แชร์กันได้ครับ ฮิ๊ววว. . .รีวิวชุดนี้ เป็น รีวิวชวนเพื่อน ๆ เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาดมีด้วยกัน ๑๒เมืองต้องห้ามพลาดเป็นโครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

The Amazing Journey : Blogging Contest ครั้งนี้ผม อยู่ทีมเดียวกับเฮีย ( แม่ประนอม ) สำหรับรีวิวแม่ประนอม ติดตามกันได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/34084687 และทีมผมได้ นครสองธรรมนั่นคือ จังหวัดนครศรีธรรมราช นั่นเอง

Cr. :แม่ประนอม

เกริ่นนำทำความรู้จัก เมืองนครสองธรรมกันก่อนคร่าว ๆ

. . . นครศรีธรรมราช เมืองทองสิบสองนักกษัตร มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ ๒ ของภาคใต้ อันดับ ๑๖ ของประเทศไทย

นครศรีธรรมราช เมืองซึ่งมีความหมายถึง“ นครอันเป็นสง่า แห่งพระราชาผู้ทรงธรรม “

ตามพรลิงค์เป็นแคว้นที่รู้จักกันตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ ๕ ด้วยที่มีทำเลที่ตั้ง อยู่บนคาบสมุทรกั้นระหว่าง สองน่านน้ำ

จึงทำให้เป็นเมืองท่าที่สำคัญ ของสมัยก่อน

. . . พุทธศตวรรษที่ ๑๑ - ๑๗พุทธศาสนานิกายมหายาน ได้แพร่หลายจากอาณาจักรศรีวิชัยและเข้ามายังดินแดนแห่งนี้ด้วย

. . . จนพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ๑๘แคว้นตามพรลิงค์รุ่งเรืองสูงสุด ผู้ครองแคว้นตั้งตนเป็นกษัตริย์ นาม “พระเจ้าศรีธรรมโศกราช" ตีเมืองได้ถึง ๑๒ เมืองจึงเรียกเมืองสิบสองนักษัตรนครศรีธรรมราชและได้แพร่อิทธิพล รวมทั้งศาสนาด้วย

จึงเป็นที่ยอมรับว่านครศรีธรรมราช คือ อาณาจักรอละศูนย์กลางของพุทธศาสนา ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในยุคสมัยนั้น

. . . ผ่านไป ๑๐๐ กว่าปีนครศรีธรรมราชเสื่อมถอยลงในช่วงที่ยกทัพไปตี ลังกา มีโจรชวาเข้าปล้น เกิดโรคระบาด บ้านเมืองจึงถูกทิ้งร้าง

กระทั่งสมัยอยุธยานครศรีธรรมราชเริ่มกลับมาก่อสร้างเมืองกันอีกครั้ง และกลายเป็น หัวเมืองฝ่ายใต้ ของราชอาณาจักรอยุธยา

. . . สมัยราชกาลที่ ๕นครศรีธรรมราช ถูกเปลี่ยนฐานะเป็น มณฑลนครศรีธรรมราช

และในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ได้เปลี่ยนมาเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราช จวบจนปัจจุบัน

ตราประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช

คือ รูปพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช มีตรา ๑๒ นักกษัตรล้อมรอบ

การเดินทาง

รถยนต์

โดยทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ

เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่าน จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จนถึง ชุมพร เปลี่ยนมาใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน อ. ทุ่งสง อ. ร่อนพิบูลย์

จนถึง จ. นครศรีธรรมราช

ทางรถไฟ

จากสถานี รถไฟหัวลำโพง

ขบวน 173 รถเร็ว เวลาออก 17:35เวลาถึง 09:55

ขบวน 85รถด่วนเวลาออก19:30เวลาถึง 10:55

สอบถามเพิ่มเติม ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยโทร. 1690

เครื่องบิน

มีบริการเที่ยวบินตรง จากกรุงเทพ สู่ ท่าอากาศยาน จ. นครศรีธรรมราช ทุกวัน

ใช้เวลาเพียง ชั่วโมงเศษ เท่านั้น

เริ่มต้นการเดินทางด้วย

. . . สายการบินนกแอร์มีเที่ยวบินลงสู่ นครศรี 6 เที่ยวบินต่อวัน

และผมบินเที่ยวบินที่ DD7810ทำการบินด้วย B737-800

ใช้เวลาทำการบิน ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

** เคล็ดลับ **เช็คอินผ่านมือถือ สะดวกไม่ต้องต่อคิว เช็คอินแถวยาว ๆ ครับ

ถ้ามีกระเป๋าโหลดก็ ไปช่อง ดร๊อปกระเป๋า ได้เลยครับ

จริง ๆ โชว์บอดิ้งพาส ในมือถือเลยก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องปริ๊นเป็นกระดาษ

วันนี้ผู้ค่อยข้างแน่นครับหลังจากเครื่องไตร่ระดับเรียบร้อย

พนักงานเสริ์ฟขนมเป็นป้าแอน กับน้ำดื่ม

สำหรับไฟล์ทนี้ มีบริการ Wi-Fi ฟรี ด้วยครับ จะมีพนักงานวนเวียนคอยถามผู้โดยสารตลอดว่า ใช้ได้มั๊ย ค่ะสัญญาณโอเค มั๊ย ค่ะ

พอดีผมเอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าด้านบนเลยอด เล่น เลย ฮ่า ๆ ๆ แป๊บเดียว ก็ลดระดับ เริ่มเห็นขอบชายฝั่ง แล้ว

หลังจากนั้นเราก็ รับรถกันครับที่เค้าเตอร์ THAI RENT A CAR

วันนี้ เป็น Eco Carแบบประหยัด ๆ น้ำมัน

เราจะขับไป อำเภอขนอมกันเลยครับ ^^

. . . สำหรับค่ำคืนนี้พักกันที่ ตาลคู่ บีช รีสอร์ท ขนอมราคาต่อคืน พันกว่าเท่านั้น ครับ

ราคานี้ รวมอาหารเช้า ที่พักติดทะเลเป็นทะเลฝั่งอ่าวไทยที่เงียบสงบ มากก

เหมาะกับการพักผ่อน จริง ๆ

. . .หลังจากนั้น เราไปกันที่ ต้น ธาร รีสอร์ท แอนด์ สปาราคา 150 บาท

ไปลองฟิชสปากัน ครับ ไปนั่งในลำธารธรรมชาติให้ปลาตอดเท้า

. . . ลองนึกภาพตามผมนะ เหมือนเราโดนจักกระจี้เท้า ในน้ำเลย ครับ

กว่าผมจะทำใจให้ชิน ได้ ใช้เวลาเกือบ 20 นาที เอาเป็นว่า นั่งอยู่ เกิน 40 นาที แน่ ๆ จนจะกลับแล้วก็ไม่ชิน อยู่ดี ฮ่า ๆ

. . . ตื่นเช้ามา รีบทานอาหารเช้า เพื่อต้องจะไปถึงท่าเรือแหลมประทับ เพื่อไปชม

ปลาโลมาสีชมพู ไม่ได้เห็นทุกครั้งที่ออกเรือ ไปนะครับ แล้วแต่ ดวง จริง ๆ

ฟ้าต้องโปร่ง น้ำต้องใส และต้องเป็นช่วงเช้า จะมีโอกาสเห็น มากที่สุด

. . . ใช้เวลาประมาณ20 นาที จากโรงแรมเราก็ มาถึงท่าเรือแหลมประทับ

ค่าจ่ายใช้ต่อเรือ 1 ลำ คือ 1,000 บาท และนั่งได้ถึง 8 คน

ตารางคร่าว ๆ ของ ทริปวันนี้ ที่ป้าบอกกับผม คือ

เขาหินพับผ้า, นมัสการหลวงปู่ทวด เกาะนุ้ยนอก

ไฮไลค์ คือ ชมปลาโลมาสีชมพู ( ต้องลุ้นกันว่าจะได้เห็นหรือป่าว ไม่ได้เห็นทุกครั้ง )

เขาหินพับผ้า ( Pancake Rock )

ความสวยงามของธรณีวิทยากว่า 260 ล้านปีให้มีลักษณะซ้อนกัน คล้ายเครปเค๊ก

เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่ไม่ควรพลาด

. . . นมัสการหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่เกาะนุ้ยนอกพิสูจน์บ่อน้ำจืดกลางทะเล

ได้ชิมกันทุ๊กคน ครับ ว่า จืดจริง ๆ เผื่อเป็นการพิสูจน์ ตามตำนาน คือ หลวงปู่ทวดได้เคยมาเหยียบน้ำทะเลให้กลายเป็น น้ำจืด

. . . เมื่อครั้งที่ท่านเดินทางมากับเรือสำเภาเพื่อไปอยุธยา ระหว่างทางเรือขาดเสบียงและน้ำ ที่จะใช้ในเรือ คนในเรือ เลยคิดจะปล่อยท่าน

ไว้ที่เกาะแห่งนี้ ท่านรู้ด้วย ญาณของท่านเอง ด้วยความสำนึกที่ เขาให้โดยสารเรือมา จึงอยากตอบแทนโดยการเหยียบน้ำที่หิน

แล้วบอกคนบนเรือว่าน้ำตรงนี้ จืด ให้เอาไปไว้ใช้ในเรือ แต่คนบนเรือ ก็ไม่เชื่อ เลยต่างพากัน ชิมดู

ปรากฎว่า เป็นน้ำจืด จึง ก้มกราบพร้อมนิมนต์ ท่านกลับบนเรือ เช่นเดิม

ภายหลังมีคนมาสร้างรูปเหมือนของท่านไว้ที่เกาะนุ้ยนอกแห่งนี้

จึงมีคนมาสักการะตลอด

. . . อ่าวเตล็ด เป็นแหล่งท่องเที่ยวของขนอม สำหรับเป็นจุดชมฝูงปลาโลมาสีชมพู

ตอนนี้ เหลืออยู่เพียง ไม่ถึง 50 ตัวคุณยายที่ ทำหน้าที่เสมือนไกด์ เล่าให้พวกเราฟังว่าพวกมันอยู่รวมตัวกัน และหากินเป็นฝูง อาหารของพวกเขา คือ ปลาเล็ก ปลาน้อยวันนี้พวกเราเจอ ราว 15ตัว ( แต่ผมไม่แน่ใจ ว่า ตัวเดิม รึป่าว นะ ที่โผล่มาให้ผมเห็น ฮ่า ๆ )

ผมสังเกตุ เวลาเราเจอปลา คนขับเรือจะดับเครื่อง ยกใบพัดเรือขึ้น และลอยลำ

แล้วคอยมองว่า จะโผล่มาตรงไหน

ตอนแรกหมดหวังแล้ว กะลังจะกลับแล้ววแต่แล้วสวรรค์เข้าข้าง ฮิ๊วว

. . . พอเรากลับขึ้นฝั่ง ทางศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่ 4

กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านแหลมประทับ จัดกิจกรรมอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์

. . . โครงการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อความมั่นคงทางอาหารและรองรับการท่องเที่ยว

ภายใต้แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ปี 2558

ได้มีการปล่อยพันธ์ุลูกกุ้ง ณ บริเวณท่าเทียบเรือบ้านแหลมประทับ อำเภอขนอม

ผมเดินถือกล้องไปมา มีพี่ช่างภาพในงาน ชวนปล่อยกุ้งด้วยกัน

ผมเลย ร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านแหลมประทับ ด้วยเลย แอบโชคดี ฮิ๊ววว

. . . หลังจากนั้นก็ไปหามื้อเที่ยงทานกันที่ครัวตังเก

ราคาสั่งกับข้าว 4 อย่างในภาพ ทานกัน 3คน ประมาณ 800 บาท ถือว่าไม่แพงครับรสชาติก็ โอเค นะครับ

. . . หลังจากนั้นเข้าในเมืองกันแวะไปหาข้อมูลเพิ่มกันที่ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช

มีทั้งโบวชัวร์ เอกสารเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเมืองนครสองธรรมแห่งนี้เยอะมาก หรือจะเข้าไปพูดคุยสอบถาม ได้นะครับ

จะมีพี่น้อง ใจดีคอยให้คำปรึกษา

. . . แวะกราบนมัสการพระธาตุเมืองนครณวัดพระมหาธาตุวรวิหาร

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ

พระบรมธาตุทรงลังกา ปลียอดหุ้มทองคำอร่าม เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร

. . . ถ้าแวะไปวัดพระธาตุห้ามลืมโซนของฝาก นะครับ

ขนมลา อร่อยเหาะ มีทานกันตลอดทั้งปีและบ้างฤดู จะมีมังคุดคัด ให้ทานกันด้วย

. . . กำแพงเมืองนครศรีธรรมราช การสร้างกำแพงเมืองนครศรีธรรมราช

ปรากฏหลักฐานจากตำนานเมืองนครศรีธรรมราชว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

. . . แต่ปัจจุบัน กรมศิลปากรได้ทำการซ่อมกำแพงด้านเหนือเพียงบางส่วน ใบเสมา

และแนวป้อมจึงยังคงปรากฎให้เห็นส่วนด้านอื่น ๆ นั้น พังทลายเห็นเพียงซากอิฐหรือดินเท่านั้น

. . . ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช อันเป็นที่ประดิษฐานหลักเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช

อาคารหลัก ประกอบไปด้วย อาคาร 5 หลัง หลังกลางเป็นที่ประดิษฐานหลักเมือง

. . . ลักษณะของการออกแบบมีศิลปะคล้ายศิลปะศรีวิชัยส่วนอาคารหลังเล็ก 4 หลัง

ถือเป็นบริวารประจำทั้ง 4 เรียกว่า ศาลจตุโลกเทพ

ประกอบด้วยพระเสื้อเมืองพระทรงเมืองพระพรหมเมืองและพระดาลเมือง

. . . สำหรับในเมืองคืนนี้ เราพักกันที่TERRACEเป็นโรงแรมใหม่ ห้องกว้าง

ราคาพันต้น ๆ เท่านั้น รวมอาหารเช้า ด้วยครับ

. . . ทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม เป็นไลน์อาหารหลัก ๆ

คือ ข้าวผัด ข้าวต้ม รสชาติอร่อยเลย ล่ะครับมีทั้งชา กาแฟผลไม้ตามฤดูกาล

หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยไปกันที่

. . . บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สินธรรมปรัชญาบนผืนหนังที่เป็นมากกว่าตัวละคร

ท่านเป็น ศิลปินหนังตะลุงและช่างแกะหนังตะลุง ฝีมือเยี่ยมแห่งเมืองนครศรีธรรมราช จะมีลูกสาวของท่าน

คอยให้คำอธิบาย กระบวนการผลิต ตั้งแต่ ต้น จนเสร็จ ที่จะไว้แสดงโชว์ ได้ ครับ

. . . แวะทานข้าวเที่ยงกันที่ร้านใบตอง

จานแนะนำคือข้าวมันหมูย่างอร่อยมากกก ในราคามิตรภาพ

. . . หลังจากทานอาหารเสร็จ ลุยกันต่อ ที่เมืองปากพนังจอดรถไว้และลงเรือข้ามฝากไป

ราคาอยู่ที่คนล่ะ 1 บาท เท่านั้น

. . . ข้ามไปดู วิธีชีวิตของชาวบ้าน ชาวประมง

ทั้งขายอาหารทะเล สด ๆ และอาหารทะเล แบบตากแห้ง

รวมถึงกระบวนการตากแห้ง ด้วยครับ

. . . มื้อค่ำ ดินเนอร์กัน ร้านอาหารปากแม่น้ำ นครศรีฯ บรรยากาศชิลล์เวอร์

แนะนำ โทรจองโต๊ะล่วงหน้านะครับ ผมไปแบบไม่ได้จองโต๊ะ วิวเลย อาจจะไม่ค่อยฟิน แฮร่ ๆ

เมนูอร่อย คือ ข้าวผัดปูไข่ รสชาติธรรมดาแต่ เนื้อปู ไข่ปู เยอะเลยครับ

. . .ก่อนกลับกรุงเทพ ฯใครมาแล้วไม่ได้มาทาน ขนมจีนแห่งเมืองนครศรี ฯ

ถือว่า มาไม่ถึงนะครับบบขนมจีนเมืองนคร วัฒนธรรมการกินที่โดดเด่น

ร้านแนะนำมีหลายร้าน นะครับ

ขนมจีนเมืองคอนถ. พานยม

ขนมจีน เส้นสด แม่แอ๊ด

ขนมจีน พี่นีถ. สะพานยาว

แต่ผมเลือกร้าน ขนมจีนสดแม่แอ๊ด เพราะว่า ผ่านมาเจอพอดี แฮร่ๆ

มาร้านนี้ ห้ามพลาดทอดมันกุ้ง นะครับ อร่อยเหาะ ผมสั่งไป 4 จาน เบิ้ล แล้ว เบิ้ลอีก เลย ครับ

และตบท้ายกันด้วย ขนมกวนขาว ลองชิมนะ พี่น้อง ททท. นครศรี แนะนำมา ผมเลยจัดซะหน่อย ฮิ๊วว

ได้เวลากันแล้วที่จะกลับกรุงเทพ ฯ

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ขอขอบคุณ พี่น้อง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครศรีธรรมราช

ขอบคุณสายการบินNokair, Thai Rent A Car , KEEN THAILAND , OUTDOOR INNOVATIONที่ร่วมสนับสนุน

ขอบคุณพื้นที่สำหรับการแบ่งปันข้อมูล Readme.me และเพื่อน ๆ ที่ติดตามอ่านกันจนจบ ฮิ๊วววว