สวัสดีครับ เพื่อน ๆ
. . . จุดหมายปลายทางของทริปนี้ คือ เกาะสวรรค์ของใครหลาย ๆ คน ที่ตั้งเป้าหมายว่า สักครั้งนึงในชีวิต ที่จะต้องไป
ผมเคยมีความคิด เช่นนี้เหมือนกัน แต่หลังจากที่ผมกลับมา แล้วทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไป จากที่คิดว่า สักครั้งในชีวิต จะต้องไป
กลับกลายเป็น ครั้งเดียวไม่พอ อยากไปเที่ยวมัลดีฟส์ ซะทุกปี เลย ฮิ๊วววว . . .
ติดตามกันได้ที่ www.facebook.com/naifahsai
IG : naifahsai
[CR] ส่วนของตั๋วเครื่องบิน
[SR] ส่วนของที่พัก
ขอบคุณทุกกิ๊ฟ คอมเม้น โหวต และแชร์ คร๊าบบผม ฮิ๊วววทำความรู้จักกับมัลดีฟส์
ประเทศมัลดีฟส์ มีเมืองหลวง ชื่อว่า มาเล เป็นเมืองหลวงที่มีขนาดเล็กมากที่สุดในโลก มีประชากรประมาณ 1 แสนคน
ตั้งอยู่บนเกาะมาเลในหมู่เกาะ Kaafu Atoll เป็นพื้นที่ประกอบด้วย หมู่เกาะปะการังจำนวนมาก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย
ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการัง 26 กลุ่ม รวม 1,190 เกาะ แต่มีประชากรอาศัยเพียง 200 เกาะ ในจำนวนนี้มีเพียง 74 เกาะที่ได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว
เตรียมตัวไปเกาะมัลดีฟส์ และข้อควรรู้ก่อนไปมัลดีฟส์
ตั๋วเครื่องบิน
สำหรับตั๋วบินตรง จะมีสายการบินเดียว คือ บางกอกแอร์เวย์ ใช้เวลาบินเพียง 4 ชั่วโมง 15 นาที
มีวันละ 1 เที่ยวบิน ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ 9:30 ถึงมัลดีฟส์ 11:45 ตามเวลาท้องถิ่น
และขากลับจะออกจากมัลดีฟส์ 12:40 ถึงสุวรรณภูมิ 19:05 ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง 25 นาที
ถ้าไม่อยากจ่ายราคาเต็ม แต่อยากบินตรงจ่ายราคาเบา ๆ
ก็ต้องแลกพ้อยบัตรเครดิต โอนเข้า FlyerBonus ของ บางกอกแอร์เวย์
จ่ายภาษี เพียง 5,710 บาท รอโปรโมชั่นแลกพ้อย ลด 50% ก็ ได้ครับ
หรือ Srilankan Airlines via Colombo ก็จะมีโปรออกมา ไม่เกิน 10,000 นึงก็เคยมี
แต่อาจจะยุ่งยากกับการต่อเครื่อง เวลาออกจากสุวรรณภูมิ 21:05 ถึงโคลัมโบ 23:00 รอต่อเครื่องถึง 8 ชั่วโมง
บินออกจากโคลัมโบ 07:20 ถึง มัลดีฟส์ 8:15 ( ตารางบิน ณ มีนาคม 2559 ) แนะนำบินตรง รอโปรดี ๆจ่ายเบา ๆ ดีกว่าครับ
เวลาที่มัลดีฟส์ จะช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ระบบไฟฟ้า เป็นแบบ 220-240 โวลต์ สำหรับที่โรงแรมที่ผมพัก มีหัวแปลงให้ในห้องพัก
สกุลเงิน
เกาะมัลดีฟส์ ใช้สกุลเงิน Rufiyaa แนะนำให้แลกเป็น USD ดอลล่า ไปนะครับ
ควรไปเที่ยวมัลดีฟส์เดือนไหนดี
เกาะมัลดีฟส์ ตั้งอยู่ กลางมหาสมุทรอินเดีย สภาพอากาศร้อนชื้น
ฤดูร้อน อยู่ระหว่าง เดือน พฤศจิกายน - เมษายน เป็นฤดูท่องเที่ยว
ฤดูฝน อยู่ระหว่าง เดือน พฤษภาคม - พฤศจิกายน
แต่สำหรับผม ช่วงไหนก็ได้ ที่มีโปร ฮ่า ๆ เพราะว่า ถึงจะมีฝนตก มันก็ตกแป๊บเดียว 20-30 นาที ลมจะพัดไปหมดเลย
โปรแลกไมล์ของบางกอกแอร์เวย์ เดินทางช่วง พค. - กค. มักจะมีโปรโมชั่นอยู่บ่อยๆ ได้ราคาตั๋วถูก ช่วงนี้ ที่พักก็จะถูกด้วยครับ
สรุปเกาะมัลดีฟส์ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
เตรียมของใช้ส่วนตัว
ครีมกันแดด แว่นกันแดด ชุดว่ายน้ำ อุปกรณ์ถ่ายใต้น้ำ
ถ้าเตรียมของกันเรียบร้อย ก็ออกเดินทางกัน คร๊าบบ ฮิ๊ววว
เช็คอินกันที่ เค้าเตอร์ของบลูริบบอน สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
เล้าท์บลูริบบอน สำหรับผู้โดยสารชั้น Business และสมาชิก Premium
เล้าท์ที่นี่ มีห้องอาบน้ำ เก้าอี้นวด ครบเหมือนกับฝั่ง ในประเทศครับ
เตรียมไปยัง Gate C1A
สำหรับเที่ยวบินที่ PG711 บินตรงสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ อิบราฮิม นาเซอร์ ประเทศมัลดีฟส์
ใช้เวลา 4 ชั่วโมง กว่า ๆ เท่านั้นเอง
เป็นเครื่อง Airbus319
Business ใน A319 มีฝั่งล่ะ 2 ที่ 3 แถว ทั้งหมดเพียง 6 ที่นั่ง
ทะยานสู่ฟ้า หลังติดเบาะพร้อมแล้ววว
หลังจากไต่ระดับเป็นที่เรียบร้อย
เราก็ รออาหารร้อน สำหรับ Business มีเมนูให้เลือก
เมนูนี้ เป็นเมนูที่ผม Request Seafood Meal ตอนจองตั๋วเครื่องบิน ได้เป็นเนื้อปลา
รสชาติก็ อร่อยคร๊าบบ แต่ก็ยังอิ่มอยู่เลย จัดเต็มมาตั้งแต่ เล้าท์ละ ^^
ส่วน เชตนี้ มาสั่งจากเมนูบนเครื่องเอาครับ
ต่อไปเป็นผลไม้ อีก 2 จาน และตามด้วยวุ้นผลไม้
Mini Ipad ให้ยืม คลัง Entertain เลย ทั้ง เพลง หนัง เกมส์
หลังจากนั่งว่าง เลยมาเปิดดู Amenity Kit ดูว่าข้างในมีอะไรบ้าง แจกฟรี สำหรับ ชั้น Business
เตรียมเขียน ใบ ตม. เข้าประเทศมัลดีฟส์
. . . เราบินมา ประมาณ 4 ชั่วโมงเครื่องได้ทำการลดระดับ
เริ่มตื่นตา ตื่นใจ กะวิวหน้าต่างแล้ววว
วิวฝั่งนี้จะเป็นเมืองมาเล่ เดี๋ยวเราจะไปค้างที่ตัวเมืองมาเล่ ด้วย ฮิ๊วววว
หลังจากนั้น จะมี พนักงานยื่น ชูป้าย ของโรงแรม Centara Ras Fushi Resort & Spa Maldives และ โรงแรม Centara Grand Maldives ผมก็ ตรงดิ่งไปเลย คร๊าบบ เพื่อตรวจสอบ ห้องที่เราได้จองมา แล้วนั่งรอเจ้าหน้าที่ เพื่อเรียกลงเรือกัน
จะมีพนักงานนำกระเป๋าสัมภาระลงไปในเรือก่อน ที่จะเรียกผู้โดยสารขึ้นไป
ผมพร้อมแล้ว คร๊าบบ ฮิ๊วววว เตรียมตัวขึ้นเรือกัน คร๊าบบ
จากท่าเรือ มาถึงยังเกาะ Giraavaru Island ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Centara Ras Fushi Resort & Spa Maldives
ใช้เวลาเดินทางด้วย เรือสปีดโบ๊ท 15 นาที
หลังจากนั้น พนักงานจะแนะนำ คือ ไม่ค่อยได้ฟัง ตามองข้าง ๆ มากกว่า ฮ่า แค่ท่าเรือ น้ำก็ใสแจ๋ว ล่ะ
บริเวณท่าเรือ ของโรงแรม Centara Ras Fushi Resort & Spa Maldives
แค่ท่าเรือ ก็ อยากจะกระโดดน้ำล่ะ ฮิ๊ววว
Lobby
เช็คอิน กันครับ จะมีพนักงานมาอธิบาย ( เป็นพนักงานคนไทย )
ในการจองห้องอาหาร ทุกห้องอาหาร อุปกรณ์ดำน้ำ และกิจกรรมต่าง ๆ บนเกาะ ตลอดที่เราอยู่ที่นี่
ห้องพักที่นี่ จะมี 4 Room Type
Ocean Front Beach Villa
Deluxe Ocean Front Beach Villa
Deluxe Water Villa
Deluxe Sunset Water Villa
ห้องอาหาร มีทั้งหมด 4 ห้องอาหาร
1. ห้องอาหาร Ocean ให้บริการอาหารแบบบุฟเพ่ต์
+ อาหารเช้า ตั้งแต่เวลา 07:00 - 10:00 น.
+ อาหารเที่ยง ตั้งแต่เวลา 12:00 - 14:00 น.
+ อาหารเย็น ตั้งแต่เวลา 19:00 - 22:00 น.
** ไม่จำเป็นต้องสำรองที่นั่งมาก่อน **
2. ห้องอาหาร Alkhaimah ( อัลไคมา ) อยู่ในเต๊นท์ ให้บริการอาหารอาราบิค
ให้บริการเฉพาะอาหารเย็น ตั้งแต่เวลา 19:00 - 22:00 น.
**ต้องสำรองที่นั่งมาก่อนนะครับ**
3. La Brezza ( ลา เบรซซ่า ) ให้บริการอาหารอิตาเลี่ยน ห้องอาหารตั้งอยู่บริเวณ สระว่ายน้ำ
ให้บริการ อาหารเที่ยง 12:00 - 14:00 น.
และอาหารเย็น 19:00-22:00 น.
**ต้องสำรองที่นั่งมาก่อนนะครับ**
4. Suan Bua ห้องอาหารสวนบัว ให้บริการอาหารไทย ตั้งอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ
บริการอาหารกลางวัน เวลา 12:00 - 14:00 น.
และอาหารเย็น เวลา 19:00 - 22:00 น.
**ต้องสำรองที่นั่งมาก่อนนะครับ**
ส่วนของบาร์ มี 3 ส่วน
- Viu Bar ** เป็น Hilight ของ Bar ที่นี่ เลย
เปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00 - 23:00 น.
ชา-กาแฟ พร้อมของว่าง ให้ชิลล์ กันยามบ่าย เวลา 15:30 - 16:30 น.
และ ซันดาวเนอร์ คานาเป้หลากหลายช่วงพระอาทิตย์ก่อนมื้อดินเนอร์ 18:30-19:30 น.
- Giraavaru Lobby Bar เป็นบาร์บริเวณ Looby ให้บริการตั้งแต่ 11:00-23:00 น.
- Wave Pool Bar บาร์กลางสระว่ายน้ำ บริการตั้งแต่ 10:00-18:00 น.
Water Sport Center
จะมีอุปกรณ์สำหรับดำผิวน้ำ Snorkel ให้ยืม
แต่เราต้อง ทดสอบว่ายน้ำ กับเจ้าหน้าที่ เวลาทดสอบจะมีเป็นช่วงเวลา นะครับ
สำหรับที่ กิจกรรมต่าง ๆ ทัวร์ครึ่งวัน / ทัวร์เต็มวัน มีให้จองได้ที่ Water Sport Center
+ TURTLE QUEST คนละ 50 $ ต่อคน จะมีบริการเฉพาะวัน Monday - Wednesday - Saturday เท่านั้น
+ SUNSET FISHING คนละ 65 $ ต่อคน มีบริการตั้งแต่เวลา 17:00 - 19:00 ของทุกวัน
*Eat the fish you catch at the restaurant of your choice
+ SNORKELING EXTRAVAGANZA ( Snorkel at two spots ) คนละ 65 $
จะมีบริการเฉพาะวัน Monday - Thursday - Saturday เท่านั้น
+ DOLPHIN CRUISE คนละ 100 $ ต่อคน ( Group ) On Demand ( 2 Person ) 350$ ( Private )
+ BIG GAME FISHING On Demand 750$ ( 4 Hours ) 150$ ( Every extra hour )
*Eat the fish you catch at the restaurant of your choice
+ PARASAILING คนละ 95$ มีบริการเฉพาะวัน Sunday - Tuesday - Thursday and Fridayหลังจากดูผังของรีสอร์ท แบบกว้าง ๆ ไปแล้ว เดี๋ยวจะเจาะลงรายละเอียดให้นะครับ
ไปยังห้องพักกัน ครับ
Suan Bua ห้องอาหารสวนบัว ให้บริการอาหารไทย ตั้งอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ
บริการอาหารกลางวัน ตั้งแต่ เวลา 12:00 - 14:00 และ Dinner เวลา 19:00 - 22:00
จะมี + Appetizer + Main Dish ( เลือกได้ Chicken , Beef , Fish , Pork , Vegetables ) + Dessert
วันแรก ผมประเดิม ห้องอาหารสวนบัว อาหารไทย
All Inclusive Package สามารถเลือกได้
ONE APPETIZER OR SOUP
ONE SALAD OR MAIN COURSE ( RICE INCLUDED )
ONE DESSERT
ผมสั่ง APPETIZER เป็น ปอเปี๊ยะทอด และ ไก่สะเต๊ะ
น้ำจิ้มไก่สเต๊ะ แอบน้อยไปนิด แต่เรื่องรสชาตินี้เหมือนทานที่เมืองไทย เลยครับ ^^
ส่วน MAIN COURSE สั่งเป็น ข้าวผัดกุ้ง และผัดไทยกุ้งสด
วัตถุดิบนำเข้าจากประเทศไทย และเชพคนไทย ฉะนั้นรสชาติไทยแท้ หายห่วงนะครับบ ^^
DESSERT เป็น ฟักทองสังขยา และข้าวเหนียวมะม่วง
. . . ตื่นเช้า กันก็ แอบสำรวจรอบเกาะกัน ที่นี่ มีกิจกรรมทางน้ำ อย่าง เรือถีบคู่ เรือแคนู กระดานโต้คลื่น ทุกอย่างที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ บริการฟรี
. . . หลังจากเดินเล่นสำรวจเกาะกันแล้ว ก็ไปทานอาหารเช้ากัน สำหรับอาหารเช้า
ทานกันที่ ห้องอาหาร Ocean ให้บริการอาหารเช้า ตั้งแต่เวลา 7:00 - 10:00 น.
คือ ผมแอบติดใจ ขนมหวาน ที่นี่ คือ ไม่หวานมาก อร่อย เลยครับ
. . . หลังจากอิ่มเรียบร้อย กำลังคิดว่า ลงสระน้ำ หรือ ลงสระหน้าห้องดี
เอาเป็นว่า สระน้ำ ไว้ก่อน ลงสระหน้าห้องตัวเองก่อนดีกว่า สำรวจสระว่ายน้ำกันก่อน ดีกว่า ครับ
แล้วก็ต้องไปยืมอุปกรณ์สำหรับดำผิวน้ำ Snorkel จาก Water Sport Center
ว่ายน้ำหน้าห้องก่อนละกัน พร้อมตรียมกล้องถ่ายใต้น้ำ มาแล้ว ฮิ๊ววว . . . สระว่ายน้ำไว้ก่อน อิอิ
อุปกรณ์พร้อมแล้ว ....
รูปทั้งหมดนี้ ผมดำน้ำ อยู่ใกล้ ๆ วิลล่า ทั้งหมดเลย
ดำเพลินกันเลยทีเดียว SPF50+ ผมว่าก็เอาไม่อยู่ล่ะ ฮ่า ๆ
รูปทั้งหมดผมใช้ Gopro 3+ ถ่ายเป็นไฟล์วีดีโอ แล้วมา Cap เอาครับ
. . . . มื้อกลางวัน ผมโทรจองไว้ที่ห้องอาหาร La Brezza (ลา เบรซซ่า) ให้บริการอาหารอิตาเลี่ยน ห้องอาหารตั้งอยู่
บริเวณ สระว่ายน้ำ บริการอาหารเที่ยง 12:00 - 14:00 น. และ อาหารเย็น 19:00-22:00 น.
สั่งก่อนเลย คือ เครื่องดื่ม ของผมเป็น BLUE OCEAN กับ VIRGIN COLADA
เครื่องดื่ม สำหรับ All Inclusive Package สั่งได้ไม่อั้น
มาก่อนเลย คือ ขนมปัง พร้อมด้วย เครื่องเคียง ผมจำไม่ได้ว่าเรียกว่า อะไร แต่อร่อยนะครับ
จะมี 3 Course ให้เราเลือกเหมือนเดิม
+ Entrée (อ่านว่า ออง-เทร มาจาก ในภาษาฝรั่งเศส หรือ Appetizer นั่นเอง )
+ Main or Pasta or Pizza
+ Desert
Entrée
ผมเลือกเเป็น ANTIPASTO PLATE , HIGH COUNTRY PORK
( บอกตรง ๆ คือ เลือกไปมั่ว ๆ ไม่รู้ว่า หน้าตาจะออกมาเป็นยังไง ฮ่า ๆ จะกินได้ไหม ไม่รู้ )
แต่บทสรุป ... หมดนะครับ ฮ่า ๆ
Main Couse จะเป็น SEAFOOD PIZZA อันนี้ อร่อยแน่นอน
และสั่งอีกอย่างมา คือ PORK TENDERLOIN รสชาติอร่อยเลย นะครับ แต่จำได้ว่าไม่หมด อิ่มพิซซ่ากันซะก่อน
Desert จะเป็น COCONUT PANNA COTTA , RASPBERRY TORTE
ขนมที่ห้องอาหาร La Brezza ผมกล้าการันตี เลย ว่าอร่อยยยย จริง ๆ ครับบ ^^
** Viu Bar ** เป็น Hilight ของ Bar ที่นี่เลย เราสามารถนั่งเล่น นอนเล่น บนเชือกตาข่ายได้
และนั่งจิบไวน์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00 - 23:00 น. ชา-กาแฟ พร้อมของเวลา 15:30 - 16:30
และ ซันดาวเนอร์ คานาเป้ หลากหลาย ให้ชิลล์ ช่วงพระอาทิตย์ก่อนมื้อดินเนอร์ 18:30-19:30
. . . นอนชิลล์ บนเชือกตาข่าย นอนดู พระอาทิตย์ตกน้ำ ท้องฟ้าค่อย ๆ ทอแสงเป็นสีส้ม แล้วตกน้ำไป
อาหารเย็นฝากท้องไว้ที่ ห้องอาหาร Alkhaimah (อัลไคมา) อยู่ในเต๊นท์ ให้บริการอาหารอาราบิค
ให้บริการเฉพาะดินเนอร์ ตั้งแต่เวลา 19:00 - 22:00
จานแรกจะเป็น Makdous Salad , Artichoke Salad แนะนำเลยน่าลองนะครับ
ผมทานแล้วรสชาติ ไม่สามารถบรรยายได้ ต้องลอง ๆ คร๊าบบ แค่บรรยากาศก็โอเค แล้ว ^^
Main Couse จะเป็น Grilled Boneless Chicken , Lamb Chops
ของผมเป็นเนื้อไก่ถึงเครื่องเทศ ไม่แห้งจนเกินไปครับ ส่วนเนื้อแกะ ไม่มีกลิ่นสาบ น้องที่ทานชอบ บอกอร่อย
ปิดท้ายด้วย ของหวาน Sorbet Green apple , Lemon
เข้มข้น จี๊ดจ๊าดแก้เลี่ยนจาก Main Couse
ตื่นเช้าวันนี้ ตื่นเต้น เพราะว่าจะออกไปดำน้ำดูเต่า กัน
จองที่ Water Sport Center วันนี้เป็น TURTLE QUEST คนละ 50 $ ต่อคน
จะมีบริการเฉพาะวัน Monday - Wednesday - Saturday เท่านั้น
บรรยากาศภายในเรือ นั่งเรือประมาณ 30- 45 นาที ก็จะถึงจุดดำน้ำดูเต่า
บนเรือมีห้องน้ำ มีผ้าขนหนู เครื่องดื่ม ^^
และแล้ว เราก็ เจอจะมี Staff คอยชี้ให้ดู ว่าเต่า อยู่จุดไหน ๆ
ห้องอาหาร Ocean ให้บริการอาหารแบบบุฟเพ่ต์
+ อาหารเช้า ตั้งแต่เวลา 07:00 - 10:00 น.
+ อาหารเที่ยง ตั้งแต่เวลา 12:00 - 14:00 น.
+ อาหารเย็น ตั้งแต่เวลา 19:00 - 22:00 น.
ค่ำคืนนี้ ฝากท้องไว้กับห้องอาหาร Ocean
หลังจากนั้น ทำสปากัน SIGNATURE COLLECTION
Maldivian Sea Sand & Senses Signature Massage กัน จะอยู่ที่ 90 Min
กรอกข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับร่างกาย กันก่อนทำสปา ครับ
พร้อมผ้าเย็น และน้ำมะตูม (คือไม่อิ่ม อ่ะ 555+ แก้วติ๊ดเดียว ^^)
แสงภายในห้องหรี่ลง เพลงบรรเลงเบา ๆ แอร์เย็น ๆ ยังไม่ทันจะได้นวดเลย ผมก็จะหลับซะล่ะ ^^
หลังจากนวดเสร็จ นี่สบายตัวจากการตะลอน ๆ ดำน้ำ มา 2-3 วันที่ผ่านมา
ห้องเกมส์ และฟิตเนส มีให้บริการเช่นกันครับ
Shop ของที่ระลึก
ได้เวลากลับกันแล้วครับ แจ้งกับทางฟร๊อนไว้ได้เลย ว่าจะกลับช่วงเวลากี่โมง
พนักงานจะมายืนโบกมือ แบบนี้กับแขกทุกคน
ประทับใจตลอดการใช้ชีวิตพักผ่อน อยู่ที่นี่ ไม่แปลกใจทำไมแขกต่างชาติ ถึง return กลับมาที่นี่ ทุก ๆ ปี
บ๊าย บาย ...
เพียง 15 นาที เราก็มาถึงยังท่าเรือ เป็นท่าเรือที่ใกล้อาคารฝั่งผู้โดยสารขาออก
บรรยากาศภายในสนามบิน ท่าอากาศยานนานาชาติอิบราฮิม นาเซอร์
Counter Check in ... ผู้โดยสารยังไม่เยอะเรารีบเช็คอิน ไปรอที่เล้าท์กัน
สำหรับ ชั้น Business จะใช้เล้าท์ ของ Leeli Lounge
- Free Wi-Fi ให้บริการด้วย ไลน์อาหารจะเป็นผลไม้ แซนวิส ข้าว
หลังจากรองท้องกันที่เล้าท์ เสร็จแล้ว เตรียมตัวกลับกันครับ
ขอกลับผมเลือกเป็น 1F
โกโก้เย็น กับถั่วแมคคาเดเมีย ทานเล่น
แครกเกอร์ ชีส ผลไม้ ของคุณภาพดี ปลื้ม
เค้กแครอท ทานคู่กับ ชามะนาว ^^
ขากลับใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง กว่า ๆ ก็เริ่มลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
ทริปหน้าเจอกันใหม่ นะครับ ขอบคุณทุกช่องทางการติดตาม _/\_ ขอบคุณครับ ^^
Mr.Fahsai
วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.41 น.