Annapurna Base Camp ใกล้หรือไกล ใจเท่านั้น



“ แกเที่ยวกันแบบนี้ แพลนจะไป ABC ไปดูแสงเหนืออะไรแบบนี้บ้างป่ะ :] ?”

เพื่อนสาวคนนึงถาม

“ก็แพลนๆไว้นะ”




จริงๆแล้วผมกับเพื่อนๆที่ทำงานก็พอเดินป่าเข้าที่ไทยกันมาบ้าง....

แล้วพวกนั้นละ เมื่อไร ช่วงไหนดี … คิดในใจกับตัวเอง ..

จนมาวันหนึ่งผมเห็นรูปใน Line เธอนั้นไป ABC มาเรียบร้อย



ผ่านมาหลายเดือน..จนถึงตุลาคม 2017

ท่ามกลางการทำงาน เสียก๊อกแก็กๆ จากคีย์บอร์ดในออฟฟิต ...

จึงถามเพื่อนว่า

“ สงกรานต์(2018)ไปไหน ? ”

ยกปฏิทินตั้งโต๊ะมาดู เล็งวัน แล้วก็ลั่นว่า

“ ABC ป่ะล่ะ !!”



ผมไม่รู้หรอกว่าทีเล่นทีจริง ABC รายละเอียดเป็นแบบไหน แต่ชื่อมันเท่ดีนะ ก็ตอบว่า

“ เอาดิ !!! ”

การรวบรวมข้อมูล ฟอร์มทีมจึงเกิดขึ้น



มารู้จักทำความรู้จัก ABC (Annapurna Base Camp)
ABC ย่อมาจาก Annapurna Base Camp (และมันก็มีอีกชื่อคือ Annapurna Sanctuary) อยู่ในเทือกเขาเดียวกับหิมาลัย ประเทศเนปาล มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 4,130 เมตร จุดไฮไลท์อยู่ที่ยอดเขา Machapuchare (สูง 6,993 เมตร) ส่วนไฮไลท์อื่นๆ อีกคือ ยอดเขา Annapurna I (8,091 เมตร), Annapurna South (7,219 เมตร) และ Hiunchuli (6,441 เมตร) ที่ตั้งสูงตระหง่านให้เราได้เห็นตลอดการเดินทาง โดย Annapurna Base Camp นั้นอยู่ในส่วนของ Annapurna Region อันกว้างใหญ่ การเดิน Trekking ในนี้ก็มักจะเลือกเส้นหลักๆ 3 เส้นนี้
1. Annapurna Panorama Trek คือการเดินจากจุดเริ่มที่ Naya Pul เพื่อไป Poon hill (3,210 เมตร) อย่างเดียวแล้วเดินวนกลับมายังจุดเริ่ม ใช้เวลาราว 5-6 วัน
2. Annapurna Sanctuary Trek คือ การเดินเพื่อไปยัง Annapurna Base Camp (4,130 เมตร) ซึ่งตรงนี้ไปได้หลายเส้น บางคนมุ่งตรงสู่ ABC เลย บางคนอาจจะเพิ่มวันหน่อยเพื่อเดินอ้อมไปขึ้น Poon hill (3,210 เมตร) แล้วเข้าสู่เส้น ABC รวมเวลาประมาณ 10 วัน
3. Annapurna Circuit Trek อันนี้โหดสุดใน Annapurna Region จะเดินวนรอบเทือกเขา Annapurna ข้ามผ่านที่ความสูง 5,416 เมตร (Thorong La) ใช้เวลาราวๆ 12-18 วัน

ที่มาของข้อมูลจาก
cr. myifew.com
Instagram: @thenorthfacethailand

เพื่อนผมและผม เราแบ่งหน้าที่กันหาข้อมูล

ผม : หาไกด์จัดการเรื่องค่าทริปต่างๆ

เดียว : กำหนดเส้นทางที่จะทำการเดิน สถานที่ที่ต้องการจะไป

แอ็ป : จัดการเรื่องเที่ยวบิน ไปกลับ ไทย-เนปาล



สุดท้ายมีเพื่อนมาอีก 1 คนคือ คิว

ทริปเรารวม 4 คนแน๊ะ แต่ผมก็ต้องการแบบนี้อยู่แล้วมันส่วนตัวดี :]



ได้เส้นทางที่ต้องการ และส่งให้ทางทีมไกด์ดังนี้

1st day : From BKK arrival KTM stay overnight KTM

2nd day : Early flight to Pokhara and drive to nayapul trek to Tekhedhunga

3rd day : Trek to Ghodepane

4th day : Hike to poonhill trek to Tadapane

5th day : Trek to sinuwa

6th day : Trek to Dheurali

7th day : Trek to ABC

8th day : Trek to bamboo\sinuwa

9th day : Trek to jhinu Danaka

10th day : Trek to subai drive to pokhara and comeback to KTM by late flight.

11th day : KTM comeback to BKK

เราต้องการบินภายในเพราะลดเวลา ไม่อยากล้า และอยากเห็นเทือกเขาหิมาลัยในมุมสูงด้วย



ช่วงเวลาการเดินทางคือ 12-23 เมษายน 2018 เราได้ตั๋วการบินไทย กรุงเทพ-กาฐมาณฑุ

เที่ยวไป 10.15-12.25 น. สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ BKK - สนามบินนานาชาติตรีภูวัน KTM ราคา 6,945 บาท

เที่ยวกลับ 13.30-18.15 น. สนามบินนานาชาติตรีภูวัน KTM - สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ BKK ราคา 7,325 บาท

รวมค่าอื่นตก 16,000 บาท



การหาทีมไกด์ของผมก็จากจากในเน็ตนี่เลย เพื่อนแนะนำมาบ้าง เปรียบเที่ยบราคาต่างๆ

แอด what app คุยกันก็ มาจบที่ https://nepaloramatrekking.com/

หรือติดต่อที่นี่ไปก็ได้ https://www.facebook.com/nepalorama/

เขาชื่อ กริชชานะ เพราะเราได้บินภายใน ค่าโรงแรม ที่พัก รวมถึงค่าอาหารทุกมื้อด้วย ^^

หลังจากคำนวนด้วยเส้นทางและเงื่อนไขแล้ว ทริปเราอยู่ที่ 715 เหรียญ การโอนก็ 15%

เพื่อทำการจองและส่วนที่เหลือ จ่ายที่เนปาล



ราคานี้ไม่รวมค่าต่างๆ เช่น ค่าเครื่องดื่มต่างๆระหว่างทาง ทิปสำหรับทีมไกด์ นะครับ



แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนไปก็ไปทำวิซ่าก่อนะ http://www.nepalembassybangkok.com/visathai.php

แบบฟอร์ม >>>http://www.nepalembassybangkok.com/download/visa_application.pdf

รวดเร็วสะดวกกรอกใบ แนบพาสปอร์ต จ่ายเงิน 900 บาท ช่วงบ่ายอีกวันมารับได้เลย

เราเลือกทำไปเลยเพราะน่าจะเป็นช่วงที่คนไปเยอะไปทำที่สนามบินเนปาลน่าจะนาน



การเตรียมตัว ...

ด้านร่างกาย

- ก่อนไป 2 เดือน ผมก็ทำการวิ่ง เวทบ้าง สัปดาห์ละ 3-4 วัน



ของที่เตรียมไป

- ยาต่างๆ พาราเซตามอล ยาทาแก้เมื่อย ยาดม ยาแก้ท้องเสีย

- เสื้อผ้าเน้นพวกชั้นในผมจะเปลี่ยนทุกๆวันที่อาบน้ำ ยกเว้นที่ ABC

เสื้อกันกหนาวต่างๆ ผมไปซื้อที่ตลาดทาเมลเลย ตามเพื่อนแนะนำ

-เครื่องกรองน้ำ ต้องขอบคุณคิวเพราะประหยัดไปได้เยอะมากๆๆๆ



ผมได้ทราบว่ากริชชานะว่าจะไม่ได้ทำทางให้เรา แอบแซดนิดๆ

แต่ก็บอกว่าจะจัดไกด์ฝีมือดีที่สุดไว้ให้



สอบถามข้อมูลพวกเราได้ที่ Facebook fanpage

Station Deaw : https://www.facebook.com/StationDeaw/

nitvigator : https://www.facebook.com/NitVigator/

1st day : From BKK arrival KTM stay overnight KTM




ไปแล้วววววว

เพียงไม่กี่อึดใจก็ถึงเนปาล



15.30 น.

เราลงมาสนามบิน เมื่อดำเดินการเรื่องเอกสารเรียบร้อยก็พบว่า มีคนมารอรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมากมาย

เราเจอกริชชานะแล้วหละ :]

แน่นอนเรารีบไปที่พัก เพื่อให้มีเวลาเที่ยวชมเมือง และซื้ออุปกรณ์ต่างๆในตอนเย็น

เพื่อที่จะเดินทางในวันพรุ่งนี้

โชคดีคือที่พักเราอยู่ในตลาดทาเมลเลย ..



ภายในห้องพัก และเราก็แลกเงินที่ตลาดทาเมล เรทดีมาก

ถนนที่เนปาลฝุ่นก็เยอะหน่อยครับพกหน้ากากไปก็ดี เราจอมาชมวัดเจดีย์โพธินาถ หรือ พุทธนาถ

ถือเป็นมรดกโลก ด้วย ค่าเข้าก็ 400 รูปี คิดง่ายๆก็ 100 รูปี 30 บาท

ก็ได้เห็นภาพแห่งความศรัทธาหลายๆภาพ

คนถือว่าเยอะอยู่ครับ และอย่าได้นั่งบริเวณด้านบนนะ เจ้าหน้าที่จะเป่านกหวีดซะดัง ผมก็เห็นเขาเป่าจนระอาเหมือนกัน 5555



*ทำไมต้องเสื้อคู่ รูปคู่ !!!!



หลังจากกลับจากการเที่ยววัดก็มาซื้ออุปกรณ์ต่างๆร้านนี้ ร้านนี้จะติดป้ายไว้เลยว่าลด 50 %

ไม่ต้องไปต่อร้านอื่นให้เจ็บคอ และหลังจากคิดเงินก็จะลดให้อีกนิดนึง

สำหรับที่นี่พวกเราก็วู่วาม ช็อปกันไปพอสมควร 555++

มื้อเย็นก็กินนี่เลย เอเมดาบัด / ดาบัด เข้มข้นด้วยแกงกระหรี่ไก่ ผัก ข้าวกับผักเติมไม่อั้น

วันนี้พอแค่นี้ครับ

2nd day : Early flight to Pokhara and drive to nayapul trek to Tekhedhunga



สายของวันที่สองเราก็เดินทางไปยังสนามบินโดยทีมของกริชชานะ เพื่อเดินทางด้วยเครื่องบินเล็กไปยังโพคารา

และจะมีทีมไกด์ที่จะนำทางเรารอรับที่นั่น

พร้อมบินแล้วนะฮ่ะ

บรรยากาศภายในเครื่องบินเล็ก

และเราก็ได้เห็นภาพนั้นจริงๆ เทือกเขาหิมาลัย สวยงามดังใจ และทำให้เราอยากเดินแล้ว !!!

ใช้เวลาบินประมาณ 45นาที เราก็ถึงสนามบิน โพคารา

เราจัดการเรื่องกระเป๋า และพบทีมไกด์ที่จะนำทางเรา



โอโหวววว นี่มัน " เนปาลี่บอยแบนด์ " ชัดๆ

ที่ป้ายเขียนว่า " theeranit " ตัวเล็กมาก 555+

การเดินทางมันทำให้เราได้เพื่อน

ปาโก้ และ คาเรน พี่น้องคู่นี้มาจากฮ่องกง พวกเรารู้จักกันบนเครื่องบินเล็ก

ทั้งสองคนเดินทางมาที่นี่เลย มาหาไกด์โรงแรมไรต่างๆนี่ที่ ชอบแอดเวนเจอร์

ขอถ่ายรูปไว้หน่อย :]

จากนั้นนั่งรถไปยังจุดเริ่มเดินที่นายาปูล ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.

ตรงนี้จะมีจุดลงทะเบียนนักท่องเที่ยวและเราพักกินข้าวกัน เริ่มเดินบ่ายสอง ไปถึงที่พักประมาณหกโมงครึ่ง

มีครบทั้งแดดร้อน และฝนตก วันแรกก็ได้เหงื่อ

...เราพักกันที่ tekhedhunga guesthouse...

ทีมลูกหาบเรามุทธิราม

อชิท

น้องคนนี้มานมัสเตเราเลยให้ลูกอมไป :]

ช่วงเย็นๆเราจะมีการพูดคุยถึงปัญหาจากการเดินทางประจำวัน รูปแบบการเดินในวันถัดไป แผนที่จะทำวันพรุ่งนี้

ตลอดจนสิ่งที่เราอยากได้

อาหารที่ทีมไกด์จัดไว้ให้ก็จะเป็นพวกอาหารจานเดียว และถ้าเราอยากได้ไรเพิ่มเติมจ่ายเพิ่มไป

ขอให้ทางไกด์ เขียนชื่อเพจเป็นภาษาแบบเนปาลให้ด้วย

เขียนบันทึกการเดินทางประจำวัน

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ zzzZZZZZ ....



จบไปแล้วสำหรับวันแรก โหดพอสมควร อาจเพราะเพิ่งเริ่มต้นและร่างกายต้องปรับตัว วันนี้ขึ้นจาก 1000m มาที่ 1500m ยังถือว่าไม่มาก ลองดูพรุ่งนี้ ว่าจะเป็นอย่างไร??



Station Deaw รายงาน

3rd day : Tekhedhunga trek to Ghodepane

วันนี้ออกเดินทาง เราจะไต่จากระดับความสูง 1,540 - 2,860 เมตร

เมื่อคืนเรานอนกันไว ทำให้รู้สึกสดชื่นมากครับวันนี้ :] สำหรับอาการเช้าที่นี่ก็จะเป็นขนมปังไข่ดาว

กาแฟ ชา ผมเคยบอก ขอดาบัด

ไกด์ถึงกับเอ่ยว่า " Oh my god !!!!"



เขาก็อธิบายว่าตอนเช้าครัวยังไม่มีเครื่องไรแบบนี้ และไม่มีใครกินหนักไรแบบนี้ในตอนเช้า

งั้นขอเป็นคนแรกได้ไหม 5555++ ยังๆๆ ยังอีก ป่ะเดินทางต่อดีกว่า

ป้ายบอกทางที่นี่จะบอกเป็นระยะเวลา คือที่ที่เราจะไปอีก 5.30 ชม. !!! เห็นป้ายแล้วอยากนอน

เราเดินมาถึงช่วงหนึ่ง ก็ต้องทำให้เราหยุดชมกับภาพนี้

คือเหมือนว่าเรามาใกล้มันมากแล้ว

ยิ่งใหญ่จริงๆ

เราแวะแจกลูกอมเด็กบ้านนี้ แต่ไปๆมาๆแจกทั้งบ้านเลย 555

มีเพื่อนคหนึ่งฝากเงินมาทำบุญถึงที่นี่และขอภาพตอนแต้มจุดแดงๆที่หัว

" ตั้ม จัดให้แล้วนะ "

.อนาตาเซีย ...

สาวรัสเซียคนนี้คุยเก่งมากกกก



ได้เจอกันตอนนั่งพักในช่วงของการเดินทางวันที่สอง

เธอมาคนเดียว จะไป Poonhill แต่ไม่รีบ เหนื่อยไหนก็จะพักที่นั่นแหละ ไป ABC ได้ ก็จะไป....

เคยมาเมืองไทยแล้ว ก็ชอบมาก " :]

และบอกอีกว่า เนี่ยมาเดินทางถ้าได้แฟนช่วยแบกของจะดีมากกกกก

และก็ขอให้ถ่ายภาพให้

ถ่ายรูปเสร็จยังอุตสาห์เที่ยบสีผิวด้วยนะ 5555++



เราไปเจอเธออีกครั้งก่อนถึง Poonhill บอกจะพักที่นี่ เหนื่อยแล้ว

.... เป็นคนอินดี้ ...

ตอนเราขึ้น poonhill อีกเช้าวันหนึ่งเสียดายที่ไม่ได้เจอเธอ....

ชั่วโมงนี้กินได้หมด !!!! 5555+

เราพักกินข้าวเที่ยงกันที่ Ulleri แล้วไปต่อ

วันนี้ก็ผ่านภูมิประเทศหลากหลาย เช่นเดิม ร้อน ร่ม ผ่านน้ำตก และหนาวจนต้องหยิบเสื้อกันลมมาใส่

ความเหนื่อยไม่ต้องพูดถึงเลย ......

ช่วงนี้จะเป็นอุโมงค์ต้นไม้ บอกเลยถ่ายยังไงก็สวยยย ถ้ายังไหวนะ 555+

ถึงแล้ว แต่คือยังไม่ถึงดี

ตรงนี้ก็เป็นจุดเช็คนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

เมื่อรู้ตัวว่าจะถึงที่หมาย ก็จะมีอาการแบบนี้ !!!!

ถึงสักที จุดนี้ก็จะใกล้กับพี่พักเราเลย

ที่พักที่นี่ดีมาก อาหารอร่อย :] วันนี้ Paco ก็ได้มานั่งคุยกับเราด้วย คุยเก่งจริงไรจริง

กินเสร็จก็มานั่งผิงไฟแบบนี้

ผมต้องบอกไปว่า wi-fi นั้นมีเสียเงิน 100-200 รูปี ตามระยะทาง และมีการปิดเวลาประมาณ 22.00 น.



รูปสุดท้าย...ผมก็ไม่รู้ทำไมว่ามาถึงห้องต้องค้นของกระจัดกระจายแบบนี้ 555+++

พรุ่งนี้เราจะขึ้น Poon hill ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวที่จะเห็นเทือกเขา ในมุมกว้าง

ไกด์บอกเราว่าขึ้น 30 ลง 15 นาทีเท่านั้น !!!!

โอเค นอนดีกว่าครับ พรุ่งนี้ 5.30 น. เจอกัน !!!!



zzzZZZZ ...



จบไปแล้วสำหรับวันที่ 2 เป็นวันที่โหดเหี้ยม เี้ยๆๆ เหนื่อยสุดๆ เดิน 8 ชม พักเที่ยง 2 ชม ขึ้นจาก 1500m มาที่ 2874 m พรุ่งนี้ต้องไปต่อ ฟ้ากกกกก!!!!



Station Deaw รายงาน

4th day : Hike to poonhill trek to Tadapane



วันนี้เราตื่นกัน 5.30 น.

จากที่ไกด์บอกเราว่าขึ้น 30 ลง 15 นาทีเท่านั้น

แต่ผิดสูตรนิดหน่อย กลายเป็นขึ้น 1 ชม. ลง 30 นาที

เมื่อยมากกกกกก

ได้กลับมาเจอ Paco กับ Karen อีกครั้ง เราได้พูดคุยกันจริงๆ เขาทั้งสองคนก็อยากไป ABC แต่เวลาที่หยุดไม่พอฝากบอกว่าไปถึงโน่นแล้วถ่ายรูปส่งกลับมาให้เขาดูด้วยนะ

สำหรับ Poon hill พอแค่นี้จากนั้นเราเดินลงไปกินข้าวเพื่อเดินทางต่อ

Go to Tadapane



เราเดินออกจากที่พักมาได้สัก 15 นาที นั่นไง ฟ้าใสมาเชี่ยววววว

บน Poon hill คงแจ่มแน่ๆๆๆ

เมื่อเดินไปได้สักพัก.... เมื่อกี้ยังฟิตอยู่เลยยยย

- ในพจนานุกรมของคนหนุ่มสาว ไม่มีคำว่า ล้มเหลว -

เราพักกันตรงนี้ แล้วไปต่อ

เราเดินมาถึงหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งมีพีธีการกินเลี้ยงไรไม่รู้หมือนกันครับ เราพัก กินน้ำ แล้วก็ไปต่อเช่นเดิม

ทางเดินเราลงไปถึงตีนเขาเลยทีเดียวสำหรับวันนี้ และฝนเริ่มตก ลมแรงหนาวจนต้องสวมถุงมือและเสื้อกันลมอีกครั้ง

และตอนนี้ก็เกิดอาการตัวร้อนขึ้นมา กินยาพาราไปสองเม็ด งีบแปปนึงช่วงพักกลางวันไม่ได้ถ่ายภาพไว้เลย

หลังจากกินยาก็ดีขึ้น :] เดินลงมาตีนเขาอีกครั้ง

พวกเรานั่งพักกัน เงยหน้ามองไปรอบๆ เจอ สีส้ม สีชมพู ตัดกับภูเขานั้น

เฮ้ยยยยยย ผมนึกถึงแพะภูเขา นั่นคือภาพที่คนกำลังไต่ขึ้นภูเขา เห็นเป็นตัวเล็กๆ ตามสีเสื้อ

หันมองหน้าไกด์ ก็บอกว่าใช่เราต้องไปแบบนั้น ... !!!!

กับประโยคเด็ดที่ว่า " Take it easyyyyy "

แต่แอบจับเวลาว่าเราต้องไปภายในเวลาเท่านี้นะ เพราะเวลาในการถึงที่พักจะเย็นไป

และอันตรายหากเราเดินทางช่วงมืดๆ



เมื่อเราขึ้นไปก็ตะโกนทักทายคนข้างล่างบ้าง 555+++

หลังจากเป็นแพะภูเขามาพักใหญ่ ไกด์บอกเราว่าถึงแล้วนั้น

แทบอยากคุกเข่าลงตรงนี้ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย

มันเหนื่อยหนักขึ้นทุกวันๆ ...


ที่นี่ก็เจอนักท่องเที่ยวมากมายหลายคน

พอมาถึงปุ๊ป ด้วยความเหนื่อย ผมก็อาบน้ำทันที เดินตัดห้องนี้ตอนกลับมานั้น

นักท่องเที่ยวตกใจมาก 555+ ยกนิ้วโป้งให้เลย

" หนาวขนาดนี้ ยังอาบอีกกกกกกกก "

ณ. Tadapani ที่ความสูง 2680 m.

กินยาพาราอีกรอบบบ สู้ต่อพรุ่งนี้ครับบบ

พอแล้ววันนี้ zzzZZZZ....



“ที่นี่ Poon Hill” ใจไม่ถึง ห้ามมา!!! พีคตั้งแต่ตี 5 ขึ้นยอด Poon Hill เดิน 1 ชม. ด้วยร่างที่หอบเหนื่อย คิดว่าจะไม่ถึง แต่ก็ถึง แต่สิ่งที่พีคกว่าคือ “ฟ้าปิดดด!!!” มองไม่เห็นอะไรซักยอด โอ้พระเจ้าาา



วันที่ 3 หลังจากลงจาก Poon Hill อันแสนอ่อนล้า วันนี้ จาก Ghorepani —> Tadapani กับการ “เดินลง” ใช่ครับ คือลงอย่างเดียวเลย เข่าจะพัง ทำเอาขาสั่น ช่วงบ่ายฝนตกตลอดทาง เก็บกล้องยาวๆ แต่ที่พีคสุดคือหลังจากเดินลงมาเกือบทั้งวัน ช็อตสุดท้าน เดินขึ้นจ้าาา อย่างชัน!!! เป็น 1 ชม สุดท้ายที่ตาลอยมากๆ จากที่โพสเมื่อวานว่า วันที่พีค วันนี้ขอแก้ตัว “วันที่ 3 พีคคคคค เี้ยยย เี้ยยยย”



ว่าแล้วก็นวดขาแพร๊บบบบ😫😫😫



Station Deaw รายงาน

5th day : From Tadapane trek to Sinuwa



หลังจากนอนเร็ว หลับสนิท ก็จะสะดุ้งเองโดยอัตโนมัติ ภาพที่มองจากหน้าต่างของที่พักก็ทำให้เราเห็นว่า

เป้าหมายเราโผล่มาเย้ายวน พร้อมกับกระซิบเบาๆว่า

"..ใกล้ถึงแล้วนะ...มาสิ."

อาหารเช้าที่ผมจะแบบนี้ในทุกๆวัน ....ไม่ได้อร่อยถูกปากเรา แต่กินได้เป็นของเรา ต้องตุนนนนน !!!

ป่ะเดินทางต่อ !!!!

เจอน้องๆก็แจกลูกอม จริงๆแล้วน้องตอนคุยก็ยิ้มเฮฮานะ แต่ถ่ายรูปมาได้แบบนี้ :]

ที่นี่วิวสวยมากกกกกก แต่ถ้าคิดจะมาเมื่อวานคง ...เดินมาไม่ถึง

หลังจากนี้เราก็จะดึ่งลงล่างแล้วเดินไต่เขา เป็นตัว V

โน้นนนน เราจะเดินไปหลังเขาลูกนี้ เพื่อพักเที่ยง

เราจะเห็นป้ายในลักษณะนี้อยู่เกือบทุกที่พัก

เราลงมาถึงล่างสุดของเขาก็จะเจอสะพานลักษณะนี้ ข้ามไปอีกฝากและขึ้นเขาอีกครั้ง

รอบนี้ไกด์ถึงกับอกว่าไหวไหม ถ้าไม่ไหวจะต่อมือทำเป็นแคร่แบกขึ้นไป โอววววววววววววว.... 555++

เจอเด็กๆก็แจกอีกรอบบบ ไม่ทำไมหรอก หนักกกกครับ รีบเอาของออกไปให้ไว

น้องๆแอบอายนิด แต่ก็ยกมือไหว้ขอบคุณ :]

ทีแรกอยากพักนานแล้วเพื่อกินข้าวกลางวัน แต่ก็ลากมาจนถึงนี่นี่เพื่อให้ได้ตามแผน

เวลานี้ก็ 13.39 น.

" come on! ..i will take a photo for you, Trust me I'm the best hahah "



" 1 2 SAY cheese !!!! "



จริงตอนชวน และถ่ายจบ

ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยกันดีนะ

...แค่ในภาพน้องหน้านิ่งไปหน่อย ยกนิ้วเท่ๆให้ด้วย .... ^^"

มีเป็นคอเล็คชั่นอ่ะคนนี้ !!!



และได้ถามเราต่อว่าจะไปไหน ไปด้วยฮอลิคอปเตอร์ไหม ... ก่อนกลับก็ บ๊ายยยกันไป

และขอเป็นคนติดสติ๊กเกอร์ประจำทริปเองด้วย ผมจะติดไว้ในทุกที่ ที่เราพัก :]

ถึงตรงนี้ Deurali แต่ก็ยังไม่ถึงที่พักเรา อชิทยังมายืนแอคให้ถ่ายรูปอีก 555

กินข้าวแล้วเดินมาได้แปปเดียวเราก็พักอีกแล้ววว เราต้องเดินอ้อมหมู่บ้านไกลๆนั้นไปอีกนะ

และป้ายที่บอกว่าอีก 1.30 ชม.. ยาวแน่นอนนนน

เรามาถึง Chomrong ซึ่งถือว่าเป็นจุดพักที่ใหญ่มาก และมีจุดเช็คนักท่องเที่ยวด้วย

ตรงนี้ผมเจอสาวไทยคนหนึ่งมาคนเดียวและกำลังกลับลงมาจาก ABC

เธอบอกว่า

" แวะมานี่หน่อยอยากมากินเบเกอร์รี่ "

คุณเก่งมากนะ :]

เราเห็นที่พักเราไกลๆ แล้ว

และแล้วก็ถึงสักที และได้เพื่อนร่วมทางชาวเกาหลีมา 2 คน

Sinuwa 16.35 น. เราเดินทางกัน 8- 10 ชม.ทุกวัน สำหรับที่นี่เราจะทิ้งของไว้และเอาไปแต่ของจำเป็น

เพราะเราจะไต่ระดับความสูงจาก 2300 -3230 ม. เพื่อขึ้นสู่ Deurali

เหนื่อยสุดๆตามเดิม แต่ที่นี่ก็อาหารอร่อยดี น้ำอัดลมกระป๋องราคาอาจสูงถึง 280-300 รูปี เกือบ 100 บาท

แต่ก็กินกัน 555++

พอแล้วครับวันนี้ แสนเพลีย อาบน้ำอุ่นๆ กินข้าว นอนนนน



zzzzZZZZ ...



วันที่ 4 ของการเดิน

Tadapani —> Sinuwa

“หนักและเหนื่อยกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา และจะพีคขึ้นเรื่อยๆ จนถึง ABC” เดินเป็น W คือขึ้นสุดลงสุดและขึ้นสุดไปเรื่อยๆ ตอนนี้ขาเริ่มหมดแรง มียากี่ขนานต้องซัดให้หมด เอาเป็นว่าสั้นๆ “พีคคคคกว่าที่เคยเดินมา😭😭😭”

และจะยังไม่บอกว่าวันไหนพีคสุด จนกว่าจะถึง เพราะมันโหดขึ้นเรื่อยๆ 😱😱😱😱😱😱😱😱😱😱



Station Deaw รายงาน

6th day : From Sinuwa trek to Dheurali



วันนี้เราเริ่มเดินทางกันเกือบแปดโมง ด้วยความสดชื่นตามเดิม

อชิท และ มุทธิราม พวกเราก็พูดคุยด้วยความสนิทสนมมากขึ้น

มุทธิรามท่าชูสองนิ้วนี่ถือว่าเป็นท่าประจำตัวเขาเลย

เจอเด็กๆก็ให้ลูกอม น้องคนนี้ยิ้มให้แต่ไกลเลย

มหกรรมความเหนื่อยเกิดขึ้นอีกแล้ววว

ขอมีรูปกับเขาบ้าง :]



ผมจะสะพายย่ามนี้ไปด้วยเพราะเป็นของที่ชาวบ้านทอมือให้ตอนไปเป็นครูอาสา >>> https://pantip.com/topic/35970631

ข้างในก็เป็นสมุดบันทึก ยา และสิ่งของเล็กๆน้อยๆที่หยิบใช้บ่อยๆ

เราเดินมาถึงจุดพักใหญ่ ตรงนี้นั้นจะมีป้ายแจ้งว่า ตั้งแต่จุดนี้ขึ้นไปจะไม่มีการกินเนื้อสัตว์แล้ว

ที่หมายของเราก็แอบโผล่มากระตุ้นเราอยู่เรื่อยๆ ...

กินข้าววันนี้ต้อง เอาน้ำพริกนรกมาคลุกกินกับข้าวผัด กระเป๋าก็มีเกลือขึ้นมาพอให้รู้ว่าเหนื่อย

แต่ที่พีคคือ พอกินเสร็จแล้ว หลับอ้าปากหว๋อคาโต๊ะกินข้าวเลย เหนื่อยมากครับ แค่ครึ่งวันเอง

เมื่อวานกริชชานะ Text มาหาผมว่าพรุ่งนี้เราจะได้เจอกันระหว่างทาง

สุดท้ายก็ได้เจอจริงๆ พวกเรากำลังขึ้นไป ABC แต่กลุ่มของเขานั้นกำลังลงมาแล้ว

เราเดินกันมาถึง Himalaya ที่ความสูง 2900 m พักกันที่นี่แปปนึง ก็เดินทางต่อ ตรงจุดนี้นั้นเจอลมแรงและฝนตกอีกครั้ง

มาถึง Duerali แต่ก็ยังไม่ถึงที่พักเรา เงยหน้ามาเจอ อชิท แอคให้ถ่ายรูปอีก 555+

เกือบ 6 โมงเย็น 10 ชั่วโมงของการเดินทางวันนี้

เราพักที่นี่ พอถึงได้มองย้อนกลับไป อื่มเรามาไกลมากแล้วหละ ...

-พรุ่งนี้ก็จะขึ้นไปยัง ABC แล้ว ....



ณ.ห้องอาหารเราเจอกลุ่มคนไทยเยอะมาก น่าจะมากกว่า 20 คน



ที่นี่มีกาแฟสดด้วยแหละ หลังจากอาบน้ำ กินข้าวเย็น ก็บรีพกันเหมือนเดิม

พวกเราตื่นเต้นด้วยที่ว่าพรุ่งนี้เราจะเดินไปยังที่หมาย ทีมเรายังคงสนุก เฮฮา

และที่ดีมากคือไม่มีใคร ป่วย เจ็บ ได้รับผลกระทบจากอากาศจนถึงตอนนี้

ห้องพักที่นี่เป็นเตียง 4 เตียงเลย ซึ่งพวกเราไงก็ได้อยู่ละ แค่นอน 555+



ป่ะ นอน พรุ่งนี้สู้ต่อ zzzZZZZZ

7th day : Trek to ABC

3,230 m. to 4,130 m



07.27 น.

พวกเราตั้งใจและบอกกับตัวเองแล้วว่าเราทำได้ :]

คือพอมุมสวย ก็ต้องกดให้ทุกคน

ผมขอยกคำพูดหนึ่งที่ว่า

- ข้อที่ 5-

“ทุกวันระหว่างการฝึก คุณถูกท้าทายด้วยงานทางกายภาพ วิ่งไกล ว่ายทางไกล การฝึกวิบาก การออกกำลังเป็นชั่วโมงๆ ออกแบบมาเพื่อทดสอบความอึดของคุณ ทุกกิจกรรมมีมาตรฐานและกำหนดเวลาที่ต้องสอบผ่าน ถ้าคุณไปไม่ถึงมาตรฐานเหล่านั้น ชื่อของคุณจะปรากฏบนรายการ และในตอนจบวัน คนที่มีชื่ออยู่ในรายการจะถูกเชิญไปร่วม ‘ละครสัตว์’* ซึ่งเป็นการฝึกเพิ่มเติมอีกสองชั่วโมง ออกแบบมาถล่มคุณโดยเฉพาะ ทำลายความเข้มแข็งจิตใจคุณ บีบให้คุณลาออก

ไม่มีใครต้องการร่วมละครสัตว์

ละครสัตว์แปลว่าวันนั้นคุณไม่เอาไหน ละครสัตว์หมายถึงคุณจะเหนื่อยรากเลือดขึ้น รากเลือดหมายถึงวันรุ่งขึ้นจะยากขึ้นอีก ซึ่งหมายถึงคุณจะเจอละครสัตว์เพิ่มขึ้นอีกแน่ๆ แต่ในจุดใดจุดหนึ่งของการฝึกซีล ทุกคน - ทุกทุกคน จะอยู่ในรายการละครสัตว์

แต่มีจุดน่าสนใจที่เกิดขึ้นกับคนที่อยู่ในรายการบ่อยๆ ผ่านไประยะหนึ่งคนที่ฝึกเพิ่มวันละสองชั่วโมงจะแกร่งขึ้นและแกร่งขึ้น ความโหดของละครสัตว์สร้างพลกำลังภายใน ฟื้นตัวเร็วขึ้น

ชีวิตนั้นเต็มไปด้วย ‘ละครสัตว์’ คุณจะล้มเหลว และคุณจะล้มเหลวบ่อยๆ จะเจ็บปวด จะท้อถอย มันจะทดสอบคุณจนถึงกึ๋น

แต่ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก อย่ากลัวละครสัตว์”



ผู้พูดคือ พล.ร.อ. วิลเลียม เอช. แม็คเรเวน ผู้บัญชาการกองบัญชาการปฏิบัติการพิเศษ สหรัฐฯ กล่าวปาฐกถาต่อเหล่าบัณฑิตเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2014



โลกของผมในที่นี้ก็อาจจะหมายถึง โลกเล็กๆของเรา ความคิด ต่อสิ่งต่างๆรอบตัวเรา



วันนี้เราเดินสนุกขึ้น คงด้วยเพราะอากาศที่เย็น ๆ และส่วนหนึ่งผมคิดว่าด้วยร่างกายที่ปรับตัวได้แล้ว

การเดินทาง ทำให้พบเพื่อนเก่า อยู่ กทม ไม่เจอ มาเจอกันที่นี่

พอหอมปากหอมคอ ป่ะเดินทางกันต่อ

ระยะทางตรงนี้เช้าๆ ถ่ายรูปสวยมากครับ แบบว่า มุมไหนก็สวยยยย

ไม่เช้าแล้วสิ 10 โมงกว่าแล้ว แต่ด้วยหมอกหนาๆ ต่างหาก

จุดพักข้างหน้าคือ MBC หรือ Machapuchare Base Camp แปลว่า ยอดเขาหางปลา

และจะพักกลางวันกันที่นี่ด้วย

ขึ้นมารอกินข้าวเพลงก็ดัง ...



" ฝากตัวรับใช้นายยยยยยยยยย " 555++

ช่วงกินข้าวเราก็เอาน้ำพริกนรก มาโรยข้าวอีกครั้งเพื่อนนักเดินทางต่างชาติต้องตะลึงว่ากินไรขนาดน้านนนน

พอเราตักเข้าปากถึงกลับหลับตาด้วยความสะพรึง !!!



จากนั้นออกมาสำรวจข้างนอกพบว่า หมอกลงจัดจนไม่เห็นทางที่เราเดินมาแล้ว

The next is MBC to ABC

มุทธิราม และดุฟซัง ไกด์ของเรา แนะนำตัวหน่อย จะจบทริปแล้ว 555+

" Finally I can , again "

18.04.2018 16.18 น. ผมมาถึง ณ.จุดนี้

ช่วงที่ดุฟซังบอก " นั่นไง ABC "

" จริงไหมมม !!! "

มันมีน้ำตาอ่อนๆคลอตา โยนไม้เทรคขึ้นฟ้า จนโดนแซวว่าถ้าไม่เอาขอนะ 5555

มันคงเป็นความดีใจ ตื้นตันในหลายๆอย่าง



มันมาจากฝัน ฝันซ้ำๆ กลายเป็น Passion ที่อยากจะทำมัน เป็นการตั้งเป้าหมาย Mission จนกลายมาเป็น Action และทำมันจนสำเร็จ

ภาพแห่งความดีใจ :]

มาฟังเพื่อนผมสรุปการเดินทางกันนิดนึง

สรุปรวบยอดการเดิน Day 5 to Day 6 (เนื่องจากเน็ตไม่มี😅)



Day 5 Sinuwa —> Duelari

เรียกได้ว่าเป็นวันที่มหาโหด โหด โหด ๆ ไม่มีไรโหดกว่านี้อีกแล้ว เดิน เกือบ 13 กิโล ใช้เวลา 8:42 ชั่วโมง!!!! ไอ้ย้า เดินทั้งวัน จะบ้าตาย ทั้งขึ้นสุด ลงสุด ตากแดด ต่กฝน ซักพักหนาวไปอี๊กกกก คนอีกเค้าถึงที่พักเมืองก่อนหน้าหมด มีเรานี้แหละ บ้าจี้ เดินต่อมาอีกเมืองนึง 😫😫😫



Day 6 Duelari —> ABC

วันที่เป็นที่รอคอยของพวกเราทุกคน ปลายทางถูกวางไว้แล้วข้างหน้า อยู่ที่ว่าจะไปถึงหรือปล่าว วันนี้สำหรับผม ถือว่าเดินไม่ยากเท่าวันอื่นๆ นะ แต่ด้วย อากาศที่เบาบาง เดิน 2-3 ก้าว ก็หอบแล้ว 😫 ออกจากที่พักไป MBC กันก่อน จากปกติ 2 ชม พวกเราเล่นซัดกันไป 3 ชม ถ่ายรูปไปชิว เป็นวันที่ข้างทางสวยมากกกกก สวยสุดดดดดด ใช่เวลา ถึงแม้หมอกจะะหนาตาไปซักหน่อย แบบมองไม่เห็นอะไรเลยก็ตาม แต่พอเรามาถึง ABC ในช่วงเย็น ฟ้าก็เป็นใจให้เรา วันนี้เราเดินทางทั้งหมด เกือบ 6 ชม ระยะทาง 7:38 km ถือว่าสั้นสุดเท่าที่เดินมา ยิ่งพอเจอกับบรรยากาศที่สุดแสนจะบรรยายแล้ว ทำให้ความเหนื่อยล้าของเรา ก็ยังอยู่คงเดิม 😅😅 ฮ่าาาาา แต่ก็ถือว่าสมใจนึกบางลำภู เอาเป็นว่า 5 วันที่ผ่านมา มันคือบททดสอบว่าเราแกร่งพอจะเจอกับความสวยงามในวันที่ 6 ไหม? สำหรับพวกเรา ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะครับ



Station Deaw รายงาน

เราขึ้นไปเก็บของ ที่ห้องพัก แล้วไกด์ก็แจ้งว่าจะพาไปสำรวจพื้นที่ และบอกข้อควรระวังต่างๆ เพื่อให้เรามาเองได้ในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้

เราก็แจกเสื้อเพจให้ดุฟซัง ด้วย แจกไปนานแล้วแต่วันนี้ มาเซอร์ไพรส์ด้วยการใส่มาเพื่อถ่ายรูปตรงนี้ 555++

ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว สองคนนี้ก็พรีเวดดิ้งไปเลยละกันนะ !!!!!!!!

อชิทมักจะขอถ่ายรูปให้กับผมบ่อยๆ และบอกยังไม่เคยมาที่นี่เลย

อยากได้รูปแบบเป็นตากล้องโปรบ้างเลยจัดให้หน่อย 555++

เย็นวันนั้นก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป กลุ่มเมฆหมอกลอยผ่านไป ยอมให้แสงอาทิตย์ส่องมายัง ยอดของ Annapurna และ Machapuchare บ้าง



ทุกๆการเดินทางผมจะมีของที่ระลึกให้แก่เพื่อนร่วมทาง

ส่วนมากคือ ภาพถ่าย...



แต่...ช่วงก่อนผมจะไป ABC นั้น

ที่ถือว่าเป็นทริปที่ใหญ่สุดของชีวิต

นั่นเลยทำพวงกุญแจเป็นที่ระลึกมาด้วย ..



...ก่อนจะสั่งทำผมเพิ่มประโยคสุดท้ายเข้าไป

........" Dare to dream "........



ผมบอกหลายๆครั้งว่า " ให้กล้าที่จะฝัน " และทำมัน

สิ่งที่ผมจะสื่อคือ ทุกคนมีภาพ มีสิ่งที่อยากจะทำ อยู่แล้ว



แต่จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ จะความกลัว

จังหวะ ไม่ได้ลองทำมันสักที ...หาไม่เจอ

หรือทำมันอยู่โดยเราไม่รู้ตัว ....



..หามันให้เจอในแบบของเราเอง..



สิ่งที่ผมคิดและได้ทำแล้วนั้น

ผมอยากให้ดูว่ามันเป็นสารตั้งต้น

แรงบันดาลใจ แก่เพื่อนๆ

ว่ามันเป็นไปได้ในสิ่งที่ตั่งใจจะทำ



ช่วงไปเดินทาง



ผมได้แจกสิ่งนี้ให้เพื่อนร่วมเดินทาง ....

เพื่อนที่พบเจอระหว่างทาง...

คนที่เชื่อมั่นในตัวผม

และทีมไกด์



และผมได้บอกว่า

" ขอบคุณที่มาร่วมทำให้ฝันผมเป็นจริง "้



และสิ่งที่ผมประทับใจมากคือเพื่อนชาวฟินแลนด์ แม่เขา

ทีมไกด์ผมติดมันที่เสื้อหนาวด้านอกทันที



....มันเป็นดังเหรียญกล้าหาญ... ผมเรียกมันอย่างนั้น....

..............................................................................



ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า

".. สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในชีวิตคือ

ผมไม่ได้ทำ *ในสิ่งที่ผมอยากทำ * มากกว่า "

วันนี้แค่นี้ก่อนละกันครับ ตอนทานข้าวคนเยอะมากๆๆๆๆ วันนี้เป็นวันที่เราไม่ได้อาบน้ำ เพราะมันหนาวเย็นมาก

กะว่าถ้าตื่นไหวเราจะมาถ่ายดาวกัน 555++

ฝันดีครับบบบ ....

Annapurna


ชื่อ "อันนะปูรณา" (अन्नपूर्णा, อนฺนปูรณา) เป็นภาษาสันสกฤต หมายถึง เทวีแห่งการเก็บเกี่ยว ซึ่งในคติทางฮินดู ถือเป็นปางที่ 8 ใน 9 ปางของ พระอุมาเทวี ชายาของพระศิวะ ที่ทรงเป็นผู้ประทาน ความอุดมสมบูรณ์ แก่พืชพันธุ์ธัญญาหาร เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าปาง "มหาเคารี" ซึ่งเป็นปางที่มีผู้สักการบูชามากที่สุด รองจากปาง "กาลราตรี" หรือ "เจ้าแม่กาลี" และเพื่อแสดงความเคารพ รัฐบาลเนปาล ได้ประกาศสงวน ยอดเขามัจฉาปูชเร (Machhapuchhre) หรือ ยอดเขาหางปลา (Mt. Fishtail) ใกล้เมืองโปครา (Pokhara) เป็นเขตปลอดนักไต่เขา เพื่อให้เป็นที่สถิตของ องค์เทวีอันนะปุรณะ

>>>https://th.wikipedia.org/wiki/ยอดเขาอันนะปุรณะ



เราตื่นสาย พอออกมาปุ๊ปก็ตกใจมาก เพราะมันแทบจะสามารถมองเห็นดาวได้ด้วยตาเปล่าเลยครับ และนักท่องเที่ยวหลายคนก็คงตื่นมานานแล้วเพราะตั้งกล้องถ่ายดาวกันหลายคน

แต่รูปดาวเราสิ

ที่นี่สว่างไวมาก และดาวนั้นแทบจะลับขอบภูเขาไปแล้ว

Annapurna Base Camp ที่เราพักและด้านหลังเป็นยอดเขามัจฉาปูชเร Machhapuchhre

จะถ่ายวิวก็มาขวางกล้องอีกละ !!!

ผมบอกกับเพื่อนผมว่า

" ที่ ABC ธง n จะโบกสะบัด "



ใกล้จะไปเต็มทีแล้ว

แต่หาร้านทำธงไม่ได้สักที



กลับไป 2 วันก่อนเดินทาง

เลยให้เพื่อนที่เปิดร้านสกรีนเสื้อทำให้ ก็เอาตัดเฟลกรีดบนเสื้อแนวขวาง แล้วผมจะมาตัดทำธงเอง

แต่เพื่อก็สุดจริงๆ ไปหาผ้าทำธงมาให้จนได้ 5555+ ขอบคุณมากๆครับ ก็ได้นำธง n ไปโบกสะบัดจริงๆ

ขอบคุณโตนะครับ https://needlework-shop-180.business.site/

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ลุงออสวาลโด จากอาเจนติน่า ผมพบลุงตอนกำลังจะเซลฟี่ ผมเลยอาสาขอถ่ายให้

ใช้กล้องใหญ่เลย หลังจากขอ What app แล้วแอดคุยกันก็ คุยคนละภาษา 555+

ผมพูดอังกฤษ ลุงก็ผูดภาษาเขา ภาษาทางอเมริกาใต้ควบกล้ำชัดเจนเลยทีเดียว

แต่รับรู้เลยว่าลุงดีใจมากหลังจากได้รูปไป

ที่นี่ในห้องอาหารก็จะเห็นรูปนักเดินทางมากมายแปะอยู่ " เฮ้ยยยยย แล้วเราละ ไม่ได้เตรียมมาาา "

ทั้งสี่คนเรามีแอ็ปคนเดียวที่เตรียมมา ผมก็ว่ารูปพาสปอร์ต เอาไปทำไม

เอาว่ะ บัตรเซฟตี้เลยตัดรูปออกมา

แต่เพื่อนผมหนักกว่า ใบขับขี่งี้

บัตรนักศึกษางี้ ................. !!!

8th day : From ABC trek to bamboo\sinuwa



ถ้าไม่อยากเดินมานี่ ก็นั่งฮอลิคอปเตอร์มาได้นะครับ เข้าใจที่น้องหน้านิ่งบอกแล้ว :]



ช้วงฟ้าใสๆนี่ถ่ายยังไงก็สวยยยย

ขากลับนั้นเราจะรวบระยะทางเป็นเกือบสองเท่าของขาขึ้น พักที่ MBC ก่อยลุยต่อ

หลายคนบอกว่าเส้นทางช่วงนี้เป็นช่วงที่โหดที่สุดของการเดินทางเพราะนอกจากทางที่ขึ้นและลงแล้ว

ระยะทางก็จะไกลกว่าปกติ



เราออกเดินทางจาก ABC เกือบ 10 โมง และลงมาถึงที่นี่อีกครั้งเวลา 12.50 น.

แต่เราต้องเปลี่ยนแผนเพราะเพื่อนเราบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อขา และเราต้องพักที่ Bamboo ก่อนถึง Sinuwa



ช่วงเช้าฟ้าจะใสครับตกบ่าย หมอกจะลงจัดอีกครั้ง แบบตอนเดินขึ้น

และตามคาดเราเดินฝ่าฟนตกมาถึง Bamboo

เหมือนว่าเราได้เตียง สี่อีกแล้วดิ แต่ไม่ใช่ปัญหาขอแค่นอนพอ

แต่ที่นี่ดีนะครับ ห้องน้ำ อาหารอร่อยมาก

และชอบพวงกุญแจห้องเขาจริงๆ



วันนี้ zzzzZZZZ ....

9th day : Trek to jhinu Danaka



เกือบ 8 โมงเราออกเดินทางอีกครั้ง

หมู่บ้านก่อนถึง Sinuwa

เกือบเที่ยงเราเดินทางมากันครบทีมและก็นำของที่ฝากไว้แยกอีกครั้ง แพ็คของใหม่แล้วไปต่อ

ใกล้เที่ยงแล้ว ถามว่ากินข้าวนี่เลยไหม คำตอบคือ " ไม่ " 5555+



เราจะไปกินบนยอดเขานั้นไกลๆ " กลืนน้ำลายแปป "

แล้วที่พักวันนี้ละ ก็จะ ขึ้น ลง ขึ้นลง อีก สองภูเขา



" ครับ !!!!!!!!!!!!!! " ก้มหน้าก้มตาเดินกันต่อไป 5555++


เดินทางวันนี้บอกได้เลยว่าร้อนมากกกก แดดแรงได้อีก

ยังหลันหลังไปมองอยู่เสมอ ยิ่งใหญ่ งดงาม

ได้กลับมาเจอเพื่อนชาวฟินแลนด์ Pipsa แม่เขา ก็พูดคุยกันเฮฮา และก็ขอถ่ายภาพ ขอ contact เก็บไว้

ผมล่วงหน้ามากับอชิท พร้อมกับเพลงท้องถิ่นของเขา ฟังไปฟังมาเอ่อ คึกคักได้อยู่และมีร้องคลอไปด้วยบ้าง 555+

และแน่นอนแอคท่าให้ถ่ายภาพอยู่เรื่อย เขาก็สอบถามเรื่องชีวิตที่มากขึ้น

และเขาก็เล่าให้ผมฟังว่า " วันนึงเขาจะไปเป็นไกด์ แต่การไปเป็นไกด์ต้อง ผ่านจุดนี้ก่อน

มีการเอารูปแฟนโชว์ด้วยนะ 555++ "



ร้ายนะไอเสือ ... :]



New bridge เราจะไปที่นั่น หลังจากเรากินข้าวเสร็จแล้ว เราเดินลงจากด้านบนเขา

" เหมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันได " อีกครั้ง เมฆมืดมาเลย แปปเดียวฝนก็ลงมาอย่างแรง ตรงนี้ผมเก็บกล้องเลยไม่ค่อยมีรูปแล้ว

เดินลงมายังตีนเขาที่เป็นแม่น้ำ ผ่านสะพานไม้ แล้วเดินขึ้นไป วันนี้เละพอสมควร !!! และทางนี่ก็ใช้ได้เลยทีเดียว



New Bridge สะพานแห่งใหม่ จริง ซึ่งตรงนี้ถ้าสร้างเสร็จแล้ว คงไม่ต้องเดินขึ้นลง และประหยัดเวลาได้เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว ...

เดินก็อาจจะเจอขบานขนของบ้าง และแล้วก็ถึงที่พักสักที บ่ายสามครึ่ง

............

" วันนี้ต้องฉลองนะ " ดุฟซัง ไกด์เราบอกระหว่างเดินทางจะถึง

ได้เล๊ยยยยยยยยยยยย วันนี้กินแบบเต็มที่หน่อย

ด้วยอะไรหลายๆอย่าง

ความสำเร็จ ความเหนื่อย ความสนุก.... เราทำได้แล้วววววววววว

ฉลอง กันหน้าแดงเลย 555+



หลังจากนั้น ดุฟซัง ได้เรียกผมไปเผยความนัยว่า

" นิต ผมรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมากสำหรับทริปนี้

ผมมีความสุข สนุกไปด้วยกับพวกคคุณ และขอบคุณสำหรับอะไรหลายๆอย่าง "



มันคงไม่ใช่แค่เขาคนเดียวผมเชื่อว่าพวกเราก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน

ทั้งการดูแลของทีมเขา ข้อแนะนำต่างๆ ก็ต้องขอบคุณพวกเขาไม่แพ้กัน



วันนี้ zzzZZZZZZZZ...

10th day : Trek to subai drive to pokhara and comeback to KTM by late flight.



วันนี้เราจะเดินกันไม่นาน ก่อนที่จะต่อรถจิ๊ปและไปยังสนามบิน

เสื้อสวยนะครับอชิท

หลังจากมาถึงในเมือง โพคารา พบว่าอาหารก็ไม่ได้แพงเลย :]

ทีมงานมาส่งเราที่สยามบิน ด้านดุฟซังต้องนั่งรถไปกาฐมาณฑุต่อ

พูดคุยร่ำลากันก่อนขึ้นเครื่อง และกับคำที่ว่า " กลับมาอีกครั้ง ที่ EBC นะ "

เรากลับมาพักโรงแรมเดิม วันนี้กริชชานะก็เลี้ยงส่งด้วย

เป็นดาบัด อร่อยมากก แต่ก็รอนานเหมือนกัน เพราะด้วยร้านนี้น่าจะเป็นร้านยอดนิยม

นักท่องเที่ยวเยอะน่าดู เติมไม่อั้นเหมือนเดิมครับที่นี่



มื้อนี้วู่วามไปหน่อย 555++ พุงแทบแตก



จากนั้นก็เดินเล่นกันอีกนิดหน่อยแล้วกลับมานอน



11th day : KTM comeback to BKK



Bye Bye Nepal

มีสาวคนนึงบอกกับผมว่า " อยากไปบ้าง "

"จะไปได้หรอ "



" ได้ดิ ก็ไม่เห็นตาย !!! "

เก่งจริง ๆ

ต้องหวดน่องด้วยก้านมะยม... !!!

คุยกันหลังทริป

หลังจากกลับมาทำนในวันถัดมา
ก็มีอาการไข้ขึ้นและลากประมาณเกือบ 2 สัปดาห์ กันถ้วนหน้าครับ
....คงเพราะด้วยอากาศ ...

ก็แน่นอนทริปต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทางทั้ง 3 คนที่มาด้วย
เดียว แอ็ป คิว มาเหนื่อย ปวดน่องด้วยกัน
ทีมไกด์ที่สุดยอด :]

ฝากข้อความดีๆไว้ละกันครับ

"จงมีนาฬิกาเป็นของตัวเอง ทั้งนิสัย ทั้งพรสวรรค์ ทั้งความสนใจ คนเรานั้นมีต่างกันออกไป..

ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน หรือแผนการในชีวิต
ให้ตรวจสอบกับตัวเองให้แน่ หากมีนาฬิกาเป็นของตัวเองแล้ว
ก็สามารถเดินไปตามทางของตัวเองโดยไม่ต้องรีบเร่งอย่างไร้ความหมาย

...หรือยังอาจสามารถค้นเจอหนทางที่จะทำให้ตัวเองอิ่มเอมได้โดยไม่ต้องไปสนใจเสียงรบกวนรอบข้าง...."

ชิโรยามะ ซาบุโรว



จริงๆแต่ละชีวิตมันก็ต่างกันอยู่แล้ว

แต่ก็แปลกที่มักละเลยไม่ฟังเสียงข้างใน

...จากใจเราเอง ....



มีความชอบ แบบฝึกหัดชีวิต

ความสุขในแบบของแต่ละคน

การเรียน การงาน คู่ชีวิต จังหวะ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมของมันอยู่แล้ว ....



หากเราหลง นำจังหวะชีวิตของคนอื่น

เข้ามาในจังหวะชีวิตของเรา

ชีวิต ความคิดเราก็ผิดจังหวะสับสนไปหมด

อันนี้ให้แยกเรื่องเอามาเป็นแรงบันดาลใจกับการเปรียบเทียบเลยนะ



ถ้าเราหาจังหวะของเราเจอ

มันก็จะไปของมันเรื่อยๆ

หลักกิโลเมตรของเป้าหมายใหญ่ๆนั้น

จะถูกเราค่อยๆ เก็บ ...ค่อยๆเก็บ ...



..สักวันก็สมดังความตั้งใจ ..




มีคนบอกว่า

" ความทะเยอทะยานในสิ่งดีๆน่ะ ไม่มีคำว่าเสียใจภายหลังอยู่ละ "



......ดูแล รักษา จังหวะของเราให้ดีๆนะ....



Dream > Passion > Mission > Action >Success !!!

ฝัน ฝันซ้ำๆ จนมันกลายเป็นแรงปรารถนาว่าอยากทำอะไร

และแน่นอนมันก็จะมีขั้นตอนแนวทางวางแผนอะไรก็ว่าไป

ลงมือทำ " เราจะเก่งเมื่อได้ทำอย่างต่อเนื่อง "

และความสำเร็จจะไปไหนเสีย ..



เส้นทางในแต่ละวันของ ABC เมื่อเราเหนื่อย เราจะยอมหยุดพักก่อนก็ได้ แต่ก็จะทำให้ช้า และส่งผลกระทบต่อวันต่อไปที่จะยากขึ้น

เส้นทางไม่เท่าไร แต่ทุกครั้งที่พักเหนื่อย มองหน้า ให้กำลังใจกัน เราก็ค่อยๆก้าวกันต่อไป ... " ใจมันมา "

เส้นทางขึ้นลงเป็น W เส้นทางที่ไม่เห็นเป้าหมาย หมอกลงหนักจนมองไม่เห็นทางที่ผ่านมา

ร้อน ฝน หนาว...

สุดท้ายพวกเราก็ค่อยๆ เดินกันจนถึง...



" ใกล้หรือไกล ใจเท่านั้น " ...



เราแพลนไป EBC2020 หวังว่าจะเจอกันอีก

กับความเหนื่อย ....และสวยงามแบบนี้

ขอบคุณที่เข้ามาชมกันนะครับ

Facebook fanpage

Station Deaw : https://www.facebook.com/StationDeaw/

nitvigator : https://www.facebook.com/NitVigator/



* แม่กลับมาถามว่าตอนไปเที่ยวเสียดายไหม ตอนจ่ายตั้งค์กลั้นใจไหม 555++

" ไม่เลยแม่ คิดไว้อยู่แล้วว่าไม่ไปวันนี้ พรุ่งนี้ ปีหน้า หรือยังไงก็ต้องไป "



ความคิดเห็น