ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติลำคลองงูที่ที่ทุกคนรู้ดีว่าจองยากพอๆกับเขาช้างเผือกกับสุดยอดกิจกรรมเดินป่าแนวแอดเวนเจอร์ที่รวมความมันส์ทุกรูปแบบเอาไว้ที่นี่ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเดินป่า ปีนเขา กระโดดน้ำ ว่ายน้ำและลอยคอไปกับน้ำ ซึ่งปีที่แล้วผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสมาแล้วเลยอยากจะมาเล่าให้ฟังว่า2วัน1คืนที่นี่มันสนุกแค่ไหน โดยปีนี้ทางอุทยานได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาผจญภัยตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2562 ถึง 1 พฤษภาคม 2562 โดยรายละเอียดการจองปีนี้ยังคงรอทางอุทยานยืนยันอีกครั้งนะครับแต่สามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลได้ที่เพจหลักอุทยาน https://www.facebook.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%...
หรือโทร084-9132381
การเตรียมตัวส่วนบุคคล
1. ถุงกันน้ำ ocean pack
2. ไฟฉายแบบคาดหัว
3. ขนม น้ำ น้ำหวาน พกไปให้พอระหว่างเดิน
4. เสื้อผ้าที่ใส่ไป ควรเลือกตัวที่ ราคาไม่แพงมาก
5. ไฟฉายกำลังแรงสูงมาก หรือ สปอร์ตไลท์
โดยทริปนี้ผมร่วมเดินทางไปกับเพจ แชร์ทริปเที่ยว ค่าทริปต่อหัวราคา 2800บาทรวมทุกอย่างแล้ว(ขึ้นรถตู้ที่ กทม.)จึงสะดวกสบายเรื่องการเดินทางเก็บแรงไว้ไปสนุกได้เต็มที่
ถ้าอยากรู้ว่าลำคลองงูจะมันส์ขนาดไหนตามผมมาเลยครับ
เรามาถึงอุทยานตอนตีห้าก็กางเต็นท์เก็บของและทำธุระส่วนตัวกันเลยที่นี่มีห้องน้ำไว้รองรับนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ ส่วนใครที่ไม่สะดวกกางเต็นท์ทางอุทยานก็มีบ้านพักไว้รับรองส่วนค่าบำรุงรักษาอยู่ที่เราจะบริจาคช่วยเหลือทางอุทยานแต่เราต้องแจ้งตั้งแต่ตอนลงทะเบียนว่าต้องการบ้านพักเจ้าหน้าที่จะได้จัดการไว้ให้เรา ที่นี่ถึงแม้เป็นช่วงเดือนมีนาคมย่างเข้าสู๋ฤดูร้อนแล้วแต่อากาศกลางคืนและช่วงเช้ายังคงหนาวเย็นอยู่แนะนำให้หยิบเสื้อกันหนาวมากันด้วยนะครับ
จากนั้นเราก็มากินข้าวเช้าเพิ่มพลังกันก่อน ซึ่งที่นี่มีร้านอาหารในอุทยานไว้บริการโดยตอนลงทะเบียนจองเราสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยว่าเราไปกี่คนต้องการอาหารกี่มื้อเจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งร้านอาหารให้จัดเตรียมไว้ให้แต่ใครที่ชอบทำกินเองก็สามารถนำอาหารทำกินเองได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาของทางอุทยาน โดยทริปนี้เราได้แจ้งทางอุทยานให้ก็สะดวกสบายกันไป
สภาพป่าโดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติลำคลองงูยังคงมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ประกอบด้วยป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง
ถึงแม้จะเป็นทางอย่างเดียวแต่ควรมีน้ำขนาด0.7ลิตรติดตัวกันมาคนละ2ชวดนะครับ
ภายในถ้ำมืดมากและไฟฉายที่ใช้ต้องเป็นแบบคาดศีรษะเท่านั้นเราะมือเราต้องใช้เกาะหิน ปีนป่ายและใต่เชือก
เอ้าาาาาาาาโดดดดดดดดด
ตรงนี้โดดกันสนุกครับไม่สูงมากนักน่าจะซัก3-4เมตรได้
จากนั้นก็มานั่งแช่น้ำกินข้าวกันชิวๆกินอิ่มมีแรงแล้วก็พากันเดินกลับ คิดเอาว่าตอนมาเดินลงชันขนาดไหนตอนกลับก็เดินขึ้นชันขนาดนั้นและแน่นอนว่าผมไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปเพราะมันเหนื่อยเอาเรื่องเลยที่เดียว พอกลับถึงถึงที่พักก็แยกย้ายกันเข้านอนพักเอาแรงไว้ลุยต่อพรุ่งนี้
เช้าวันที่2ของทริปเราก็ทำภาระกิจส่วนตัว กินข้าวกินปลากันเหมือนเดิมจากนั้นก็นั่งรถเพื่อไปยังจุดเดินเท้าไปยังถ้ำนกนางแอ่น ถ้ำนกนางแอ่นห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานประมาณ4กิโลเมตรและเดินเท้าไป-กลับรวม2กิโลเมตร
สภาพป่าที่นี่คล้ายกับทางไปถ้ำเสาหินแต่จะไม่มีแบบทางชันลงแต่จะเป็นทางเดินลัดเลาะเขาไป อ่อที่นี่ผึ้งจะเยอะให้ระวังเรื่องการถูกผึ้งต่อยด้วย
แต่ยังความแอดเวนเจอร์ไว้อยู่
บางจุดมีบันไดไม้ให้เราได้เดินแต่ต้องระมัดระวังนะครับเพราะบันไดเป็นไม้ค่อนข้างเก่าและผุต้องเดินอย่าระมัดระวัง
และแล้วเราก็มาถึงประตูทะลุมิติลักษณะเป็นถ้ำเล็กๆเป็นทางเชื่อมไปสู่ถ้ำนกนางแอ่น
ไฟฉายยังคงสำคัญนะครับ
เอ้ายิ้มกันหน่อย
พ้นจากประตูทะลุมิติมาก็ยืนเท่ๆกันหน่อยครับ ซึ่งถ้ำนกนางแอ่นเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ผมเคนเห็นมาเลย
ใหญ่ขนาดไหนของดูจากขนาดตัวเจ้าหน้าที่เอานะครับเหลือตัวนิดเดียวเองครับ
ถ้ำนกนางแอ่นจะมีความสนุกกว่าถ้ำเสาหินเพราะไม่ต้องเดินมากบางจุดมีให้เราลอยคอไปกับน้ำด้วยและถ้ำนี้มีจุดให้กระโดดน้ำถึง2จุดซึ่งผมบอกเลยว่าเสียวทุกจุด
ภายในถ้ำนกนางแอ่นจะมากความสวยงามแปลกตามากกว่าถ้ำเสาหินเพราะเป็นเหมือนถ้ำลอดมีแสงสว่างส่องผ่านมาได้ทำให้การมองเห็นดีกว่าถ้ำเสาหิน
หัวเอเลี่ยน หินงอกหินหินย้อยที่ก่อตัวขึ้นมามีรูปร่างแปลกตาคล้ายกับหัวเอเลี่ยน
หัวอนาคอนด้า ตรงนี้ต้องใช้จินตนาการนิดนึงเพราะมองเป็นอย่างอื่นก็ได้นอกจากหัวอนาคอนด้า
และเราก็มาถึงจุดโดดสุดท้ายความสูงถึง6เมตรและเหมือนเดิมว่าทุกคนต้องโดดเพราะไม่มีทางไปต่อแล้ว
ใจเย็นๆได้โดดทุกคนครับ
มีความสุขและสนุกแค่ไหนดูจากรอยยิ้มเอานะครับ
และตรงนี้คือแลนด์มาร์คที่ใครมาก็ต้องมายืนเท่ห์ๆถ่านกัน
#สวัสดีคนหนีเที่ยว
ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจากเพื่อนร่วมทริป พี่อบเชยและน้องก็อต
Pattanachai Gigs
วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.32 น.