Mt. Kinabalu Climb to Summit Low's Peak
in Sabah Malaysia

25 - 28 May 2019


ทริปพิชิตยอด Low’s Peak เส้นทาง Summit Trails (2 วัน 1 คืน)

📆 ช่วงเวลาเดินทาง 25-28 พ.ค. 2562

Day 1 เดินทางเข้าเมือง Kota Kinabalu พักในเมือง 1 คืน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย และเสบียงก่อนขึ้นพิชิตยอด
Day 2 เดินทางไปที่ทำการอุทยาน Kinabalu เพื่อลงทะเบียน และเดินทางต่อไป Timpohon Gate จุดเช็ค Point เพื่อเริ่มเดินเท้าขึ้นเขา
Day 3 เดินเท้าขึ้นเขาเพื่อพิชิตยอด Low’s Peak Summit (เป็นวันเดียวกันในการเดินลงเขาและกลับเข้าเมือง เหนื่อยหน่อยนะ)
Day 4 เดินทางกลับบ้าน (ประเทศไทยจร้าฉันโคตรรักเธอ)


ข้อควรรู้

  • ใบตรวจคนเข้าเมือง : ประเทศมาเลเซีย ไม่ต้องเขียนใบ ตม ใช้เพียงพาสปอร์ตเพื่อแสดงตัวตนเท่านั้นก็เข้าประเทศได้แล้ว
  • ณ จุดเริ่มเดินเท้าจากเส้นทาง Timpohon gate ระยะทางประมาณ 6 กม. ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. ลักษณะเส้นทางเป็นทางดิน บางช่วงจะมีขั้นบันไดดิน เป็นพื้นหิน จะต้องแบกเป้ขึ้นเขาเองเพื่อขึ้นไปยังที่พักบนเขา Laban Rata area assorted hut ใครที่แบกเป้เดินไม่ไหวอาจต้องจ้างลูกหาบแบกสัมภาระ (ถ้าจ้างแบก ราคาประมาณ 2 UAD /1 kg ขึ้น-ลง) ส่วนเรานั้นเลือกแบกเป้เองจร้า น้ำหนักเป้ 13 กิโล (อยากลองวัดใจตัวเอง บอกเลยโหดมากโดยเฉพาะขาลงเข่าอ่อนแรงเลยทีเดียว ใครขาไม่แข็งแรงพอแนะนำจ้างแบก)
  • ทาง อช. อนุญาตให้ขึ้นเขาได้วันละ 140 คน (ไม่แน่ใจลองหาข้อมูลเพิ่ม)
  • ประตู Timpohon (1,866 เมตร) หลังจากลงทะเบีนที่อุทยานแห่งชาติ Kinabalu ทุกคนต้องมาเช็ค Point ที่นี่ก่อนออกเดินเท้า เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นเดินเท้าและจุดสิ้นสุดสำหรับนักปีนเขาทุกคน (มีเวลาจำกัดในการเดินเท้ากลับไม่เกิน 16.00 น. ไม่งั้นจะต้องเสียค่าบริการให้กับไกด์เพิ่ม) ใครที่ไม่ได้ขึ้นพิชิตยอด Low’s Peak จะไม่ได้รับใบ Certificate ที่ทางอุทยานออกให้
  • การขึ้นยอด Low’s Peak Summit ควรมีเป้เล็ก ๆ สำหรับพกน้ำดื่ม ขนมเพิ่มพลังงานระหว่างทางด้วย ไฟฉายคาดหัว ถุงมือ อุปกรณ์กันหนาวเตรียมให้พร้อม รองเท้าสำคัญมาก


Mount Kinabalu หรือ ภูเขาคินาบาลู
เป็นภูเขาที่สูงที่สุดระหว่างเทือกเขาหิมาลัยและนิวกินี ตั้งอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย
มีระดับความสูงอยู่ที่ 4,095 เมตร (13,435 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล)

w7mvr619dw7i

แผนที่เส้นทางการเดิน (ฺลิขสิทธิ์ Amazing Berneo Tours)


y6wsnxrq8bht

ป้ายบนยอด "Low’s Peak"



Day 1
25 พ.ค. 62

📌 วันแรก : ออกเดินทางจาก สนามบินดอนเมือง เวลา 09.30 น. ขึ้นเครื่องมุ่งหน้าบินตรงสู่ สนามบินโกตาคินาบาลูด้วยสายการบิน แอร์เอเชีย ถึง เวลา 13.35 น. (ราคาตั๋วจะได้ถูกหรือแพงแล้วแต่ช่วงโปรนะจ๊ะ)

>> เข้าที่พักในเมืองซึ่งวันนี้ควรพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าและเดินเท้าขึ้นเขา ควรเตรียมเสบียงให้พร้อม เช่น น้ำ ขนม (เน้นให้พลังงานสูงๆ) ส่วนอาหารกลางวันทาง Agency จากบริษัทที่เราซื้อ package ไว้จะเป็นผู้จัดเตรียมดูแลนำมาให้


3gi1b08ouli8
mf9fo7ju1rh0
pp5eemb63yyd

หน้าตาของอาหารมาเลไม่ค่อยแตกต่างจากของบ้านเราเท่าไร

b3wh8p6hma4x

สิ่งนี้คือเมนูฮิตของคนมาเลที่ชอบสั่งกิน รสชาติมันคือโอเลี้ยงบ้านเราเลย



Day 2
26 พ.ค. 62

📌 วันที่สอง : ตื่นเช้ามืดจะมีรถมารับที่โฮสเทลเพื่อเดินทางไปที่ อช.คินาบาลู โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ระยะทางประมาณ 80 กม.


>> เวลา 09.00 น. ถึงที่ทำการ อช. ลงทะเบียนรับบัตรผ่าน (บัตรที่ได้ถือว่าสำคัญมาก เพราะเป็นเหมือนบัตรประจำตัวของนักปีนเขาแต่ละคน ห้ามทำหายเด็ดขาด) จากนั้นก็พบกับเจ้าหน้าที่และไกด์ รับอาหารมื้อเที่ยง และนั่งรถไปที่จุดเริ่มเดินเท้า ซึ่งเราใช้เส้นทาง Timpohon gate ในการเริ่มออกเดินเท้า โดยทุกคนจะต้องมาเช็ค Point ณ จุดๆ นี้ก่อนขึ้น ระยะทางประมาณ 6 กม. ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. ลักษณะเส้นทางเป็นทางดิน พื้นหิน บางช่วงจะมีขั้นบันไดทั้งดินและหิน บันไดประมาณ 90 % ตลอดเส้นทาง ทางพื้นราบมีให้เห็นน้อยมาก โดยไกด์จะแนะนำเราทุกอย่างจะมี 1 คนนำทาง และอีก 1 คนปิดท้ายลูกกรุ๊ป (แต่ละกรุ๊ปจะมีไกด์ดูแลทั้งหมด จาก Agency ที่เราซื้อ packet ทัวร์มานั้นละ)

หมายเหตุ : ที่นี่ฝนตกตลอดทั้งปี ช่วงวันที่เดินขึ้นไปฝนตกตลอดทางทำให้เดินลำบากและก็หนาวเพราะเปียก เพราะฉะนั้นเสื้อกันฝนถือว่าจำเป็นควรพกติดตัวตลอดเวลา


60ohff4b47o2
9m4g1bauwp9f


จุดลงทะเบียนที่อุทยาน

styp8a2z3b3a

บัตรประจำตัวนักท่องเที่ยว (ห้ามทำหายไม่งั้นอดขึ้นยอด)

zy9zgco1qrit
6ps4w02ve2h2

กลุ่มเราไปกัน 10 คน


>> ทุกอย่างพร้อม ก็ออกเดินทางไปเช็ค Point ที่ Timpohon gate เริ่มออกเดินเท้าตามเส้นทาง Summit Trails กันได้เลย ระหว่างเดินเท้าจะพบกับจุดพักตลอดเส้นทางการเดิน มีห้องน้ำไว้ให้บริการทุกจุด สามารถแวะรับประทานอาหารที่แพ็คขึ้นไปได้ตามจุดพัก และระหว่างเส้นทางจะพบดอกไม้ กล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ ต้นไม้แคละรูปร่างแปลกตา เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจมากๆ แต่ก็เหนื่อยแบบสุดๆ เช่นกัน

scqvdimgd1o9
3dm1jnmvn54v
jk7zryp8fbub
1t953od5c43d
j5wf3mmmopx6
8zpfltolqdg5
ysghbwisp33s
r3wpe3l8nr86

"Mountain squirrel" ตัวนี้มีทุกจุดหยุดพักออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวสายลุย


usq9yu8opm6i
w081c7rtgl1p
br4y2u0vurtk
o8byk60socg4

อาหารมื้อกลางวันระหว่างทาง (ใครหิวก็แวะกินตามจุดพักได้ตลอดทางนะ)

988cvwluqqyh
ef0bqqunh675
cc3a5oe7lf0k
i4rvjwla27a8
fqgs77atj2v8

ถึงที่พักใช้เวลาไป 6 ชั่วโมง (ฝนตกตั้งแต่เริ่มเดินทำให้การเดินเท้าลำบากมากขึ้น)


>> ถึงที่พักบนเขาประมาณ 16.00 น. ระดับความสูงอยู่ที่ 3,272 เมตร บรรยากาศดี อากาศหนาวเย็นเห็นทะเลหมอก สามารถมองเห็นทิวเขาในระยะไกลๆ ได้

ioimvjpt0x2m
5vwtkcrbc0kg
h7tifi4dm4mm
gu32zea9kjvp
w3o9vjagdv11

บรรยากาศที่พักบนเขา


>> พักที่ Laban Rata area assorted hut ลักษณะที่พัก เป็นพักรวมกันห้องละ 5-6 คน เตียง 2 ชั้น มีห้องน้ำให้อาบแบ่งแยกหญิงชาย แต่น้ำไหลน้อยเพราะสภาพพื้นที่อยู่บนเขา และน้ำก็เย็นมากด้วยไม่เหมาะแก่การอาบน้ำ แค่อาบแบบแห้งและล้างหน้าแปรงฟันพอ

si0h96xubvs5
mdmzjqsd54u9


8mhbptqxw8jn

ห้องละ 5-6 คน เตียง 2 ชั้น

>> มีห้องอาหารรับรองนักปีนเขาทุกท่าน (บรรยากาศดี วิวสวยงาม) อาหารจะเป็น Buffet ทานได้ตามอัธยาศัย มีให้บริการ 3 มื้อ คือ มื้อเย็น เริ่มตั้งแต่ 16.30 น. มื้อค่ำตอนตีสองก่อนขึ้นยอด Summit และมื้อเช้าหลังจากพิชิต Summit เรียบร้อยแล้ว มีเวลากินจนถึง 10.30 น. ใครทานได้เยอะเท่าไรยิ่งดี และควรจะเริ่มพักผ่อนกันตั้งแต่หัวค่ำเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าตั้งแต่ตี 1 กว่า ประมาณตี 2 ครึ่ง ต้องเริ่มออกเดินเท้ากันแล้ว

>> ในส่วนของน้ำดื่ม (มีน้ำขวดและน้ำร้อน) โค้ก ขนม อื่นๆ ที่โรงแรมมีขาย (ราคาอาจจะแพงขึ้นมานิดหนึ่งตามระดับความสูง) ในส่วนของกาแฟร้อนเห็นบางมื้อมีให้บริการฟรี

**บางคนอาจจะแพ้ความสูง ก็ควรกินยา Diamox กันไว้ แต่ระยะทางที่เดินขึ้นไต่ระดับมาเรื่อยๆ แล้วนั้น ถ้าไม่มีอาการอะไรก็อาจไม่ต้องกินยาก็ได้ แล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละคน (บางคนมีอาการบางคนไม่มีอาการ)

r6y0clox0sr6
l202hzeb5x8s


vp8wszduxyqb
0e1rseg3kqfg
r68w09wjvj85

อาหารแต่ละมื้อ คือครบหลัก 5 หมู่จริงๆ



Day 3
27 พ.ค. 62

📌 วันที่สาม : ตื่นเวลา 01.30 น. ล้างหน้าแปรงฟัน ทานอาหารมื้อกลางดึกก่อนขึ้นพิชิตยอด ในการเตรียมตัวเดินขึ้นสู่ยอดเขาคินาบาลู ระยะทางประมาณ 2 กม. ค่อนข้างชัน ปีนป่ายและไต่เชือกขึ้นเขา อากาศข้างบนค่อนข้างจะเบาบางมาก ใครที่มีอาการแพ้ความสูงจะทำให้เกิดอาการง่วงนอน หรือว่าเราง่วงจากที่ต้องตื่นแต่ดึงหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ รู้แค่ว่าเราต้องมีสมาธิในการเดินจร้า โดยจะมีไกด์ท้องถิ่นนำทาง เราต้องทำตามที่ไกด์บอกเพื่อความปลอดภัย (อย่าดื้อกับไกด์) และที่สำคัญห้ามลืมบัตรประจำตัวสำหรับขึ้นสู่ยอด เช็คบัตรที่ประตู Sayat Sayat Gate ที่ความสูง 3,668 เมตร (จำไม่ได้ว่าต้องให้ถึงก่อนตีห้าครึ่งหรือเปล่า) ถ้าบัตรหายก็จะไม่ได้ขึ้นนะจ๊ะ

>> ณ เวลา 06.00 น. ต้องถึงจุดสูงสุดของยอดคินาบาลู Low’s Peak ที่ความสูง 4,095.2 เมตร ระยะทาง 8.75 กม. จากจุดเริ่มเดินด้านล่าง บนยอดเราสามารถชมความงามของยอดเขาคินาบาลู ชมทะเลหมอก (ถ้ามีนะ) และแสงยามเช้าบนยอดเขาได้แบบฟินๆ จนลืมเหนื่อยกันไปเลย แต่ก็อย่าใช้เวลาฟินนานจนเกินไป เพราะเรามีเวลาจำกัดในการเดินเท้าลงเขา (ต้องทำเวลาด้วย) เราสามารถมองเห็นยอดเขาหลายๆ ลูกบนยอดเขาคินาบาลูได้ด้วย

hqny3hwo0dmk

นี้ละยอด "Low’s Peak"

uiaqaj62afdy
kfkx0doysbp9
vkfrer7lksre
tm8zy4ubz0ep

แสงเช้าบนยอดสูง


7rlu65ejju3i
k73aookf95f3


4lalzvn2qhs7
nv28shxu2c3b
xqy79rl20nfn

เขาขึ้นยอดกันแต่เรากำลังกลับ


>> จุดไฮไลท์ คือ ยอด South Peak ระดับความสูงอยู่ที่ 3,922 เมตร สวยงามโดดเด่นมาก (ห้ามพลาดกับการถ่ายรูปคู่ยอดนี้นะจ๊ะ) แต่อากาศข้างบนค่อนข้างหนาวเย็นมาก เพราะฉะนั้นควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อม (ถุงมือถือว่าสำคัญมากอย่าลืม) ครั้งหนึ่งที่ต้องลอง ถ้าไม่ได้พิชิตยอดเหมือนมาไม่ถึง

c73n1u4fpv30

ยอด "South Peak"


v2hqehsx0da6
477h8uhzpyhg
2zp4vq27q9cb
d1pu9425gawb
mrkwz605h43k
acuunypr5176
7n6h5dyld1ld
h7zmlzhponlj
3rm1c7axn3f2
6vymtnzue6j0
svyeqbth2o8n
j8k8pd89liar
jy632o15591d
dvqtzsu16jap
dwsk15uo9sbg
ecv8kckvbf87
mqq2g27611w8
z3di9iuokdpe
n3r26vh5gfj1
1o05079h97mr
th4ljaviq97b
plevhaezz2bp


>> ทั้งหมดคือความสวยงามระหว่างเส้นทางขึ้นยอด ด้วยเวลาที่มีจำกัดทำให้อยู่บนยอดได้ประมาณถึง 8 โมงเช้า แล้วต้องรีบลงเพื่อเตรียมตัวเดินเท้ากลับ

>> ณ เวลา 10.00 น. เช็คเอาท์ออกจากที่พัก ทานอาหารมื้อเช้า+เที่ยงกันที่โรงแรมก่อนออกเดินเท้าลงเขา (เรามีเวลาพักไม่ถึงชัวร์ ต้องรีบกิน รีบเตรียมตัวเก็บของกัน) ในการเดินลงเขาใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม. ใช้เส้นทางเดินลงทางเดิม จนถึงประตู Timpohon เพื่อทำการเช็ค Point อีกครั้ง จากนั้นก็นั่งรถไปที่อุทยาน ณ จุดลงทะเบียน เพื่อรับใบ certificate กินข้าวมื้อเย็นกันที่ร้านอาหารของทางอุทยานซึ่งเป็นหนึ่งในมื้ออาหารของแพคเกจ ก่อนนั่งรถกลับเข้าตัวเมืองกันเพื่อพักผ่อนและเตรียมตัวเดินทางกลับในวันถัดไป

00na4cu4nve8
fjqkt3a7j1my
tdavsq7v95vd
60t5uf7op6kb
tha989drc3rg
hlvd2tjceivz
gqklxctwyuyf

บรรยากาศระหว่างทางลง (โชคดีหน่อยไม่เจอฝน)
#หากกำลังรู้สึกเหนื่อยลองหันไปมองคนที่เขาเหนื่อยกว่าเราดู



Day 4
28 พ.ค. 62

📌 วันที่สี่ : เช็คเอาท์ออกจากโฮสเทล เพื่อเดินทางไปที่สนามบินโดยเรียกใช้บริการ Grab สะดวกรวดเร็วรอไม่นาน ถึงสนามบินคินาบาลู ตอน 13.00 น. เตรียมตัวบินกลับสนามบินดอนเมือง ด้วยเที่ยวบินแอร์เอเชีย เวลา 15.00 น. ถึงสนามบินดอนเมือง เวลา 17.05 น. แยกย้ายเดินทางกลับบ้านกันโดยสวัสดิภาพ

ls27dx88kepr

Certificate (ใบรับรองความภาคภูใจในการพิชิตยอด)

53pyiamdjtyy

อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขเท่าอยู่ประเทศไทย




การเตรียมตัว

- ทริปนี้เดินขึ้นเขาค่อนข้างเยอะและโหดมาก ควรออกกำลังกายมากๆ เน้นกำลังขาเป็นหลัก ไม่เหมาะกับท่านที่มีโรคประจำตัวต่างๆ

การเตรียมเสื้อผ้า

- เสื้อผ้าที่ใส่จะมีหลายชั้นตั้งแต่ชั้นในสุดจนถึงชั้นนอก เสื้อ base layer, เสื้อ fleece, เสื้อ down jacket และเสื้อกันลมกันฝน (ควรเตรียมไปให้พร้อม ก่อนไปเช็คสภาพอากาศในวันที่จะต้องไปด้วยว่าสภาพอากาศที่นั้นเป็นอย่างไร)


สิ่งที่ต้องใช้ในการเดินทาง

- เสื้อผ้าแขนยาวสำหรับเดินป่า เบาบาง กันแดด กันหนาว (ประมาณ 0 องศา) ได้
- กางเกงเดินป่า เบาบาง กันลม กันฝน กันหนาวได้ดี
- เสื้อกันลม/ฝน (hard shell jacket) หรือ เสื้อ hard shell ของ uniqlo
- รองเท้าผ้าใบ สภาพดี พื้นไม่ลื่น กันน้ำได้
- รองเท้าแตะ (ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละคน)
- ถุงเท้า (trekking shoes) ถุงมือกันหนาวได้
- หมวกกันแดด กันหนาว
- ไม้เท้าสำหรับปีนเขา (trekking pole) (โคตรจำเป็นมากๆ)
- เป้ใส่เสื้อผ้าควรจะกันน้ำได้ (Waterproof) หรือมีผ้าคลุมกันฝน (Rain cover)
- เป้สะพายหลังใบเล็ก (ไว้ใส่อุปกรณ์จำเป็นตอนขึ้นพิชิตยอด)
- ไฟฉายคาดหัว (Headlight) (จำเป็นมากๆ เพราะต้องขึ้นยอดตอนตี 2)
- นกหวีด (Whistle)
- ครีมกันแดด
- ขนมที่ให้พลังงานสูง
- ยารักษาโรค > ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ยาแก้ท้องเสีย ยาป้องกันโรคแพ้ความสูง ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ปวดท้อง เกลือแร่ (สำคัญและจำเป็นควรมีไว้ส่วนตัว)
- กระบอกใส่น้ำร้อน (แล้วแต่ว่าจะเอาไปหรือไม่ก็ได้ แต่อากาศหนาวนะ)
- ขวดใส่น้ำดื่ม (แล้วแต่ว่าจะเอาไปหรือไม่)
- ปลั๊กไฟแบบ universal (แล้วแต่ว่าจะเอาไปหรือไม่)


การจองโปรแกรมปีนเขา

การให้บริการศูนย์ข้อมูลและการจอง Mount Kinabalu Climb ซึ่งจะมี Agency จากบริษัทต่างๆ ได้จัด package ไว้ เราสามารถเลือก package ที่ต้องการได้ตามใจชอบ โดยแต่ละ package จะมีรายละเอียดพร้อมราคาบอกไว้อย่างชัดเจน สามารถเข้าไปดู package ได้ที่ https://www.mountkinabalu.com/packages

***หมายเหตุ พวกเราใช้บริการบริษัทรับจัดทัวร์ในไทย ไม่ได้เที่ยวแบบติดต่อเองโดยตรงกับ Agency ของทางมาเลเซีย (ยอมจ่ายแพงหน่อย เน้นสะดวกสบายมีคนบริหารจัดการให้ทุกอย่าง เพราะภาษาไม่ได้แข็งแรงมาก)

ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ค่าใช้จ่าย 26,000/ท่าน ราคานี้ซึ่งรวม

- ค่าที่พักทั้ง 3 คืน (โฮสเทล) 2 คืน ในเมือง บนเขา 1 คืน (ห้องรวม เตียง 2 ชั้น พร้อมอุปกรณ์การนอน)
- ค่ารถรับ-ส่งตลอดการเดินทาง
- ค่าแพคเกจขึ้นยอดคินาบาลู
- ค่าอาหารทั้งหมด 7 มื้อ ตามรายการ
- ค่าเข้าอุทยานฯ
- ค่าใบ certificate
- ค่าประกันอุบัติเหตุ วงเงิน 1,000,000 บาท

ค่าใช้จ่ายนอกเหนือรายการ (จ่ายเอง) แลกเงินไป 3,000 บาท (เหลือกลับเกือบสองพันของฝากล้นมือ)
- ค่าตั๋วเครื่องบินทั้ง 2 เที่ยวบิน
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มนอกเหนือรายการ
- ค่าลูกหาบแบกกระเป๋าส่วนตัว (ถ้าใช้บริการนะ)
- ค่าทริปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ


หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่

ติดตามแฟนเพจ >> www.facebook.com/KanXengStudio
ติดตามรีวิว >> www.thetrippacker.com/th/nameebebear
ติดตามอินสตาแกรม >> Namee Be Bear

เขียนโดย : Namee Be Bear

ความคิดเห็น