สวัสดีเจ้าค่าาาาา ~ กลับมาอ่านรีวิวของเจ้อีกครั้งหลังจากที่มีทริปมูฟออนไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งต้องบ่นยาวๆเพื่อเกริ่นการกำเนิดของทริปนี้ คือเมื่อช่วงทริปมูฟออนคือช่วงที่เจ้โดนเทจ้ะ เลยทักแชทหาเพื่อนคนนึงที่เวลามีปัญหาก็ทักหามัน (มีความสุขไม่เคยทักหาจริงๆ ซึ่งไม่ควรเก็บมาด่าตอนนี้ สำนึกผิดไม่ทัน) นางก็ชวนเจ้ไปเที่ยวภูเก็ต อิเจ้ด้วยความโศกสันตะโรก็ตอบกลับไป
'กุไปค่ะ!'
จึงเกิดเป็นทริปนี่ขึ้นมา และการเดินทางครั้งนี้เจ้ก็ตั้งแฮชแท็กว่า #ทริปนี้พี่โกออน เพราะหลังจากที่เราโดนเทเราก็ต้องมูฟออน หลังจากที่เราใช้ช่วงเวลาในการมูฟออนสักพัก เราก็จะเริ่มชิน เริ่มมองเห็นถึงสัจธรรมและความสุขที่แตกต่างออกไป สำหรับเจ้อ่ะนะ ก็มองว่าเป็นช่วงชีวิตที่พลิกผันมากๆผ่านช่วงเวลาที่โคตรจะเลวร้ายมาได้อย่างสตรองสุดๆ (ปรบมือให้หน่อยดิ้)
การเดินทางครั้งนี้คุณเพื่อนเลือกพาไปโดยใช้บริการเครื่องบินของสายการบินไทยสมายล์ นางจองไว้ 2 เดือนก่อนเดินทางจริง แล้ววันนี้ก็มาถึง เจ้ลางานครึ่งวันในวันศุกร์เพราะกลัวจะไปขึ้นเครื่องไม่ทันในเวลา 17.40 น. เป็นครั้งแรกที่เจ้ขึ้นเครื่องบินนะทู๊กโคลนนนน เลยได้ไปนั่งงงในดงสนามบินคนเดียว รอแล้วรออีกก็ยังไม่เห็นวี่แววของเพื่อนร่วมทาง สุดท้ายเจ้ก็ต้องรีบวิ่งไปที่เกทคนเดียว เพื่อนทอดทิ้ง 🤣
เครื่องลงที่สนามบินภูเก็ตโดยใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ เอาจริงๆเหมือนเจ้เป็นชาวต่างชาติที่พึ่งมาเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ฮ่าๆๆ เวลาโดยประมาณ 20.00 เพื่อนร่วมทางของเจ้ก็มาถึง เราเดินหารถแท็กซี่ไปลงที่ Boat Avenue จะบอกว่าค่าแท็กซี่ชาร์จ 100 บาทนะ ค่าเสียหาย 400 บาทไทย เจ้กับเพื่อนเดินเล่นรอเพื่อนอีกคนที่ทำงานแถวนี้ นางไปส่งพวกเราต่อที่ Hanuman v.i.p hostel เราพักกันที่นี่ทั้ง 3 คืนเลยนะ เดี๋ยวไปดูที่พักกัน~
ต่อไปขึ้นไปขึ้นชั้น 2 กัน
ต่อไปคือห้องพัก
ที่นอนอ่ะ เจ้กลิ้งเล่นไปสิบตลบละพึ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องถ่ายเก็บไว้เด้อ
ส่วนตรงนี้เป็นด้านหน้าของที่พัก ดูขาใหญ่ๆของเจ้ไปก่อนนะ
เช้าวันที่ 2 เราตกลงจะขับรถไปเที่ยวกัน พอดีเพื่อนเป็นคนมีเส้นสายเลยได้ราคารถที่ถูกสุดๆ วันละ 200 บาท
ที่แรกที่เราจะไปคือ หาดสุรินทร์
นายแบบหล่อหน่อยนะ ขอโทษที 😄
จากนั้นเราก็ไปต่อที่จุดชมวิวใกล้ๆกัน เจ้จำชื่อไม่ได้ละ แต่ขับออกมาจากหาดสุรินทร์ไม่ไกลก็ถึง
ภาพจะมัวหน่อย เพราะอากาศมีฝุ่นคลุ้งเลย
เราขับต่อไปด้วยระยะทางที่ไกลพอสมควร ไปกันวัที่ดฉลองหรือวัดไชยธาราราม มีความเก่าแก่และความสวยงามของสถาปัตยกรรม
ด้านในจะประดิษฐานพระพุทธรูปมากมายเลย และยังเห็นวิวของภูเก็ตด้วยนะ ผู้หญิงที่ใส่ขาสั้นมาไม่ต้องกังวลจ้า ที่ด้านหน้าจะมีคนแจกผ้าถุงให้ จากนั้นเราก็แว้นไปต่อกันที่วัดพระใหญ่
เป็นวัดที่ยังสร้างไม่เสร็จ คือสร้างไปเรื่อยๆ ตามกำลังศรัทธาของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน จากนั้นก็แว้นไปต่อกันที่นึงซึ่งเจ้ลองเชคอินสถานที่แล้วไม่ตรงกันสักรอบ ที่จำได้มันขึ้นว่าแหลมกะทิงนะ (มั้ง!) เอ๊ะยังไงหว่า ...
นี่เป็นทางเข้าที่เราจะไปปีนกัน เดินไปตามทางก็จะเจอทะเลตรงหน้า เหมือนหาดส่วนตัวเลย
ก้อนหินขนาดใหญ่ยาวไปสุดลูกหูลูกตา
ดูแค่บรรยากาศ เจ้เป็นแค่องค์ประกอบของธรรมชาติ ฮ่าๆๆ 🤣
หลังจากนั้นเราก็เดินต่อไป จากหินสีดำก็เป็นสีขาวพร้อมกับลูกเขาด้านข้าง
ขาวจริงๆ แหม่! 🤣
หลังจากตรงนี้เพื่อนเจ้มันก็พาเจ้ปีนเขาจ้ะ ใช่จ้าาาา อิเขาที่ทุกคนเห็นนั่นแหละ มันจะมีทางที่นักท่องเที่ยวเขาใช้กัน แต่ต้องระวังกันหน่อยนะ ค่อนข้างอันตราย ต้องใส่รองเท้าที่กันลื่นด้วย ด้วยความเป็นหวง เอ๊ย! เป็นห่วง 😊
ขอเลียนแบบสไปเดอร์แมนมั้ง
บินไปเล๊ยมึงงงงง
ปิดท้ายด้วยภาพที่จะบอกว่าลืมถอดหมวกกันน็อค ก็คือถือมันปีนเขาไปด้วยไงจ้ะ
ขับต่อไปเลยจ้าาาา บุกไปที่แหลมพรหมเทพกัน กะว่าจะพากันไปนั่งชมบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน พวกมีคู่อิจฉาหล่ะสิ ฮ่าๆๆ (เกี่ยวไรว๊ามึ๊งงง!)
เจ้แต่งภาพให้ออกโทนสีเข้มขึ้นมาหน่อย ความชอบส่วนตัวล้วนๆ
บรรยากาศจริงก็จะแบบนี้เลย ลมเย็น หนาแน่นไปด้วยทัวร์จีน 😑
วันที่สาม เพื่อนสาวที่ทำงานในภูเก็ตก็แวะมาหาและตกลงจะไปนอนอาบแดดกันที่บานาน่า บีช (Banana Beach) เราขับมอเตอร์ไซค์ไปกันพักนึง เจ้ก็ต้องร้อง Oh! My Godddddd! บรรยากาศแม่ง! เสียงคลื่นแบบ...
คือมันฟินกว่าฝรั่งหล่อๆที่นั่งอยู่แถบข้างๆเจ้อีกอ่ะแกรรร. นั่งโง่ๆไปสิ 😚
ช่วงบ่ายๆหน่อยเราก็แว๊นกันต่อ เจ้ก็จำไม่ได้ละว่าไปไหนบ้าง ฮ่าๆ 🤣 แต่ช่วงมืดหน่อยเราไปแวะกันที่ Phuket Old Town ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งคนก็เยอะมหาศาลเช่นกันจ้าาา
วันที่สี่ วันสุดท้ายเราจะไปดำน้ำที่เกาะราชากัน เชคเอ้าท์กันตอน 06.00 และรอรถตู้ของบริษัททัวร์ Sea Star เจ้แนะนำเลยนะ พนักงาน เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารักมาก ดูแล เทคแคร์ดีสุดๆ โชคดีของเราจ้า รถคันของเราจริงๆมีทัวร์ครอบครัวเกาหลีร่วมด้วยอีก 5 คน แต่พวกนางดันป่วยเลยยกเลิกไป ทั้งคันมีแค่พี่คนขับและเจ้กับเพื่อน 😁
เราถึงท่าเรือแหลมหงากันกลุ่มแรก และก็รองท้องด้วยอาหารเช้าโอวัลติน บีลัคกี้ ขนมปัง บลาๆ เยอะว่ะแกรรร. ก่อนที่จะเดินทางกรุ๊ปทัวร์ของเราก็รวมตัวกันก่อน เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้อธิบายการเดินทาง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นภาษาที่เจ้ถัดมาก ภาษาอังกฤษเด้อจ้าาา แต่ไม่ค้ เมื่อทุกคนเข้าใจก็เดินไปขึ้นของตัวเองกันจ้าาาา
ฮึบๆไว้ แขม่วให้ผอมที่สุด ฮ่าๆ 🤣
ก่อนจะดำน้ำก็ต้องเติมพลังกันก่อน เราไปลงกันที่เกาะราชาเพื่ออนกินข้าวและเดินเล่นตามหาด
อาหารจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ตักเอง ต่อไปจะเป็นภาพบรรยากาศที่เกาะราชา
ต่อไปเป็นเกาะเฮจ้าาาา
ทรายละเอียดมากแม่ 🙏
ระหว่างทริปก็มีดำน้ำ 3 รอบในแต่ละที่ ซึ่งเจ้ก็จำไม่ได้ละ 🤣 ปะการังสวย แต่ไม่ค่อยมีปลามากเท่าไหร่ แพลงตอนในน้ำคันมาก แสบๆคันมันๆปนกันไป ฮิ้วววว. ประมาณ 18.00 น. เราก็กลับมาถึงท่าเรือ มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าประมาณ 30 นาที เพราะเราต้องรีบไปขึ้นเครื่องให้ทันในเวลา 19.40 น.
สรุปค่าใช้จ่าย
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 2,000 บาท
ที่พัก 1,000 บาท
แท็กซี่ไป BoatvAveneu 200 บาท/คน
เช่ามอเตอร์ไซด์ 300 บาท/คน
ทัวร์ดำน้ำเกาะราชา-เกาะเฮ (Sea star) 1,400 บาท/คน
รวมประมาณ 4,400 บาท/คน
(***เป็นแค่การประมาณค่าใช้จ่ายหลักเด้อ นอกนั้นเป็นค่าเดินทางไป-กลับสุวรรณภูมิ ค่ากิน ค่าช็อปปิ้ง ซึ่งอยู่ที่เราจะจัดสรรเองนะจ้ะ***)
ปล.ที่ๆเคยบอกว่าจะมาด้วยกันอ่ะ ตอนนี้เรามาคนเดียวแล้วนะ ส่วนความทรงจำดีๆที่เคยบอกว่าจะเก็บไว้ ตอนนี้สาดลงทะเลไปหมดแล้วด้วยเช่นกัน บายจ้าาาา. 😎
Sometimes removing some people out of your life makes room for better people.
บางครั้ง การลบใครบางคนออกไปจากชีวิต ก็ทำให้เรามีที่ว่างสำหรับคนที่ดีกว่า
ทริปนี้พี่ไปไหน
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 20.14 น.