สวัสดีค่ะ
ห่างหายจากการเดินทางไปนาน สิ้นปี 2020 นี้มีโอกาสเหมาะจึงได้เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้ปลายทางของเราอยู่ที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
วันที่ 14 ธ.ค. 2020 วันแรกของการเดินทาง
เริ่มออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ออกเดินทางช่วงเช้า
10โมงกว่า แวะพักดื่มกาแฟ และอาหารเช้าที่ ร้านกาแฟโฮงเมี่ยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นทางผ่าน
ถึงแม้จะเป็นเวลาสายแล้ว แต่ที่ร้านกาแฟซึ่งตั้งอยู่บนหุบเขาก็ยังมีอากาศเย็น ด้านหลังร้านเป็นบ่อน้ำขนาดกลางมีป่าไม้ล้อมรอบ ช่วยทำให้บรรยากาศร้านเย็นสบาย
ระหว่างรออาหารที่สั่งไป ทางร้านก็มีชาร้อนหอมๆมาให้ได้จิบคลายหนาว
เริ่มมื้อเช้าด้วยกาแฟร้อนอย่างง่าย และแซนวิชแฮมชีส แล้วออกเดินทางต่อ
12.00น. ในที่สุดก็เดินทางผ่านนับพันโค้งมาถึง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนจนได้ ก่อนอื่นเปิดแอพหาที่พัก และได้เข้าเช็คอินที่ Canary Guesthouse เป็นที่พักของเราในคืนแรกนี้ หลังจากเข้าที่พักเพื่อเก็บของ ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางไปหามื้อเที่ยง หลังจากหาข้อมูลในแอพพลิเคชัน ก็ได้เลือกร้าน
ส้มตำหน้าอำเภอ ที่ขึ้นชื่อว่าถ้ามาเที่ยวปาย ต้องไม่พลาดลิ้มลองที่ร้านนี้
ทานกัน 2คน สั่งอาหารไป 3อย่าง คิดว่าคงพอดีไม่มากเกินไป แต่พออาหารมาเสริ์ฟผิดคาด มันเยอะมากกก
สำหรับใครที่จะมาทานร้านนี้ เตือนไว้ก่อนเลยว่าเขาทำอาหารจานใหญ่
จานแรกเป็น ส้มตำหมูกรอบ จานใหญ่ ให้เยอะ หมูกรอบอร่อย ให้หมูกรอบเยอะมาก ส้มตำรสชาติดีครบ3รส หอมพริกขี้หนู หายากนะร้านส้มตำที่ใช้พริกขี้หนู ส่วนมากจะเจอแต่ใช้พริกแดงจินดา
จานต่อมาคือ น้ำตกหมู
และสุดท้ายทีเด็ด ต้มแซ่บกระดูกหมู กระดูกหมูเปื่อยนุ่ม หอมพริกขี้หนู เผ็ด เค็ม เปรี้ยว ครบรส ยิ่งได้ซดน้ำร้อนๆในวันที่อากาศเย็นแบบนี้มันดีมาก
ค่าเสียหายมื้อนี้อยู่ที่ 305บาท สำหรับเราไม่แพงนะ ทุกอย่างให้เยอะ และรสชาติอร่อย ไม่ผิดหวังเลยที่ตามรีวิวมา
เมื่ออิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางต่อไปที่จุดหมายต่อไป
13.30น. เดินทางมาถึง ชุมชนจีนยูนนานบ้านสันติชล จุดนี้แดดค่อนข้างร้อน แต่ไหนๆก็มาถึงแล้ว แวะเข้าไปเดินเล่นสักหน่อยแล้วกัน
ร้านในก็จะมีร้านค้า จำหน่ายไวน์ผลไม้ บ๊วยเค็ม-หวาน ผลิตภัณฑ์ชาต่างๆ
เดินเข้ามาด้านใน มีกำแพงเมืองจีนแบบจำลองให้ได้ชม และแวะถ่ายภาพ
ด้านในยังมีหน้าไม้ และธนูไว้ให้บริการประลองฝีมือ 6ดอก 50บาท
ในนี้ไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากคนชอบถ่ายภาพ ที่เขาจะมีชุดจีนไว้ให้เช่าใส่ถ่ายภาพได้ เราเดินเล่นนิดหน่อยแล้วกลับออกมาเพราะอากาศค่อนข้างร้อน
เดินทางต่อไปที่ วัดศรีดอนชัย
ตามตำนานที่ได้อ่านมาคร่าวๆ วัดศรีดอนชัย เป็นวัดแรกในเมืองปาย และได้อัญเชิญพระสิงห์มาจากเชียงใหม่ จึงไม่พลาดที่ได้แวะมากราบไหว้เพื่อความเป็นศิริมงคล ที่ด้านหน้าประตูทางเข้าวัด มีผางประทีป และดอกไม้ไว้ให้บริการเพื่อนำเข้าไปบูชาพระสิงห์ในพระอุโบสถ
ภายในพระอุโบสถ มีลวดลายสวยงามเป็นศิลปะเก่าแก่
เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสวยงาม บรรยากาศภายในบริเวณวัดสงบร่มเย็น เราจึงเดินเล่นกันอยู่สักพัก
จุดมุ่งหมายถัดไปอยู่ที่ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย เราเดินทางมาถึงจุดนี้ในเวลาประมาณ 16.00น. แดดประเทศไทยในหน้าหนาวช่วงเย็นแบบนี้ก็ยังคงทำให้แสบผิดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราย่อท้อ ไหนๆก็ผ่านพันโค้งมาถึงนี่แล้ว
เป็นโอกาสดีที่เรามาเที่ยวในช่วงวันธรรมดา ทำให้มีนักท่องเที่ยวน้อย ถ่ายภาพได้สะดวก ยังนึกถึงเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ได้มาเที่ยวที่นี่ครั้งแรก จำได้ว่านักท่องเที่ยวมากขนาดที่เคยคิดในใจว่าสะพานจะรับน้ำหนักไหวไหม :)
เดินถ่ายรูปสักครึ่งชั่วโมง ไปต่อที่ ปายแคนยอน หรือ กองแลน เป็นแลนด์มาร์คอีกจุดที่หากมาเที่ยวปายก็ควรแวะไปสักหน่อย ที่จุดนี้เหมาะกับมาช่วงเช้าตรู่เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น และช่วงตอนเย็นเพื่อมาดูพระอาทิตย์ตกลับหลังทิวเขา
ทางขึ้นเป็นทางเดินซีเมนต์มีความชันเล็กน้อย ขั้นบันไดถี่ๆให้ได้ออกกำลังกายพอหอบ
พอขึ้นมาถึงบนนี้ ก็สามารถมองวิวได้ 180องศา เห็นทิวเขาสลับซับซ้อนหลายลูก ถ้ามาช่วงเช้าน่าจะได้เห็นหมอกลอยคลอยอดเขาด้วย และก็จะมีทางเดินเล็กๆบนสันเขา ให้ผู้ที่มีความกล้าได้ท้าทายความสูงไปยืนแอ็คอาร์ตถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก
เมื่อพระอาทิตย์ตกลับลงไปหลังทิวเขาก็ได้เวลาเดินทางกลับที่พัก
อย่างที่บอกไปตอนแรก ที่พักคืนนี้ของเราคือ Canary Guesthouse ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำปาย
ที่นี่บรรยากาศดี มีเสียงน้ำไหลตลอดเวลา อากาศเย็นสบาย ทำให้เรากล้าที่จะสูดลมหายใจได้อย่างเต็มปอด นานๆจะได้ออกมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสักที
หลังจากเข้าห้องพัก ล้างหน้าล้างตา พักผ่อนให้หายเหนื่อยแล้ว เราจึงเดินออกไปที่ถนนคนเดินปาย เพื่อหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นในวันนี้
ช่วงที่เรามาเป็นช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวน้อย ร้านค้าบางร้านก็ปิด ส่วนร้านเร่บนถนนคนเดินก็พอมีบ้าง บรรยากาศดูเงียบเหงาทีเดียว
เดินไปจนเกือบสุดทางบนนถนนป่าขาม ได้ยำลูกชิ้นรองท้อง แต่ก็ยังไม่เจอร้านข้าวที่ถูกใจ
วนกลับมาอีกทีเลือกร้านอาหารอิสลามเป็นร้านเล็กๆง่ายๆ มีทั้งโรตี นาน แกงแขก ขนมจีนน้ำเงี้ยวก็มี ตามสั่งก็มี All in one มากๆ
แกงไก่ และแกงถั่วถูกยกมาก่อน ลองชิมแล้วกลิ่นเครื่องเทศแรงใช้ได้
แล้วก็ออกมายืนดูพ่อค้าจี่แป้งนาน โดยการคลึงแป้งให้แบน แล้วมาจี่บนกระทะเหล็กแบนๆโดยไม่ใช้น้ำมัน
ฉีกแป้งนานจิ้มกินกับแกงถั่ว แป้งนุ่มๆ แกงถั่วร้อนๆ รสชาติเค็มมัน หอมเครื่องเทศ
ส่วนแกงไก่รสชาติคล้ายมัสมั่นไก่ของไทยแต่กลิ่นเครื่องเทศแรงกว่าเล็กน้อย
สั่งชาร้อนมาแก้เลี่ยน หวานน้อยหอมกลมกล่อมดี
ก่อนกลับที่พัก แวะซื้อหม่าล่าปิ้งเพื่อเป็นกับแกล้มกับเครื่องดื่มเย็นๆ
ร้านนี้แนะนำเลย ไม้ใหญ่ๆไม้ละ10บาทเอง พี่คนขายก็ใจดี ระหว่างรอปิ้งพี่เขาก็ชวนคุยเพลินๆ
ซื้อกับแกล้มเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับบ้านพัก อากาศเย็นสบาย เดินเพลินๆแปบเดียวก็ถึงที่พักแล้ว นั่งดื่มต่อที่หน้าบ้านพักอีกนิด จบทริปสำหรับวันแรกค่ะ
ตอนที่ 2 : มหากาพย์ 3วัน 2คืน ปาย บ้านรักไทย ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน
OPW's Story
วันพฤหัสที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.14 น.