ผมหยิบดินสอกดหลังจากตื่นนอนตอน 15.15 น. มันเป็นการเดินทางที่เหนื่อยสำหรับการขับรถตากแดดนานๆ แม้จะมีระยะทางแค่ 250 กิโลเมตร จากนครสวรรค์ถึงปลายทางที่ ต.นครชุม อ.นครไทย มันเป็นการเดินทางที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่อยากมาอยากออกมาเลยมา อาจจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามแต่ ก่อนหน้าเดินทางหนึ่งวันที่ทางโฮมสเตย์คอนเฟิร์มว่ามีที่พักว่างผมตอบตกลงและเดินทางทันทีในวันรุ่งขึ้นซึ่งก็คือวันนี้ ด้วยสองล้อที่เป็นมากกว่าคู่ใจ พ่วงด้วยทะเบียนสองตัวท้ายที่รวมกันได้ 13 ที่อาจารย์บางท่านเขียนไว้ในสำนักข่าวออนไลน์ว่าคือเลขแห่งความตาย แต่ผมมองมันเป็นเลขนำโชคเพราะห้าปีที่ใช้รถมาไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยนอกจากเข็นแล้วล้มอยู่หน้าออฟฟิศครั้งหนึ่ง

   บรรยากาศร่มรื่นแต่ความร้อนเริ่มแย่งพื้นที่ของความหนาวไปหมดแล้ว ผมนั่งเขียนงานรอเวลาเลิกงานของคุณใหม่เพื่อไปยังสถานที่ ๆ คุณใหม่ได้แนะนำ แต่แล้วก็ได้น้องอ๋อมไกด์เด็กที่น่ารักแทน เพราะคุณใหม่ต้องอยู่ทำกับข้าวมื้อเย็นให้ผม ซึ่งจุดแรกที่น้องอ๋อมพามาเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ถูกทาด้วยสีทองอ่อนของแดดห้าโมงเย็น ที่เราได้พบนักท่องเที่ยวและปลัดที่ทักทายอย่างเป็นกันเองและเป็นมิตร ผมใช้เวลาชื่นชมวิวและถ่ายรูปที่มี Background เป็นภูเขาและฝูงวัวที่เพลิดเพลินอยู่กับการเล็มหญ้า

“ ความสุขของวัวอยู่ตรงหญ้า ความสุขของคนอยู่ตรงหน้า ”

   หน้าหนาวพระอาทิตย์เลิกงานไวกว่าที่คิด ผมพยักหน้าเป็นสัญญาณให้น้องอ๋อมรู้ว่า “ ไปกันเถอะ ” น้องอ๋อมเด็กสาว ป.6 ยิ้มเป็นคำตอบ และคว้าจักรยานปั่นนำทันทีผมขับตามอย่างช้า ๆ ไม่ถึง 5 นาทีเราก็ถึงจุดที่สองศาลพ่อปู่หลวงนครชุม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะบูชาของชาว ต.นครชุม ผมหันไปหาน้องอ๋อมอีกครั้ง น้องอ๋อมชับนำอย่างรู้ใจส่งถึงโฮมสเตย์อย่างปลอดภัย “ อ้าวหมดแล้วเหรอ ” [ ส่วนบ่อเกลือทางคุณใหม่แจ้งว่าจะต้มเกลือช่วงฤดูร้อนและตอนนี้กำลังปรับพื้นที่ ]




   แม้จะได้ปั่นจักรยานเที่ยวสองที่แต่ไฮไลท์จริงอยู่ตรงนี้ ส้มตำ , ปลาทอด (ที่ผมบอกได้เลยว่ากรอบมากกินได้ยันครีบยันหางและส่วนหัว) , หน่อไม้ผัดไข่นี่ก็ใช่เล่นระดับ 180 ดาวมิชลินสตาร์ , ซดน้ำร้อน ๆ ตามด้วยต้มแซบกระดูกอ่อน


19.00-20.00

   “ เมื่อก่อนนะมันมีหมาในลงมาจากบนเขาลงมากินวัว วัวแม่ก็เคยตายไปสามตัวมันจะฉี่ใส่ตาวัวก่อน ฉี่มันเหมือนพิษพอวัวมองไม่เห็นมันก็จะเริ่มกินทางตูด เพราะมันมีรูเครื่องในมันออกง่าย ลุมกัดกันจนวัวตาย ” และอีกหลายเรื่องสัพเพเหระที่ผมและแม่เพราะแม่ของคุณใหม่ได้คุยกันเป็นชั่วโมงด้วยคุณแม่คงกลัวเราเหงาบทสนทนาถูกหยุดด้วยเวลา ด้วยความที่จะเป้นการรบกวนคุณแม่มากเกินไป ความล้าจากการขับรถทำให้ผมผล็อยหลับไปราวสี่ทุ่มแม้ละครกรงกรรมจะสนุกแค่ไหน

   04.40 : เสียงมอร์เตอร์ไซค์ดังแทนนาฬิกาปลุกที่ผมตั้งไว้ตีสี่ห้าสิบผมสะดุ้งตื่นอย่างว่าง่ายเพราะความหนาวทำให้ผมหลับๆ ตื่นๆ อยู่แล้ว แม้จะเอาผ้าห่มห่อตัวและขดเป็นกุ้ง พร้มอทั้งถุงเท้าที่ใส่ก่อนนอนก็ไม่อาจต้านทานความหนาวได้ เป็นหนาวที่ดีที่สุดของผมและเป็นเป็นหนาวแรกที่ได้สัมผัสจริง ๆ และไม่สามารถบอกเป็นองศาได้ดีเท่ากับผิวสัมผัส

   ผมยกมือไหว้พี่ทูนน้องของลุงทัก ลุงทักคือแฟนของแม่เพราะ พี่ทูนคือไกด์ที่จะนำพาผมไปยังจุดขายของที่นี่ “ เขาโปกโล้น ” ผมวักน้ำสามทีลูบหน้าซึ่งไม่แน่ใจว่าขี้ตาออกด้วยไหม ถึงมันจะอยู่ผมคงไม่ว่าอะไรมัน ความหนาวทำให้ผมไม่สนใจใดใดที่จะทำอะไรให้ต้องขยับตัวไปมากกว่านี้ นอกจากขับรถตามพี่ทูนไปโดยที่สายตายังปรับโฟกัสไม่ได้ แต่เราก็ถึงจนได้ ความหนาวที่เป็นภัยกลายเป็นมิตรหลังจากเดินไปได้เกือบครึ่งทาง หายใจถี่ขึ้นใจเต้นแรงขึ้น เป็นสัญญาณบอกว่าเหนื่อยและหอบแต่ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ยังถือว่าสบายดีสำหรับคนอายุ 32 อย่างผม เรานั่งรอแขกของเราอย่างเงียบ ๆ ราวยี่สิบนาที แขกคนแรกของเราก็มา ค่อย ๆ แอบมาเป็นสีส้มเข้ม และทองอ่อนตามลำดับ เราหวังว่าแขกคนที่สองของเราจะสวยไม่แพ้กันนั่นคือหมอก ถึงแม้จะมาเล็กน้อยแต่ก็ยังมา พี่ทูนแนะนำว่าปลายฝนหมอกจะเยอะกว่านี้เยอะจนมองไม่เห็นหมู่บ้าน แต่แบบนี้สำหรับผมก็ถือว่าสวยไปอีกแบบ

“ สันหลังมังกร ”


   นี่คือชื่อที่พี่ทูนเอ่ยขึ้นมาพลางชี้นิ้วไปยังยอดที่สูงที่สุดของเขาลูกนี้ หวาดเสียวและหน้ามองไปพร้อม ๆ กัน ผมพยายามทำตัวแนบพื้นให้มากที่สุด ด้วยว่ากลัวความสูง รอยถลอกเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามแขนเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะมันถูกแลกมาด้วยความสวยงามตรงหน้า

“ แค่มองเราเห็น ถ้าฟังเรารับรู้ ”


   กลิ่นยาสูบของพี่ทูนช่วยให้ตื่นในบางช่วงขณะ ใบหน้าชุ่มเย็น น้ำเสียงที่อ่อนน้อมถ่อมตนทำให้ความรู้สึกระหว่างพูดคุยไม่มีกำแพงกั้น ขากลับเราคุยกันสัพเพเหระและแวะดูบ่อเสือตกที่เราต้องผ่านอยู่แล้ว ตามคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมาซึ่งไม่ทราบได้แน่ชัดว่าใครเป็นคนแรกที่บอกกล่าวถึงเรื่องเสือที่พลัดตกบ่อหลังจากมากินน้ำและไม่สามารถขึ้นมาได้ พี่ทูนลองเอาไม้ยาว ๆ แยงไปจนสูดมือปลายไม้ก็ยังไม่แตะถึงก้นบ่อ

   ในเช้าที่อากาศดีแบบนี้ขอแค่สองเรื่อง ข้าวร้อน ๆ และกาแฟ คงไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่มากเกินไปเพราะแม่เพราะนำมาวางไว้ตรงหน้าหลังจากผมอาบน้ำเสร็จ ส่วนเรื่องที่สามผมคงไม่ต้องพูดเลยว่ากับข้าวอร่อยขนาดไหน เริ่มจากยำที่ผักบางอย่างกรอบอรอ่ยจนต้องเดินไปถามแม่ ได้ความว่าที่ทานไปนั่นคือผักกูด ที่แม่เก็บจากริมคลอง ตามด้วยไข่ป่าม (ภาษาพื้นเมืองแปลว่าปิ้ง) เทไข่ลงบนใบตอง และเทน้ำลงใต้ใบตองจนไข่สุก หน้าตาออกเหมือนไข่เจียวแต่ไร้น้ำมันพืช ต่อมาคือลามหมู ซึ่งจริง ๆ ต้องเป็นหลามไก่แต่ลุงทักไม่อยู่เลยไม่มีคนจับไก่ ถือว่าต่อชีวิตไอ้ไก่ไปอีกหน่อย ส่วนน้ำพริกไม่แน่ใจว่าเป็นอ่องหรือหนุ่ม แต่ที่แน่ ๆ แซ่บและเผ็ดติดลิ้นเลยล่ะ ผมหยิบผักที่รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างเข้าปากเดี๋ยวมันคงไปทำความรู้จักกับลิ้นเอง ถึงตอนนั้นกลืนไปคงไม่ใช่เรื่องยาก

“ ไว้มีโอกาสจะมาเที่ยวอีกนะครับ ”



   เชื่อว่าหลายคนคงพูดแบบนี้เวลาที่จะจากลาใครสักคน(ในสถานที่ที่เราไปแล้วสบายใจ) แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีสักกี่คนที่ใช้โอกาสจากคำพูดนั้น (อีกรอบ) แต่ที่แน่นอนคือ “ คำอำลา ”




   ผมหยิบมือถือมาเลื่อนดูว่าระหว่างนี้ผมจะไปไหนต่อ แม้ระยะทางกลับบ้านจะเพียง 250 กิโล แต่ผมยังไม่หายเบื่อ และรู้ว่าผมมีเวลาที่จะหยุดหายใจ ผมขอตัวเองอีกหน่อยอีกหนึ่งวันก็พอ และผมเดินทางต่ออีก 147 กว่าโล



“ น้ำตกไผ่สีทอง ”



   แม้จะผิดหวังเล็กน้อยที่เห็นน้ำตกนิดหน่อย เพราะคุณลุงผู้ดูแลบอกว่าเขาเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรอะไรประมาณนั้น ผมเดินเข้าไปถึงชั้นที่ 5 ระยะทางไม่ลึกมากและไม่มีคนเลย เงียบจนพอจะได้ยินเสียงน้ำตกที่มีแค่นั้น เสียงลมที่หยอกล้อกับใบไม้ เสียงทะเลาะกันของกอไผ่เอี๊ยดอ๊าดไปตามลม ผมนั่งมองน้ำตกมองอยู่อย่างนั้น ราวสิบนาที รู้สึกโล่งไม่รู้ว่าโล่งอย่างไร ผมลืมสิ่งที่ผมแบกมาอย่างไม่รู้ตัว

“ ปลายทางต่อไป 13 กิโลเมตร ”

   บ้านสวนริมผา เหตุผลที่มามีสองข้อ หนึ่งผมยังไม่อยากกลับบ้าน สองรูปในกูเกิ้ลทำให้ผมอยากมาเห็นกับตา ผมเลือกบ้านพักในราคา 1,400 บาท ทั้งที่ตั้งใจมากางเต้นท์ แต่ก็แพ้ให้กับความสบายด้วยอยากโยนเสื้อผ้าในห้องและล้มตัวลงนอนทันที ในระหว่างติดต่อก็เลยแซวพี่ผู้ดูแลว่าน่าจ่ายคนละครึ่งได้นะครับ พี่เขาตอบว่าได้สิ จ่ายค่าที่พักได้ จ่ายวันนี้300 พรุ่งนี้อีก 300 โอเคครับผมหยิบมือถือสแกนทันทีค่าห้องถูกลงมาเหลือที่ผมต้องจ่ายก็เพียง 1,100 บาทผมนอนกลิ้งอยู่ในห้องพลางรอเวลาเย็นย่ำ เพื่อจะออกไปถ่ายรูปและสูดอากาศเก็บไว้ใช้

และผมสูดจนสุดลมหายใจ

“ เรามิได้เดินทางเพื่อไปถึง หากเราเดินทางเพื่อไปพบ ”





เบอร์ติดต่อบ้านสวนโฮมสเตย์ 098-0075521 ( คุณใหม่ ) 




ROAD MOVIE

 วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18.41 น.

ความคิดเห็น