. ณ บันทึกเก็บยิ้ม .
2-3 มกราคม 2565

คุณเคยไปเที่ยวไหนแบบไม่รู้ว่าที่นั่นจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์กันไหม? ทริปนี้ เราแล้วหนึ่ง ที่ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะขึ้นไปบนยอดเขาแบบไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต และไม่มีไฟฟ้าที่เปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เป็นการเดินทางแบบทริปต่อเนื่อง ทริปที่วางแผนไปในครั้งนี้คือการเดินทางไปกับครอบครัวขึ้นไปนอนที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน จ.กำแพงเพชร รับอากาศเย็นๆ บนบ้านพักอุทยาน และตื่นมาดูน้ำตกคลองลานในยามเช้า หลังจากนั้นก็คงกลับกรุงเทพฯ กัน

แปะลิงค์สำหรับใครที่อยากขึ้นไปนอนที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน (ขอบอกว่าเป็นบ้านพักที่ดีงามเลย) http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1044

คิดไปคิดมา ก็สรุปกันว่า "ยังค่ะ ยังไม่กลับ" ฮ่าๆ เอาล่ะ ยังไม่กลับแล้วจะไปไหน ที่พักก็ยังไม่มี ไม่ได้จองไว้ด้วย ขับรถกันไปแบบสุ่มๆ ขึ้นไปกะชมวิวอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ตรงที่เขาเรียกกันว่า "ช่องเย็น" ที่เรียกแบบนี้ ด้วยเหตุว่า ข้างบนนี้อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เอาสิ ปีนี้สัมผัสอากาศหนาวไปแค่นิดเดียว จะได้ไปชมวิวสวยๆ และเย็นๆ ทั้งที่ ก็ไปกันเลย ซึ่งช่วงนี้อุทยานตรวจอย่างเข้มงวดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ใครจะขึ้นไปล่ะก็ เตรียมแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนไว้ด้วยนะ เปิดแอพหมอพร้อมให้เจ้าหน้าที่อุทยานดู แล้วเราก็ผ่านขึ้นไปเที่ยวบนอุทยานได้

ขึ้นไปถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว ปรากฏว่า มีค่ะ มีบ้านพักเหลืออยู่ 1 หลัง ราคาหลังละ 1,500 บาท อะไรจะมากับดวงปานนั้น ทุกคนบนรถหันไปดูเสบียงก็คืออาหารที่เหลืออยู่น่าจะพอไหว แม้ว่าเราจะทานลงกระเพาะไปเยอะแล้ว เพราะไม่คาดคิดว่าเราจะขึ้นไปนอนข้างบนกัน ส่วนเรานี่ลุ้นสุด ข้างบนจะมีร้านค้าไหม? ข้างบนจะหนาวมากมั้ย? ด้วยความว่าไม่ได้ติดเสื้อกันหนาวหนาๆ มาเลยจ้า

อ่ะๆ แวะจุดชมวิวกันหน่อย คนนั่งท้ายรถมึนมากแล้ว โค้งเยอะมากกกก

จุดชมวิว กิ่วกระทิง เป็นอีกจุดหนึ่งบนอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 890 เมตร ขนาดตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นไปแล้วยังสวยขนาดนี้ หากได้ชมตอนพระอาทิตย์ขึ้นจริงๆ คงไม่ต้องบอกเลยว่าจะสวยขนาดไหน

ได้พักหายใจจากโค้งมากมาย ก็ไปกันต่อจ้า

หลังจากเบิกดวงตาและมองนาฬิกาเพื่อคำนวณเวลาคร่าวๆ ย้ำคำนวณแบบคร่าวๆ เนื่องจากว่าผู้บังคับรถขับช้าลง ไม่ใช่อะไร กลัวคนข้างหลังเมารถไปอีกคน หลังจากเปลี่ยนคนนั่งไปเรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะประมาณ 30 นาทีได้ หากรวมเส้นทางก่อนหน้านี้ที่ขับมา รวมๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงได้ และเราก็มาถึง ลานกางเต้นท์ ช่องเย็นกันแล้ววววว

เห็นว่าแดดเปรี้ยงๆ แบบนี้ จะบอกว่าลมพัดแรงตลอด อากาศกำลังสบายเลยล่ะ แต่กลางคืนนี่สิ คาดว่าหนาวแน่ๆ แต่ที่แน่นอนคือ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต มายก๊อต!! ใครคิดจะไปอ่านรีวิวนี้แล้ว เตรียมบอกญาติพี่น้อง แฟนๆ กันว่าก่อนเลยจ้า เพราะคุณจะตัดขาดโลกโซเชียลไปเลยตามจำนวนวันที่อยู่ 

ตรงนี้เป็นจุดลานกางเต้นท์ ที่มีบ้านพักอยู่มุมหนึ่งของลาน ซึ่งเท่าที่นับๆ ดู มีบ้านพักประมาณ 5 หลังได้ ไม่เชิงเป็นหลังเดี่ยวๆ นะ เป็นห้องติดๆ กัน ในห้องมีเตียงนอนสำหรับ 6 คน และห้องน้ำในตัวข้างหลังบ้าน พร้อมกับพื้นที่เล็กๆ ในการประกอบอาหาร

รอดแล้วว มีร้านค้าสวัสดิการข้างบนอุทยานฯ จ้า Mae Wong Cafe' & Cuisine @ช่องเย็น เป็นร้านค้าที่ทำด้วยไม้หลังเล็กๆ ข้างในขายชา กาแฟ น้ำเปล่า ขนมคุกกี้ และมาม่าคัพ ตอนแรกคือคนต่อคิวรอซื้อชา กาแฟ ยาวเลย และเราก็ไปยืนต่อคิวเป็นหนึ่งในนั้น ร้านจะเปิดให้บริการจนถึง 4 โมงเย็น กว่าเราจะขึ้นไปถึงเป็นเวลาบ่ายสองแล้ว เลยต้องรีบซื้อมาตุนก่อนร้านจะปิด และเย็นนี้เราจะกินมาม่า เย้

(มุมนี้ถ่ายจากในร้านออกไปเห็นวิวข้างนอก)

พอร้านปิดแล้ว มุมนี้คือดีมาก หยิบหนังสือมาอ่านแบบชิวๆ หน้าร้านได้เลย 

นอกจากกิจกรรมกางเต้นท์ อีกหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาดในทริปที่ไม่คาดคิดนี้ คือ .. คือการเดินขึ้นไปพิชิตภูสวรรค์ จุดชมวิวที่จะเบิกตาทั้งสองดวง ด้วยภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี เอาล่ะ แม้วันนี้จะไม่ได้เตรียมใจมาเดินบันไดที่แสนชัน แต่ใจพร้อมมาก 

เกือบแล้ว เกือบไปถึง . . ด้วยทางที่ขึ้นแรกๆ เป็นบันไดที่ชันมากพอสมควร แต่เมื่อขึ้นไปได้ครึ่งทาง เส้นทางจากบันได กลับเป็นทางดิน ที่มีเพียงก้อนหินให้จับเดิน เราเลยต้องขอหยุดไว้เท่านี้ก่อน ทริปนี้รองเท้าไม่พร้อมจริงๆ แต่เก็บวิวภูเขา ท้องฟ้า ต้นไม้ ดอกไม้ มาฝากกัน

พาน้องนั่งสมาธิรับแสงอาทิตย์หน่อย

และเราก็ค่อยๆ เดินทางลงสู่ทางลาดอีกครั้ง และเดินเก็บบรรยากาศรอบๆ กันต่ออีกนิด

เวลา 5 โมงเย็น ต้มน้ำร้อนกินมาม่ากัน

และปิ้งปลาหมึกย่าง ให้ได้อารมณ์แคมป์ปิ้งกันสักหน่อย

อุณหภูมิของอากาศรอบตัวเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ สัมผัสได้จากลมหนาวที่เข้ามาสัมผัสร่างกายแล้ว พระอาทิตย์เริ่มลดตัวต่ำลง แสงสีส้มเริ่มกระจายตัวออกมา เป็นอันบอกว่าพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว

และพระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปอีกวัน เริ่มต้นปี 2565 ด้วยการมาเห็นพระอาทิตย์แบบใกล้ๆ ตั้งแต่ต้นปี ขอให้ปีนี้ทุกคนมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตกันนะ เราเป็นกำลังใจให้

ค่ำคืนนี้แม้ไม่มีเสื้อกันหนาวหนาๆ แต่เราก็หยิบผ้าห่มในห้องพัก มาพันด้วยและออกมานั่งชมผู้คนที่ตั้งใจมากางเต้นท์สังสรรค์ ต้มอะไรอุ่นๆ นั่งทานกันอยู่หน้าเต้นท์ จนเริ่มเข้าเต้นท์นอนกันทีละเต้นท์ ทีละเต้นท์

. เช้าวันรุ่งขึ้น ที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียล .

หนาวมากแม่จ๋า นอนขดตัวอยู่ในถุงนอนพร้อมห่มผ้าห่มอีกผืนยังไม่หายหนาวเลย (คนไม่ได้เตรียมตัวมาก็จะเจออะไรแบบนี้แหละจ้า)

ลุกขึ้นตื่นมาด้วยความอยากชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่เห็นแค่แสงของพระอาทิตย์ปลายๆ เสียดายจัง 

"นับว่าเป็นทริปแบบไม่ทันตั้งตัว ที่เริ่มต้นความทรงจำที่ดีไปตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้
และคงต้องบอกว่า ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนเราทุกอย่าง พอเดินไป มันก็อาจต้องปรับแผน เปลี่ยนแผน
ล้มเลิกแผนกันบ้าง นี่แหละถึงจะเรียกว่ารสชาติของชีวิต ที่ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกันทริปนี้"

ขอบคุณครอบครัว . . ที่ทำให้ทริปนี้มีสีสันตั้งแต่ต้นปีเลย

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะ

พบกันได้ในโลกโซเชียล ณ เฟสบุ๊ค : บั น ทึ ก เ ก็ บ ยิ้ ม 
https://www.facebook.com/keptyoursmile/

เ ขี ย น บ า ย : มนุษย์ตัวเล็ก

มนุษย์ตัวเล็ก

 วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.49 น.

ความคิดเห็น