เรื่องมันมีอยู่ว่า เรากำลังมีแพลนไปเที่ยวนครพนม ก็เลยหาข้อมูลที่เที่ยวนครพนม กะว่าจะไปเที่ยวนครพนมประมาณ 3-4 วัน หาข้อมูลไปหาที่เที่ยวมา facebook ก็เด้งที่เที่ยวลาวขึ้นมา เป็นชื่อที่พัก ท่าฝรั่งวังสีคราม เป็นที่พักริมน้ำกลางหุบเขา อ่านรีวิวคร่าวๆก็พบว่าอยู่ในแขวงคำม่วน สามารถข้ามไปเที่ยวได้ จากจังหวัดนครพนม แล้วก็ไปเจอรีวิวที่นี่เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นคนไทยไปเที่ยว เอาสิข้ามไปเที่ยวสัก 2 วัน แล้วค่อยกลับมาเที่ยวนครพนมก็ได้นี่นา 
ถ้าพูดถึงประเทศลาว เชื่อว่าหลายๆคน น่าจะคุ้นกับ หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทร์ ปากเซ ไซสมบูรณ์ กันซะมากกว่า เราเองก็เคยไปเที่ยววังเวียงมากครั้งนึง 4-5ปีมาแล้ว พาสปอร์ตที่ทำไว้ก็หมดอายุเรียบร้อย 
ก็เดี๋ยวไปทำเอกสารผ่านแดนชั่วคราวแล้วกัน

สรุปสั้น เผื่อว่าใครไม่อยากอ่านยาวๆนะ

ที่พัก : เราพักที่ Thafalang-ທ່າຝຣັ່ງວັງສີຄາມมีบ้านพัก 2 แบบ แพริมน้ำ และบ้านทรงAเฟรม มีแอร์ทุกหลัง เริ่มต้นคืนละ 650 บ. พักได้ 2 คน เสริมได้ พร้อมอาหารเช้าที่พักมี Wifi แพริมน้ำจะมีคายักให้ 1 ลำ ตอนเย็นมีหมูกระทะ ประเทศลาวจะเรียก(ชิ้นดาด) ชุดละ 140 บ.เบยลาวกระป๋องละ 15,000 กีบ ตกประมาณ 30 บ.ใครมีเวลาน้อยสามารถไปเที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับไปนั่งทานอาหารแพริมน้ำ พายเรือคายักได้

ที่เที่ยว ท่าแขก แขวงคำม่วน
- ท่าฝรั่งวังสีคราม
- ถ้ำนางแอ่น
- Xienglieb Cave - ຖໍ້າຊຽງລຽບ (พักท่าฝรั่งมีส่วนลด15%)
- วัดพระธาตุศรีโคตรตระบอง
- ภูผาม่านลาว (อันนี้สวยแต่เราไม่ได้ไปสายแอดเวนเจอร์แนะนำเลย)

การเดินทาง

-จากสนามบินนครพนม นั่งรถตู้ไปลงท่าเทียบเรือนครพนม -ทำเอกสารผ่านแดน(อาคารอยู่ข้างๆท่าเทียบเรือขวามือ) กรอกรายละเอียดแป๊บเดียว ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว สามารถกรอกออนไลน์มาก่อนได้ จ่ายค่าทำเอกสารคนละ 36 บ. (มีพาสปอร์ตข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย) -ซื้อตั๋วเรือคนละ 60 บ. ยื่นเอกสารผ่านแดนฝั่งไทย -นั่งเรือ 5-10 นาที ถึงฝั่งลาวยื่นเอกสารผ่านแดน เสียค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 50 บ. 

-การเดินทางจากท่าเรือไปที่พัก จะมีรถตู้รับ-ส่งของที่พัก จอดรอที่ท่าเรือหน้าhotel riveria หรือใครขับมอไซค์เป็น จะเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวก็ได้มีร้านเช่ารถใกล้ๆท่าเรือ  ถ้าไปหลายคนเหมารถเที่ยวก็ได้มีรถ 3 ล้อแล้วก็รถกระป๋องคันเล็กๆ

-ข้อสรุป

-จองที่พักติดต่อ ทางinbox เพจ Thafalang-ທ່າຝຣັ່ງວັງສີຄາມ
-รอบเรือข้ามฟาก มีตั้งแต่ 07.30 น.- 19.30 น. เรือเต็มออกเลย
-เที่ยวง่าย ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตก็เที่ยวได้ 3 วัน 2 คืน
-เว็บไซต์กรอกเอกสารผ่านแดนล่วงหน้า https://bpsportal.dopa.go.th/(เลือกท่าเทียบเรือนครพนม)
-เอกสารผ่านแดนชั่วคราวเที่ยวได้เฉพาะแขวงคำม่วน
-มีพาสปอร์ตเที่ยวได้ 30 วัน ไปเที่ยวแขวงอื่นต่อได้
-ใช้เงินบาทได้ แต่เงินกีบถูกกว่าเงินบาท
-อัตราแลกเปลี่ยนมีขึ้น-ลงแล้วแต่วัน อยู่ที่ประมาณ 1 บ. = 490 กีบ
-ขับมอไซค์เป็นแนะนำเช่ามอไซค์ถูกกว่าเหมารถเที่ยว
-ซิมลาวไม่ต้องซื้อก็ได้ที่พักมีwifi
-สามารถนั่งรถทัวร์ข้ามฝั่งทางสะพานมิตรภาพได้แต่ระยะเวลานานกว่านั่งเรือ
-ใบรับรองวัคซีนไม่ต้องใช้ ไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ข้ามไปเที่ยวได้
-ขากลับสามารถซื้อเบยลาวกลับได้คนละ 6 ขวด (ต้องมีพาสปอร์ต)

มาเริ่มที่การเดินทางของเรากันเลยครับ ทริปนี้เราไปช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไฟท์เช้า จากสนามบินดอนเมืองไปลงที่สนามบินนครพนม ถึงนครพนมเดินดิ่งไปที่รถตู้เข้าเมือง ซึ่งเราจะไปลงที่ท่าเรือนครพนม ค่ารถคนละ 100 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ถึงท่าเรือ

ถึงท่าเรือ สำหรับคนที่ไม่มีพาสปอร์ต ให้ไปทำเอกสารผ่านแดนชั่วคราว อาคารขวามือข้างๆอาคารท่าเรือ โดยเราจะต้องกรอกข้อมูลออนไลน์ https://bpsportal.dopa.go.th/ ผ่านลิ้งนี้ครับ สามารถกรอกมาล่วงหน้าได้ ซึ่งเราก็กรอกมานะปรากฎว่ากรอกผิด เราไปเลือกเป็นสะพานมิตรภาพ สำหรับคนที่จะข้ามทางเรือให้เลือกเป็นท่าเทียบเรือนครพนมครับ กรอกเสร็จให้เอาคิวอาร์โคดไปแจ้งเจ้าหน้าที่ เสียค่าบริการคนละ 36 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่จะปริ๊นเอกสารผ่านแดนให้เรา จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วเรือ 60 บาท ยื่นเอกสารผ่านแดนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและปั๊มตรา เดินลงเรือได้เลย 

เราไปถึงคนเต็มเรือพอดี ลงเรือปุ๊บเรืออกเลยครับ ใช้เวลานั่งเรือไม่เกิน 10 นาที (สำหรับรอบเรือจะมีตั้งแต่ 07.30 น.- 19.30 น.ออกทุกชั่วโมง ถ้าเต็มออกเลย) ก่อนลงเรือแนะนำให้ทักinboxไปบอก ที่พักก่อนว่ากำลังนั่งเรือข้ามไปฝั่งลาว ที่พักจะได้เตรียมรถตู้มารับเราที่ท่าเรือ

ถึงลาว ไปยื่นเอกสารผ่านแดนปั้มตราประทับ จ่ายค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 50 บาท ถ้าวันหยุดและนอเวลาราชการ คนละ 100 บาท 

จากนั้นเราเดินไปซื้อซิมและแลกเงินกีบที่ร้าน ขายของข้างๆด่าน เราแลกเงินไป2,000 บาท ได้มา 980,000 กีบ เรทวันที่เราไป 1 บาท = 490 กีบ แล้วเราก็ซื้อซิมของ M-Phon 100 บาท ใช้เน็ตได้ 3 วัน ซึ่งเรามารู้ทีหลังว่าที่พักมีซิมขายแค่ 50 บาท 5555 แต่สำหรับคนที่อาจจะไม่ได้ติดอินเตอร์เน็ตมาก ที่พักก็มี Wifi นะ 

เดินเลยด่านไปนิดเดียว รถตู้ของที่พักจะจอดรอที่หน้าโรงแรม riveria สำหรับคนที่อยากแวะเที่ยวด้วย แนะนำให้เช่ามอเตอร์ไซค์ตรงร้านหน้าโรงแรม เริ่มต้นวันละ 200 บาท ถ้าไปหลายคนจะติดต่อรถสามล้อเหมาหรือรถกระป๋องเล็กๆก็ได้ ตกลงราคา ต่อรองดีๆนะ สำหรับเรา เรามองว่าแพงมาก แต่เราก็ได้ติดต่อรถเหมาไว้นะ เพราะว่ากลัวขับมอเตอร์ไซค์หลงทาง555+ อีกอย่างคืออยากให้คนในพื้นที่พาเที่ยวน่าจะสะดวกกว่า 

จากนั้นพอรถตู้ที่พักมา เราก็ขึ้นรถตู้ไปที่พัก ก่อนรถออกคนขับรถก็เก็บเงินอีกคนละ 35 บาท  เอาเอกสารมาให้เซ็นต์ แจ้งว่าจ่ายให้ตำรวจลาว นั่งรถตู้จากด่านใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็ถึงที่พัก 

ถึงที่พักประมาณ 13.00น.นิดๆ เราก็ไปเช็คอิน แล้วเข้าที่พักได้เลย เราจองแบบแพริมน้ำมา ราคาคืนละ 1050 บาท พักได้ 2 คน เสริมได้ 1 คน ทุกหลังจะมีเรือคายักให้ 1 ลำ 

สำหรับแพริมน้ำจะมีอยู่ประมาณ 8 หลัง 

ในห้องก็จะประมาณนี้ครับ  มีแอร์ มีห้องน้ำในตัว มีคายักให้หลังละ 1 ลำ ในห้องมีน้ำดื่มให้ 2 ขวด ชุดแปรงสีฟัน 2 ชุด มีเสื้อชูชีพให้ เปิดประตูลงเล่นน้ำได้เลย 

ข้อเสียของแพริมน้ำ จะไม่เก็บเสียง แค่คนเดินก็จะได้ยิน และแพก็จะโยกนิดหน่อย

ระเบียงหน้าแพริมน้ำ ตอนเย็นสามารถมานั่งทานอาหารปิ้งย่าง กินหมูกระทะได้ มีโต๊ะสำหรับนั่งทานอาหาร 

ไปดูบ้านบนฝั่ง บ้านเป็นหลังห้องพักทรง Aเฟรม กันบ้างครับ 

สำหรับบ้านบังกะโล ทรงAเฟรม มีแอร์มีห้องน้ำในตัว มีเตาปิ้งย่างให้
ราคาเตียงเดี่ยวคืนละ 650 บาท  เตียงคู่คืนละ 770 บาท 
สำหรับใครที่อยากพักผ่อน แบบสบายๆแนะนำพักบ้านเป็นหลังจะดีกว่าครับ 

บรรยากาศบ้านบนฝั่ง

มีลานสนามหญ้ากว้างๆ สำหรับนั่งแคมป์ปิ้ง 

1ในไฮไลท์ของที่พัก ก็จะเป็นป้าย ท่าฝรั่งวังสีคราม คนจะมาถ่ายรูปกับป้ายกันครับ หลังจากเก็บของเข้าห้องเสร็จ เดินดูรอบๆที่พัก เราก็ลงไปทานอาหารที่แพริมน้ำกันครับ 

บรรยากาศแพริมน้ำก็จะมีให้เลือก 2 ฝั่งเลยครับ ในส่วนที่เป็นซุ้มที่นั่งทานอาหาร จะมีแพใหญ่และแพเล็ก
แพหลังใหญ่ 70,000 กีบ แพหลังเล็ก 30,000 กีบ

เงินกีบที่เราแลกมาครับ 
สำหรับเบียร์ลาวมีแบบกระป๋องเล็ก กระป๋องใหญ่
ไปหลายคนซื้อแบบเป็นลังยิ่งถูก
กระป๋องเล็ก 12000 กีบ
กระป๋องใหญ่ 15000 กีบ
คิดเป็นเงินบาท กระป๋องเล็กประมาณ 24 บาท ใหญ่ 30 บาท ถูกมากๆ

อาหารที่เราสั่งมาก็จะมี ปลาเผา ส้มตำลาว กุ้งแช่น้ำปลา กระหล้ำผัดน้ำปลา ตำแตงไข่ต้ม เบียร์ลาวใหญ่ 2 กระป๋อง

อาหารแต่ละอย่างรถชาติดีเลยครับ อร่อย แซบเลย 

มื้อนี้เราจ่ายไป 322,000 กีบ ตามใบเสร็จถ้าจ่ายเป็นเงินบาท 716 บาท แต่ถ้าลองคิดจากเงินกีบที่จ่ายเป็นเงินบาท จะอยู่ที่ 657 บาท จะถูกกว่าจ่ายเงินบาทเล็กน้อยครับ

บริเวณสะพานส้มจุดถ่ายรูปยอดฮิตของที่นี่

ตอนเย็นคนก็จะมาถ่ายรูปเล่นกันเยอะเลยครับ

ด้านบนจะมีสะพานอีก 1 จุด สามารถเดินมาถ่ายรูปเล่นได้ 

ไปดูบรรยากาศที่พักมุมสูงกันบ้างครับ

จะเห็นว่าบริเวณที่พัก ภูกล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูน วิวสวยมาก

ตอนเย็นเราไปพายเรือคายักเล่นกันครับ 

บรรยากาศที่พักช่วงค่ำๆ 

ตอนเย็นเราสั่งหมูกระทะ ประเทศลาวจะเรียกชิ้นดาดครับ ชุดละประมาณ 145 บาท เหมืนหมูกระทะบ้านเราครับ

แต่น้ำจิ้มของทางลาวจะเป็นอันนี้ครับ รสชาติหวานๆเหมือนถั่วตัด เราว่าพกน้ำจิ้มสุกี้หรือน้ำจิ้มซีฟู้ดบ้านเรามาจะเวิร์คมาก 

ลองสั่งเบียร์ลาวรสชาติต่างๆมาลองชิม มีGold Dark White รสชาติก็จะแตกต่างกันนะ เราว่าที่ดำเข้มสุด

ตอนเช้าเราออกมาเดินถ่ายรูปเล่น น้ำค่อนข้างใสกว่าตอนเย็นเลยครับ

ในน้ำจะบอกว่าปลาเยอะมากๆ สีน้ำสวยเลยครับ

ตอนเช้ายังไม่มีคนเราก็มาถ่ายรูปเล่นกันครับ 

จากนั้นเราก็ไปทานอาหารเช้าของที่พัก อาหารจะเป็นประมาณ ผัดกระเพรา ต้มจืด ผัดผัก ไข่ดาว เป็นแบบตักราดประมาณนี้ พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมานะ จากนั้นรถที่เราติดต่อเหมาไว้ก็โทรมา ถามว่าจะให้มารับกี่โมง เราแจ้งไปว่า 09.00 น. รถก็มารับ เราทำการเช็คเอาท์ ก่อนเช็คเอาท์ อย่าลืมปั้มตราของที่พักในใบผ่านแดนด้วยนะ ให้ปั้มด้านหลังทั้ง 2 ใบ 

ที่แรกเรามากันที่ ถ้ำนางแอ่น อยู่ไม่ไกลที่พักเลยครับ 
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีประวัติเกี่ยวกับถ้ำนะ อ่านอยู่แว๊บๆแต่จำรายละเอียดไม่ค่อยได้ มีไฟหลากสีในถ้ำ เส้นทางเดินถ้ำค่อนข้างกว้าง มีมุมว้าวๆ ดูหินงอกหินย้อย หินสวยๆภายในถ้ำ ค่าเข้าชมคนละ 30,000 กีบ

ภายในเราจะได้ชมความงามของถ้ำ เดินสำรวจภายในถ้ำ ดูแสงสีสวยงามของถ้ำ บางช่วงมีทางเดินเป็นบันได และมีทางลงไปด้านล่างที่สามารถพายเรือเข้าไปในถ้ำได้ 

ด้านล่างของถ้ำ จะเป็นเหมือนลำธาร สามารถพายเรือคายัก เรือเล็กเข้าถ้ำได้ แนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านนอกก่อนจะพายนะ 

ภายในถ้ำดูยิ่งใหญ่อลังการมาก

ภายในถ้ำก็จะมีสิ่งศักสิทธิ์ สามารถไปขอพรได้ 

เดินไปอีกฝั่งนึงจะเจอปล่อง ที่สามารถเดินทะลุออกจากถ้ำได้ 

ในถ้ำสวยงามมากครับ ลงรูปให้ดูกันรัวๆไปเลยครับ 

จุดไฮไลท์ในถ้ำจะมีสะพานส้ม จุดถ่ายรูปสวยๆภายในถ้ำ

จากนั้นเรามาเล่นซิปไลน์กันที่ Xienglieb Cave - ຖໍ້າຊຽງລຽບ สายแอดเวนเจอร์บอกเบยต้องไม่พลาดที่นี่ พักที่ท่าฝรั่งวีงสีคราม นำใบเสร็จมาเป็นส่วนลด จากราคาเต็มจะอยู่ที่คนละ 159,000 กีบ ส่วนลด 15% เหลือคนละประมาณ 275 บาท

ทางเดินช่วงแรกจะเริ่มที่ระดับอนุบาล 

ต่อมาเริ่มสูงอีกนิดหน่อย ให้พอให้เสียวขากันบ้าง

จุดที่เรารู้สึกว่าเริ่มเสียวเอาเรื่องคือจุดที่จะเป็นบันไดเชือก ที่เราต้องเดินข้าม บันไดโยกเยก มือจับเชือกเกร็งกันเลยที่เดียว 

ก่อนจะไปโหนสลิงเส้นแรก เดินสะพานเชือกยาวๆ จุดนี้วิวสวย 

มาถึงจุดโหนสลิงเส้นแรก ข้างล่างดูไม่สูงมาก แต่พอไปยืนใกล้ๆใจหวิวๆ กว่านางจะไปได้ ใช้เวลาทำใจอยู่นาน เห็นบอกว่าหลับตาไปจนสุดทาง 555 สำหรับเราตอนไปยืนเสียวจริงๆ พอไปได้นิดนึงสนุกเลย มันมาก

ไฮไลท์จะเป็นตาข่ายเชือกใยแมงมุง เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต จะมีเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแล ถ่ายรูปให้เรา เราสามารถพกโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูปไปได้ 

เป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยเลยครับ แต่เวลาเดินให้เหยียบตรงรอยมัด ไม่งั้นเท้าจะรอดลงไปในรูเชือก 555 

จุดนี้จะนอนถ่ายรูป ถ่ายรูปไหน จัดได้เต็มที่เลยครับ 

กดถ่ายเยอะๆไว้ก่อนค่อยไปเลือกรูปทีหลัง 555

ถ่ายรูปกันจนได้รูปเรียบร้อย ไปต่อกันที่สลิงเส้นสุดท้ายครับ 

เป็นเส้นที่ไม่สูงแต่ว่าค่อนข้างยาว ผ่านด่านแรกมาแล้ว เส้นนี้จะไม่ค่อยกลัว สนุกแล้ว

เส้นแรกนางหลับตา พอมาเส้นนี้ นางขอถือgopro ไปถ่ายวิดิโอด้วย เส้นนี้สนุกจริงแล้วแรงด้วย ตอนท้ายแนะนำให้เบรกก่อนถึงนะ ไม่งั้นถงปลายทางแรงมาก แต่ไม่ต้องห่วงครับ จะมีเจ้าหน้าที่คอยรับอยู่ปลายทาง
รวมๆแล้วสำหรับที่นี่ จะใช้เวลาเล่นประมาณ 1 ชั่วโมง

จุดต่อมาลุงคนขับรถพาเรามาที่ วัดพระธาตุศรีโคตรบอง
วัดคู่บ้านคู่เมืองประเทศลาว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เสียค่าเข้าชมวัดคนละ 20 บาท
สำหรับผู้หญิงต้องสวมผ้าถุงก่อนเข้าวัดนะ ที่วัดจะมีให้ยืม

เป็นอีก1วัดสวยที่แนะนำให้แวะไปนะ ถ้าไปเที่ยวท่าแขก ลุงคนขับรถให้ข้อมูลว่าวัดนี้สร้างหลังจากวัดพระธาตุพนมได้นาน 

ภายในอุโบสถตกแต่งสวยงาม มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ผมก็ม่แน่ใจนะว่าเป็นหลวงพ่ออะไรนะครับ 

จุดถ่ายรูปที่อยากแนะนำเพื่อนๆ จะเป็นด้านหลังประตูโบสถ์ ถ่าให้ติดผนังโบสถ์ทั้ง 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นพระธาตุจะสวยมาก

เดินถ่ายรูป ขอพรกันเสร็จเราก็กลับกันครับ 

บริเวณท่าเรือเราไปสะดุดตากับวัดนึง ที่มีรูปปั้นพญานาคริมน้ำโขง เราเลยเดินไปถ่ายรูปสักหน่อย

ไม่แน่ใจว่าชื่อวัดอะไร

มีบันไดพญานาค สะดุดตามาก

ก่อนกลับหาอะไรร้อนๆ กินสักหน่อย เลยไปจบที่เฝอลาว อร่อยดีนะ 

หลังจากอิ่มท้องเราข้ามฝั่งกลับไปนครพนมกันครับ วันที่เรากลับตรงกับวันเสาร์ ยื่นเอกสารใบผ่านแดนเสียค่าบริการ 100 บาท จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วเรือ 60 บาท นั่งเรือกลับข้ามฝั่ง

นั่งรอไม่นานครับ เรือก็มาครับ คนเต็มปุ๊บเรืออกเลย ถึงฝั่งไทยยื่นเอกสารใบผ่านแดนให้เจ้าหน้าที่ ก็เสร็จเรียบร้อยครับ 

จบแล้วครับสำหรับ รีวิวที่เที่ยวท่าแขก แขวงคำม่วน ใครมีเวลาน้อยสามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ มีเวลาเยอะหน่อยแนะนำเป็น 3 วัน 2 คืน หรือ 2 วัน 1 คืนแบบเรา เป็นการเที่ยวฝั่งลาวแบบง่ายๆข้ามทางจังหวัดนครพนม ใช้งบไม่เยอะเลย มีที่เที่ยวสวยๆ สายถ่ายรูป สายแอดเวนเจอร์แนะนำเลยครับ ที่สำคัญเบียร์ลาวถูกกินแทนน้ำได้เลย 555 มีโอกาสไปเที่ยวกันน้าทุกคน 

อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 13.20 น.

ความคิดเห็น