กรุงเทพฯ เวลา ๗:๔๐ น. เป็นเวลาที่ขบวนรถไฟของสถานีวงเวียนใหญ่กำลังจะออกจากชานชาลา ซึ่งถือเป็นการเดินครั้งแรกบนรถไฟของฉันในรอบวัยรุ่น จะกล่าวเช่นนี้ก็ว่าได้ เที่ยวที่เราได้นั่งวันนี้คือเที่ยวของรถไฟสายธรรมดา โดยปกติแล้วมีอยู่สองสายอีกสายหนึ่งเป็นรถไฟสายปรับอากาศ ตัวของรถไฟสายธรรมดานั้นไม่มีแอร์จากเครื่องปรับอากาศ มีทางเดินสีเขียวช่องแคบเล็กๆตรงกลางยาวต่อกันเป็นช่วงๆของตู้รถไฟที่เรียกว่า "โบกี้" ติดกับหน้าต่างจะมีเก้าอี้สีน้ำตาลและตรงกระจกหน้าต่างของรถไฟจะเปิดรับอากาศจากธรรมชาติ จึงมีแอร์ธรรมชาติออกมาให้สัมผัสแวดล้อมตลอดเวลาของการเดินทาง

สำหรับการเดินทางกับการนั่งรถไฟราง ทำให้เห็นถึงวิถีชีวิตชุมชนที่อยู่ติดกับธรรมชาติ ที่ยังไม่มีความเป็นเมืองเข้ามา ทัศนียภาพเบาสบายผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง บ้านเรือนส่วนใหญ่พบว่าสร้างเป็นเรือนไทย ๒ ชั้น เต็มหลังคือใช้วัสดุไม้ทั้งหลังไม่ได้แบ่งครึ่งปูนครึ่งไม้ และส่วนใหญ่มีชานเรือนออกมาจากตัวบ้าน ซึ่งบางเรือนด้านล่างเป็นใต้ถุนมีครัวต่อออกมาด้านข้างของใต้ถุน บริเวณหน้าบ้านเป็นลานดินโล่งมีการทำสวนเล็กๆ พืชที่ปลูกเป็นพืชสวนครัว ตรงลานหน้าบ้านที่ติดกับรางของรถไฟจะมีสายน้ำเล็กๆ เรียกว่า "ล่องน้ำ" เป็นล่องน้ำไหลตามการเปลี่ยนแปลงบริบทของสังคม เมื่อมีน้ำไหลผ่านหน้าบ้านทำให้บรรยากาศร่มรื่นมากขึ้น

รถไฟดำเนินแล่นผ่านสองข้างทางชุมชนไปเรื่อยๆจนสุดที่ "สถานีมหาชัย-คลองจาก" ซึ่งเราต้องเดินต่อโดยผ่านตลาดสดแหล่งอาหารทะเลขวัญใจจานโปรดของใครหลายคน เพื่อไปขึ้นเรือที่ท่าน้ำ เรือที่ใช้ข้ามฝั่งมีขนาดใหญ่ดูคล้ายเรือประมง มีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารฝั่งหนึ่ง สำหรับรถจักรยานยนต์ฝั่งหนึ่ง เมื่อข้ามฝั่งมาถึงจะพบว่ามีซอยชุมชนและวัดอยู่ทางขวามือ ซึ่งเป็นทางที่เราจะไปยังสถานีรถไฟ เป็นขบวนที่สองที่เราจะใช้เดินทาง

จุดหมายของเรา คือ "ตลาดร่มหุบ" ซึ่งเราต้องขึ้นรถไฟที่นี้ "สถานีบ้านแหลม" เพื่อไปยังตลาดร่มหุบ ที่เป็นย่านการค้าอันน่าอัศจรรย์ เพราะตลาดแหล่งดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ทางรถไฟค้าขายใกล้ชิดติดรางรถไฟ ตั้งใกล้ทำเลสถานีรถไฟขนาดนี้ ก็คาดว่าพอซื้อแล้วก็ขนส่งขึ้นรถไฟกลับได้สะดวกดี เหตุที่ดูน่าอัศจรรย์คงอยู่ที่ความน่าหวาดเสียวตอนรถไฟแล่นผ่านตลาดนี้เพื่อเข้าสถานี ปกตินั้นตลาดจะกางด้วยร่มผ้าใบ ผู้ซื้อจะเดินเลือกซื้อสินค้าตรงรางรถไฟ แต่เมื่อรถไฟแล่นมาเข้าท่า บรรดาแม่ค้าพ่อค้าจะออกมาหุบร่มที่ตั้งบังแดดระหว่างกลางรางรถไฟไปไว้ข้างใน เพื่อให้รถไฟแล่นผ่านไปได้ เมื่อรถไฟแล่นผ่านไปแล้วทุกอย่างก็กลับเป็นปกติเสมือนเดิม ตลาดอุปโภคบริเวณพื้นที่ร่มหุบ มีสินค้าที่นิยมขายกันก็มีอย่าง ปลาทู หอยดอง ของสดทะเล ขนมปี๊บฯลฯ

จากจุดมุ่งหมายแผนการเดินทางที่ตั้งด้วยเงื่อนไข "การใช้รถไฟรางเดินทาง โดยกำหนดระยะสั้น ใช้เวลาสั้น" ซึ่งการเดินทางโดยรถไฟได้มอบประสบการณ์ที่เข้าถึงมากที่สุดระหว่างวิถีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม บอกเลยว่าวิวสองข้างทิวทัศน์ของเส้นทางรถไฟประเมินค่าได้ยาก โอกาสที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์นั่งรถไฟเดินเที่ยวสักครั้งหนึ่ง อาจจะได้พบบทเรียนใหม่ของชีวิต แล้วก็ได้พบบทเรียนใหม่ของชีวิตจริงจริง

Nutsayapron.

 วันพฤหัสที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2566 เวลา 01.17 น.

ความคิดเห็น