"ออกไปสูดอากาศ ชมวิวพระอาทติย์ตกวิวเขื่อนลำแชะที่ "ผาสามเกลอ (แม่ปลอด)" อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา"
. . . วันนี้จะมาแนะนนำสถานที่ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก "ผาสามเกลอ หรือ ผาแม่ปลอด" เป็นชะง่อนผายื่นล้ำออกไปยังเขื่อนลำแชะ อยู่ที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา บริเวณรอบๆเป็นลานหินเล็กๆ สามารถตั้งแคมป์นอนค้างคืนได้ไม่เกิน 20 คน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสงบ หลีกเล้นจากความวุ่นวายจากในเมือง แนะนำให้มาช่วงอากาศเย็นๆ เพราะต้นไม้รอบๆเป็นต้นไม้ขนาดเล็กให้ร่มเงาพอประมาณ
. . . การเดินทางมาที่ผาสามาเกลอ รถเก๋งไม่สามารถเข้าได้ ถึงแม้รถกระบะก็ต้องเป็นคนที่ขับรถเก่งถึงสามารถขับเข้าไปได้ แนะนำให้ติดต่อผู้ใหญ่บ้าน บ.โคกกระชาย สำหรับรถติดต่อรถเพื่อเข้าไปส่งและรับกลับ (ผู้ใหญ่ใจดีมากกก)
. . . สิ่งอำนวยความสะดวกไม่มี ต้องเตรียมน้ำ อาหาร และอุปกรณ์สำหรับพักแรมมาเอง
. . . บันทึกการเดินทาง 26 - 27 กุมภาพันธ์ 2565
#แสงจันทร์ #ผาสามเกลอ #ครบุรี #นครราชสีมา
. . . เราออกเดินทางจากจังหวัดสระบุรีแต่เช้าตรู่ วันนี้เป็นปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่อากาศค่อนข้างเย็นสะบายกว่าทุกปี จุดหมายของเราวันนี้คือตั้งแคมป์พักแรมที่ "ผาสามเกลอ หรือ ผาแม่ปลอด" อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปผาสามเกลอคือช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ดังนั้นเราเลยพิกัดหมุดหมายแรกไปนั่งเล่นชมวิวเขื่อนกันที่ "BM Camping" เขื่อนลำมูลบน
สำหรับการเดินทางสามารถจิ้มพิกัด Map ไปที่ "หาดจอมทอง ทะเลนำจืด ครบุรี" โดยที่ BM Camping สามารถเข้าถึงได้สองเส้นทาง คือทางบกสำหรับมอเตอร์ไซด์ หรือรถกระบะ 4WD หรืออีกเส้นทางคือนั่งเรือหางยาว เราเลือกเส้นทางที่สอง โดยติดต่อเรือผ่าน BM Camping คุณลุงคนขับเรือจะมารับเราที่ท่า หาดจอมทอง ค่าโดยสารเรือไปกลับราคา 200 บาท/ลำ
ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 15 นาที เราก็มาถึง BM Camping โดยเราจะกางเต็นท์นอนค้างคืนที่นี่ หรือแค่มาทานอาหารเครื่องดื่มอย่างเดียวก็ได้ อยากจะบอกว่า คือเราก็ดูรีวิวก่อนมาก็ไม่ได้คาดหวังกับบรรยากาศเท่าไหร่ เพียงแค่มาแวะก่อนไปผาสามเกลอเท่านั้น
บรรยากาศวันที่มาถึงคือดีมากๆ อากาศที่ไม่ร้อนมากถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ลมเย็นพัดเอื่อยๆ บรรยากาศเหมือนทะเลยามคลื่นลมสงบ สั่งเครื่องดื่มเย็นๆมานั่งดื่มชมบรรยากาศมันเยี่ยมจริงๆ เพื่อนในกลุ่มถึงกับเอ่ยปากว่า เราต้องมาอีกสักครั้งนะช่วงหน้าหนาว
เวลาประมาณบ่ายโมงครึ่งก็ได้เวลาเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปคือบ้านผู้ใหญ่บ้าน บ.โคกกระชาย เพื่อไปนั่งรถกระบะเปิดประทุนเข้าไปที่ผาสามเกลอ บ่ายสองโมงกว่าในสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน กระบะหลังเต็มไปด้วยของกินของใช้สำหรับพักแรมหนึ่งคืน ระยะทางจากบ.โคกกระชายไปยังผาสามเกลอใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากสภาพถนนที่เป็นดินทราย สลับกับหิน ขับผ่านไร่มัน และไร่ยูคาตลอดสองข้างทาง คนขับต้องใช้ความสามารถพอสมควรในการขับขี่ พวกเราสามสี่คนที่นั่งกระบะหลังเต็มไปด้วยฝุ่นดินแดง ระบบไปทั้งตัวเพราะรถโยกตลอดทาง
ใช้เวลาประมาณเกือบสองชั่วโมงเราก็มาถึงผาสามเกลอ ได้เวลาพักผ่อนชมพระอาทิตย์ตกดินกันแล้ว
ความตั้งใจตอนแรกคือกางเต็นท์นอนกัน แต่ด้วยความที่ทุกคนอยากสัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติจริงๆเลยได้แค่กางทาร์ปกันแดดช่วงแรก และหลังจากนั้นคือทุกคนก็มีแค่ที่รองนอนและถุงนอนคนละใบปูรองนอนกันเท่านั้น
บรรยากาศตอนค่ำคือนั่งล้อมวงกินสุกี้ร้อนๆ พูดคุยในเรื่องต่างๆเพราะไม่ได้ออกทริปด้วยกันนานแล้วตั้งแต่สถานการณ์โควิด 19 เสียดายคืนนี้ดาวไม่ค่อยเยอะ แต่อย่างน้อยบรรยากาศคืนนี้ก็ยังเงียบสงบ นานๆทีจะได้ยินเสียงสัตว์เล็กๆร้องมาบ้าง บางครั้งก็เสียงรถมอเตอร์ไซด์ดังแว่วๆมาจากเขื่อนลำแชะ
สำหรับเช้านี้ช่างหน้าเสียดายเนื่องจากสันเขาบังพระอาทิตย์ตอนเช้า กว่าแสงจะโผ่ลพ้นขอบสันเขามาก็คือสายแล้ว เราก็มานั่งชมวิว กินอาหารเช้าง่ายๆก็กลับ
เวาลาเก้าโมงเช้าผู้ใหญ่กับคนขับรถก็มารับเราพร้อมด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณผู้ใหญ่ปัญญา (ผญบ) ที่ดูแลเราตลอดทั้งทริป พาไปทานกาแฟ ถ่ายรูปที่สะพานไม้ร้อยปี แถมเป็นตากล้องให้อีก และพาไปซื้อของฝาก เป็นกล้วยฉาบหลากรสของฝากก่อนกลับ ขอบคุณมากครับ
**ผู้ใหญ่ยังฝากให้เรารีวิวให้ด้วยถ้ามีโอกาส เพราะอยากให้คนมาเที่ยวเยอะๆ ^^
ขอบคุณที่เข้ามาชมกระทู้ครับ เจอกันใหม่ทริปหน้า
#แสงจันทร์ #ผาสามเกลอ
แสงจันทร์
วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลา 15.29 น.