เที่ยว One Day Trip ไปเดินเล่นชิคๆที่ "เขาช่องลม" เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก
. . . หลายคนมองหาเส้นทางธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพ ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานมากนัก ดินแดนเขียวขจีโอบล้อมไปด้วยภูเขา เมฆลอยเคลียเคล้าบนยอดยามเช้าๆ ด้านล่างเป็นแผ่นน้ำอันเงียบสงบ นานๆทีจะมีเสียงเรือยนต์วิ่งผ่านมาสักลำ ใช่แล้วสถานที่แห่งนี้ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายกก็คือ "เขาช่องลม"
. . . การเดินทางมายังเขาช่องลม สามารถตั้งพิกัดที่ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายกได้เลย ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 2 ชั่วโมง
. . . ค่าใช้จ่ายมีเพียงแค่ค่าเรือคนละ 200 บาท ต่อคน เรือบรรทุกผู้โดยสารประมาณ 12-14 คน แต่ถ้ามาวันธรรมดา สามารถเหมาเรือส่วนตัวได้ในราคา 1,500 บาท แนะนำให้มาช่วงเช้า สำหรับเรามาถึงเขื่อนขุนด่านฯเวลาเจ็ดโมงเช้า ก็จะได้บรรยากาศที่มีหมอกเป็นฉากประกอบยอดเขา สายๆหน่อยหมอกก็จะเริ่มหาย
. . . บันทึกการเดินทาง วันที่ 16 สิงหาคม 2563
#แสงจันทร์ #เขาช่องลม #เขื่อนขุนด่านปราการชล #นครนายก
. เขื่อนขุนด่านปราการชล
ก่อนออกเดินทางไปยัง "เขาช่องลม" เราก็พิกัดแผนที่ไปที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก เพราะเราจะไปท่าเรือที่อยู่บนสันเขื่อนกัน จากการอ่านรีวิวจากหลายๆที่แนะนำให้มาช่วงเช้าถึงจะเห็นหมอก ดังนั้นเราจึงออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่ มาถึงสันเขื่อนประมาณ เจ็ดโมงครึ่ง หมอกยังลอยอ่อยอิ่งอยู่เราทุกคนตื่นเต้นกันมากกลัวหมอกหายก่อน และลุ้นตลอดนั่งรถมาภาวนาให้ฝนอย่าตก
พอมาถึงสันเขื่อนเราก็เตรียมตัวให้พร้อมไปแจ้งที่รับจองเรืออยู่บริเวณลานจอดรถของเขื่อน จากการสอบถามได้ความว่า ถ้าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีเรือเหมาเป็นเรือจอยร่วมกับคนอื่น ราคา 200 บาท/คน (ครบ 12-14 คนเรือออก) แต่ถ้ามาวันธรรมดา สามารถเหมาเรือได้ในราคา 1,500 บาท/ลำ พอจ่ายเงินเสร็จเราก็เดินไปท่าเรือกัน
ท่าเรืออยู่ไม่ไกลจากลานจอดรถ เราต้องเดินลงจากสันเขื่อนทางบันไดปูนไปขึ้นเรือที่ด้านล่าง โชคดีวันนี้เรามาเช้าหน่อยเรือที่จะออกถือเป็นเรือลำแรกของวันนี้
ขึ้นเรือมาคนขับบอกว่าจุดหมายแรกที่จะพาเราไปนั้นคือ ต้นน้ำหรือท้ายเขื่อน เป็นป่ารอยต่อระหว่างเขื่อยขุนด่านและป่าเขาใหญ่ บรรยากาศสองข้างทางขณะนั่งเรือมาคือแบบดีมากๆ หมอกยามเช้ายังคงลอยอ้อยอิ่งบนยอดเขาขนามผืนน้ำอันเรียบสงบสองฝั่งเรือ นกบินโฉบเล่นลมอยู่ด้านบน คนบนเรือเริ่มผ่อนคลายกันมากขึ้นเพราะลมเย็นๆลอยมาประทาหน้าตลอดเวลา
นั่งเรือมาประมาณไม่เกิน 20 นาที เราก็เริ่มมองเห็นฝั่งที่เรือจะนำเราไปจอดให้สัมผัสกับบรรยากาศต้นน้ำกัน บริเวรโดยรอบก็คือเป็นทุ่งหญ้าธารน้ำเริ่มเล็กและคอดลงทอดยาวไปยังผืนป่าเขาใหญ่เบื้องหน้าเรา แนวเขาสองข้างทางมีสายน้ำตกเล็กไหลลงสู่ผิวน้ำ นกตัวใหญ่สีขาวบินหาอาหารยามเช้าเหนือผิวน้ำ บรรยากาศถือว่าธรรมชาติมากๆ
คนขับให้เวลาที่จุดแรกประมาณ 40 นาที แต่กลุ่มเราถ่ายรูปเดินเล่นกันไม่ถึงเวลาที่กำหนดก็เริ่มทะยอยกลับขึ้นเรือ อาจเป็นเพราะวันนี้ลมไม่ค่อยพัดเข้ามาเท่าไหร่ ทำให้แต่ละคนเริ่มร้อนกันจึงหนีเข้าเรือเพื่อคลายร้อน เอาหละ พอทุกคนขึ้นเรือครบกันแล้ว เราก็ไปต่อที่จุดหมายต่อไป ซึ่งก็คือน้ำตกเขาช่องลม ไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยกัน
น้ำตกเขาช่องลมต้องเดินเท้าต่อเข้าไปอีกระยะทางประมาณ 500 เมตร หลังจากเรือจอดเทียบท่าเสร็จคนขับก็แจ้งให้ลูกเรือทราบก่อนจะลงจากเรือว่า ให้เวลาสำหรับที่นี่ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเราก็ลงจากเรือเพื่อเดินเท้าต่อไปที่น้ำตก ทางเดินก็ต้องลัดเลาะไปตามริมน้ำ ไต่หินขนาดน้อยใหญ่ไปเรื่อยๆ ไม่นานก็มาถึงน้ำตก น้ำตกเขาช่องลมเป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีพื้นที่ไม่มากนัก สำหรับใครที่จะถ่ายรูปกับน้ำตกต้องนั่งบนโขดหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา สำหรับกลุ่มเราช้เวลาที่นี่ไม่นานก็เดินกลับกัน เพราะอากาศเริ่มอบอ้าวขึ้นทุกขณะ เหงื่อที่ไหลตลอดทางขณะเดินมาก็ทำให้เสื้อเปียกกันทุกคน
เดินกลับใช้เวลาไม่นานมาก กลุ่มอื่นเริ่มทะยอยลงจากเรือมามากขึ้นเรื่อยๆเราก็รีบเดินไปถ่ายรูปไป ใช้เวลา 1 ชั่วโมงตามที่นัดหมายไว้เราก็มาถึงเรือที่จอดรออยู่แล้ว รอคนครบเรือก็ออกนำเรากลับไปยังท่าเรือบนสันเขื่อน วันนี้ก็จบทริป เขาช่องลม ใช้เวลาทั้งทริปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับ หวังว่าทริปนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบธรรมชาติ แต่มีเวลาน้อย พบกันใหม่ทริปหน้า
#แสงจันทร
แสงจันทร์
วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 15.40 น.