เรื่องเล่าของการเดิน ทางเริ่มขึ้นอีกครั้ง การเดินทางครั้งนี้รู้สึกแตกต่างจากครั้งอื่นมากๆ ปกติแล้วเมื่อการเดินทางเริ่มขึ้นทุกครั้ง เราจะตื่นเต้น กับการได้ออกไปเจอสถานที่ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ หรืออาจเป็นเพราะว่าเรากลับไปในที่ที่เราเคยไปมาแล้วอีกครั้ง ความตื่นเต้นเลยหายไป แต่เรากลับได้ความสงบ ความเงียบ กลับมาแทน หรือเป็นเพราะว่า เราแก่แล้ว 555
14.00 น
30/11/66
การเดินทางเริ่มต้นขึ้น ในทริปนี้เราเดินทางจาก มุกดาหาร มุ่งหน้าไปที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. ระยะทาง 400+ กิโลเมตร. การเดินทางไม่เหงามีเพื่อนร่วมทางไปด้วยสองคน พูดคุยเรื่องราวต่างๆ ตามประสาคนวัย อายุจะเข้าเลขสาม
19.00 น
เราพักที่บ้านพักอุทยาน จองผ่านแอป ในราคา 840 บาท พักได้ 4 คน แต่เรานอน 6 คน ก็ได้อยู่ เตียง 6 ฟุต 2 เตียง ในบ้านมี เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ ทีวี โต๊ะกินข้าว ห้องน้ำ มีกระติกน้ำร้อนแล้วก็กาแฟให้ด้วย
เรามีเพื่อนมาร่วมเดินทางขึ้นภูกระดึงในครั้งนี้จากศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร เป็นการวนมาเจอกันอีกครั้งจากที่ปีก่อนไปเดินภูสอยดาวด้วยกัน มิตรภาพมักจะสวยงามเสมอ เพราะมันหายากมากนะเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนกันกับเรา เจอแล้วรักษากันไว้ดีๆ เดี๋ยวจะไม่มีคนชวนไปเที่ยว ><
จ่ายค่าเข้าอุทยานคนละ 30 บาท ค่าจอดรถ 20 บาท
06.00 น.
อาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวไปจองลูกหาบ ก่อนออกไป แอบมองเห็นอ่างเก็บน้ำเลยลองแวะไปดู ภูกระดึงในมุมที่เรายังไม่เคยเห็น
เตรียมตัวออกเดินทาง (ไปฝากกระเป๋าลูกหาบแปป แบกไม่น่ารอด) โดนไป 8 กิโล เบาๆจ้า กิโลล่ะ 30 บาท จ่ายค่าเสียหายไป 240 บาท. ตั้งใจว่าจะเดินขึ้นไม่เกิน 08.00 น. เพราะอากาศค่อนข้างจะร้อน ประสบการณ์จากครั้งก่อน ขึ้นเร็วเราจะมีโอกาสเห็นหมอกที่ ซำแฮก และก็จะพักกินข้าวที่นั่นด้วย
08.00
ถึงเวลาพิสูจน์ข้อเข่าอีกครั้ง เสียค่าประกันคนละ 10 บาท เริ่มออกเดินทางกันเล้ยยยย
เส้นทางก็ยังเหมือนเดิมในครั้งก่อน ความต่างก็คือ อากาศเริ่มแห้ง ดินเริ่มแตก มีฝุ่น คละคลุ้งกัน มีเสียงหายในหอบจากเราและเพื่อนๆ มองดูลูกหาบที่แบกระเป๋าขึ้นไปให้เรา ร่างกายแข็งแรงมาก ที่จริงแล้ว พวกเราก็แอบเป็นห่วงการทำงานของเขาที่ต้องใช้แรงแบบนี้ มีผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว แต่ก็เข้าใจว่า นี่คืออาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้เยอะ บางคน 1 วัน แบกไป 80 กิโล ส่วนมากลูกหาบที่นี่ทำกันเป็นครอบครัว มีการหาบขึ้นไปเปลี่ยนกะระหว่างทาง เด็กๆวัยประถม ก็มารับจ๊อบแบกกระเป๋าขึ้น-ลง ในวันหยุด และนี่อาจเป็นเสน่ห์อีกอย่างของภูกระดึง
ในระหว่างการเดินทาง เราได้ยินเสียงเล็กๆของเด็กน้อย พูดขึ้นมาว่า
"แม่ทำไมเราไม่ไปพักผ่อนที่ที่สบายกว่านี้"
555 พี่ก็เห็นด้วยนะ
เมื่อเวลาผ่านไปเราก็มาถึงซำแฮก จุดพักแรก ที่ขึ้นชื่อว่าแตงโมอร่อยที่สุ๊ดด
สำคัญกว่าจุดหมาย ก็ระหว่างทางนี้แหละ
พักกินข้าวแปป มาภูกระดึงไม่มีอด. กดเงินมาให้พอ ถ้าไม่พอก็มีคิวอาร์โค้ดให้แสกน สะดวกสบาย อิอิ
เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูประหว่างทางมากเท่าไหร่ ข้ามไปตอนถึงหลังแปเลยละกัน >< 3 2 1
11.00 โดยประมาณ.
ถ่ายรูปกับเจ้าที่แปป5555
เมเปิ้ลที่หลังแปร่วงจะหมดแล้ว แต่ก็ยังได้อยู่ ถ่ายรูปประมาณชั่วโมงหนึ่งได้555
หลังจากได้รูปครบทุกคนแล้วเราก็จะเดินจากหลังแปไปยังที่ลานกางเต็นท์ วังกวาง สโลแกน เดินชิลๆ เรื่อยๆ ไม่รีบ แต่หิวข้าวมาก
พอไปถึงแวะไปรับถุงนอน หมอน ผ้าห่ม ที่จองไว้แล้ว แล้วก็ไปหาของกินได้ รูปไม่ได้เก็บ รักษาแบตโทรศัพท์เท่าชีวิต บนภูกระดึงเราสามารถชาร์ทแบตโทรศัพท์ที่ร้านค้าได้ทุกร้าน ต้องกินข้าวนานๆนะทุกคน แบตจะได้เต็ม 555
กินข้าว เคลียร์ค่าใช้จ่าย แล้วก็พักผ่อนสักหน่อย อากาศบนยอดภูกำลังดีเลย เย็นๆ สบายๆ ช่วงเย็นมีโปรแกรมไปดูพระอาทิตย์ตก ที่ ผาหมากดูก่อน
ตอนแรกลังเลกันมากเพราะว่ารอกระเป๋าจากลูกหาบ พระอาทิตย์ก็เหมือนจะไม่ตก ท้องฟ้าครึ้ม. มีฝนปรอยๆ 2 วินาที 555 ไม่ทันจะได้เก็บของเลยหยุดซ่ะแล้ว🤣
17.00 น
เตรียมตัวไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก สุดท้ายไปไม่ทัน ถ่ายตอนตกระหว่างลานสนที่ถูกไฟไหม้ ก็สวยดีนะ เป็นอีกมุมที่ยังไม่เคยเห็น
หลังจากกลับมาพวกเราก็ไปหาร้านกินข้าว รู้สึกคันๆที่เท้า เจอน้องทาคุ (ทาก) ดูเลือดไปหนึ่งกรุป
วันนี้เราจัดหมูกะทะ 1 ชุด นมร้อน รีฟิล +ปาโก๋ เสียหายไป 170 บาท
กินเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำแล้วเข้านอน. บนภูกระดึงค่ำคืนนี้ ไม่มีดวงดาวส่องแสงเลย ฝันดีจ้าาา
01/12/66
05.30
ได้เวลาออกล่าทะเลหมอก อุณหภูมิวันนี้อยูที่ 17 องศา อากาศกำลังดีเลย เราเริ่มเดินจากจุดกางเต็นท์วังหวาง ไปยังผานกแอ่นที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอก ความคาดหวังเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ครั้งที่แล้วไม่ได้เจอทะเลหมอก สุดท้ายแล้วความคาดหวังวันนี้ก็หมดไป 555 ได้เจอแต่แสงทีส้ม ของพระอาทิตย์ แต่นี่ก็สวยเหมือนกัน นั่งคุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ ถ่ายรูปกัน นี่ต่างหากที่เป็นความสุข
เราได้เดินไปดูลานพระพุทธรูป พอใกล้ถึงได้ยินเสีงลมกระทบกับเสียงกระดิ่ง ที่มาพร้อมกับความเงียบ ถือเป็นอีกเส้นทางใหม่ที่เราเดิน
หลังจากนั้นก็ไปกินข้าว อาบน้ำ เตรียมตัวไปเก็บน้ำตกและใบเมเปิ้ลกันค่าาาา
08.45
พวกเราเริ่มออกเดินทาง ท้องฟ้านค่อนข้างจะมืดครึ้มสักพักมีฝนตกปรอยๆลงมา พวกเราเลยไปซื้อเสื้อกันฝน หลังจากที่เราซื้อเสื้อกันฝนกันคนละตัวแน่นอนว่า ฝนหยุดตก555 เสื้อกันฝนของแท้ ><
เราเริมเดินไปที่น้ำตกวังกวางช่วงประมาณ 09.00 น. ห่างจากที่พักประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาเดินไม่นานก็ถึงแล้ว เราไปในฤดูที่น้ำน้อย ไม่มีน้ำเยอะเท่าไหร่ แต่ก็ได้ยินเสียงน้ำตกอยู่
หลังจากนั้นเดินทางไปดูใบเมเปิ้ลที่น้ำตกเพ็ญพบใหม่
เมเปิ้ลแดงเต็มต้น คนก็เต็มต้นเหมือนกัน 555 คนเยอะมากๆ แต่ก็สวยมาก
หลังจากนั้นเราก็เดินตามเส้นทางเที่ยวชมน้ำตกไปเรื่อยๆ ชอบวิวไหนก็จัด อย่ากลัวเจ็บ ><
เส้นทางน้ำตกนี้จะมีต้นเมเปิ้ลให้เราได้ชื่นชมตลอด มีทั้งต้นที่แดงพร้อมร่วงโรย และต้นที่กำลังเปลี่ยนสี ทำให้การชื่นชมเส้นทางนี้ไม่เหงาเลย
หลังจากเดินเส้นทางน้ำตกจบลง พวกเราเลือกเดินไปทางสระอโนดาด แสงแดดส่องจ้ากับสองข้างทางที่มีเพียงซากของลานสน เพราะไฟป่า พวกเรารีบเดินเพื่อที่จะไปใหถึงสระอโนดาด
เก็บภาพสักหน่อย จากนั้นจะเดินไปทานข้าวที่ผาอะไรสักอย่าง
น่าจะผาเหยียบเมามั้ง555. จากทานข้าวเสร็จก็เดินถ่ายรูปแวะตามผาต่างๆ เป้าหมายของเราในวันนี้คือไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก
เดินมาสักพักใหญ่. เราก็ถึงผาหมากดูก คนมาดูพระอาทิตย์ตกกับพวกเราเยอะมาก5555
อยู่บนภูมาสองวันยังไม่เห็นพระอาทิตย์ตกดิน. วันนี้ก็เช่นกัน เห็นแต่แสง ดวงอาทิตย์ไปไหนไม่รู้555
พวกเรานั่งรอดูพระอาทิตย์อยู่นาน. จากนั้นเลยตัดสินใจเดินกลับลานกางเต็นท์ เพื่อไปกินข้าว อาบน้ำ เก็บของเตรียมตัวเดินลง ในวันพรุ่งนี้
สวัสดีตอนเช้า 03/12/2566
วันนี้เรามารอดูพระอาทิตย์ขึ้นที่อ่างเก็บน้ำ
เหมือนจะมีความหวังนิดๆ. แต่ก็ใกล้จะเจ็ดโมงครึ่งแล้ว. พวกเรายังไม่ได้ฝากของลูกหาบ ก็เลยไม่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้น ได้เห็นนิดหน่อยก็ดีใจแล้วว. หลังฝากของเสร็จ เราก็ไปหาอะไรรองท้อง หลังจากนั้นก็เดินทางลงจากภูกันเลยยย
ถึงแล้วจ้าา ใช้เวลาเดิน 5-6 ชม. เหนื่อยมาก แต่ก็มีความสุขมาก
จากนั้น กินข้าว พูดคุยกับป้าในร้านอาหาร ในอุทยาน แบบม่วนจอย เพราะป้าชมว่า สวยๆ กันทุกคน
เราชอบมาก 555
ระหว่างรอสัมภาระจากลูกหาบ ก็ไปอาบน้ำแล้วเข้าร้าน. สระ ไดร์ 55555 ไม่ไหวจริงๆ หัวเหนียวมากกก
ลูกหาบมาแย้ววว บ๊าย บ๊าย. เจอกันใหม่นะ ภูกระดึง แล้วเราก็ยังมีอีกหลายมุมที่ยังไม่เห็นบนภูกระดึง ก็เลยคิดว่าต้องได้มาอีก เพื่อที่จะ......
จะมาดูทะเลหมอกให้ได้
จะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่อ่างเก็บน้ำอีกรอบ
จะมาดูดาวอีกที เพราะยังไม่เคยดูดาวที่ภูกระดึง
แล้วจะกลับมารอบที่สามนะ ><
ขอบคุณการเดินทาง และเพื่อนร่วมทางทุกคน ทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่เหงาเลย สนุกมากๆ คิดถึงทุกคนน๊าา ไว้พบกันใหม่ เมื่อต้องการเที่ยวจ้า 5555
นานนานเที่ยวที
วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 10.55 น.