จากความเดิมตอนที่แล้ว ROMANIA #3 : Medias https://th.readme.me/p/5234


จากเบรียเท่นผมตรงเข้าสู่เมืองชิกิโชอะรา (Sighisoara) ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ผมมาถึงชิกิโชอะราราว 16.00 น. จอห์นมาจอดส่งพวกผมบริเวณลานจอดรถ ซึ่งตั้งอยู่ด้านล่างของ Citadel (Citadel จะตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ) โดยจอห์นบอกว่า ภายใน Citadel ไม่อนุญาตให้รถเข้าไปด้านใน นอกจากรถของคนที่อาศัยอยู่ภายใน Citadel เท่านั้น จากลานจอดรถ ผมต้องหิ้วกระเป๋าเดินทางขึ้นไปตามเส้นทางที่ค่อนข้างชัน คือจะลากกระเป๋าเดินทางไปกับพื้นก้อนหิน มันก็เสียงดังซะเหลือเกิน เลยต้องจำใจใช้กำลังแขนหิ้วแทนการลากครับ

ชิกิโชอะราแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือ ส่วนที่เป็นเมืองป้อมปราการบนเนินเขา รู้จักกันในชื่อ Citadel คือส่วนที่ผมจะพาชมในวันนี้ และอีกส่วนหนึ่งคือบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำทาวา (Tarva River) ซึ่งผมจะไปสำรวจกันในวันถัดไปครับ

qz08wa58wq2r

จากลานจอดรถขึ้นมาถึงบริเวณ Citadel ทั้งเหนื่อยและหนักเอามากๆ แต่เมื่อมาเห็นวิวแบบนี้ อาการเหนื่อยหายเป็นปริบทิ้งเลยครับ

1huzg04e0x7m

จอห์นนำพวกผมเข้ามายังที่พัก ที่ Burg Hostel เป็นจุดแรก ก่อนที่จะขอแยกตัวกลับไปยังบูคาเรสต์ครับ

0q59leemwg33
oq06ufc0973t

บรรยากาศภายในห้องพัก มีห้องน้ำในตัว แถมแยกเป็นสัดส่วนของห้องอาบน้ำและห้องส้วม สนนราคาห้องละ 30 usd สภาพห้องค่อนข้างเก่า แถมห้องผมอยู่ติดกับบริเวณห้องอาหาร จึงทำให้ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ตลอดเวลา เรื่อง wifi มีสัญญาณ แต่เล่น wifi ไม่ได้ครับ

หลังจากเก็บของเข้าที่เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเดินสำรวจรอบๆ Citadel ครับ

z0jb7seh7mj1
dsahu6eptyf7
wp8t1616v73i

ชิกิโชอะราเป็นเมืองเดียวที่ผมเรียกชื่อไม่ถูกสักที เมืองนี้เป็น 1 ใน 7 เมืองป้อมปราการเช่นเดียวกับซิบิว ถึงเมืองนี้จะมีเขตฯOld town เล็กกว่าซิบิว แต่ที่นี่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 และ 15 ชิกิโชอะราเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญ มีสิ่งก่อสร้างถูกสร้างขึ้นมากมาย โดยเฉพาะระบบการป้องกันภัยจากการรุกรานของกองทัพภายนอก ไม่ว่าจะเป็นป้อมปราการและหอคอยทั้ง 14 แห่ง ที่ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียง 9 หอคอย ในอดีตการดูแลหอคอยแต่ละแห่งจะถูกจัดแบ่งให้ช่างแต่ละแขนงเป็นผู้ดูแล เช่น หอคอยช่างตัดเสื้อ หอคอยช่างทำเชือก ครับ

amx50s33qdln
yw12raksppys
iu6xq7b3po7z

The Clock Tower แห่งนี้ดูงดงาม ทรงคุณค่า ตั้งตระหง่านท้าลมท้าแดดมากว่า 600 ปี ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองชิกิโชอะราไปแล้ว จึงไม่แปลกที่ภาพของ The Clock Tower จะไปปรากฏอยู่บนของที่ระลึกของเมืองนี้ครับ

เนื่องจากวันนี้ผมมาถึงค่อนข้างเย็นแล้ว จึงไม่สามารถขึ้นไปชมบนหอนาฬิกาได้เพราะเลยเวลาเปิดให้เข้าชมแล้ว แต่ไม่เป็นไรเพราะพรุ่งนี้ผมมีเวลาอยู่ที่นี่อีก 1 วันครับ

3enqj6e3wtmo

ชิกิโชอะรายังเป็นเมืองที่เป็นที่กำเนิดของเจ้าชายวลาส ดราคูล ต้นตำนานแห่งแดรกคูล่าอันโด่งดัง ได้ถือกำเนิดในปี ค.ศ.1431 ที่บ้านหลังหนึ่งใกล้กับหอนาฬิกาก่อนที่จะย้ายไปอาศัยยังเมืองอื่นในอีก 4 ปีให้หลัง ปัจจุบันบ้านหลังนั้นเปิดเป็นร้านอาหาร และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมห้องที่เจ้าชายถือกำเนิดด้วย โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 5 lei และบ้านหลังนั้นคืออาคารหลังสีเหลือง ตามที่เห็นในภาพครับ

เย็นนี้เราเดินเที่ยวกันแบบไม่เร่งรีบเพราะเรามีเวลาอยู่ที่เมืองนี้เหลือเฟือ มื้อเย็นนี้ผมเลือกทาน Pizza กันที่ร้าน Pizzeria San Gennaro ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าจัตุรัสซิทาเดล (Piata Cetatii) ครับ

lkisbhvc4v7r

ผมเลือกนั่งที่หน้าร้าน เพื่อจะได้ซึมซับกับบรรยากาศยามเย็นของเมืองชิกิโชอะราครับ

qilh0x4mydgy
lci62vx0i984
kj9h55jhf0qm

มื้อนี้ได้ Pizza 2 ถาด และพาสต้า สนนราคามื้อนี้ 70 lei ต่อ 4 คนครับ

หลังมื้อเย็นเลยขอเดินเก็บบรรยากาศยามค่ำสักหน่อยก่อนที่จะเข้าที่พักครับ

t6q62wnlwnlj

อาคารสีขาวแบบทรานซิลเวเนียน เรเนซองที่เห็นอยู่นี้ มีการนำหัวกวางมาประดับไว้ที่มุมตึก พร้อมทั้งวาดภาพลำตัวของกวางไว้บนกำแพงด้วย ดูแล้วเหมือนกวางจะออกมาจากอาคารเลยครับ อาคารหลังนี้จึงถูกเรียกกันมาเรื่อยๆว่า บ้านกวาง (The Stag House) ปัจจุบันอาคารนี้ได้ปรับปรุงเป็นโรงแรมและร้านอาหารเล็กๆ ที่เจ้าฟ้าชายชาลส์ ยังเคยเสด็จมาประทับที่นี่ด้วยครับ

oklxy9f333ry
6vhnm2e3dj5f
xiv4t1k2o6by
9un6xkwh1rui
4yhmoxv15ceg

เวลาประมาณ 21.30 น. ฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสี มาเที่ยวช่วงฤดูร้อนก็ดีไปอย่าง ได้กำไรเรื่องเวลา เที่ยวได้นานขึ้นครับ

เช้านี้ผมเลือกมาเก็บแสงเช้าที่จุดชมวิวด้านหลังของ The Clock Tower เพราะจุดนี้สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของเมืองชิกิโชอะราบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำทาวาได้

ams8w5b2p8pk
br4p5jug39df

มองลงไปเบื้องล่างคือพื้นที่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำทาวา ซึ่งผมจะไปเดินสำรวจกันในวันนี้ครับ

vc1lazsl96pm
aor8ghqxq9uq

ติดกับ The Clock Tower เป็นที่ตั้งของ The Church of the Dominican Monastery ซึ่งเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่เลยทีเดียวครับ

15cpjdqznbox

ด้านข้างของ The Church of the Dominican Monastery มีอนุสาวรีย์ของเจ้าชายวลาส ดราคูล หรือเจ้าชายวลาสที่สาม แห่งวัลลัคเฮีย ต้นตำนานแดร็กคูล่า แม้ภาพของเจ้าชายจะเป็นผีดิบที่น่ากลัว แต่สำหรับชาวโรมาเนียแล้ว เจ้าชายวลาสคือหนึ่งในวีรบุรุษผู้ต่อสู้กับผู้รุกรานอย่างกองทัพของจักรวรรดิออตโตมันอย่างเข้มแข็งครับ

jmb7vk364894

ใกล้กับ The Church of the Dominican Monastery เป็นที่ตั้งของ Sighisoara City Hall ผมว่าน่าจะเป็นตึกที่ใหญ่ที่สุดในเขต Citadel เลยครับ

gkuwdcjozklp
79anwmkj45p2
io70y4oz1s4a
mz00u1f0f97t
bmh6z3cu8ij0
jspdkmqbavfl

ต้องบอกเลยว่าเดินกันมันเลยครับ เข้าถนนโน้น ออกถนนนี้ เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพบ้านเรือนของคนที่นี่ ถึงแม้ว่าบ้านเรือนจะดูเก่า บางหลังมีรอยหลุดร่อนของสี บางหลังดูทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่มันมีความคลาสสิคอยู่ในตัว เท่าที่สังเกตมาไม่มีบ้านหลังไหนที่ปลูกติดกันจะทาสีเดียวกันเลย ผมว่านี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของเมืองนี้ครับ

xlanpozdce4i

หอคอยช่างรองเท้า (The Shoemakers Tower) อยู่ใกล้กับที่พักของผมเลยครับ

4ohr9rxbux0z

เดินเที่ยวในเขต Citadel กันมาเยอะแล้ว ไปสำรวจพื้นที่ในอีกส่วนหนึ่งบ้างดีกว่าครับ

cp3wklxgkjfd
ddtkn8epbx8w

Orthodox Cathedral โบสถ์ออโธด็อกสีขาวหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ริมฝั่งน้ำทาวา ผมใช้พื้นที่ด้านข้างของโบสถ์เป็นจุดปิคนิคมื้อเช้าของผม กี้เตรียมขนมปัง แฮม และเนย มาด้วย กรรมวิธีการผลิตก็ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เอาถุงก๊อบแก๊บห่อมือแล้วจ้วงลงไปบนเนย จากนั้นก็เอามาถูๆ ทาๆ บนขนมปังแผ่นหนาๆ เอาแฮมวางไว้บนขนมปัง เป็นอันเสร็จพิธี ถือว่าเป็นมื้อเช้าที่แสนจะง่ายดายมากๆ ครับ

nsztelhmd5r7
qy1vcyyo3kq9
91unv7otq5wl
s1lxqif9r3p3
h68i65i83a9t
lvfk44oig90f

หลังมื้อเช้า ขอเข้าไปชมความงดงามภายในของโบสถ์แห่งนี้กันสักหน่อย เมื่อก้าวเท้าเข้าไป ยอมรับเลยว่าตะลึงในความงดงามมากๆ ทั้งภาพเขียนที่อยู่บนฝาผนังหรือบนเพดาน เมื่อโดนแสงสาดส่อง มันยิ่งทำให้โบสถ์แห่งนี้ดูมีพลังจริงๆ ครับ

5h6anggdqp82
4h3o8cfubejb

จากริมน้ำทาวา มองย้อนกลับไปยังเขต Citadel ด้านซ้ายมือสุดจะเห็น Church on the hill ถัดมาคือ The Clock Tower , The Church of the Dominican Monastery และ Sighisoara City Hall นับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยอีกจุดหนึ่งเลยครับ

j8hkxlijfo0f
lx8njanjrv6q
y38yz1ezzlwf
lb3kn7rt80ae
uq13crweiv5g
u3doin40ljdi

จากนั้นก็เดินสำรวจตามร้านรวงต่างๆ กันต่อ อาคารบ้านเรือนในบริเวณนี้ดูจะใหม่กว่าพื้นที่ในส่วนของ Citadel แต่สิ่งที่เหมือนกันในทั้งสองพื้นที่คือ ความสดใสหลากสีสันของตัวอาคารบ้านเรือนครับ

เดินเล่นกันจนเพลิน มองดูนาฬิกาอีกทีก็เกือบเที่ยงแล้ว เลยขอหาอะไรเติมพลังกันก่อนครับ

s8espgkwo134
s0vqbtw0j2f0
4vva51dz8cag

เที่ยงนี้ผมเลือกร้าน Gourmet Lunch เน้นอาหารประเภท Kebab ร้านจะอยู่ตรงบันไดทางขึ้น Clock Tower ภายในร้านตกแต่งออกโทนสีฟ้า บรรยากาศน่านั่งเชียวครับ

fytvs3d86d8j

มีทั้งไก่และเนื้อครับ

brnzonvtjfyv
u56covozx536

Kebab ชิ้นใหญ่ ไส้มาเต็มมากครับ

4o2jdjj4y585

มา 4 คน สั่ง Kebab 2 ชิ้น แกงกะหรี่เนื้อ 1 ถ้วย หมูทอด 1 ชิ้น และเฟรนฟราย ค่าเสียหายมื้อนี้ 64 lei ครับ

ne3nw6sukp2e

หลังมื้อเที่ยง ผมกลับไปยัง Burg Hostel ซึ่งเป็นที่พักในคืนแรกของผม เพื่อเก็บข้าวของและย้ายไปที่พักแห่งใหม่ คือ Pensiunea Bastion ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เดิมครับ

Pensiunea Bastion อยู่ด้านหน้าบันไดหินเก่าแก่ (The Pupils Staircase) ที่ทอดยาวขึ้นไปยัง Church on the hill ครับ

iq0z5kyfhg2w

ด้านหน้ามีพื้นที่ให้นั่งพักและใช้เป็นพื้นที่ทานอาหารด้วยครับ

09rn0rgom1ee

ด้านในอาจจะดูคับแคบไปสักนิด แต่โดยรวมแล้วดูดีกว่า Burg Hostel แบบเทียบกันไม่ได้เลยครับ ทั้งความสะอาด ทั้งความสงบ ความเป็นส่วนตัว ต้องยกให้ที่นี่เลย

zr9ncxig17l5

ลักษณะคล้ายๆ Homestay บ้านเราครับ

kvbvi0bpfjvl
qf48800475st

ผมได้ห้องพักบนชั้น 2 ลักษณะห้องจึงคล้ายห้องใต้หลังคาครับ

omq7bmsor1u7

ห้องน้ำก็สะอาดสะอ้าน แยกส่วนเปียกส่วนแห้งเรียบร้อย มีผ้าเช็ดตัวให้พร้อม

สำหรับราคาค่าที่พัก 40 ยูโร/ห้อง ความพึงพอใจถือว่าโอเคมากๆ ครับ

เมื่อเก็บข้าวของเข้าที่เรียบร้อยแล้ว เราออกเดินสำรวจในจุดอื่นๆ กันต่อ เริ่มกันที่ Church on the hill เป็นจุดแรก เพราะบันไดทางขึ้นอยู่บริเวณหน้าที่พักผมเลยครับ

dds017md3fum

การจะเดินขึ้นไปยัง Church on the hill จะต้องขึ้นบันไดหินเก่าแก่ (The Pupils Staircase) จำนวน 176 ขั้น ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ.1660-1662 และมีการบูรณะอีกครั้งในปี ค.ศ.1842 ลักษณะของบันไดจะมีผนังและโครงหลังคาเป็นไม้ วัตถุประสงค์ของการสร้างบันไดหินนี้เพื่อป้องกันนักเรียนที่จะเดินขึ้น-ลง เพื่อไปเรียนบนยอดเขาครับ

y4hh4qbi27jv
5vljjyrdqijo

โบสถ์บนภูเขา (Church on the hill) ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเขต Citadel โบสถ์นี้สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ถือได้ว่าเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของเมือง การเข้าชมด้านในโบสถ์จะเสียค่าเข้าชมด้วยครับ

9z30uzifdkns

ด้านหน้าของโบสถ์เป็นสุสานโบราณที่เรียงรายไปด้วยหลุมศพของชาวเมืองที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มาเดินช่วงมีแสงแบบนี้ก็ดูร่มรื่นดีครับ แต่ถ้าหากมาช่วงค่ำๆ ละก็ อย่าได้คิดเลย

zgocz7ewqy9g

เสาหินอะไรสักอย่าง แต่น่าจะมีความสำคัญอยู่เหมือนกันครับ

tzj2spl59kun

ด้านบนเขา พอที่จะชมวิวมุมสูงของเมืองชิกิโชอะราได้อยู่เหมือนกัน แต่วิวจะถูกบดบังด้วยกิ่งไม้ใหญ่ครับ

s1q6d9gw59xh

เมื่อลงจาก Church on the hill แล้ว โปรแกรมต่อไปคือการขึ้นไปชมวิวมุมสูงบน The Clock Tower หอนาฬิกาแห่งนี้เปิดให้ขึ้นไปชมด้านบนตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. เปิดให้ชมทุกวัน แต่จะปิดในวันจันทร์ การจะขึ้นไปชมด้านบนต้องเสียค่าเข้าชม 14 lei และถ้าหากต้องการถ่ายภาพภายในหอคอยจะต้องเสียค่าถ่ายภาพอีกด้วย

ความคิดแว๊บแรกที่ผมเห็นหอคอยจากภายนอก ผมจินตนาการว่าคงจะเหมือนการขึ้นหอนาฬิกาที่เมืองซิบิว ที่ด้านในมีแต่บันไดเวียนขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ผิดคาดครับ หอนาฬิกาของ The Clock Tower จะแบ่งเป็นชั้นๆ โดยในแต่ละชั้นจะมีพิพิธภัณฑ์ให้ชมด้วย เนื่องจากผมไม่ได้ซื้อบัตรสำหรับถ่ายรูป เลยไม่มีภาพพิพิธภัณฑ์ในแต่ละชั้นมาให้ชมนะครับ

ysuzztbxgqtv
eq7wwyfgos8t
8xkp12779xce
yha9qzm2y0tv
mstjlkakm23h
2t5zr74z7a40

สำหรับด้านบนสุดของ The Clock Tower จะเป็นจุดชมวิวเมืองชิกิโชอะราแบบ 360 องศาเลยทีเดียว ผมว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองชิกิโชอะราแล้วครับ

90no2cb8uluj

หลังจากลงจาก The Clock Tower ก็เดินสำรวจเมืองไปเรื่อย ผ่าน The Tin Makers' Tower จุดนี้ตั้งอยู่ภายในรั้ว คงได้แต่มองจากภายนอกเท่านั้นครับ

fscmi0nh9wxx

แมวน้อย นอนหลับอย่างไม่สนใจอะไรเลย

pj9x8h0dilaq

จากการที่เดินสำรวจราคาของฝากทั่วพื้นที่ของ Citadel ผมว่าร้านบริเวณหน้าจัตุรัสซิทาเดล (Piata Cetatii) ร้านด้านซ้ายมือสุดในภาพ ขายของฝากราคาถูกที่สุดแล้ว สินค้าบางรายการตั้งราคาถูกกว่าที่ผมไปต่อราคาร้านอื่นอีก หรือหากราคาสินค้าบางรายการจะเท่ากับร้านอื่นๆ แต่ผมว่าคุณภาพของของฝากร้านนี้จะดีกว่าร้านอื่นๆ ด้วยซ้ำ

9lr8y2xsgr5k

พื้นที่ภายใน Citadel ไม่กว้างมากครับ เดินสัก 1-2 ชม.ก็เก็บรายละเอียดครบทุกจุดแล้ว ช่วงที่ผมไปฟ้าปิดแทบทั้งวัน ผมวิ่งมาจุดนี้เป็นสิบๆ รอบ เพื่อที่จะรอเก็บบรรยากาศช่วงฟ้าเปิด แต่ฟ้าก็ไม่เป็นใจให้ผมสักที แต่การที่ผมมาจุดนี้หลายรอบ เลยทำให้ได้ภาพของวัยรุ่นชาวโรมาเนีย ที่แต่งชุดประจำชาติมาถ่ายรูป ณ บริเวณนี้พอดีครับ

ช่วงเย็นๆ วันนั้นวัยรุ่นกลุ่มนี้มาเปิดการแสดงที่จัตุรัสซิทาเดลครับ ขอบอกเลยว่าเด็กพวกนี้อัธยาศัยดีมากๆ เวลาเราขอถ่ายรูปกับน้องคนหนึ่ง เด็กคนอื่นๆ ก็จะวิ่งกรูเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับเราด้วยครับ

มื้อค่ำนี้เรามาฝากท้องที่ร้านGrill Café RALUCA ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับร้านที่ผมทาน Kebab ไปเมื่อตอนกลางวันครับ

5befqio172k2
pn30dca4pzs0

บรรยากาศดีเลยทีเดียวครับ

k0lz3b05ot89
swmdoe8vj6nq
ucb7vj547jcb

ค่ำนี้ขอจิบไวน์เย็นๆ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศเพื่อฆ่าเวลารอฟ้าเปลี่ยนสีครับ

nitxhej767xv

ไก่ผัดรสชาติคล้ายๆ ผัดเปรี้ยวหวาน เสิร์ฟพร้อมขนมตาล และโรยหน้าด้วยชีสครับ

02288h79x2d4

ไก่ผัดกับเห็ด เสิร์ฟพร้อมขนมตาล รสชาติกลมกล่อมครับ

7rn10d6mvqyh

ไส้กรอกโรมาเนีย รสชาติเค็มเหมือนกับทุกๆ ร้านครับ

w35436frezfx

ปิดท้ายด้วยซุปอีกหนึ่งถ้วยครับ มื้อนี้เจ้าของร้านแถมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วเล็กๆ ที่นำเชอรี่มาเป็นส่วนประกอบของเครื่องดื่ม ดื่มปุ๊บรู้สึกซาบซ่า และหวานติดคอ ถามลูกค้าโต๊ะข้างๆ เขาบอกว่าเป็นเครื่องดื่มพื้นเมืองครับ สนนราคามื้อค่ำนี้อยู่ที่ 112 lei ครับ

7m0oefjm5bmc
wd6pjjkoi6u5

นั่งรอเวลาจนฟ้าเปลี่ยนสีสมใจ ถือเป็นอันจบภารกิจของวันนี้โดยสมบูรณ์ครับ

ผมแนะนำว่า จุดเที่ยวของเมืองชิกิโชอะราส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขต citadel ซึ่งใช้เวลาเที่ยวเต็มที่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็เที่ยวหมดแล้ว ดังนั้นถ้าหากวางแผนเที่ยวดีๆ ให้มาถึงที่ชิกิโชอะราช่วงบ่าย แล้วเก็บที่เที่ยวให้ครบ นอนค้างที่นี่ 1 คืน หรือมาถึงที่นี่ช่วงเย็น พักค้างคืน เช้ามาเก็บที่เที่ยวให้ครบโดยใช้เวลาสักครึ่งวัน แล้วไปหาที่เที่ยวที่เมืองอื่นจะดีกว่าการนอนค้างที่นี่ถึง 2 คืนครับ

ติดตามชม ROMANIA #5 : Salina Turda ได้ที่ https://th.readme.me/p/5243

ความคิดเห็น