จากความเดิมตอนที่แล้ว ROMANIA #4 : Sighisoara https://th.readme.me/p/5240

วันนี้ผมมีจุดหมายปลายทางที่เมืองคลูช นาโปกา (Cluj Napoca) โดยระหว่างทางจะแวะเที่ยวที่สวนสนุก Salina Turda กันครับ เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 07.00 น. สำหรับรถเช่าในวันนี้ ผมให้ทางโรงแรมติดต่อมาให้ เลยทำให้เช้านี้ผมไม่ต้องลากกระเป๋าลงไปยังลานจอดรถเหมือนวันที่มาถึงชิกิโชอะราแล้ว

จากชิกิโชอะราเราใช้เวลาเดินทางไปยัง Salina Turda ประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยระยะทางกว่า 155 ก.ม.ครับ

หลายคนอาจแปลกใจ มาเที่ยวตั้งไกลทำไมถึงมาเที่ยวสวนสนุก บอกก่อนเลยว่า ถ้าเป็นสวนสนุกธรรมดาๆ อย่างสวนสยามหรือดรีมเวิร์ดบ้านเรา ผมคงไม่จัดไว้ในโปรแกรมอย่างแน่นอน แต่ Salina Turda ไม่ใช่สวนสนุกธรรมดาครับ ผมว่าน่าจะมีสวนสนุกแบบนี้ที่เดียวในโลกเลยก็ว่าได้

Salina Turda ตั้งอยู่กลางที่โล่งแจ้งแบบนี้เลยครับ สามารถจอดรถได้บริเวณข้างถนน ด้านหน้าของสวนสนุกจะมีร้านขายของฝากมากมายครับ

ถึงแล้วครับสวนสนุก แปลกใจไหมครับว่าทำไมไม่ยักเห็นเครื่องเล่นต่างๆ เลย ขอเฉลยเลยดีกว่า สวนสนุก Salina Turda เป็นสวนสนุกใต้ดิน ที่สร้างในเหมืองเกลือเก่า ตั้งอยู่ลึกลงไปใต้ดินกว่า 120 เมตรเลยครับ

ก่อนอื่นมาซื้อบัตรเข้าชมกันก่อน ที่นี่เสียค่าเข้าคนละ 20 lei ครับ

แผนผังของสวนสนุก ดูตรงนี้แล้วอาจจะยังมองภาพไม่ออกว่ามันคือสวนสนุกยังไง ใจเย็นๆ ครับ

ผมเดินไปตามบันไดที่มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ ทอดตัวลงสู่เบื้องล่าง

จากผนังอุโมงค์ที่เป็นอิฐ ตอนนี้ผนังเปลี่ยนเป็นสีดำ ผิวมัน ลักษณะคล้ายลูกคลื่น บวกกับอากาศที่เริ่มเย็นลงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ให้อารมณ์ลึกลับเชียวครับ

พลันสายตาเหลือบไปเห็นกล้องวงจรปิดที่มีเกล็ดเกลือเกาะติดอยู่ครับ

จากผิวอุโมงค์สีดำๆ เมื่อสักครู่ เปลี่ยนเป็นสีขาว ผิวตะปุ่มตะป่ำ ลองเอานิ้วแตะที่ผนังและนำมาแตะที่ลิ้น รสชาติเค็มเลยทีเดียวครับ

จากทางเดินหลัก จะมีเส้นทางแยกไปห้องต่างๆ ตามห้องต่างๆ จะมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องมือที่ใช้ในการทำเหมืองเกลือครับ

อีกห้องหนึ่งทำคล้ายๆ กับโบสถ์เล็กๆ มีรูปสลักของพระเยซูครับ

เส้นทางหลักมาหยุดอยู่ตรงนี้ครับ

เส้นทาง ณ ตอนนี้เป็นคล้ายๆ ระเบียงที่เดินริมหน้าผา ดูแล้วก็หวาดเสียวอยู่ไม่น้อย บริเวณระเบียงมีการขึงตาข่ายเพื่อป้องกันของหล่นลงไปด้านล่าง แต่กันคนหล่นไม่ได้นะครับ ดังนั้นต้องเดินแบบระวังกันหน่อย เพราะทางเดินบริเวณระเบียงก็ไม่ได้ราบเรียบมากนัก

มองลงไปด้านล่าง เห็นเครื่องเล่นหลายอย่างอยู่เหมือนกัน มีทั้งลานโบว์ลิ่ง มินิกอล์ฟ เครื่องเล่นของเด็กเล็กอย่างสไลด์เดอร์

มีโต๊ะปิงปองด้วย จากระเบียงตรงนี้ เราจะต้องลงไปด้านล่างครับ สำหรับการจะลงไปด้านล่างมีทางเลือกให้ 2 ทางคือ เดินลงตามบันได

อีกทางเลือกหนึ่งคือการลงลิฟต์ครับ

ผมเลือกทางเลือกแรก คือเดินลงบันได เพื่อที่จะได้ซึมซับกับบรรยากาศให้ได้มากที่สุดครับ

สวนสนุก Salina Turda เป็นสวนสนุกใต้ดินที่สร้างในเหมืองเกลือร้างที่เก่าแก่ที่สุดของโลก มีประวัติมายาวนั้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เดิมเหมืองนี้มีการขุดดินเพื่อเอามาทำเกลือ เมื่อเวลาผ่านไปบริเวณที่ขุดนั้นก็ยิ่งลึกลงๆ กลายเป็นเหมือนวังขนาดใหญ่มหึมา ทรงสูงแบบระฆังคว่ำ และมาหยุดขุดเจาะในปี ค.ศ.1932 จนมาถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เหมืองแห่งนี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ให้กลายเป็นศูนย์การแพทย์และสถานที่ลี้ภัยครับ

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านพ้นไปนานนับสิบๆ ปี เหมืองแร่แห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้าง ทางรัฐบาลท้องถิ่นก็เลยเปลี่ยนเหมืองเกลือธรรมดาให้เป็นพิพิธภัณฑ์เกลือ บอกเล่าเรื่องราวถึงประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจ จนสุดท้ายได้ฟื้นฟูให้กลายเป็นสวนสนุกใต้ดิน และได้ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ใต้ดินที่สวยที่สุดในโลกด้วยครับ

ภายในสวนสนุกได้จัดทำอัฒจันทร์ให้นั่งชมการแสดงต่างๆ ด้วย

มินิกอล์ฟ

สิ่งที่เป็นไฮไลท์ที่สุดบริเวณลานเครื่องเล่น เห็นจะเป็นชิงช้าสวรรค์ครับ ถึงจะดูไม่ได้ทันสมัยจ๋าเหมือนสวนสนุกทั่วไป แต่ผมว่าชิงช้าสวรรค์แบบโครงเหล็กนี้มันเข้ากับสถานที่แห่งนี้มากๆ

ที่ผนังของเหมืองเกลือยังเห็นเกลืออายุนับพันปีที่งอกและย้อยอย่างงดงามเลยครับ

และที่เป็นไฮไลท์ที่สุด ผมว่าน่าจะเป็นจุดนี้ครับ มันคือทะเลสาบ ที่เราสามารถลงไปพายเรือรอบๆ ทะเลสาบได้ด้วย อารมณ์นี้ผมจินตนาการเหมือนอยู่ในห้วงอวกาศเลยครับ

จากลานสวนสนุก เราต้องเดินลงไปด้านล่างอีก เพื่อลงไปยังทะเลสาบครับ โดยจะมีสะพานให้เราข้ามไปยังเกาะกลางทะเลสาบ

เกาะกลางทะเลสาบ ผมจินตนาการเหมือนอิเล็กตรอนทางวิทยาศาสตร์เลยครับ

จุดที่เป็นโพรง บริเวณผนัง จุดนั้นคือลานเครื่องเล่นครับ

มองคนพายเรือแล้วจินตนาการไปต่างๆ นานา บรรยากาศน่ากลัวว่าจะมีจระเข้หลุดออกมาทักทายครับ ผนังของเหมืองเกลือเป็นริ้วคล้ายหินอ่อน สวยงามมากๆ

จากทะเลสาบ หากไม่อยากเดินขึ้น-ลงบันได เพื่อไปยังลานเครื่องเล่น สามารถใช้ลิฟต์ได้ ลิฟต์ที่นี่จะมี 2 ช่วงครับ คือช่วงจากระเบียงด้านบนสุดของเหมืองลงมายังลานเครื่องเล่น และ จากลานเครื่องเล่นลงมายังทะเลสาบครับ

สำหรับขาขึ้น ผมเลือกใช้บริการของลิฟต์ครับ จะได้เที่ยวครบทุกอรรถรส

เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว ระหว่างทางที่จะเดินออก ก็ยังมีห้องจัดแสดงต่างๆ ให้ชมไปตลอดทางครับ

Crivac room เป็นห้องแปดเหลี่ยม บริเวณนี้จะมีแท่นที่ทำเป็นฐานไว้ยกชั้นหินเกลือ แท่นนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1881 ครับ

ห้องนี้โชว์ลวดลายของเกลือครับ

อุโมงค์ที่จะเดินไปทางออกครับ

สำหรับทางเข้าออก จะมี 2 ทางนะครับ ให้จำให้ดีว่าเราเข้าทางไหน ต้องออกทางนั้น เพราะทางเข้าออกทั้ง 2 ทางอยู่คนละฝั่งกันเลย ให้สังเกตป้ายบอกทางดีๆ ครับ ไม่งั้นถ้าออกผิดทางแล้วจะเดินกันขาลากเหมือนผมครับ

อากาศด้านล่างสวนสนุกค่อนข้างเย็น คนขี้หนาวควรเตรียมเสื้อกันหนาวลงไปด้วย สำหรับเครื่องเล่นต่างๆ ในสวนสนุก หากต้องการจะเล่นต้องซื้อบัตรเครื่องเล่นเพิ่มจากบัตรค่าผ่านประตูนะครับ แต่ลิฟต์นั้นไม่เสียค่าบริการครับ

ถ้าหากใครวางโปรแกรมมาเที่ยวเมืองคลูส นาโปกา แนะนำว่าไม่ควรพลาดให้เข้ามาเที่ยวที่สวนสนุกแห่งนี้นะครับ และมาให้ถึงสวนสนุกตั้งแต่เช้า เพราะสายหน่อยคนเยอะมากครับ สวนสนุกแห่งนี้เปิดตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. ลองแวะมาเที่ยวนะครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

ก่อนอำลาเมือง Turda ขอเก็บบรรยากาศ มุมสูงกันสักหน่อยครับ

ติดตามชม ROMANIA #6 : Cluj Napoca ได้ที่ https://th.readme.me/p/5244