สวัสดีค่ะ แมวน้ำ Seally-Go-Round ค่า
รีวิวนี้เอาทริปเมื่อต้นปีมาบอกเล่า เพราะต้นเดือนหน้า ฟาร์มจิมทอมป์สันจะเปิดให้เข้าชมแล้ว ปีนึงมีแค่ 1 เดือนเท่านั้นเองใครอยากไปถ่ายรูปสวยๆกลางทุ่งดอกไม้สีสันสดใส รับรองมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน^^
จริงๆ แมวน้ำเคยเข้ามาเที่ยวฟาร์มจิมแล้วครั้งนึง ตั้งแต่ช่วงปีแรกๆที่เค้าเปิดให้เข้าชม เคยรีวิวไว้ในบล็อกตัวเองตามลิ้งนี้
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vassaire&...
จำได้ว่าช่วงนั้นราคาตั๋วเข้าชมนี่ไม่ถึง 100 บาท แต่ปีนี้น่ะเรอะ ฮึๆๆ สองร้อยกว่าบาทแล้วจ้า แพงขึ้นทุกปีเลยน้าาา T T
พอดีช่วงนั้นมีภารกิจต้องกลับไปเอาข้าวที่บ้านที่ปักธงชัย โคราช ประจวบเหมาะว่า ฟาร์มจิมทอมป์สันเปิด และอยู่ห่างจากบ้านไม่เกิน 5 โล แวะสิครับรออะไรล่ะ ^^
ชื่อ theme ของปี 2558 คือ มังมูนบุญข้าว2558 ก็จะพูดถึงเรื่องข้าวกับประเพณีของคนภาคอีสานที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวพันกับข้าวนั่นเอง
แต่ค่าเข้าปีนี้แอบโหด วันธรรมดา 180 วันเสาร์-อาทิตย์ 220 แต่แมวน้ำมาช่วงวันปีใหม่ 280 จ้าาาาาา แพงมากกกก...!!!
แต่ไหนๆมาแล้วเนาะ แมวน้ำเคยไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นค่าเข้าไม่ถึงร้อย ก็สนุกสนานประทับใจ มีมุมให้ถ่ายรูปเล่นเยอะดี ยิ่งแสงเย็นตอนสี่โมงกว่ายิ่งสวย แต่ปีนี้มาตอนเที่ยงเลยจ้า แดดโหดมาก แต่อากาศยังปราณีไม่ร้อนอบอ้าวพอมีลมเย็นบ้างเล็กน้อย มีดอกไม้เยอะดีโดยเฉพาะทุ่งดอกคอสมอสที่เป็นภาพจำของที่นี่ รวมการแสดงทั้งวิถีชาวบ้านทั้งปลูกข้าว ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม อยู่ได้ทั้งวันเพลินๆ^^
ด้วยความที่ตากล้องส่วนตัวมีภารกิจต้องไปสีข้าวตามที่ลูกค้าสั่งเป็นของขวัญปีใหม่ นัดกับโรงสีไว้แล้ว แมวน้ำเลยจำต้องเข้าไปเปรี้ยวในฟาร์มจิมแต่เพียงผู้เดียว
อ่าววววว...เฮ้ยยยยย....แล้วใครจะถ่ายรูปให้เค้าล่ะ T T
แล้วตากล้องคู่ใจ ก็ยื่นอุปกรณ์เสริมมาให้ คือ... tripod ขาตั้งกล้อง พร้อมบอกว่า "อ่ะ เอาไป ถ่ายเองแล้วกันนะ"
รับขาตั้งกล้องมา กระพริบตาปริบๆ แล้วตอบไปว่า "โอเค ถ่ายเองก็ได้"
วันนี้เลยควบตำแหน่ง ตากล้องและนางแบบในร่างเดียวกัน ^^'
พอจ่ายค่าตั๋วเข้าไปก็นั่งรถของฟาร์มเพื่อไปยังจุดต่างๆ
จุดแรกเค้ามาปล่อยทิ้งไว้ตรงนี้ ซึ่งเป็นลานทุ่งดอกไม้ กว้างๆ
มีที่พักให้รับประทานอาหาร ของว่างเล็กๆน้อยๆ
มาถึงตอนเที่ยงๆ ขอนั่งหลบแดดแป๊บ แดดแรงจริงๆ ใครจะมาโบก Sunblock มาหนาเลยจ้า
พักผ่อนใต้ร่มไม้ ค่อยเย็นหน่อย
นั่งสักครู่ พอทำใจได้ว่าต้องออกไปสู้กับแสงยูวี ก็เลือกมุมเหมาะๆ ที่คนไม่เยอะ
(ไม่ใช่อะไร อาย ตั้งกล้องเอง ถ่ายเอง)
ข้อดีของวันแดดแรงๆคือ ฟ้าสวย อากาศแจ่มใส
เอาล่ะ มุมนี้แล้วกัน ข้อควรระวังในการตั้งกล้อง คือ
ระวังมืิอดีโฉบเอากล้องไปด้วย เพราะในขณะที่เรายืนโพสท่าอยู่นั้น เราคงไม่ได้ระแวดระวังอะไรมากนัก หาที่ที่คนไม่พลุกพล่านดีกว่า ปลอดภัย
ได้มุมเหมาะๆแล้ว ก็ตั้งกล้อง จับเวลา 10 วิ ให้พอวิ่งทันไปอยู่ในเฟรม
ไม่ต้องตั้งไกลมากนะ เดี๋ยววิ่งไม่ทัน วิ่งไปวิ่งมากลางแดดเที่ยงๆมันเหนื่อย ^^'
รูปนี้ตั้งระหว่างช่องทางเดินอีกช่องนึง แล้วรีบเดินเข้ามา ผ่านหน้ากล้องช้าๆให้รู้สึกว่า มีคนถ่ายขณะเราเดิน
กว่าจะได้ก็สองสามช็อท จนคนแถวนั้นมองด้วยความเอ็นดู ^^'...(หืมม...เอ็นดู???)
ไหนลองตรงดอกคอสมอสบ้าง
(ช่วงที่ไปคือประมาณวัน 3 ม.ค. ซึ่งที่นี่เปิดมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว มีดอกร่วงไปบ้าง
ตรงที่ถ่ายคือ มีช่องทางเดินเข้าไป แล้วตั้งกล้องหรือซูมให้ดอกไม้อยู่ด้านหน้า เป็น foreground ให้ได้มุมที่เห็นว่าชั้นอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้
***ไม่แหวกเข้าไปเหยียบย่ำ กอดอกไม้ หรือไปแหวกให้ดอกไม้ล้มเสียหายนะจ้ะ จับกิ่งก้านดอกไม้อย่างเบามือ เก็บดอกไม้ให้คนอื่นๆที่ยังไม่ได้มาได้ชื่นชมได้ถ่ายรูปสวยๆบ้าง ^^***
บรรยากาศทั่วไปนอกจากมีดอกไม้แล้วก็จะมีการตกแต่งด้วย ศิลปะท้องถิ่นของคนอีสาน
หุ่นไล่กา
กระติ๊บข้าวเหนียว
เดี๋ยวเราไปถ่ายตรงหอชมวิวข้าวโพดตรงนู้นกัน
Background ข้าวโพดมีความเกร๋
ไหนๆลอง Self portrait กับฉากข้าวโพดหน่อย
มัวแต่หลับตาหันหลัง เค้าเอากล้องไปล้าววว...555 มาดัดให้ตรง มาcropออกให้ได้
(ปกติแมวน้ำจะถ่ายเป็นไฟล์raw มาก่อนแล้วค่อยมาแก้หลังกล้องทีหลัง บางทีแสงตอนที่ถ่ายมาไม่ค่อยเป็นใจ ก็เอามาแก้ให้ดีขึ้นได้ แต่ถ้าถ่าย.jpg มามันแก้ยาก ^^)
มุมตรงนี้ดีนะ ร่มดี ไม่ร้อน อยู่ได้ยาวๆ เสียอย่างเดียวคนเยอะ เขิน
ขึ้นไปดูวิวด้านบนกัน
เวลาตั้งกล้องถ่ายเองก็บังคับโฟกัสยากหน่อย ไอ้ที่อยากให้ชัดก็ไม่ชัด มือใหม่หัดถ่าย ก็งี้ แหะๆ ^^'
เสียดายกล้องที่ใช้คือ Fuji XA2 สั่งกดชัตเตอร์ด้วยมือถือไม่ได้
ก็เหนื่อยหน่อยนะ วิ่งไปวิ่งมาหลายรอบหน่อยจนกว่าจะได้รูปที่พอใจ
ถ่ายเองก็ดีอย่างนะ อยากได้มุมไหนจัดการเองเลย ^^ บางทีให้คนอื่นถ่าย อาจจะไม่ถูกใจ ไม่ได้รูปแบบที่เราอยากได้
ทำเป็นเล่นโทรศัพท์แบบเผลอๆ และ เบลอๆ ด้วย โฟกัสพลาด ^^'
มุมนี้คนน้อย ยืนอยู่นานพอสมควร
จะดมทำมายยย มันไม่มีกลิ่นนนนน...
ดอกคอสมอสนี่น่ารักดีเนาะ ^^
รู้จักดอกนี้ครั้งแรกก็ตอนที่มาเที่ยวฟาร์มจิมครั้งก่อนนู้นแหล่ะ
เดินต่อไปโซนหมู่บ้านอีสานบ้างดีกว่า (แต่ถ้าใครขี้เกียจเดิน ก็รอรถของฟาร์มที่ผ่านก็ได้จ้า)
บ้านอีสานใต้ถุนสูง
จากจุดนี้ จะเป็นแปลงนาข้าวพันธุ์ต่างๆ
มีปราสาทข้าวอยู่ตรงนั้นด้วย
เดินไปจนสุดก็จะเป็นโซนหมู่บ้านที่มีกิจกรรมต่างๆให้ได้เล่นกัน และมีการสาธิตการทำผ้าไหมด้วย
เห็นละครหลายเรื่องมาถ่ายทำกันที่นี่
เซลฟ์พอร์ทเทรตกันหน่อย โซนนี้แดดร้อนมาก คนเยอะด้วย แต่ความอายตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้วแหล่ะ 555
นั่งคุยกะกองฟางก็ได้หรอออ...
แดดบ่ายๆนี่แสบดีโนะ ฮี่ๆๆๆ สังเกตว่าแขนเริ่มแดงละ
กิจกรรมสำหรับเด็กๆก็มีให้ทำ ใครอยากระบายสีดินเผาก็มีให้ได้เล่นกัน มาเที่ยวได้ของที่ระลึกฝีมือตัวเองด้วย
ดินปั้นรูปฟักทอง สัญลักษณ์ฟาร์มจิม
แม่ไก่ออกไข่วันละฟองๆ
เดินนานเริ่มหิวแล้ว ไปหาอะไรกินเล่นกันหน่อยดีกว่า
โซนอาหารอยู่ด้านหลังนี้เอง
ก่อนอื่นแลกการ์ดเงินสดก่อน (ถามพี่คนขายว่าใช้เงินสดหรือคูปองคะ พี่ตอบมาว่าน้องต้องแลกคีย์การ์ดก่อนค่ะ ^^')
ในโซนนี้ก็จะมีร้านเหมือนฟู้ดคอร์ททั่วไป มีอาหารจานเดียว อาหารอีสานส้มตำ เครื่องดื่มสมุนไพร ขนมขบเคี้ยวแบบไทยๆ ราคาไม่แพงเลย ฝากท้องที่นี่สบายๆ
โต๊ะที่นั่งใต้ร่มไม้ มีบริการให้พร้อม
แมวน้ำได้ยำแหนมข้าวทอดกับปอเปี๊ยะทอด แล้วก็น้ำกระเจี๊ยบ รสช่าติอร่อยใช้ได้เลย
อิ่มแล้ว เดินเล่นต่อ เดี๋ยวไปดูเค้าทำผ้าไหมกัน
แถวปักธงชัยนี่มีชื่อเสียงเรื่องผ้าไหมอยู่แล้ว ยิ่งฟาร์มจิมทอมป์สันนี่โด่งดังเรื่องผ้าไหมมานาน
เจ้าหนอนไหมกินใบหม่อน
ภูมิปัญญาชาวบ้านนี้สร้างความสวยงามและเอกลักษณ์ของผ้าไทยให้มีคุณค่าสูงส่งจริงๆ ^^
เดินจากโซนทำผ้าไหม ก็จะมีเวทีแสดงดนตรีและการแสดงพื้นบ้านของคนอีสาน เมื่อกี๊ได้ยินเสียงกลุ่มพาเหรด ดังเลย
นักท่องเที่ยวนั่งชมการแสดงกัน อย่างคุณลุงชาวต่างชาติท่านนี้ (หมวกสวยนะเนี่ย...มีขายด้วยนะ ใบละ 150 บาท )
เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอศาลาริมน้ำ
จริงช่วงระหว่างหมู่บ้านอีกสานไปโซนสุดท้ายที่ขายของที่ระลึกค่อนข้างไกล ใครขี้เกียจเดินก็รอที่จุดรถของฟาร์มจอดแล้วนั่งไปดีกว่า แต่เดินมาแล้วก็เดินมาเรื่อยๆ ช่วงบ่ายแก่ๆแดดร่มแล้วเดินได้ๆ
ถึงโซนสุดท้ายแล้ว คือโซนของฝาก ใครอยากได้ของฝากติดไม่ติดมือก็ช็อปปิ้งกันได้เลย แต่แมวน้ำได้มาแค่ ผัดหมีโคราชกึ่งสำเร็จรูป ราคาแพคละ 100 ลาท มี 3 ห่อ สีสันสดใสด้วยสีจากธรรมชาติ สีเขียวของใบหม่อน/สีแดงของลูกหม่อน/สีเหลืองของฟักทอง
เหยยยย...คือดี ...เก๋ไก๋มีgimmick
กลับเอามาลองทำที่บ้าน ก็รสชาติโออยู่นะ แต่ถ้าใครอยากได้รสจัดกว่าในน้ำปรุงสำเร็จที่แพคมมาในซองก็เพิ่มเองเลยจ้า
ก่อนจะออกพ้นประตู ขอเริงร่ากับทุ่งคอสมอสอีกสักรอบ นี่เดินทั่วฟาร์มจิมเลยนะเนี่ย แค่นั่งจุดแรกเท่านั้นเอง ^^'
มุมนี้คนเยอะหน่อ่ย เพราะเป็นจุดสุดท้ายที่รอรถไปส่งทางออก ต้องอาศัยเอาตัวเองบังคนด้านหลังเอา
กว่าจะได้ช็อทนี้วิ่งถ่ายอยู่นาน ^^' ตั้งเวลาไว้ ชัตเตอร์กำลังจะลั่นแล้ว เด็กเดินตัดหน้างี๊ ต้องไปกดตั้งถ่ายใหม่ กับการเรียนหนูตั้งใจขนาดนี้มั้ยลูกกกก....
อิจฉาคู่ด้านหลัง มีคนมาถ่ายให้ T T
ได้เวลากลับบ้านแล้ว เหนื่อยมากกกก..ร้อนมากกกก...ตัวเหนียวเป็นเมือกแล้ว แต่สนุกดี อยู่ตั้งแต่เที่ยงกว่าๆ จนสี่โมงเย็น คุ้มค่าค่าตั๋ว 280 บาทล้าววว...
ตอนนี้ตากล้องตัวจริงเสร็จงานแวะมารับอยู่หน้าฟาร์มแล้ว ได้เวลากลับบ้านแล้วล่ะ ถ้ามีโอกาส ได้กลับไปบ้านช่วงฟาร์มจิมเปิดให้เข้าชมก็อาจจะแวะไปอีกนะ สนุกดี ได้ถ่ายรูปกับดอกไม้ ซึ่งมีสอดแทรกความรู้และวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย เลิศเลอ
(แอบรู้สึกว่าสนุกกว่า ไปทุ่งลาเวนเดอร์ที่ Tomita farm ที่ Furano อีกนะ ^^)
(****กระซิบว่า ช่วงที่ไปวันนั้นคือ 3 ธ.ค. รถตีเข้ากทม. ติดมาก ขากลับมาบ้านที่พัทยาใช้เส้น 304 จากปักธงชัยมาพัทยาใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง T T...เพราะฉะนั้น หลีกเลี่ยงการมาเที่ยวช่วงปีใหม่นะจ้า แมวน้ำขอเตือน)
พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ
ติดตามเรื่องราวประสบการณ์การออกเดินทาง และการทำอาหารสไตล์แม่ครัวแมวน้ำ ได้ที่ Facebook : Seally-Go-Round
https://www.facebook.com/seallygoround/?ref=hl
ส่วนใครอยากมาวิ่งถ่ายรูปกลางแดดจ้ากับทุ่งดอกไม้สวยๆ อดใจรออีกแค่เดือนเดียว จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เปิดให้เข้าชมวันแรก วันที่ 3 ธ.ค. 59 - 8 ม.ค. 60 ในธีม"คักแท้แท้ แพรอีโป้" มหัศจรรย์ผ้าขาวม้า มาตามแผนที่ด่านล่างนี้เลย จองตั๋วก่อนราคาถูกกว่าซื้อหน้าฟาร์มจ้า ใครอยากได้ราคาถูก คนน้อย ไปเที่ยววันธรรรมดากันดีกว่า ช่วงปีใหม่คนเยอะและตั๋วแพงจ้า
Credit: https://www.facebook.com/JimThompsonFarmTour/
Seally-Go-Round
วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.51 น.