สวัสดีครับวันนี้มาเขียนแชร์ประสบการณ์สุดไฮโซกับในหัวข้อสุดเฟี้ยว สลัดปีกความจนออกไปแล้วไปซนบิน Business class ครั้งแรกในชีวิต !

ผมมีข้อสงสัยเรื่องการบิน Business class มาตั้งแต่เด็กละครับว่ามันดียังไง ทำไมมันถึงแพงกว่าตั๋ว Economy ถึง 3-4 เท่า คิดมาตลอดว่าถ้าบริษัทไม่จ่ายให้ไปดูงานหรือชิงโชคอะไรได้ คงไม่บินเด็ดขาด ใครมันจะบ้าบินวะแพงขนาดนั้น ตอนรู้ว่าจะได้บิน Business class ก็ตื่นเต้นมากและตั้งใจจะเอามาเขียนให้อ่านในมุมมองของคนที่ไม่เคยขึ้นเปรียบเทียบกับตอนบิน Economy ว่ามันเป็นยังไง มันดีไหม มันคุ้มค่าหรือเปล่า? ดูแล้วตัดสินใจกันเองครับ

แจ้งไว้เวลาอ่านจะได้ไม่งงนะ ผมบิน Business Class ทั้งหมด 3 flight ซึ่งแต่ละเครื่องรูปแบบการจัดวางเก้าอี้ไม่เหมือนกัน

กรุงเทพ-โดฮา BKK-DOH QR837 2.50 – 5.15 น. Boeing 777-300ER (Business)
บาร์เซโลน่า-โดฮา BCN-DOH QR140 15.45 – 23.05 น. Airbus A330-200 (Business)
โดฮา-กรุงเทพ DOH-BKK QR836 1.50 – 12.40 น. Airbus A380-800 (Business)

ว่าด้วยเรื่องสายการบินที่จะรีวิวในวันนี้สักหน่อย

Qatar Airways เป็นสายการบินที่ติด Top 5 สายการบินที่ดีที่สุดในโลกมาตลอดช่วงปีหลังๆนี้ครับและเธอก็เป็นเพิ่งได้รางวัลสายการบินที่ดีที่สุดในโลกในปี 2015 จาก SKYTRAX อีกด้วย

– สำหรับการบินของกาตาร์ แอร์เวย์ส นั้นจะเป็นการบินแบบ Hub to spoke อธิบายแบบภาษามนุษย์คือ ทุกไฟล์ทบินทั่วโลกจะมีศูนย์กลางอยู่ที่สนามบิน Doha (Hamad International Airport) สมมุติจะบินจากกรุงเทพไป Madrid เส้นทางการบินจะเป็น กรุงเทพ-โดฮา-มาดริด ในทางกลับกันเวลาบินกลับก็จะเป็น มาดริด-โดฮา-กรุงเทพ เรียกว่าไม่ได้บินตรงหน่ะแหละ

ข้อดี ของการไม่บินตรงที่ผมชอบคือ … ถูกและไม่เมื่อย ราคามักจะถูกกว่าการบินตรง และนอกจากนั้นเวลาบิน 2 รอบเนี่ยมันดีตรงที่เราได้บินครั้งละแค่ 6-7 ชั่วโมงแล้วลงมาพักเดินเล่นก่อน ได้กินอาหารสองมื้ออีกด้วยนะ ผมเคยบินตรงไปเยอรมัน 11 ชั่วโมงครึ่งเป็นอะไรที่เมื่อยมากๆ นอน ตื่น นอน กระทั่งเล่นโยคะแก้เมื่อยบนเครื่องก็แล้ว ก็ยังไม่ถึงสักกะที

ข้อเสีย ใช้เวลาบินนานกว่า เวลาบินรวมจะมากกว่าบินตรงประมาณ 3 ชั่วโมง เอ้าเกริ่นมายาวไปละ มาเริ่มกันเลย

เช็คอินไม่ต้องรอคิว

เริ่มต้นด้วยการเช็คอินที่แปลกและแตกต่างไปจากการบินปกติของผม คือมันมีช่องพิเศษสำหรับ Business Class ครับ ท่านผู้ชม !! เป็นอภิสิทธิ์แรกที่คุณจะได้รับ ไม่ต้องต่อคิวยาวเหยียดแย่งกับชาวบ้าน เดินมาสวยๆเกร๋ๆเข้าไปเช็คอินได้เลย

น้ำหนักกระเป๋ามากกว่า

สำหรับสายการบิน Qatar Airways ถ้าบิน Business จะโหลดกระเป๋าได้ 40 กิโลกรัม / ส่วน Economy จะโหลดได้ 30 กิโลกรัม ห่างกันเล็กน้อย

ตรวจคนออกเมืองแบบอภิสิทธิ์

เมื่อเช็คอินแล้วพนักงานจะให้บัตร Premium lane มาครับ ปกติเวลาที่เราจะขึ้นเครื่องเราต้องผ่านด่านตรวจคนออกเมือง และสเกนเรื่องความปลอดภัย ซึ่งกระบวนการพวกนี้จะนานมากกกกก ถ้าวันนั้นคนเยอะ บางครั้งกินเวลาถึง 1 ชั่วโมง! แต่ถ้ามีบัตรนี้จะเข้าช่องพิเศษได้คนน้อยมาก รวดเร็วทันใจ

คนธรรมดาขึ้นบันไดเลื่อนไปเลยครับ ส่วนใครรวยมีบัตร Premium lane ด้านล่างเลี้ยวซ้ายเลย

มีเลานจ์ให้ใช้

หลังจากตรวจทุกสิ่งอย่างเสร็จแล้ว คนทั่วไปทำไงครับ ก็นั่งรอกันไป หิวก็ไปหาร้านค้าอะไรกินในสนามบินใช่ป๊ะ แต่สิทธิ์พิเศษสำหรับคนที่บิน Business class เค้าจะมีเลานจ์ให้ใช้ครับ ข้างในเลานจ์ก็จะมีอาหาร เครื่องดื่มทั้งเมา ไม่เมา มีครบถ้วนให้เลือกสรรกันมากมาย อิ่มแปล้กันตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่องเลย


ขึ้นเครื่องก่อนใคร

ได้ขึ้นเครื่องก่อนชาวบ้าน เวลาขึ้นเครื่องเค้าก็จะให้สิทธิ์ผู้โดยสาย First Class เป็นอันดับแรก ตามด้วย Business Class แล้วค่อยเป็น Economy Class ตามลำดับครับ

เสริฟน้ำตั้งแต่ขึ้นเครื่อง

ปกติเวลาผมนั่ง Economy ขึ้นเครื่องเราจะไม่ได้รับบริการใดๆทั้งสิ้นจนกว่าเครื่องจะขึ้นไปแตะระดับหนึ่ง ซึ่งก็กินเวลาสัก 30 นาที แต่สำหรับ Business พอขึ้นเครื่องปุ๊บพนักงานจะเดินมาแนะนำตัว พร้อมถามว่า 'จะทานน้ำอะไร?' และ'เอาผ้าร้อน หรือ ผ้าเย็น?'

นั่ง-นอนสบายโคตรรรรรรร

ที่นั่งกว้างมาก นั่งสบายมาก ปรับได้ทุกสัดส่วน ปรับนอนแนวราบได้เลย 180 องศา

อาหารดี เลือกได้ กินเวลาไหนก็ได้

ขึ้นเครื่องแล้วปกติอาหารของ Economy จะมีให้เลือกแค่ 2 อย่างใช่ไหมครับ "Fish or chicken" อันนี้มีเมนูให้สั่งเลยครับ อยากกินอะไร อยากกินกี่จาน ได้หมดดด และอาหารเป็นแบบ หิวเมื่อไหรค่อยสั่ง อยากขึ้นมานอนก่อนอีก3ชั่วโมงค่อยกิน ถ้าเป็น Economy เหรอครับไม่กินตอนนี้ก็อดกินเลย

เมนูอาหารเลือกได้ตามใจชอบ อยากกินอะไร น้ำอะไร สลัดไหม ของหวานอะไรหล่ะ จัดมาเลย
เครื่องดื่มมึนเมาก็มา ผมไม่สันทัดและไม่ได้สั่งครับ อ่านคร่าวๆมาว่าขวดละเกิน 5 พัน บางคนก็กินเอาคุ้มจนเมาไปเลย 555

หลังจากบิน Flight แรกมาถึงโดฮา แล้วจะพาไปชมโลกอนาคตกัน Business Class lounge นี้ชื่อ Al Mourjan Business Lounge และสนามบิน Hamad International Airport สนามบินแห่งใหม่ของประเทศ Qatar หรูมาก ไฮโซมาก ทำผมละเพื่อนๆจาก มาเลย์ สิงคโปร์ ที่สนามบินเค้าหรูแล้วนะ เจออันนี้เค้ายังออกปากว่าเวอร์เลยครับ ผมว่านี่มันโลกอนาคตชัดๆ


สระว่ายน้ำ นี้เป็นส่วนหนึ่งในโรงแรม ที่ ตั้งภายในสนามบิน !! อ่านไม่ผิดครับโรงแรมในสนามบิน จะโหดไปไหน

ตัดฉากไปที่ Flight ที่บินกลับจาก บาร์เซโลน่า-โดฮา BCN-DOH QR140 15.45 – 23.05 น. รอบนี้ได้นั่ง เครื่องบิน Airbus A330-200 (Business)

ที่นั่งจะจัดเรียงแบบ 2-2-2 ครับนั่งติดกันเป็นคู่ๆ

ลองเข้าไปนั่งและยืดขาดู ผมสูง 174 ยืดขาแล้วยังเหลือที่อีกครับ สบายจริงๆ

ลองดูมุมมองจากคนนั่งบ้างครับ ชีวิตดี้ดี ดูหนัง จิบชาไป เพลินเลย

ส่วนของหูฟังเป็นแบบครอบหูขนาดFullsize คุณภาพเสียงดีมาก เสียงซ้ายขวาแยกได้ชัดเจน รวมทั้งเบสก็มาเต็มดูหนังสนุก รวมทั้งมี noise cancellation ที่ดีมาก ไม่มีเสียงใดๆรบกวนเลย

และไฟลท์สุดท้ายก่อนตกสวรรค์ของผม เป็นเครื่องบินที่หลายคนใฝ่ฝันจะได้บิน นั่นคือ AirBus A380 นั่นเอง

โดฮา-กรุงเทพ DOH-BKK QR836 1.50 – 12.40 น. Airbus A380-800 (Business)

ส่วนของการจัดวางจะเป็นไปตามลักษณะของเครื่องบินรุ่นใหม่ครับ คือ 1-1-1-1 ที่นั่งจะเฉียงๆซ้อนกันหน่อย ซึ่งเป็นการแก้ข้อเสียของเดิมที่เป็น 2-2-2 แบบเดิมที่เวลาเสริฟต้องข้ามหัวคนนอก เค้าเลยปรับใหม่ครับ

ส่องเก้าอี้นั่งดู จะเป็นลักษณะเฉียงๆหน่อยเพื่อให้ซ้อนเก้าอี้ได้เยอะ แต่ก็ยังนั่งสบายอยู่เดียวดูภาพต่อไปนะ

ลองมาชมที่นั่งผมมั่งครับ

ลองนั่งและยืดขาดูก็ยังสบายเหมือนเดิมนะ ไม่แตกต่างกับการจัดเรียงเก้าอี้แบบเก่า ตอนแรกคิดว่าจะยืดได้ไม่สบายเท่าแบบเก่านะ

สำหรับเครื่องใช้ส่วนตัว จะมีการแยกชายหญิงและจัดมาให้ตรงกับเพศผู้โดยสารครับ ฝั่งผู้ชายมีอะไรบ้างมาดูกัน

– ถุงเท้า

– ผ้าปิดตา

– ลิปมัน

– ไหมขัดฟัน

– โฟมล้างหน้า Armani

– น้ำหอม Armani acqua di gio

เรียกได้ว่าของที่ให้นี่ดีจนเก็บกลับบ้านแทบไม่ทัน โดยเฉพาะน้ำหอม Armani acqua di gio ผมไปสูดดมกลิ่นมาหลายครั้ง ปลื้มมากกก


สำหรับ Flight ดึกจะมีชุดนอนให้เปลี่ยน อันนี้พูดเลยว่าอยากจิ๊กกลับบ้านมาใส่ต่อเพราะผ้านิ่มมากกกกกก ไม่รู้ว่าเค้าให้เอากลับได้ป่าวใครรู้บอกที?? ( ได้คำตอบแล้วว่าเอากลับได้ครับ )

อันนี้ตอนเล่าให้แม่ผมฟังแม่นึกภาพไม่ออกว่าเก้าอี้แบบนั้นแล้วมัน นอน 180 องศาได้ยังไงเลยเอามาให้ดูกัน

พอกดปุ่มเตียงนอนใช่ไหมครับ ตรงขาก็จะยื่นออกมา และเบาะด้านหลังก็จะเอนลงไปจนครบ 180 องศาครับ นอนสบายมากเลย

ดูอาหารบ้างเริ่มต้นด้วยการเสริฟ starter ก่อนนะครับ พนักงานจะมาปูโต๊ะให้และจัดเรียงอาหารอย่างสวยงาม เหมือนเวลาไปกินตามภัตตาคารเลย Main course ผมเป็นเมนูน่าจะ เสต๊กอกไก่ ประมาณนี้ครับจำชื่อไม่ได้

ปิดท้ายด้วยขนมหวานครับ เป็นช็อคโกแลตมียี่ห้อเจ้าหนึ่ง อร่อยมาก

ถ้าถามว่า ทำไมคนอยากลองบิน Business class A380 เพราะมันพิเศษตรง มีเลานจ์บนเครื่องด้วยนี่แหละครับ ถ้าขาดื่มบอกเลยว่า "เปรม" ผมไม่ได้ใช้บริการ หลังจากถ่ายภาพเครื่องบินเสร็จผมก็นอนยาวเลยเพลียจากการเที่ยวหนัก

บทสรุป

. ขอสรุปด้วยความเห็นส่วนตัว จากที่สัมผัสมา ผมว่านะคนที่จ่ายเงินเพื่อขึ้น Business class ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แบบที่ผมเคยคิดครับ เพราะประสบการณ์และความสบายที่ได้รับมันต่างกันสิ้นเชิง ตอนนี้ผมคงยังไม่มีปัญญาขึ้นด้วยตัวเองแน่ๆ แต่ในอนาคตที่มีรายได้มากเพียงพอ "ชิลจะไม่ทน" ไม่ทนนั่ง Economy แน่ๆ

ก่อนจบรีวิวผมต้องขอขอบพระคุณสปอนเซอร์ใจดี Qatar Airways เจ้าหน้าที่ไทย และ สิงคโปร์, การท่องเที่ยวสเปน ( Spain tourism board ) สำนักงานสิงคโปร์ และ ทีมงาน agency บริษัท พับบลิกฮิต จำกัด ที่ช่วยประสานงานและดูแลเป็นอย่างดี ที่ทำให้ได้ชิลมีโอกาสไปนั่ง Business class ไปเที่ยวสเปนอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนในชีวิตครับ

ถ้าใครยังไม่อ่านเรื่องสเปน ตามลิงค์นี้ไปเลย แซ่บมาก https://th.readme.me/p/1017

Chill Journey

 วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.29 น.

ความคิดเห็น