สบายดี ขอทักทายเป็นภาษาลาวสวยๆนะคะ นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกที่เราทดลองทำค่ะ เราคุยกับเพื่อนว่าอยากไปเที่ยวกันเองแบบชิวๆ ง่ายๆ สบายๆ เลยตัดสินใจเลือกไปเที่ยว ‘วังเวียง เวียงจันทน์’ เดินทาง 4 วัน 3 คืน และตกลงนัดวันเดินทางกัน เราเดินทางวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2562 ถือว่าเป็นทริปต้อนรับเดือนเกิดของเราและเพื่อนเลยล่ะค่ะ มาเริ่มรีวิวกันเลยนะคะ

วันที่ 14 ก.ค. 62

เวลา 04.00 น. เรานัดเจอเพื่อนๆ ที่สนามบินดอนเมืองอาคาร 2 ขาออก ชั้น 2 ประตู 14-15 เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์ Nok Air (DD)

(เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินนกแอร์)

ทำเช็คอินและโหลดกระเป๋าเรียบร้อยก็ได้ Boarding pass เวลาขึ้นเครื่อง 05.40 น.

เสร็จแล้วเราก้ไปแลกเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคาร เราแลกมาคนละประมาณ 1,500 บาทไทย (440,000 กีบ)

เรียบร้อยแล้วเราก็เข้าเกต รอขึ้นเครื่องเวลา 05.40 น. บินลง จังหวัดอุดรธานี

พอถึงสนามบินอุดรธานี เราเดินออกไปหาสามล้อตรงจุดจอดรถหน้าสนามบิน เจอคุณลุงใจดีพาเราไปส่งที่ บขส.อุดร คุณลุงคิดเราแค่ 80 บาทเท่านั้นเอง

(คุณลุงใจดี พาซิ่งไป บขส.อุดร)

ถึง บขส. อุดร เราพาเพื่อนเดินไปที่เคาน์เตอร์ บขส.999 (เราจองตั๋วออนไลน์ และจ่ายเงินที่เซเว่นแล้ว)

**ต้องรีบจองนะคะ ไม่งั้นเต็มน้าา เว็บ บขส.999 https://www.busticket.in.th/ )

(ตั๋ว บขส.999 ที่จองออนไลน์ ปริ้นออกมาจากคอมได้เลยนะคะ ใช้ตั๋วใบนี้ได้เลยค่ะ)

เวลา 08.30 น. รถบัสมาแล้ว เราก็เตรียมตัวเดินทาง ใช้เวลานั่งรถจากอุดร - หนองคาย ประมาณ 1 ชม. นิดๆ

(หน้าตารถบัสที่เราเดินทาง นั่งไปยาวๆ 4 ชั่วโมงเลยจ้าา)

นั่งไปสักพักใหญ่ๆ ก็ถึงด่านข้ามไทย-ลาวแล้วล่ะค่ะ วิธีทำคือง่ายๆ แค่ลงไปยื่นพาสปอร์ตและใบ ต.ม. (ใบ ต.ม. เจ้าหน้าที่จะแจกให้เขียนบนรถนะคะ) ให้เจ้าหน้าประทับตราเพื่อผ่านแดนขาออกไทย และไปประทับตราขาเข้าลาว เรียบร้อยแล้วไปซื้อบัตรผ่านแดนฝั่งลาวราคาประมาณ 50 บาท พอผ่านเรียบร้อยแล้วก็เดินไปซื้อซิมลาว (เราซื้อมา 80 บาท ใช้ได้ 3 วัน) แล้วก็ตุนเสบียง เสร็จแล้วก็เดินไปขึ้นรถบัสคันเดิมนะคะ

(ด่านผ่านแดนไทย-ลาว ขาเข้า)

เสร็จแล้วก็เดินทางยาวๆ เส้นทางค่อนข้างโค้งเยอะหน่อยนะคะ ใครเมารถแนะนำทานยาแก้เมารถ หลับยาวๆเลยค่ะ นั่งไปสัก 2 ชม. จะถึงที่แวะพักรถค่ะ เจ้าหน้าที่ให้เวลาเราพัก 30 นาที

(จุดพักรถระหว่างทางไปวังเวียง)

(ทดลองทานปาเต หรือขนมปังลาวค่ะ)

พักเรียบร้อยขึ้นรถเดินทางยาวๆ ก็ถึงที่เที่ยวเราแล้วล่ะค่ะ จุดจอดรถจะเป็นที่ บขส.วังเวียง พอลงรถรับกระเป๋าปุ๊ปเรากับเพื่อนพุ่งตรงไปซื้อตั๋วขากลับไปลงเวียงจันทน์เลยค่ะ รถจะเป็นรถตู้ เขาจะมารับเราที่หน้าโรงแรม เราแค่แจ้งชื่อโรงแรมที่เราพักกับเจ้าหน้าที่เท่านั้นค่ะ

(ตารางเดินรถที่ บขส.วังเวียง ค่ะ)

พอซื้อตั๋วขากลับไปเวียงจันทน์เรียบร้อยก็รอรถสองแถวฟรี ไปส่งแถวๆซากุระบาร์ซึ่งเป็นจุดรวม แล้วก็แยกย้ายจากคนอื่นๆเดินไปโรงแรม โรงแรมที่เราพักชื่อว่า ริเวิอร์วิว บังกะโล (จองผ่านอโกด้า)

(วิวระหว่างทาง ที่เดินไปโรงแรมมันก็จะธรรมชาติสุดๆค่ะ)

ถึงโรงแรมแล้ว เราก็ทำการ Check in เข้าห้องพัก

(รูปภายในห้องพัก และบรรยากาศริมระเบียง ฟินสุดๆไปเลยค่ะ)

เรากับเพิ่อนนอนพักไปสักพักก็ออกไปถ่ายรูปเล่น และซื้อ One day ทริปสำหรับวันถัดไป

(รูปวิวสวยๆ รอบๆโรงแรม)

เราซื้อ One day ทริปสำหรับวันถัดไป ในโปรแกรมมีเที่ยวที่ ลอดถ้ำน้ำ,ถ้ำช้าง,พายเรือคายัค,บลูลากูน รวมอาหารเที่ยงในราคา 150,000 กีบ (350 บาท) เรียบร้อยก็เดินชิวๆไปถนนคนเดินวังเวียง

(ถนนคนเดินวังเวียง)

เสร็จแล้วเราก็ไปหาอาหารเย็นทานกัน เราเลือกทานหมูกระทะ ซึ่งเป็นหมูกระทะจริงๆ ค่ะ มีแค่หมู 1 จาน และผัก 1 กล่องเท่านั้นเอง ในราคา 34,000 กีบ

(หน้าตาหมูกระทะ ประมาณนี้ค่ะ)

หลังจากทานเสร็จเรากับเพื่อนก็เดินกลับโรงแรม พักผ่อนกัน เตรียมตัวสำหรับ One day ทริปค่ะ

***************************************************

วันที่ 15 ก.ค. 62

ตอนเช้าเราตื่นมาทำธุระส่วนตัวเตรียมพร้อมสำหรับทริปวันนี้ค่ะ เรากับเพื่อนไปหาอาหารเช้าทานกัน เราเลือกทานข้าวเปียก กับโรตี

(หน้าตาอาหารเช้าเราก็จะน่าทานหน่อยๆค่ะ ข้าวเปียก กับโรตี)

ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปนั่งรอไกด์กับรถมารับไปวันเดย์ทริป บนรถจะมีเพื่อนๆเยอะเลย ทั้งคนไทยและต่างชาติค่ะ

สถานที่แรก วัดถ้ำช้าง เราก็ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล

สถานที่สอง ลอดถ้ำน้ำ (ที่นี่เราไม่มีรูปนะ) นั่งห่วงยางเกาะเชือกเข้าถ้ำ ไกด์เขาจะให้ไฟฉายติดหัวมาให้คนละอันนะคะ ออกจะลอดถ้ำน้ำมาแล้วก็มาทานอาหารเที่ยงกัน

(หน้าตาอาหารเที่ยงค่ะ)

ทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินกลับไปนั่งรถไปที่ริมแม่น้ำซอง เตรียมตัวพายเรือคายัคชมวิวยาวๆเลยค่ะ ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร

(พายเรือคายัคชมวิวแม่น้ำซอง)

หลังจากพายเรือคายัคยาวๆ เราก็ถึงจุดขึ้นเรือแล้วค่ะ รถมารับเราไปที่บลูลากูนต่อ

(บลูลากูนน้ำจะสีฟ้ามากๆ แถมเย็นมากๆด้วยค่ะ)

เวลา 17.00 ก็ได้เวลานัดหมาย กลับโรงแรมไปทำภารกิจส่วนตัว เราเลือกที่จะซื้ออาหารง่ายๆเข้าไปทานที่ห้องพัก เพราะเรามีเพลนไปซากุระบาร์ต่อ

ใช้เวลาอยู่ซากุระบาร์สักพัก เราก็กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม

***************************************************

วันที่ 16 ก.ค. 62

ตื่นเช้าทำภารกิจส่วนตัว เก็บของใส่กระเป๋า Check out ออกจาโรงแรมค่ะ เตรียมตัวรอรถมารับไป บขส.วังเวียง

เวลาประมาณ 09.00 น. รถตู้มารับเดินทางยาวๆไปเวียงจันทน์ มีจุดพักรถจุดเดิม ใช้เวลาเดินทางยาวๆประมาณ 4 ชม. ก็ถึงเวียงจันทน์ รถไปส่งที่ บขส.เวียงจันทน์สายใต้ เราก็ต่อรถสองแถวไปที่โรงแรม

Check in โรงแรมมาลีน้ำพุ (เราลืมถ่ายรูปที่พักไว้) พักสัก 1 ชม.

ออกไปหาข้าวเที่ยงทาน (แต่เราทานกันตอนบ่ายสองแล้ว)

(มื้อเที่ยงง่ายๆ ส้มตำแซ่บๆ)

หลังจากทานมื้อเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินไปไหว้พระกันค่ะ

สถานที่แรก วัดสีสะเกตุ (ค่าเข้าชม 10,000 กีบ)

สถานที่สอง หอพระแก้ว (ค่าเข้าชม 10,000 กีบ)

สถานที่สาม ประตูไซ (ที่นี่เราไม่ได้ขึ้นด้านบน เพราะเพื่อนเดินไม่ไหว)

เราต่อสามล้อไปสถานที่ถัดไป

สถานที่สี่ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ (ลักษณะการสร้างจะคล้ายกับพระธาตุพนมบ้านเรา)

จากนั้นเราก็นั่งรถสองแถวกลับเข้าที่พัก พักสักแปปก็ไป Night market ไปเดินเล่นชิวๆ และหาข้าวเย็นทานกัน จากนั้นเราก็กลับมาพักผ่อน

***************************************************

วันที่ 17 ก.ค. 62

วันนี้เราตื่นสายหน่อยๆ ตื่นเช้ามาทำภารกิจส่วนตัว ลงไปทานอาหารเช้าที่โรงแรม เสร็จแล้วขึ้นมาเก็บของเตรียมเดินทางกลับไทย

เรา Check out ตอน 11.00 น. ให้รถทางโรงแรมไปส่งที่ตลาดเช้า (ค่ารถประมาณ 30,000 กีบ) ถึงตลาดเช้าเราไปซื้อตั๋ว บขส. อุดร - เวียงจันทน์ รอบ 11.30 น. (ค่าตั๋วประมาณ 22,000 กีบ)

(ตารางเดินรถ บขส.เวียงจันทน์)

ซื้อตั๋วเรียบร้อยเราก็ไปรอขึ้นรถบัสที่ช่องเดินรถหนึ่ง รถมาแล้วเราก็ขึ้นไปนั่งตามที่นั่งได้เลยค่ะ นั่งไปสักพักเราก็ถึงด่าน ทำทุกอย่างเหมือนขาออกเลยค่ะ

(ด่านขาเข้าประเทศไทย)

(รถบัส อุดร - เวียงจันทน์)

จัดการข้ามด่านเรียบร้อยก็นั่งรถเข้า บขส.อุดร พอถึงเราก็ไปหาอะไรทานที่เซ็นทรัลอุดรธานี เพื่อรอเวลาขึ้นเครื่อง

ได้เวลาเราเรียกสามล้อไปที่สนามบินอุดร (ค่ารถ 120 บาท) ถึงสนามบินอุดรเราทำเช็คอิน โหลดกระเป๋ารอขึ้นเครื่องประมาณ 18.40 น.

ถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 20.00 น. ไปรอรับกระเป๋าที่สายพาน แยกย้ายกับเพื่อน บายๆ แยกย้ายกันกลับบ้าน จบทริปอย่างสนุกสนาน

***************************************************