เดินป่า ตามล่าหาน้ำตกที่โบลาเวน ลาวใต้

>> ติดตามเรื่องราวการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เพจสวัสดีคนแปลกหน้า
https://www.facebook.com/hellostrangerpage/

>> IG : hellostrangerth
https://www.instagram.com/hellostrangerth
.
.
เดินป่า ตามล่าหาน้ำตกที่โบลาเวน ลาวใต้

“ที่ราบสูงโบลาเวน ดินแดนมหัศจรรย์แห่งลาวใต้” ชื่อที่หลายคนรู้จักในนามของแหล่งเพาะปลูกกาแฟชั้นดีระดับโลก แต่สำหรับสายป่า สายลุย แล้วล่ะก็ “โบลาเวน” คือสวรรค์ของคนที่รักธรรมชาติและการผจญภัยอย่างแท้จริง ที่นี่คือดินแดนที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ถูกรายล้อมไปด้วยผืนป่า ภูเขา และความยิ่งใหญ่ของน้ำตก ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายๆ คน เหมือนถูกต้องมนต์ จนต้องเดินทางไปเห็นด้วยตาของตัวเอง ถึงแม้ว่าการจะเข้าไปสัมผัสความสวยงามนั้น จะต้องบุกป่าฝ่าดง ลำบากสักแค่ไหนก็ตาม แต่เรามองว่า มันคือการลงทุน ลงแรงที่คุ้มค่ามากๆ บอกได้คำเดียวเลยว่า...สายแอดเวนเจอร์ที่ชอบความท้าทาย ความตื่นเต้น ไม่ควรพลาด!!

ทริปเดินป่าประเทศเพื่อนบ้าน 3 วัน 2 คืน ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเดินป่าต่างประเทศเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าป่าของลาวใต้จะไม่ได้แตกต่างจากป่าในประเทศไทยที่เราเคยไปเดินมาแล้วก็ตาม แต่ทริปนี้ก็โหดเอาการเลยทีเดียว ทำให้เราต้องเตรียมความพร้อมเป็นสองเท่า ทั้งสภาพร่างกายและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ให้พร้อม

รู้สักนิดก่อนคิดไปโบลาเวน

01.ที่ราบสูงโบลาเวน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดงหัวสาว เมืองปากซอง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว มีระดับความสูงประมาณ 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล

02. เริ่มต้นเดินทางด้วยรถสองแถวเช่า จากด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ไปลงที่บ้านหนองหลวง และเดินเท้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 5 กม. ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง

03.สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ คือ น้ำตกใหญ่กลางป่า ชื่อ ตาดขมึด ตาดเสือ ตาดตาเก็ด

04. ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว คือ เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ของทุกปี

05. จำเป็นต้องมีคนนำทางหรือลูกหาบ 1 คน ต่อนักท่องเที่ยว 2 คน

06.สปป.ลาว ไม่ต้องขอวีซ่า ใช้แค่หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ที่มีอายุอย่างน้อย 6 เดือน ในวันเดินทาง

การเตรียมความพร้อม

01.ควรสวมใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหุ้มส้นเท่านั้น ไม่ควรใส่รองเท้าแตะ

02.เส้นทางเดินเท้าบางช่วง จะมีทางแยก อาจทำให้เข้าใจผิดและหลงป่าได้ ดังนั้น ไม่ควรเดินป่าคนเดียว

03.เส้นทางเดินเท้าไปน้ำตก จะมีทางชันและลื่น ควรระมัดระวัง แนะนำให้เตรียมไม้เท้าเดินป่า หรือ Trekking pole ไปด้วย

04. ด้านบนมีอากาศค่อนข้างเย็น ควรเตรียมเครื่องกันหนาวให้พร้อม และสวมเสื้อแขนยาว

05.เตรียมกระเป๋าที่สามารถกันน้ำได้ดี

06.เพื่อความปลอดภัย ควรปฏิบัติตามกฎและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

เมื่อมาถึงชายแดนไทย - ลาว เราเริ่มต้นออกเดินทาง จากด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก นั่งรถสองแถวคันใหญ่ที่มีไกด์ชาวลาวเป็นผู้นำทาง เดินทางมุ่งหน้าสู่บ้านหนองหลวง เมืองปากซอง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว.

คนแปลกหน้าที่ร่วมเดินทางไปกับเราในทริปนี้กว่า 30 ชีวิต พวกเราเตรียมอาหารและสิ่งของต่างๆ พร้อมแยกของบางส่วนให้ลูกหาบ

เมื่อมาถึงปุ๊บ ก็มีคนแปลกหน้าตัวน้อยมารับ ส่งรอยยิ้ม พร้อมโบกมือทักทาย เด็กน้อยชาวลาวน่ารักใช่ไหมล่ะ : )

และแล้วเราก็มาถึงบริเวณจุดเริ่มเดินที่บ้านหนองหลวง ซึ่งเราจะต้องเดินเท้าเข้าไป ผ่านไร่นาของชาวบ้าน ไร่กาแฟ ลัดเลาะเข้าป่า จนไปถึงจุดหมายปลายทางของเราในค่ำคืนนี้ นั่นก็คือ ด่านใหญ่

ระยะทางเดินเท้าจากบ้านหนองหลวง-ด่านใหญ่ ประมาณ 5 กม. ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แต่ด้วยความที่ก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมา ทำให้การเดินทางยากลำบากมากขึ้น ทั้งเปียก ทั้งลื่น

ยิ่งเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์ ความสนุก ความมันส์ ความท้าทาย หาได้ง่ายๆ เพียงแค่...เปิดใจและออกเดินทาง

เราเดินเข้าป่ามาเรื่อยๆ จนเจอธารน้ำขนาดใหญ่ จุดนี้เองที่ทำให้เราตื่นเต้นมากๆ เราต้องเดินไต่สลิงข้ามธารน้ำที่ไหลเชี่ยวด้านล่าง ยิ่งดึก ยิ่งมืด ยิ่งสูง ยิ่งหวาดเสียว ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว แต่เราก็ผ่านมันมาได้ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ได้เดินป่าตอนกลางคืนเป็นครั้งแรก

สำหรับใครที่ไม่อยากไต่สลิงข้ามธารน้ำ เพราะกลัวความสูง ก็สามารถเดินลุยฝ่าน้ำแทนได้ แต่ต้องบอกก่อนว่า น้ำไหลแรงมาก ต้องเดินจับเชือกต่อกันไปเรื่อยๆ

พวกเราเดินมาถึงด่านใหญ่ในตอนกลางคืน ซึ่งมืดและหนาวมาก หลังจากที่เหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน พวกเราก็ตั้งแคมป์ ร่วมวงกินข้าว ก่อนที่จะนอนพักเอาแรง เพื่อการตามล่าหาน้ำตกในวันรุ่งขึ้น

บรรยากาศยามเช้าท่ามกลางธรรมชาติและไอหมอกจางๆ มันช่างดีเหลือเกิน

เช้าวันที่ 2 ของทริปเดินป่าประเทศเพื่อนบ้านในวันนี้ เรามีจุดหมายอยู่ที่น้ำตก ตาดขมึด โดยเราจะต้องเดินเท้าเป็นระยะทางประมาณ 3 กม.

ระหว่างทางเดินเต็มไปด้วยความยากลำบาก เราต้องทั้งเดินป่า ลุยน้ำ ลุยโคลน ปีนซอกหิน ไต่บันได และลุยฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย

ความลำบากและเส้นทางเดินป่าที่แสนจะท้าทาย ทำให้ที่ราบสูงโบลาเวน กลายเป็นสวรรค์ของคนที่รักธรรมชาติและการผจญภัยอย่างแท้จริง

สุดท้าย เราก็ได้พบกับความยิ่งใหญ่ของ “ตาดขมึด” น้ำตกกลางป่าที่ใครๆ ต่างก็อยากมาเห็นกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิต

ความเหนื่อยตลอดการเดินป่าร่วม 2 ชั่วโมงกว่าๆ ได้หายไป เมื่อได้เห็นความอลังการของตาดขมึดที่อยู่ตรงหน้า (ตาด แปลว่า น้ำตก)

ช่วงหน้าฝน กระแสน้ำค่อนข้างแรง เราไม่ได้ลงไปเล่นน้ำด้านล่าง แค่ได้มาสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของน้ำตก ได้มาเห็นความอลังการของธรรมชาติ ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แล้ว

ได้เวลาเดินทางกลับแคมป์ และเดินเที่ยวชมธรรมชาติรอบๆ และความสวยงามของดอกเปราะภูสีชมพู ที่กำลังบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณลานกางเต็นท์

ดอกเปราะภูสีชมพู ที่กำลังบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณลานกางเต็นท์

หยาดน้ำค้าง เป็นพืชกินแมลง มักเจริญเติบโตอยู่ทั่วไปในที่โล่งบริเวณภูเขาหินทราย ทุ่งหญ้า หรือที่ชื้นแฉะบริเวณลำธาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200 เมตร

ใกล้ๆ กับลานกางเต็นท์ ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นน้ำตกได้จากไกลๆ

วันที่ 3 ของทริปนี้ พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้า เก็บแคมป์ เตรียมเสบียงอาหารเช้าแบบง่ายๆ และห่ออาหารส่วนหนึ่งไว้กินระหว่างเดินทางกลับ

เส้นทางไป-กลับทางเดิม เพิ่มเติมคือปริมาณน้ำที่สูงขึ้นเกือบถึงหัวเข่า จากการที่ฝนตกตลอดทั้งคืน แต่เราก็ยังคงต้องเดินลุยน้ำกันไป

เรื่องราวและความสวยงามระหว่างทาง ช่วยสร้างความทรงจำที่ดีให้กับการเดินทาง

ขอบคุณคนแปลกหน้ากว่า 30 ชีวิต ที่ร่วมเดินทางและลำบากไปด้วยกัน ทริปนี้สนุกมากๆ ได้รับมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนร่วมทางและประสบการณ์การเดินป่าที่ไม่เคยเจอมาก่อน ทริปหน้าจะไปที่ไหน...ฝากติดตามด้วยนะคะ : )

#ที่ราบสูงโบลาเวน #ลาวใต้

#HelloStranger #สวัสดีคนแปลกหน้า