ที่สุดของใจยกให้ให้..เมืองเลห์

---

รอบนี้ขอพาเพื่อนๆย้อนเวลาไปหาที่พักใจกันที่..เลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย

ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อซักประมาณ5ปีที่แล้วผ่านความอยากสัมผัสกลิ่นอายและอ้อมกอดแห่งหิมาลัย 

เราผู้จุดฉนวนความอยากจากวันเยาว์ส่งต่อเชื้อความอยากที่ว่าสู่มิตรสหายใกล้ชิดอีก4-5ชีวิตเพื่อสำเร็จความอยากนั้น

ก่อนไปก็หาข้อมูล ทำแพลนทริป ติดต่อคนที่จะเป็นไกด์และคนขับรถให้เสร็จสรรพ 

จะว่าไปเราก็จินตนาการภาพได้ไม่ชัดนักว่าเทือกเขาหิมาลัยที่เราอยากเจอจริงๆแล้วหน้าตาเป็นยังไง 

แล้วเลห์นี่สะท้อนความเป็นหิมาลัยได้แค่ไหนเพราะเมื่อพูดถึงหิมาลัยคนส่วนใหญ่ก็จะคิดถึงเนปาลซะมากกว่า

แต่คิดยังไม่ทันถึงไหนรู้ตัวอีกทีกัปตันก็ประกาศให้ผู้โดยสารเตรียมชมวิวเทือกเขาหิมาลัยจากมุมสูงก่อนแลนด์ดิ้งแล้ว

และทันใดนั้น OMG ...........

เป็นคำนี้จริงๆเมื่อเห็นวิวที่กัปตันว่าผ่านหน้าต่างลายพร้อยของเครื่องแอร์อินเดียลงไปด้านล่าง

บันดายอดเขาน้อยใหญ่สีน้ำตาลถูกห่มยอดด้วยหิมะขาวโพลนกำลังยิ้มต้อนรับพวกเราอยู่

ไม่นานหลังจากตะลึงพรึงเพริดกับวิวด้านล่างกัปตันก็พาพวกเราเข้าสู่อ้อมกอดแรกของหิมาลัย

สนามบินขนาดกระทัดรัดบรรจุนักท่องเที่ยวหลากสีสันจากทั่วทุกมุมโลก

ทุกคนกระตือรือร้นที่จะผ่านพ้นประตูบานใหญ่ด้านหน้าเพื่อโผเข้ากอดหิมาลัยอย่างเต็มอ้อม 

แต่แล้วเมื่อก้าวผ่านประตูใหญ่บานนั้นอ้อมกอดแรกที่เราได้รับกลับไม่ใช่หิมาลัยซะนี่

แต่เป็นพี่ๆคนขับรถที่ส่วนใหญ่รับบทไกด์ไปด้วยในตัวยืนโบกไม้โบกมือถือป้ายชื่อส่งเสียงเรียกmy friend, my friendมาแต่ไกล 

พวกเราเองก็มีmy friendมารอต้อนรับเช่นเดียวกัน5555 และนี่คืออ้อมกอดแรกของหิมาลัย ณ เมืองเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย

ส่วนนี่Brother Jimmyผู้ที่จะนำพาพวกเราไปรู้จักกับหลายหลากอริยาบทของหิมาลัยในเมืองนี้


การรับสัมผัสจากหิมาลัย ณ เมืองเลห์ในครั้งนี้ต้องยอมรับว่ามากกว่า50%ของเวลาหิมาลัยโอบกอดรัดฟัดเหวี่ยง(ใช้คำนี้คงไม่เกินไปเพราะเหวี่ยงจริงเหวี่ยงมากเหวี่ยงที่สุด55)พวกเราผ่านกล่องเหล็กเคลื่อนที่ขนาด7ที่นั่งของBrother Jimmyที่พาพวกเราลัดเลาะถนนสายแคบคดเคี้ยวที่อิงแอบ

อยู่ระหว่างแนวเทือกเขาและหุบเหว ขนาบข้างด้วยธารน้ำจากการละลายของน้ำแข็งในฤดูหนาวอยู่เป็นระยะ 

แต่กระนั้นพวกเราเองก็ยังมีโอกาสได้ลงไปสัมผัสลมหิมาลัยแบบเนื้อแนบเนื้ออยู่หลายครั้งหลายคราในหลากหลายอารมณ์ห์ไหมเอ๊ะจะว่าไปหน้าตาของหิมาลัยก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามความสูงจากระดับน้ำทะเลที่ขึ้นๆลงๆสลับกันไปในแต่ละวันอยู่นะ

ปล.จินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าหิมาลัยในพื้นที่ส่วนอื่นจะหน้าตาแบบไหนเหมือนกับที่เลห์ไหม

อย่างที่บอกไปว่าพวกเราเองก็มีโอกาสได้สัมผัสหิมาลัยแบบใกล้ชิดกับเขาอยู่เหมือนกัน

แต่สำหรับเราเองขอเลือก3สัมผัสจาก3สถานที่ ที่เป็นที่สุดของใจมาเล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน



ที่แรก Khardung La : Highest motorable road in the world

...ที่สุดของใจมอบให้ความธรรมดา...

ถนนเส้นที่สูงที่สุดในโลกที่รถสามารถวิ่งผ่านกับความสูง5,359เมตรจากระดับน้ำทะเล

ถ้าจินตนาการไม่ออกว่าสูงแค่ไหนให้ลองนึกว่าดอยอินทนนท์ต่อกัน2ชั้น

เราว่าทุกคนคงคาดหวังว่าเฮ้ยถนนที่สูงที่สุดในโลกมันต้องยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันนะ

แต่ทว่าสิ่งที่พวกเราเจอกลับมีเพียงป้ายแสดงข้อความเพื่อบ่งบอกสถานะล้อมรอบด้วยยอดเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ

หรือนี่รึเปล่าที่คนไปปีนเอเวอร์เรสชอบพูดกันว่าเมื่อขึ้นไปสู่จุดสูงสุดแล้วนั้นกลับพบเพียงความธรรมดากับตัวเราและลมหายใจเราเองเท่านั้น

ภูเขาสูงใหญ่ไม่เคยอวดอ้างตนเองมีเพียงผู้พบเห็นเท่านั้นที่จะกล่าวขานถึง รึเปล่านะ

ปล.เราไม่สามารถไปถึงเอเวอร์เรสของจริงได้ก็แค่ลองเทียบเคียงดู555

-

ที่ๆสอง Pangong Lake

...ที่สุดของใจสวยกว่าตา...

ทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก ความสูงประมาณ4,300เมตรจากระดับน้ำทะเลเป็นทะสาบสีเทอควอยส์ขนาดใหญ่กินพื้นที่2ประเทศอินเดียและทิเบต

ทะสาบใสกิ๊งนิ่งสงบโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาซ้อนทับสลับไปมา ไม่แน่ใจว่าจะใช้คำว่าสวยมากแบบก.ไก่ล้านตัวจะเกินไปไหม

ที่สุดของใจเมื่อPangongอ้าแขนต้อนรับพวกเราด้วยอ้อมกอดเย็นยะเยือกจากผืนน้ำและหิมะ ประแก้มทุกคนให้แดงก่ำจนน้ำมูกใสหยดติ๋ง

-

ที่สุดท้ายหมู่บ้านTurtuk

...ที่สุดของใจปล่อยให้เป็นอิสระ...


หมู่บ้านไกลโพ้น โพ้นจนเพื่อนร่วมทางตั้งคำถามระหว่างทางว่าที่นั่นมีอะไรพิเศษ

นั่นซิที่นั่นมีอะไรพิเศษพวกเราถึงต้องดั้นด้นปุเลงๆกันไปหลายชั่วโมงจนลืมนับ

แต่เมื่อไปถึงคิดว่าพวกเราทุกคนคงได้คำตอบของตัวเองโดยสมบูรณ์

Turtukเป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ติดชายแดนปากีสถานโอบล้อมด้วยเทือกเขาคาราโครัม บ้านเรือนก่อร่างสร้างด้วยหินก้อนใหญ่ซ้อนกัน

มีธารน้ำใสไหลรอบหมู่บ้าน มีทุ่งข้าวบาร์เล่กว้างสุดตาจนชนขอบเทือกเขา ผู้คนหน้าตาแตกต่างจากที่เคยเจอในเมืองเลห์และที่นี่มีมนต์สะกด!

พวกเราพากันเดินผ่านหมู่บ้าน ตัดทุ่งข้าวบาร์เล่ ลัดเลาะต้นไม้หน้าตาไม่คุ้นเพื่อไปจุดชมวิวท้ายหมู่บ้านระยะทางเดินพอได้เหงื่อ

เมื่อไปถึงมีชาวต่างชาตินั่งชมวิวเงียบๆอยู่แล้ว2คน ทำไมที่นี่มันดึงใจเราให้ช้าและสงบลงได้ขนาดนี้นะ

ภาพตรงหน้าคงเป็นคำตอบได้ดีว่าทำไมความเงียบถึงเป็นเพื่อนนั่งชมวิวที่ดีที่สุดในตอนนี้

Turtukเหรอ...บ้านๆเงียบๆช้าๆเหมือนเวลากำลังจะหยุดหมุนท่ามกลางอากาศเย็นบางเบา Peacefulมากจริงๆ

---

และนี่คือที่สุดของใจฉบับเลห์ ลาดัก ประเทศอินเดีย

สำหรับเราแล้วแค่เพื่อนร่วมทางดีๆเคล้าบทสนทนาธรรมดาๆแค่นี้ก็กลมกล่อมเป็นที่สุด

**ปล.แม้อาหารจะไม่ค่อยถูกปากมากนักก็เถอะ ฮ่าๆ


 

 

Mongkud

 วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 13.22 น.

ความคิดเห็น