ตอนที่ 4 น้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา

มาแว้วววว.....เรามาต่อกันเลย หลังจากที่ไปเที่ยว 4 วัดใน 1 วัน วันที่ 3 ของการเที่ยวญี่ปุ่น วันนี้เราตั้งเป้าหมายที่จะไปเที่ยวอะราชิยามา (Arashiyama) ศาลเจ้าโนโนมิยะ, สะพานโทเง็ตสึเคียว, วัดเท็นเรียวจิ, ป่าไผ่, วัดทอง คินคะคุจิ ดูเหมือนหลายที่นะ แต่จริงๆ 1 จุดมีหลายสถานที่ เราเดินทางจริงแค่ 2 ที่เท่านั้น

เริ่มเหมือนเดิมทุกครั้ง จากสถานี OSAKA เพื่อมุ่งหน้าไปสถานีเกียวโต อันนี้เราคงไม่ต้องอธิบายไรมาก เหมือนเดิม เมื่อเราถึงสถานีนี้เกียวโตแล้ว (ก่อนจะไปสถานีต่อไป แนะว่าให้ออกไปซื้อตั๋ว บัสก่อนนะจ๊ะ แล้วค่อยเข้าไปต่อ) เราก็ต้องเปลี่ยนสายรถไฟ เพื่อที่จะไปสถานี อะราชิบายะ สิ่งที่ช่วยคุณได้ สำหรับการนั่งรถไฟ

เราบอกเว็บที่ดูสายรถไฟแล้วนะ จากนั้นก็ค้นหาได้เลย เวลา สายรถไฟ เมื่อรู้ เราหาได้นั่งรถไฟ สาย JR Sagano line จุดที่เราจะลง คือ สถานี Saga Arashigama เมื่อเราออกจากสถานี เลี้ยวซ้ายเลย เดินตรงไปที่คนเยอะ การเดินครั้งนี้บอกว่า มีความงง และหลง แต่ไม่ต้องห่วงคนเยอะ เดินไปเถอะ

หน้าสถานี

ทางขวาที่เขาเดินไป

เมื่อออกจากสถานี เดินตามคนที่เขาไปกันเยอะ ตอนนั้นเราตัดสินใจเดินไปทางซ้าย เดินไปต่อไปเรื่อยๆ โดยเป้าหมายเราไม่ได้เน้นว่าจะไปจุดไหนก่อน ก็เดินไปเรื่อยๆ เจออันไหนก็แวะอันนั้น และจากที่ไปแล้วเราพากันเดินแบบงง ดังนั้น เพื่อไม่ให้คนมาอ่านหลงหรืองงเหมือนเรานะ แนะว่าเมื่อเดินออกจากสถานี จะมีป้ายแนะเส้นทาง เราแค่ถ่ายรูปและก็เดินไปทางซ้ายเลยจ้า

ฝั่งซ้ายที่เราจะเดิน

เมื่อเราแยกไปทางซ้าย ทางขวาก็มีคนเดินไปนะ แต่คนส่วนใหญ่จะออกซ้าย เราก็เดินไปกะเขาจะดีกว่า อ่อ....อยากจะบอกว่าเมื่อเราออกจากสถานี Saga จะสังเกตุว่าขวามือเรา จะมีสถานีท้องถิ่น ของเขาที่นั้น ซึ่งสถานีนี้ แนะว่าเป็นสายรถไฟโลเมนติก ไปช่วงซากุระ หรือ หิมะ จะเริ่ดมาก ซึ่งเป็นสาย Sagano Romantic train วิ่งเลียบแม่น้ำโฮซู (Hozu) มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม และในช่วงซากุระบานก็มีซากุระให้ชม แต่ไปครั้งนั้น เราต้องไปอีกหลายที่ ดังนั้นเราจึงไม่ได้นั่ง แนะว่าถ้าใครจะไปขอให้ 1 วัน เที่ยวที่นี้ไปเลย คุณจะเห็นอะไรได้มาก และตั๋วก็ต้องจองนะเพราะคนนั่งเยอะมาก

จุดถ่ายรูปของสถานีสายโลมานซ์

รถไฟสายโลมานซ์ที่จะขึ้น

ทางเข้าสถานี

ภายในสถานี จุดขายตั๋ว

มาต่อ...เมื่อเราไปทางซ้ายก็จะเป็นเส้นทางเล็กๆ เดินไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะผ่านบ้านเรือนของเขา เมื่อเดินไปสักพัก แนะว่าให้เดินไปทางซ้าย

ผู้ร่วมเดินทาง อ้อมีบริการเช่าจักรยานด้วยยนะ

ตอนเราไปเดินงง คนหายไปไหน

เราก็จะเจอวัดแรก แวะเข้าไปชื่นชมกันหน่อยแต่วัดนี้เราไม่ได้เข้าไปชม วัดนี้เสียค่าเข้าด้วยนะ แต่ระหว่างการเดินทางเข้าไปเราก็ชื่มชมไบไม้เปลี่ยนสีไปสองข้างทาง

และเมื่อชื่นชมกันแล้ว เราก็เดินออกเพื่อไปที่สะพาน เมื่อออกจากวัดก็เลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยก็จะเจอสะพานเรียกว่าฝายน้ำล้นชัด....เมื่อเรามองไปก็เป็นวิวสวยๆๆ ร่มรื่นดี

ก่อนไปสะพานได้ เราก้งง..เลยมาเจอร้านนี้...ก็แวะหากของกินแปป บอกว่าไม่ถูกจริตเลย

เมื่อเรารู้จุด...คือออกจากวัดเลี้ยวขวาก็ตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอสะพานเราก็นั่งพักผ่อนย่อยใจแปป ก่อนที่เราจะไปที่จุดอื่นๆต่อ

ตรงสะพานนั้น จะมีสองเส้นทางให้เราเดิน เดินฝั่งซ้าย ก็จะเปงเส้นทางเดินชื่อชมธรรมชาติ วิวสวยๆๆ หากเดินฝั่งขวา เราก็จะมุ่งสู่วัดและผ่าไผ่

ฝั่งขวาที่เราตัดสินใจเดินกัน

ตอนนั้นเรา...เราตัดสินใจเดินฝั่งขวา เนื่องจากเราจะไปป่าไผ่ เดินไปเรื่อยๆ ก็จะมีป้ายบอกทาง ระหว่างที่เราเดินก็จะผ่านสวนสาธารณะที่ใหญ่มาก เพื่อเดินทะลุเราก็ไปโพล่ป่าไผ่

สวนสาธารณะ


ป่าไผ่..

เมื่อมาทะลุป่าไผ่ คนเยอะมาก เนื่องจากเราไม่ได้ไปเช้า สายเมื่อไรนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศ ก็มากันพึบ ดังนั้น หากคุณอยากได้ป่าไผ่ที่เป็นของคุณ คุณต้องไปเช้ามากๆๆ ย้ำว่ามากๆๆ และเมื่อเราเดินทะลุป่าไผ่ ก็จะวัดๆๆ ให้เราแวะเข้าชม ซึ่งจะมีค่าเข้า ตอนนั้นเราไปไม่ได้เข้าสักวัด นอกจากนั้นแล้วเราก็มีเรือให้ชื่นชมธรรมชาติด้วยนะ ราคาไม่รู้เพราะเราไม่ได้นั่ง นอกจากเรือแล้วก็มี รถลาก ซึ่งเราก็ใช้บริการได้

เรือ..

รถลาก...

เมื่อเราออกจากป่าไผ่ ระหว่างทางก็จะมีวัดให้เข้าชม ซึ่งจะเสียค่าเข้า (ราคาก็ประมาณ 500 เยน) หากไปไม่เข้า ก็จะมีศาลเจ้าที่เอาไว้ขอความรัก แนะว่าเข้าไปขอสักหน่อยก็ดีนะ และเมื่อเราเดินกันจนพอแล้ว เพราะเราต้องไปสถานที่ต่อไป (ประทานอภัยไม่มีรูปนะจ๊ะ)

เมื่อเราออกจากป่าไผ่แล้ว เราก็จะมาโพล่ตรงที่ป้ายทางเข้าป่าไผ่ เพราะตอนตรงที่เราเข้าไปนั้น เปงข้างหลังไม่ใช่ข้างหน้า เมื่อออกมาแล้ว ก้จะมีร้านเบนโต๊ะเล็กๆ เราก็แวะทางอะไรหน่อยนะ ก่อนที่จะกลับไปสถานีที่เรามา เนื่องจากเราต้องมุ่งหน้าไปที่อื่นต่อ

ร้านหน้าทางเข้า


กองทัพต้องเดินด้วยท้องอิ่ม

เมื่อเราออกจากสถานี Saga จากสถานี JR Saga Arashiyama เราก็ต้องนั่งรถไฟอีกฝั่งเพื่อย้อนไปอีกสถานี โดยเรานั่งไปลง JR Emmachic เพื่อไปต่อรถเมลล์ไป Kinkakuji michi. เพื่อไปวัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง (วัดคิกคิวซัง โชกุน) ซึ่งสวยมาก

เมื่อเรามาถึงสถานีแล้ว...เดินออกจากสถานีเราก็จะเห็นป้ายรถถเมล์ ไม่ใช่ป้ายนี้นะที่เราจะขึ้นไปวัดทอง เมื่อออกจากสถานี ก็ให้เดินไปทางขวา เดินตรงไปก็จะเจอสี่แยก ให้เราข้ามถนนไปฝั่งซ้าย ซึ่งเราจะมองเห็นป้ายรถเมล์ สังเกตุว่าจะมีคนรอเยอะมาก เมื่อเราข้ามถนนไปรอรถเมลล์ สายที่เราจะขึ้น คือ 205 เมื่อเราขึ้นรถเมลล์ป้ายที่เราจะลง Kinkakuji michi อ้อ...ลืมบอกไป อย่าลืมซื้อตั๋ว Bus ด้วยนะ เพราะต้องใช้

สังเกตุเลยคนเยอะๆๆ

สายที่ขึ้น ไปคันไหน กลับคันนั้น

เมื่อเราถึงจุดลง...เราก็เดินเพื่อที่จะวัดทองกัน...เหมือนเดิมเสียค่าเข้ากันก่อนนะ เมื่อเราเข้าไปเขาจะบังคับให้เดินทางเดียวเพื่อเข้าไปจุดวิวที่สวยที่สุดในการชมวัดทอง ซึ่งก็เป็นจุดที่คนเยอะมาก และเมื่อผ่านจุดพีคแล้วเราก็เดินชื่นชมบรรยากาศมุมอื่นๆกันเถอะ

ต้องบอกว่าวัดทองมาช่วงไบไม้เปลี่ยนสี หิมะ ก็สวย เป็นจุดที่น่าไป

ตั๋วเข้า

อีกสักรูป

ระหว่างทาง

ร้านขายของข้างใน

จุดศักการะข้างใน

ทางออก

และเมื่อเราชื่นชมทั่วของวัดทองมันก้เยนย้่ำแล้วสินะ เราก็กลับโอซาก้ากันเถอะ การเดินทางกลับเมื่อเราออกจากวัดทองก็ให้ข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อไปป้ายรถเมลล์ และให้นั่งสายเดิมเพื่อไปลงที่สถานี Emmachic เนื่องจากเราต้องนั่งลงไปเพื่อไปลง เกียวโต และต่อกับ Osaka

คงไม่ต้องรายละเอียดนะ การเดินทางกลับ ก้เหมือนนั้่งที่ไทย ไปฝั่งไหน ขากลับก็กลับอีกฝั่ง และไปลงจุดเดิม....จบสำหรับวันนี้ ประมาณเอาให้คุ้ม

หากคุณกลับไม่ดึกมาก...ก็แวะไปย่านนัมบะ อีกสักวันก้ได้...แล้วแต่ชอบ ก่อนที่คุณจะเข้าที่พัก ข้อแนะนำก่อนจบ คือ ให้ 1 วันที่ Saga จะดีที่สุด เพราะมีหลายยจุดน่าเที่ยว โดยเฉพาะรถไฟสายโลมานซ์

ตอนต่อไป Universal แฮรี่ สาวนสนุก......

ความคิดเห็น