"ครั้งหนึ่งในชีวิต เรา คือ ผู้พิชิตภูกระดึง"

ภูกระดึงคงเป็นจุดเริ่มต้นการเดินป่าของใครหลายๆคน

เราเองก็เช่นกัน และนี่คือเรื่องราวการขึ้นภูกระดึงครั้งแรกของเรา 

เตรียมตัว เตรียมใจ ฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วไปลุยด้วยกันนะ

pv8qctuhkiof

เมื่อถึงวันที่ 1 ตุลาคมทีไร นั่นเป็นสัญญาณว่า ฤดูท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้มาถึงแล้ว โดยปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดให้เที่ยวชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2564 .. การมาเที่ยวภูกระดึงควรมาอย่างน้อย 3 ครั้ง เพราะ แต่ละฤดูของภูกระดึงมีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป 

- ช่วงปลายฝนต้นหนาว (เดือนตุลาคม - เดือนพฤศจิกายน) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่าน้ำตกและล่าหมอก ธรรมชาติจะเขียวๆ สดชื่น และเจ้าทากุก็ชอบฤดูนี้มากๆด้วย
- ช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม - เดือนมกราคม) 
เป็นช่วงเวลาของการล่าใบเมเปิ้ลแดง บางช่วงอากาศหนาวจนถึงเลขตัวเดียวเลยก็มี
- ช่วงฤดูร้อน (เดือนกุมภาพันธ์ - เดือนพฤษภาคม) 
เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่าทางช้างเผือก ต้นไม้ใบหญ้าจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ร้านค้าเริ่มเหลือน้อยตามนักท่องเที่ยวที่ขึ้นภ

Route Plan แพลนคร่าวๆ สำหรับทริปภูกระดึง 3 วัน 3 คืน

5xnne2s1kd33



Day 0 การเตรียมตัวและการเดินทาง
2 พฤศจิกายน 2563

1. จองรถทัวร์ มีให้บริการหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ภูกระดึงทัวร์, บชส.999, แอร์เมืองเลย, sunbus เป็นต้นแนะนำให้ขึ้นรอบ 20.30 น. - 22.30 น. ใช้เวลาเดินทาง 7-8 ชั่วโมงจะได้มาถึงเช้าพอดี

fli6e4rwxsqt

:: เพิ่มเติมเรื่องของการเดินทาง ::

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว

- ให้เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และ อำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 เลย-ขอนแก่น หลังจากนั้นก็เลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

- ให้ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จนไปถึง จังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และ ผ่านตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

- ให้เดินทางผ่าน จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่าน จังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ หลังจากนั้นก็เดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2

การเดินทางโดยรถไฟ ขึ้นรถไฟที่ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ปลายทางสถานีรถไฟขอนแก่น ต่อรถโดยสารสาย ขอนแก่น - เลย ก็จะถึงอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

การเดินทางโดยเครื่องบิน ขึ้นเครื่องมาลงที่สนามบินเลย (แนะนำไฟล์ทเช้าจะได้มาถึงก่อนเที่ยงเดี๋ยวจะไม่ทันเวลาขึ้นภู) ข้ามฝั่งมารอรถประจำทาง ขอนแก่น-เลย รถจะมาทุกๆ 30 นาที แล้วต่อสกายแลปหรือมอเตอร์ไซด์เข้าที่ทำการ

2. จองที่พัก สามารถจองที่พักล่วงหน้าได้ที่  http://nps.dnp.go.th จองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน และจองติดต่อกันได้ไม่เกิน 3 คืน หรือสำรองการเข้าไปใช้บริการได้โดยตรง ณ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร 042-810833
- พื้นที่กางเต็นท์ (สำหรับคนนำเต็นท์ไปเอง) ราคา 30 บาท/คน/คืน
- เต็นท์ (นอนได้ 3 คน) ราคา 225 บาท/คืน
- หมอน ราคา 10 บาท/คืน
- แผ่นรองนอน ราคา 20 บาท/คืน
- ถุงนอน ราคา 30 บาท/คืน
- ผ้าห่มติดต่อเช่ากับเจ้าหน้าที่ด้านบนภูในวันที่เดินทางมาได้เลย (ไม่มีจองในระบบออนไลน์) ผืนใหญ่ 50 บาท/คืน ผืนเล็ก 30 บาท/คืน
หากเต็นท์อุทยานเต็มยังมีเต็นท์ของทางร้านค้าให้บริการ ราคาพอๆกับของอุทยานเลยค่ะ

c9tt1ehoqzk2

3. จอง QueQ ขั้นตอนง่ายๆ ท่องเที่ยวสบายๆ สไตล์ New normal จำกัดคนเข้าพื้นที่ได้ไม่เกิน 2,000 คนต่อวัน จองการเข้าพื้นที่ล่วงหน้าผ่าน Aplication QueQ สามารถจองเข้าพื้นที่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 15 วัน ใน QueQ รองรับการจองได้สูงสุด 1,400 คนต่อวัน และรับนักท่องเที่ยว walk-in ที่อุทยานได้สูงสุด 600 คนต่อวัน

wemqlod9qdo9

4. สิ่งที่สำคัญ
- ไฟฉาย สิ่งสำคัญที่ควรจะมี หรือใครจะใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ก็ได้แต่ก็จะเปลืองแบตโทรศัพท์ ไฟฉายเอาไว้ใช้เวลาเราเดินไปเข้าห้องน้ำหรือร้านอาหาร ระหว่างทางไปดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตก
- ยาประจำตัว ยาแก้ปวด ยานวด ยาคลายกล้ามเนื้อ จำเป็นมากๆ
- หากไปหน้าฝน เสื้อกันฝน ถุงกันทาก สเปรย์กันทาก ต้องมี หากไปช่วงหน้าหนาว หาเสื้อผ้าหนาๆ ถุงเท้า เสื้อกันหนาว เสื้อกันลม เตรียมให้พร้อม เพราะ ข้างบนหนาวมาก หนาวจนถึงเลขตัวเดียวเลยก็มี
- เงิน อันนี้สำคัญที่สุด เพราะ บนภูไม่มีตู้เอทีเอ็ม ค่าอาหารจะราคาสูงตามระดับความสูง บางร้านมี QR CODE รับโอน แตกเป็นแบงก์ย่อยมาเยอะๆก็ดี บางทีลูกหาบจะไม่มีเงินทอน

5. สิ่งที่ไม่ควรทำ
- ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหารทุกชนิดด้านบนยอดภู
- ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติ
- ห้ามส่งเสียงดัง หลังเวลา 22.00 น.
- ไม่นำสุราและของมึนเมาเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ

txs4mcbr5hi6

การเดินทางของเราในครั้งนี้ เราเลือกเดินทางช่วงกลางคืนด้วยรถโดยสารปรับอากาศ VIP ของ Sunbus จากต้นทาง กรุงเทพ (หมอชิตใหม่ 2) - ปลายทาง จุดจอดผานกเค้า .. หลังจากเลิกงานเรารีบจัดการภารกิจส่วนตัวแล้วรีบตรงดิ่งไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เพื่อรอเจอเพื่อนๆที่นัดกันไว้ 

bslud4gaf6ld

รถของเราออกจาก กรุงเทพ เวลา 22.00 น. ตามเวลาเราจะถึงจุดจอดผานกเค้าตอน 05.00 น. แต่เราถึงเวลา 06.30 น. เลจไป 1.30 ชม. เนื่องจาก รถเสียไปประมาณ 5 รอบ บนรถจะมีอาหารว่างและน้ำแจกให้รองท้องเท่านั้นค่ะ

i007q7i1n4gz

Day 1
3 พฤศจิกายน 2563


06.30 น. พวกเราก็เดินทางมาถึงที่ผานกเค้า รถก็มาจอดข้างร้านเจ้กิมเลยค่ะ .. ร้านเจ๊กิม เปรียบเสมือนจุดรวมพลคนขึ้นภูเลยค่ะ ด้านหลังร้านมีห้องน้ำให้บริการฟรี ใครจะอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน กินข้าว พักผ่อนตามอัธยาศัยได้เลยค่ะ วันที่เรามาเป็นวันธรรมดา ทำให้มีนักท่องเที่ยวขึ้นภูไม่มากนัก ..

ta2adxceodlk
tg933lzuqlss

เราก็เดินไปขึ้นสองแถวที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านเจ้กิม ค่าบริการคนละ 30 บาท (10 คน) หากไม่เต็มสิบคนราคาเหมาเที่ยวละ 300 บาท แต่ช่วง Covid-19 สองแถวที่ให้บริการจำกัดคนขึ้นแค่ 6 คนเท่านั้น ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที ก็ถึงบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน

iqgiyz23g5d5
tmvxg05v5v08

ก่อนเข้าเราต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานกันก่อน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ใครล่าตราประทับอุทยานสามารถปั๊มตรงนี้ได้หนึ่งจุด บนภูได้อีกหนึ่งจุด และที่ศูนย์ฯ มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำด้วยนะ สามารถอาบตรงจุดนี้ได้อีกหนึ่งที่

1tb0b1ry7zo5
gcqd274cj6te


จากนั้น เราเข้ามาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อติดต่อเช่าเต็นท์และเครื่องนอน คนที่จองออนไลน์มาแล้วก็ต้องมาติดต่อตรงนี้ก่อน
ช่อง 1 สำหรับคนที่จองผ่านระบบออนไลน์มา
ช่อง 2 สำหรับคนที่นำเต็นท์มาเอง ต้องเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์คนละ 30 บาท/คืน
ช่อง 3,4 สำหรับคนที่ต้องการจองที่พัก (บ้านพัก/พื้นที่กางเต็นท์/เต็นท์) ส่วนเครื่องนอนไปจองด้านบน

sbsyxfm0xenv
u8clei8onq6a

ถัดมาเรามาซื้อประกันภัย คนละ 10 บาท หากเราเกิดอุบัติเหตุ ขาพลิกขาแพลงระหว่างทาง เดินขึ้นไม่ไหว สามารถเรียกลูกหาบระหว่างทางแบกเราได้ฟรี

ih3wrgswi122

จุดสุดท้ายที่เราเข้ามาติดต่อ คือ จุดบริการลูกหาบ ตรงจุดนี้แล้วแต่ความสมัครใจ แต่เรามาครั้งแรกขอตัวปลิวสักหน่อยดีกว่า เพื่อจะไม่เป็นภาระของคนอื่น .. เริ่มต้นด้วยเราต้องซื้อบัตรติดสัมภาระก่อน ใบละ 5 บาท เขียนชื่อ เบอร์โทร แล้วนำไปผูกกับสัมภาระ จากนั้น เจ้าหน้าที่จะชั่งน้ำหนักกระเป๋าทีละใบ เศษปัดขึ้นเป็น 1 กิโล ชำระเงินให้ลูกหาบกิโลกรัมละ 30 บาท ที่ด้านบนอาคารรับสัมภาระเมื่อสัมภาระของเราไปถึง .. หากมาช่วงวันหยุดหากมาช้าอาจจะเจอเหตุการณ์ลูกหาบหมดได้นะคะ

scryqhgb8n6q
b2zzgc0z3edb

เมื่อติดต่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาขึ้นกันแล้ว ก่อนขึ้นทางด้านขวามือจะมีศาลเจ้าปู่ภูกระดึงและพระพุทธรูป แวะไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ขึ้น-ลงภูได้อย่างปลอดภัยสักหน่อย

1xgms0ltbczd
kqyy0631ob41

แช๊ะภาพเป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึกสักภาพสองภาพ ดู Before & After สักหน่อยว่าสภาพก่อนขึ้น กลับขึ้นถึงแล้วสภาพจะเลวร้ายแค่ไหน ฮ่าๆ .. ครั้งนี้ เรามีเพื่อนร่วมทริปกันทั้งหมด 6 คนค่ะ (ขอบอกว่าทริปนี้หญิงแกร่งสุดค่ะ อิอิ) .. จุดถ่ายรูปกับป้ายแบบนี้จะมีอยู่ 3 จุดค่ะ มีก่อนขึ้นภู หลังแป และทางเข้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง (ข้อความแต่ละป้ายไม่เหมือนกัน)

yo8x0npu9oou
bgb8g857pk5b

ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ขึ้นหลัง 14.00 น. เราเริ่มออกสตาร์จตอน 8.00 น. ระยะทางขึ้นเขาทั้งหมด 9 กม. แบ่งเป็น ขึ้นเขา 5.5 กม. และทางราบอีก 3.5 กม. สูงจากระดับน้ำทะเล 1,288 เมตร ฮึดไว้! นี่เพิ่งจุดเริ่มต้นเอง

zvrnf89zvwmk

ไม้ช่วยชีวิตสำคัญมากนะ ใครไม่มี trekking pole ก็หยิบติดมือไปสักหน่อย มันจะช่วยยันเราจนถึงยอดได้ดีเลยล่ะ เอาขึ้นไปแล้วก็เอากลับลงมาด้วยนะ ^^

33z508gs2bqu

สำหรับเส้นทางเดินขึ้นเขา จะแบ่งเป็นซำต่างๆ แต่ละซำจะมีร้านค้าและห้องน้ำไว้คอยบริการ สะดวกสบายสุดๆ เมื่อต้องเทียบกับที่อื่นๆ กว่าจะถึงด้านบนเราจะต้องผ่านอะไรบ้างมาดูภาพรวมกัน
- ปางกกค่า (800 ม.)
- ซำแฮก (200 ม.)*
- ซำบอน (700 ม.)
- ซำกกกอก (360 ม.)
- ซำกอซาง (200 ม.)*
- พร่านพรานแป (240 ม.)
- ซำกกหว้า (440 ม.)*
- ซำกกไผ่ (460 ม.)
- ซำกกโดน (300 ม.)*
- ซำแคร่ (450 ม.)*
- หลังแป (1,280 ม.)
- ศูนย์บริการวังกวาง (3,620 ม.)

nyjcnfdhdhk8
ot49sr1hv91x

ช่วงที่หนึ่ง
ที่ทำการอุทยาน > ปางกกค่า > ซำแฮก

ขอบอกเลยว่าเป็น 1 กิโลแรกที่ยาวนาน ทางค่อนข้างชันตลอด เป็นซำที่เหนื่อยสุดแล้ว ผ่านซำนี้ได้ซำอื่นสบ๊ายยย ..

8qpwe6xu4c2v
78ymccgluu5w
wqp2mgpkzydd
u5fvzjifh863

เดินเรื่อยๆไม่ต้องรีบ เหนื่อยก็พัก เราใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก็มาถึงป้าย ‘ซำแฮก’ แล้ว น้ำตาจะไหล ไม่ต้องถามเลยว่าทำไมตั้งชื่อนี้ หอบแฮกๆ แฮกสมชื่อเลยจริงๆ

jcts9527wc0j
m8sumc54960a
gv029kc4o5sf

ขอพักสักหน่อยก่อนที่จะเดินกันต่อ ขอจัดแตงโมสักซีกคงจะชื่นใจน่าดู ร้านค้าไม่ได้มีทุกซำนะคะ และราคาอาหารก็จะเพิ่มไปตามระดับความสูงด้วย

mwr416979r1t
tr8gf63vujbc
0qrbnsk4io83

1cf7rriv8w3w
ช่วงที่สอง
ซำแฮก > ซำบอน > ซำกกกอก > ซำกอซาง

ถัดจากซำแฮกไป ทางเดินจะเป็นทางราบ สลับเนินเขาบ้าง ไม่ชันมาก เดินเรื่อยๆ สบายๆ หยุดพักอีกทีที่ซำกอซาง ซำนี้จัดติมหลอด 3 ไม้ 20 บาท และไอศกรีมมะพร้าว ถ้วยละ 25 บาท หวานเย็นชื่นใจ ~

ydyhy8cujgbu
z0mx3w6k4gog
6v4yfp3n9l4j
t6vi68xhj9rx
bd4cem1nuikd
tfjvixd115ai

ช่วงที่สาม
ซำกอซาง > พร่านพรานแป > ซำกกหว้า

ช่วงซำนี้ก็จะเดินสบายหน่อย มีทางราดปูนให้เดินมีราวเหล็กกั้น จุดแวะพักแวะต่อไปอยู่ที่ซำกกหว้า แวะกินน้ำแข็งไสเติมน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายสักหน่อย

utw18uyi1hdj
q33fs8yd407w
mfgb93ycwxmp
d94lmega5jsz
foioxzo2cq2x
u5euzdxe7ut6
9a60v8n1mum8
ygo4lj5b73tq

ช่วงที่สี่
ซำกกหว้า > ซำกกไผ่ > ซำกกโดน

ก่อนถึงซำกกไผ่เราจะต้องฮึดสู้กับขั้นบันไดถี่ๆสักหน่อย แต่ยังไม่โหดเพราะมีโหดกว่านี้ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย แล้วจะรู้ว่าอาการเกลียดบันไดเป็นยังไง

rqnzl4zvb30s
500z70kh8wfq

ที่ซำกกโดนเป็นจุดแวะพักอีกหนึ่งจุดที่มีร้านอาหารขาย แต่ซำนี้เราไม่ได้แวะทานอะไร ได้แต่นั่งพักให้ลมตีหน้า ให้ได้มีแรงไปต่อ

kcw6b9vex5zu

ช่วงที่ห้า
ซำกกโดน > ซำแคร่ > หลังแป

ป่าตรงจุดนี้จะค่อนข้างร่มรื่น ซำแคร่ จุดพักมีอาหารที่สุดท้าย แวะทานอาหารอาหารกลางวันที่นี่ เราสั่งเมนูง่ายๆ อย่างเมนูสิ้นคิด ผัดกระเพรา จัดไข่ปิ้งอีกหนึ่งฟองโดฟเข้าไป แรงจะได้ไม่หมด ลงภูเมื่อไหร่ชั่งน้ำหนักได้เลย ไม่มีลดมีแต่เพิ่ม กินยับขนาดนี้

c3kzekhkk2s8
cuj63o2g9sw8

ถ้าเราเห็นบันไดที่มีลักษณะตั้งฉากเกือบ 90 องศาแปลว่าใกล้จะถึงหลังแปแล้ว แต่ก็โดนหลอกว่าใกล้จะถึงทุกบันไดเช่นกัน ฮ่าๆ

qsiyjk15l5as

ถึงแล้วก็ต้องแวะถ่ายรูปกับป้ายมหาชนสักหน่อย “ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง” เดี๋ยวจะมาไม่ถึงเอา ..

g9joxp2xbl9i
z08lruc3dfum

ช่วงที่หก
หลังแป > ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง

จากจุดนี้จะเป็นทางราบเดินกันยาวๆ ชมความสวยงามของต้นสนริมทางไปเรื่อยๆ .. น่าเสียดายที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 ที่ผ่านมาเกิดไฟป่าครั้งยิ่งใหญ่กับสถานที่แห่งนี้ ต้นไม้แต่ละต้นใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะโตแพร่กิ่งก้านได้งดงาม ไฟป่าครั้งเดียวเสียหายจนยากที่จะคืนกลับมา

ixq0m3wd94n1
zy9fgidl7652
5fpmxd9z8oyo
3zhjui3anfq0
u30ikk067kvc
vda3rc35qhdz

ใครที่เดินผ่านตรงนี้จะต้องมาแวะทักทายกับ ‘ต้นสนเดียวดาย’ ที่ตั้งตะหง่านอยู่กลางทางอยู่เพียงต้นเดียวลำพัง แต่ก็เป็น signature ของภูกระดึงอยู่นะ ใครผ่านตรงนี้ต้องมาแวะถ่ายรูปกับนางทุกครั้งเลย

bq6k2s8r8m7l
u8k91jd7ftic

เดินไปสักพักเราก็มาถึงจุดหมายของเราเสียที เย้! เราใช้เวลาเดินขึ้นมาทั้งหมด 7 ชั่วโมง (ไม่รีบร้อน แวะพักทุกซำ แวะถ่ายรูป แวะถ่ายวีดีโอ ไปเรื่อย) ตอนนี้ก็เป็นเวลา 15.00 น. ก็มาถึงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง แล้วค่ะ

5oel107bibf9

ตรงจุดนี้เราต้องเอาใบจองที่ได้มาจากด้านล่างไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับเครื่องนอน แล้วก็ไปเลือกเต็นท์กัน โดยเจ้าหน้าที่จะยึดบัตรประชาชนไว้วันกลับค่อยมารับคืน .. ที่ศูนย์บริการวังกวางรับฝากชาร์จแบตได้ (มีค่าบริการ)
- โทรศัพท์ครั้งละ 20 บาท/เครื่อง
- แบตกล้อง 20 บาท/เครื่อง
- Tablet 40 บาท/เครื่อง
- แบตสำรอง - โน๊ตบุ๊ค 40 บาท/เครื่อง

eybxrb393jei
zk3arhtv9q7u
e0vh8z75brah

นี่คือสภาพเต็นท์ของพวกเราค่ะ ถ้าจองผ่านเว็บไซต์มาจะได้เต็นท์ลายพรางสามคนนอนแบบนี้

hf4tp34ut73n

แต่ถ้าวอคอินจะได้เต็นท์ส้มสองคนนอน เราเลือกโซนที่เดิมไปห้องน้ำได้สะดวกหน่อย นอนรอกระเป๋าจากลูกหาบซึ่งมาถึงตอน 16.00 น. .. ระหว่างนี้ ก็พักผ่อนตามอัธยาศัย รอเวลาเพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหมากดูกกัน

ajt3ozxnpqsj
gun5ncdqmuxk

17.00 น. เราเริ่มออกเดินทางเพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที ระยะทาง 2 กิโลเมตร เดินง่ายไม่ยาก หรือใครจะเช่าจักรยานปั่นมาก็ได้ ล้อเล็กปั่นมาชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ราคา 60 บาทจ้า ช่วยทุ่นเวลาไปได้เยอะ แต่พวกเราก็ขอวัดพลังขาที่ตอนนี้เริ่มมีอาการระบมรวดร้าวไปหมด ทรมานตัวเองทำไมเนี้ย !!

tqz1f07lg5sd
664hhwsgq6jh

จากที่เชคมา วันนี้พระอาทิตย์จะตกตอน 17.45 น. ทัน ไม่ทัน ทัน ไม่ทัน .. แต่สุดท้ายจะทันหรือไม่ทันเราก็ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกจ้า หลบหลังเมฆเฉย สงสัยจะขี้อาย ทริปนี้ไม่มีดวงกับการดูพระอาทิตย์เลย .. พวกเราอยู่ถ่ายรูปเล่นสักพัก เราก็เดินกลับที่พัก ทางค่อนข้างมืดแล้ว อย่าลืม พกไฟฉายกันไปด้วยน้า ถึงจะมีไฟส่องสว่างตามทางอยู่ แต่ระยะห่างของไฟแต่ละดวงก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ไฟฉายจึงสำคัญมากนะจ้าสำหรับการมาเที่ยวภูกระดึง

612tx8wxyafu
9qfx9stcnvgb

สำหรับมื้อเย็นของพวกเราจะพลาดไม่ได้เลยกับเมนู ‘หมูกระทะ’ ที่ใครมาก็ต้องกินจริงๆ ทุกร้านค้าจะมีบริการชาร์จแบตฟรีแต่เต็มช้าเพราะไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากโซล่าร์เซลล์ .. เดินเซอร์เวย์หนึ่งรอบไม่รู้จะทานร้านไหนดี เลยจิ้มร้านหมูกระทะที่เราเดินมาหยุดตรงหน้าร้านเค้าพอดี หมูกระทะ ชุดละ 500 บาท แถมข้าวผัดไข่ฟรี 1 จาน

j7s8ytgcs0x0

หลังจากเติมพลังลงท้องเรียบร้อย เราจึงเดินมาที่ The Post Card Gallery เพื่อส่งโปสการ์ดหาตัวเอาสักหน่อย ได้ยินจากพี่ที่รู้จักเค้าบอกว่า การส่งโปสการ์ดที่ภูกระดึงต้องลุ้นว่าจะส่งมาถึงเมื่อไหร่ 1 ปี 8 ปี หรือไม่ได้รับเลยยังมีมาแล้ว มาลุ้นกันสิว่าเราจะได้รับโปสการ์ดจากภูกระดึงเมื่อไหร่ ^^

cj0ahvywelkp

ก่อนนอนคืนนี้ ยานวด ยาคลายกล้ามเนื้อ ทุกอย่างที่พกมาประคบประหงมกันหน่อย พรุ่งนี้ ตื่นมาจะได้มีแรงลุยต่อ เพราะ หนทางของวันพรุ่งนี้บอกเลยไม่ต่ำกว่า 20 โล คร่อก ~*

Day 2
4 พฤศจิกายน 2563

วันนี้เราตื่นตีสี่ครึ่ง เตรียมพร้อมสำหรับการไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ตีห้าจะเป็นเวลานัดหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่อุทยานจะเป็นคนนำทางพานักท่องเที่ยวไป ถ้าฟ้ายังมืดอยู่ห้ามเดินไปเองเพราะอาจจะเจอช้างป่าได้ จากหน้าศูนย์ไปถึงผานกแอ่นระยะทาง 2.5 กิโลเมตร เสื้อกันหนาว ไฟฉายเตรียมมาให้พร้อม เดินประมาณ 30 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

ajafabzk02v9
yn4jhher1nic
36zliuc2lhc7
ut68n3i1qabj
jnk7o8kf3n9h

วันนี้พระอาทิตย์จะขึ้นตอน 06.15 น. แต่พระอาทิตย์ขี้อายหลบหลังเมฆ ทะเลหมอกก็ไม่เห็น โชคไม่เข้าข้างอีกแล้ว ถ่ายรูปเล่นก็ได้ สิงในกลุ่มเฟสบุ๊คคนรักภูกระดึง คนอื่นเค้าเจอทั้งทะเลหมอก เจอทั้งพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ แต่เราดันมาเจอจังหวะไม่ค่อยดี อย่างว่าแหละมันอยู่ที่ดวงด้วยแหละเน๊อะ

bnrexwbpiyrx
p4jh8lon24mg
me9ho8q93twv

7.00 น. เดินกลับเพื่อไปกินข้าวเช้า เราทานที่ร้านป้าแขก เราทานเป็นไข่กระทะ ส่วนเพื่อนๆทานโจ๊กกัน ทานคู่กับน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ ตั้งใจจะซื้อข้าวเหนียวหมูเอาไว้เป็นเสบียงตอนมื้อเที่ยง แต่สุดท้ายดันลืมซื้อซะอย่างงั้น

88qh6d9mykta
8eze9v9y1k5w
pai88yhgvwsg
ka7ihhdql0yy

ระหว่างเดินกลับเต็นท์ได้ยินเสียง จนท. ประกาศว่า พรุ่งนี้ใครจะลงภูถ้าจะใช้บริการลูกหาบต้องมาลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนสิบโมงเช้า จะเอาของมาฝากตอนกี่โมง น้ำหนักโดยประมาณเท่าไหร่ เพื่อที่ทางอุทยานจะจัดหาลูกหาบมาไว้ให้ เราเลยแวะไปลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางไกล .. จุดหมายปลายทางของพวกเราในวันนี้ คือ ไปดูพระอาทิตย์อัสดงที่ผาหล่มสักซึ่งเป็นไฮไลท์ของภูกระดึง .. ตอนแรกลังเลว่าจะเดินหรือปั่นจักรยานดี ลองมาคำนวณดูแล้วคิดว่า ถ้าเดินเราอาจจะใช้เวลามากกว่า เลยตัดสินใจเช่าจักรยาน

msje12oss1ah

อัตราค่าเช่ารถจักรยาน ล้อใหญ่ 410 บาท ล้อเล็ก 360 บาท หลังเช่าเสร็จทางร้านจะแนะนำเส้นทางสำหรับจักรยานและทดสอบพื้นฐานการปั่นก่อนออกจากร้าน .. ช่วงวันหยุดยาว คนจะใช้จักรยานเยอะ แนะนำโทรมาจองก่อนล่วงหน้าดีที่สุด

mtow4egi0jax

สำหรับเส้นทางการเที่ยวของเราในวันนี้ คือ จากลานกางเต็นท์วังกวาง > ลานพระพุทธเมตตา > น้ำตกถ้ำใหญ่ > สระอโนดาต > ตัดเข้าผานาน้อย > ผ่านผาเหยียบเมฆ > ผ่านผาแดง > ถึงผาหล่มสัก ระยะทางคร่าวๆประมาณ 9 กม.

20gzz3xrhwc5

ส่วนขากลับใช้เส้นทางเลียบหน้าผา คือ ผาหล่มสัก > ผาแดง > ผาเหยียบเมฆ > ผานาน้อย > ผาจำศีล > ผาหมากดูก > ตรงเข้าลานกลางเต็นท์วังกวาง ระยะทางโดยประมาณ 9 กม.เช่นกัน ขากลับไม่อนุญาตให้เดินตัดเข้าทางสระอโนดาต เพราะ อาจจะเจอสัตว์ป่าลงมากินน้ำได้

0fvf7ljmwvya

Checkpoint 1 ลานพระศรีนครินทร์ : เป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธเมตตา สร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวภูกระดึง ช่วงวันที่ 18-19 เมษายนของทุกปี ชาวบ้านทั้งหลายหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอภูกระดึงจะจัดกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธเมตตา มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และเล่นน้ำสงกรานต์กันบนยอดภูด้วย น่าเสียดายที่ปีนี้ 2563 มีโรคระบาด Covid-19 ทำให้ต้องปฏิบัติตามนโยบายของทางภาครัฐ อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจึงงดกิจกรรมนี้ไป

wskg8ddn3m67
fpvw13id8rzn
ovz2pfaiv3s2

Checkpoint 2 น้ำตกถ้ำใหญ่ : เป็นน้ำตกที่อยู่ท่ามกลางป่าดงดิบ ความน่าสนใจของน้ำตกใหญ่นี้อยู่ที่ ‘ต้นเมเปิ้ล’ ที่ขึ้นอยู่เป็นระยะๆ หากยิ่งได้มาช่วงที่ต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีแดงแล้วด้วยล่ะก็ ใบที่ร่วงหล่นลงมาที่โขดหินทับถมๆกันจนเป็นพรมสีแดงคงจะสวยมากทีเดียว .. ใครอยากเห็นพรมแดงต้องเป็นช่วงธันวาคม-มกราคมจะแดงเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยค่ะ ลองติดตามในเพจคนรักภูกระดึงก็ได้ จะมีคนมาอัพเดทอยู่เรื่อยๆ

oz5xmhbyzc2y
fbvhjncf4puj
4nhf506d2o7c
9z08kigalyt4
6cp4cjzh8g6d
3tjkqudkx6bv
xjjxaupyzwys
1tmyk20avs4g
8jg5aozi7i7e
ba4p6n6wpljr

Checkpoint 3 สระอโนดาต : เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีน้ำตลอดทั้งปี แวะพักเหนื่อยตรงนี้ก่อน ถอดรองเท้าเอาเท้าจุ่มน้ำก็ดีไม่น้อยนะ ตรงบริเวณนี้ หลายๆคนชอบเลือกไว้เป็นที่ปิกนิก แวะพักทานอาหารกลางวันใต้ต้นสนสองใบ จุดนี้ไม่มีร้านค้าต้องเตรียมเสบียงมาเอง .. ใกล้ๆกันก็มีสวนหินธรรมชาติที่เรียกว่า ‘ลานกินรี’

jb6iq3os2hyl
1anhe8d8ec3g
yyh1krv3kzla
cwd8umdg4mkq
zozimre64qh4
d1evoe8o6ua5

Checkpoint 4 ผานาน้อย : จากสระอโนดาตสามารถเลือกตัดไปได้สองทาง คือ ผานาน้อย หรือ ผาเหยียบเมฆ เราเลยเลือกตัดไปที่ผานาน้อย เพื่อไปแวะพักทานอาหารกลางวันซึ่งมีตั้งอยู่เพียงร้านเดียว พร้อมกับชมวิวตรงผานาน้อยไปด้วยซะเลย

po4jr1kjfozz
gfk20dypr0zc
dfkxdvxkw8jv
c4ovkmy70wbh
gumlr0ugo3dm

Checkpoint 5 ผาเหยียบเมฆ : มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงและมีลานหินกว้าง สามารถมองเห็นพื้นที่รอยต่อได้สามจังหวัด คือ เลย ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ .. บางช่วงตะมีเมฆลอยปกคลุมเป็นก้อนๆ เหมือนเรากำลังยืนอยู่บนเมฆ จึงเป็นที่มาของชื่อ ผาเหยียบเมฆ แต่ควรระวังเป็นพิเศษเพราะเบื้องหน้าเป็นหน้าผาสูงชัน

5h3am88aldbv
tfymu9ksj9s8
sszs3e379is1

Checkpoint 6 ผาแดง : ระหว่างทางไปผาแดง เราไปแวะถ่ายรูปกับหินหัวเต่า เสมือนว่า เราอยู่ริมหน้าผา ทั้งๆที่ขาเราเหยียบถึงแล้วค่อยไปแวะพักค่อที่ผาแดง แต่ก็พักไม่นานก็ออกเดินทางกันต่อ อีกแค่ 3,200 เมตร ก็จะถึงผาหล่มสักแล้ว สู้!

mjxsool8ajyl
3uirx2bi7zhe
b9a3v867hycw

Checkpoint 7 ผาหล่มสัก : จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลง เรารีบตรงไปที่ร้านชมพู่มะเหมี่ยวก่อนเลย ไปรับบราวนี่ที่สั่งจองล่วงหน้าไว้ (บราวนี่ร้านนี้ต้องจองล่วงหน้ามานะจ้าทางเพจร้านได้เลย) ทานคู่กับชาเขียวเย็น อาโหร่ยยย ~ และมื้อเย็นเราก็ขอฝากท้องไว้กับที่นี่

gte90c94vh3k
lurt163fs218
c54hro7t0x76
45pelb3i4jdi
hvbfj0mlv2k7
qs1oe0y8uf0r

ส่วนมุมมหาชนที่พลาดไม่ได้ มาถึงภูกระดึงทั้งทีต้องได้ภาพมุมนี้กลับไป ไม่งั้นเดี๋ยวจะมาไม่ถึง ตอนถ่ายก็ระวังๆหน่อยนะ หน้าผาล้วนๆ เกิดมามีชีวิตเดียวก็ดูแลรักษาดีดีนะ ..

4f0vwiztqw6x
rf61lewky0ud
1lnqfm2fvig1

เราอยู่รอจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่สุดท้ายก็แห้วรับประทานอีกเช่นเคย .. เอาจริงๆนะ ถ้าไม่ซีเรียสจะดูพระอาทิตย์ตกที่ผาไหนๆก็สวยเหมือนกัน สำหรับใครที่เดินมาอย่าลืมว่าป่าพอหมดแสงก็จะมืดตึบ เปลี่ยว และวังเวง ต้องเดินกลับอีก 9 โลนะ ไฟฉายต้องพร้อม เดินกลับเกาะกลุ่มกับคนอื่นๆ จะปลอดภัยกว่า อุ่นใจกว่าด้วย

leye52ssa9lw
a8h3y4zu4wma

ส่วนกลุ่มของเราปั่นจักรยานมา เราจะกลับเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ออกจากผาหล่มสัก จะมีเจ้าหน้าที่มาติดไฟฉายให้ที่รถจักรยาน และเป็นคนนำทางพาเรากลับ .. ขากลับเราใช้เส้นทางเลียบหน้าผากลับมา กลุ่มของพวกเราออก start 18.00 น. ถึงลานกางเต็นท์ 19.00 น. ทำเวลากลับได้ดีมากใช้เวลาไปแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น !!

cmbvee3tfe2r
80ucdcyt6l9p

ปล. ได้แผลมาเป็นของฝากจากภูกระดึง รถจักรยานล้มตรงเนินสุดท้ายก่อนถึงผาหมากดูก อยู่ดีดีรถก็ปั่นไม่ขึ้น จะลงมาเข็นก็เหมือนเหยียบพื้นไม่ถึง รถล้มไปตามระเบียบ แขนช้ำไปอาทิตย์กว่า ฮือๆๆ .. อาบน้ำ พักผ่อน เก็บของ เตรียมให้ลูกหาบขนลงพรุ่งนี้เช้าดีกว่า ~ ราตรีสวัสดิ์

Day 3
5 พฤศจิกายน 2563

เช้านี้ ตั้งใจจะตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่อ่างเก็บน้ำวังกวางซะหน่อย แต่ก็ไม่ได้ไป .. บรรยากาศบริเวณลานกางเต็นท์วันนี้หมอกลงจัดมากยังกะอยู่ในดินแดนลึกลับ

9o8s0qaehu1w
0abm32z18asd
7yds3c51y9p1
pdihb8qa8g1s

เรารีบเก็บกระเป๋าเพื่อเอามาชั่งกิโลก่อน 7 โมงเช้าตามที่ลงทะเบียนไว้เมื่อวาน เพื่อที่จะให้ทันลูกหาบรอบแรก จะได้ไม่ต้องลงไปรอกระเป๋านาน

hund57lrrsz7
nuvaausta2uk

จากนั้น เราไปเติมพลังด้วยการกินข้าวเช้าที่ร้านใบเฟิร์นกับเมนูข้าวขาหมู

lsb2sm2t3g6t
pzjbsukky3oz
2740kzc1i1dp

กลุ่มของพวกเราเริ่มออกเดินทางตอน 8.00 น. ลงมาถึงด้านล่างเวลา 13.00 น. ใช้เวลาเดินลงมาทั้งหมด 5 ชั่วโมง

0l16wfvz926t

แนะนำรองเท้ารัดส้นเปิดนิ้วนะคะ เวลาเดินลงเท้าเราจะจิก ถ้าเป็นผ้าใบจะบีบนิ้วเราได้ อาจจะทำให้เดินไม่สบาย หรือเจ็บเท้าได้ ขาลงไม่เหนื่อยเท่าตอนขึ้นแต่ต้องระวังเวลาเดิน ช่วงทางชันๆอาจไถลลงไปได้

rp311fxmapd7
0tdkxgc3biy2

เมื่อลงมาถึง รับกระเป๋าสัมภาระจากลูกหาบเรียบร้อย เราก็พุ่งตรงไปที่ห้องอาบน้ำของอุทยานในทันที และแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารในอุทยานฯ แล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินทางไปสนามบินกันแล้วค่ะ เรามีกัน 6 คน เลยเลือกวิธีเหมารถสองแถวหน้าอุทยานไปสนามบินเลยในราคา 1,500 บาท ตกคนละ 250 บาท หรือใครจะนั่งสองแถวมาลงที่เสงี่ยมฟาร์ม จะมีรถสายขอนแก่น-เมืองเลย วิ่งทุกๆ 30 นาที คนละ 50 บาท มาลงที่สนามบินเลยก็ได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-1.30 ชม.

nyvber6b25a4

ขากลับเราเลือกสายการบิน Air Asia .. Flight บินของเราออกเดินทางเวลา 17.55 น. ไปถึงสนามบินดอนเมืองเวลา 18.55 น. ค่ะ ..

nrs11k1u21v7
lz6n5q6r5qcl

และนี่เป็นภาพวิวจากตำแหน่งที่นั่ง 17F ยามพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าพร้อมชานมบุกของ Air Asia

r8eeqonys9t8

จบไปเเล้วกับทริปภูกระดึง การได้ไปภูกระดึงสักครั้งในชีวิตคุณจะไม่เสียดายเวลาที่ได้ไปเลย อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสด้วยตัวเองให้ ‘ครั้งหนึ่งในชีวิต เรา คือ ผู้พิชิตภูกระดึง’ กันนะคะ

gk0scfvupibo

ขอบคุณ Sony A6500 + Lens CZ 16-70mm F4 และ Sony A7 M2 + FE 35mm f1.8
Gopro Hero 5 และ Iphone 11 ที่ทำให้เราได้ภาพสวยๆตลอดทริปนี้

แต่งภาพโดยโปรแกรม Lr

ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตาม หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยินดีน้อมรับทุกคำติชม

และฝากกด LIKE และกด SUBSCRIBE เพื่อเป็นกำลังใจให้การทำวีดีโอการเดินทางของเราในครั้งต่อๆไปด้วยนะคะ
YOUTUBE : https://www.youtube.com/channel/UC8BYq-uSUDO23GYAQ-Ck3kQ

.. เจอกันการเดินทางครั้งต่อไป ..

สรุปค่าใช้จ่าย สำหรับทริปนี้ (สำหรับ 2 คน)
- ค่ารถทัวร์ 1,266 บาท
- ค่าเครื่องบิน 77 บาท (โปรโมชั่นซื้อจากในงาน ททท.)
- ค่าแท็กซี่ 136 บาท
- ค่าขนม 124 บาท
- เต็นท์และเครื่องนอน 810 บาท
- ค่ารถสองแถว 100 บาท
- ค่าเข้าอุทยาน 80 บาท
- ใบติดสัมภาระ 10 บาท
- ค่าประกันอุบัติเหตุ 20 บาท
- แตงโม 10 บาท
- ติมหลอด 20 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน 175 บาท
- ค่าหมูกระทะ 480 บาท
- ค่าอาหารเช้า 180 บาท
- ค่าเช่าจักรยาน 820 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน 300 บาท
- ค่าอาหารร้านชมพู่มะเหมี่ยว 260 บาท
- ค่าอาหารเย็น 110 บาท
- ค่าข้าวขาหมู 120 บาท
- ค่าน้ำแดงโซดา 65 บาท
- ไอศกรีมกะทิ 25 บาท
- น้ำหนักกระเป๋า 360 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน 140 บาท
- ค่ารถสองแถว 500 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน 280 บาท
- ค่าแท็กซี่ 225 บาท

รวมทั้งสิ้น 6,693 บาท (ตกคนละ 3,346.50 บาท)

ความคิดเห็น